คนล่าเหยื่อเอ่ยเสียงพร่าเมื่อเห็นโอกาส ในขณะที่เขาก้มลงมาเพื่อหวังจะไซ้ซอกคอขาว หากเจ้าของซอกคอเบี่ยงตัวหลบได้ทันด้วยท่าทางนุ่มนวล คล่องแคล่ว แล้วเธอก็เอ่ยเสียงหวานผิดภาพลักษณ์คนหวงเนื้อหวงตัว แล้วมัทจะบอกพี่โป๊ะยังไงล่ะคะ ถ้าเกิดพี่เขารู้ พี่โป๊ะจะต้องเกลียดมัทแน่ๆ ชื่อของคนที่ออกจากปากคืออีกคนที่อยู่ในใจยามหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้รองจากบิดา เธออยากจะให้เขาได้ยินเสียงร้องเรียกของเธอแล้วมาช่วยเธออกไปจากสถานการณ์ล่อแหลมนี้ แต่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะที่นี่คือบ้านของเธอ
น้องมัทก็เลิกกับนายนั่นซะ แล้วพี่นพจะรับผิดชอบน้องมัทต่อเองนะครับ พี่นพไม่ถือ แล้วน้องมัทก็ไม่ต้องออกไปทำงานให้เหนื่อย ก็แค่ไปทำงานกับพี่นพที่คอนโดฯ บนเตียงนอนก็พอ รับรองพี่นพจ่ายน้องมัทอย่างงาม คนพูดพยายามคว้าร่างน้อยให้กลับไปนั่งที่เตียงอีกครั้ง และเขาก็พยายามที่จะระดมจูบแม้พลาดเป้า เพราะสาวน้อยยังคงทำหน้าที่เบี่ยงตัวหลบได้อย่างคล่องแคล่วเช่นเดิม
มัทไม่ไช่ผู้หญิงอย่างว่านะคะพี่นพ มัทมีพ่อมีแม่ ถึงจะได้ยอมนอนกับใครง่ายๆ เพื่อเงิน เสียงเล็กอ่อนหวานสวนทางกับความรู้สึก เธอโกรธกับคำพูดดูถูกของเขา
พี่นพไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พี่นพแค่อยากให้น้องมัทสบายก็เท่านั้นเอง น่านะ มาให้พี่นพกอดหน่อย พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะครับ น้องมัททำไมน่ารักอย่างนี้
คนล่าเหยื่อไม่รีรออีกต่อไปเพราะเขาเสียเวลามามากพอแล้ว มือของเขาจึงพยายามดึงร่างน้อยของเหยื่อให้กลับไปที่เตียง ก่อนที่เขาจะกดร่างเล็กให้แผ่ลงไปบนเบาะนุ่ม แล้วขาแกร่งของเขาก็ยกขึ้นมาทาบทับตัวเธอเอาไว้ นพพลเห็นแววตาตกใจอย่างสุดขีดของมัทนี เขาจึงกระซิบกล่อมเธอเบาๆ
อย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลยน่าน้องมัท พี่นพรู้ว่าน้องมัทเก่งเรื่องพวกนี้ รับรองว่าเราจะเข้ากันได้ดีกว่าใคร พี่นพจะไปอย่างช้าๆ หรืออย่างเร็วๆ ก็ได้ แค่น้องมัทบอกมาว่าชอบแบบไหนนะครับทูนหัว นพพลเอ่ยเสียงพร่าเมื่อได้สัมผัสร่างเล็กที่ลงไปนอนบนเตียงแม้ขยับตัวแทบไม่ได้ เพราะเธอถูกขาของเขาพาดทับและมือหนาที่กดแขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้
เอ่อ...พี่นพใจเย็นๆ หน่อยสิคะ ความจริง...เอ่อ...คือ...คือว่า...มัท...มัท...มัทชอบเป็นผู้ควบคุมมากกว่า มัทชอบอยู่ข้างบน มัทไม่ชอบเป็นผู้ตาม มันไม่ตื่นเต้นเร้าใจ ให้มัทเป็นผู้ควบคุมนะคะพี่นพขา
คำตอบก๋ากั่นของสาวน้อยที่อยู่เบื้องล่างเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากร่างใหญ่ที่กำลังพลิกตัวลงไปนอนเบื้องล่าง เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ตามให้เธอ ซึ่งสาวน้อยเห็นแสงเรืองรองแห่งทางรอด
ถ้างั้นน้องมัทขึ้นมาเลยครับ แต่ว่าจะไหวเหรอจ๊ะ พี่นพขอเตือนเอาไว้ก่อนว่าไม่ง่ายนะครับ แต่ถ้าน้องมัทไม่ไหวเมื่อไหร่ บอกพี่นพได้ทันทีเลยนะครับทูนหัว เดี๋ยวพี่นพจะสานต่อหน้าที่นั้นเอง
นพพลเอ่ยเสียงแหบพร่าด้วยไฟแห่งราคะที่กำลังถูกปลุกด้วยคนร่างเล็ก เขาใช้มือหนายกตัวมัทนีขึ้นนั่งคร่อมและทาบทับร่างของเขา โดยไม่รู้เลยว่าสาวน้อยที่บอกว่าชอบเป็นผู้ควบคุมเสียเองนั้นกำลังหวาดกลัวจนอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ เมื่อสะโพกของเธอที่ไม่มีแม้ชั้นในปกปิดทาบกับวัตถุแข็งๆ บางอย่างแก่นกลางร่างของเขา ซึ่งมันน่าขยะแขยง หากสติของเธอสั่งให้พยายามบังคับจิตใจให้สงบแล้วส่งยิ้มหวานยั่วยวน ซึ่งเธอไม่เคยทำมาก่อนสักครั้งในชีวิต
มัทนีไม่สามารถลุกหนีออกไปได้แม้จะอยู่เบื้องบน เพราะมือของคนที่อยู่เบื้องล่างกดขาทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ด้วยพลังมหาศาลราวกับเขารู้ว่าเธอคิดอะไร จนสาวน้อยจะต้องคิดหาวิธีและต้องตัดสินใจที่จะยอมเสียสละอะไรบางอย่าง
เดี๋ยวมัท มัททำให้นะคะ พี่นพหลับตาก่อนสิ มัทอายนะๆๆ เสียงเล็กเอ่ยอ่อนหวานสวนทางกับความกลัว หากมันเรียกรอยยิ้มหวานฉ่ำและเสียงหัวเราะออกมาจากร่างเบื้องล่าง เพราะเขาคงจะเห็นเส้นทางสู่สรวงสวรรค์ชั้นสูงสุด
น้องมัทขี้อายซะด้วยนะจ๊ะ ไม่ต้องอายหรอกนะครับ เดี๋ยวก็ชิน คนล่าเหยื่อเอ่ยเสียงพร่า มือของเขายังคงกดขาของเธอเอาไว้
ก็มันเป็นครั้งแรกของเรานี่คะ น่านะพี่นพขาหลับตาก่อนนะๆๆ เสียงเล็กหวานล้ำปกปิดอารมณ์ โดยเธอยิ้มออกมาบางๆ หากแววตายังคงกังวล เมื่อเธอเห็นร่างเบื้องล่างทำตามคำขอของเธอแต่โดยดี หากมือของเขาก็ยังไม่ย่อมปล่อยจากเรียวขาของเธอ แล้วเขาก็กระทำสิ่งที่หน้าอับอายโดยการพยายามดันวัตถุแข็งๆ แก่นกลางร่างของเขาให้เสียดสีกับสะโพกเล็ก จนสาวน้อยแทบจะกรีดร้องออกมาให้ดังลั่นโลกด้วยความขยะแขยง หากเธอไม่สามารถแสดงอาการใดๆ ออกมาได้ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรองเช่นนี้
มัทนีกวาดตามองไปทั่วห้องเพื่อมองหาตัวช่วยแล้วต้องผิดหวัง เธอนึกโทษตัวเองที่จัดเตียงนอนเอาไว้กลางห้อง จนไม่สามารถเอื้อมมือออกไปคว้าอาวุธใดๆ ได้เลยสักชิ้น ทั้งที่ดวงตาของเธอมองเห็นอูคูเลเล่กับกีตาร์ตัวโปรดที่เธอพยายามเก็บเงินซื้อมา มันวางพิงกับผนังห้อง หากมันเกินกำลังที่แขนเล็กๆ จะเอื้อมออกไปคว้ามันมาได้ แต่แล้วสติของเธอยังพอทำหน้าที่ของมันได้ดี เพราะเธอรู้ว่าผู้ชายนั้นมีจุดอ่อนที่สุดตรงจุดใด สาวน้อยจึงเผยรอยยิ้มน้อยๆ ออกมาได้บ้างแม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้
เมื่อคิดได้ดังนั้นคนที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อในตอนแรก ยกมือน้อยๆ ขึ้นมาแล้วจ้องมันด้วยแววตาเศร้าสร้อย เห็นทีมือน้อยคู่นี้คงจะต้องแปดเปื้อนเสียแล้วในคืนนี้ ไวเท่าความคิดเพราะอยากหลุดพ้นออกไปจากสถานการณ์นี้เสียก่อนที่เธอจะทนความขยะแขยงเอาไว้ไม่ไหวจนอาจจะร้องให้โฮออกมาดังๆ ร่างเล็กเบื้องบนจึงรวบรวมสติที่เธอมีก่อนพยักหน้ากับตัวเองสองสามครั้งเพื่อเริ่มปฏิบัติการ
มัทนีสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วกลั้นใจ เธอค่อยๆ ลากมือน้อยลงไปตามแก่นกลางร่างของคนที่นอนอยู่เบื้องล่าง ซึ่งมันกำลังขยายจนโป่งนูนออกมาเกินกว่ากางเกงหนาๆ ของเขาจะปกปิดมันไว้ได้
ชอบมั้ยคะพี่นพขา หลับตาก่อนสิคะยาหยี! เสียงเล็กเอ่ยอ่อนหวานเพื่อความแนบเนียนราวกับเป็นผู้ชำนาญ แล้วเธอก็เผยยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงครางของนพพลที่ แสดงออกถึงความพึงพอใจและยังคงหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข มือหนาของเขาจึงค่อยๆ ลดน้ำหนักออกจากขาน้อยๆ ของเธอ
โอ้ว...ทูนหัว ดีมาก อย่างนั้น ตรงนั้น ดีมากจ้ะ โอ้ว...สุดยอดไปเลย
เสียงแหบพร่าหลุดออกมาจากริมฝีปากของคนล่าเหยื่อจนสาวน้อยแทบจะกรีดร้องออกมาให้ดังลั่นโลกเพราะความขยะแขยงที่มีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี จนเธอเองไม่รู้ว่าจะสามารถทดแทนด้วยคำไหน หากมันมากมายเสียจนเธอเกลียดตัวเองที่เลือกใช้วิธีนี้
มัทนียังคงลากมือน้อยๆ ของเธอผ่านวัตถุแท่งนั้นสองสามครั้ง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจกระทำการบางอย่างเมื่อมือของเขาเริ่มเปลี่ยนจากการกดขาเล็ก เป็นการลูบไล้ไปมาน่าขยะแขยง สาวน้อยรีบล้วงมือเล็กของเธอเข้าไปในกางเกงของเขาในวินาทีนั้น แล้วบีบมันจนสุดแรงด้วยพลังมหาศาลเท่าที่เธอมี จนได้ยินเสียงร้องโอดโอยคร่ำครวญของคนที่ดิ้นพรวดพราดแล้วผลักร่างของเธอออกอย่างรวดเร็ว มือหนาของเขาเปลี่ยนเป็นกอบกุมกล่องดวงใจ แล้วเธอก็รีบกระเด้งสุดตัวลุกขึ้นยืนก่อนวิ่งออกไปที่ประตูอย่างรวดเร็วเช่นกัน หากยังไม่ทันผ่านพ้นประตูไม้ คนที่พยายามเอาตัวรอดก็รับรู้ถึงฝ่ามือหนักๆ ที่ฝาดลงมาแรงๆ ซ้ำหลายๆ ครั้ง
แกยั่วแฟนฉันนังเด็กเลว! ฉันเคยเตือนแกแล้วใช่มั้ย แกเลวถึงขนาดลากเขามาทำบัดสีที่ห้องเชียวเหรอนังเด็กชั่ว
มัจฉาด่าทอเสียงดัง มือบางของเธอฟาดลงบนใบหน้าของมัทนีไม่ยั้ง จนร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนที่คนเป็นพี่จะปรี่เข้ามากระชากผมของเธอเพื่อฉุดให้ลุกขึ้น มัจฉายังไม่ลดละการกระทำรุนแรงต่อน้องสาวต่างมารดาที่เธอไม่ยอมรับ มือบางหากมีพลังยังคงฟาดลงไปใหม่หลายๆ ครั้งจนร่างเล็กที่บอบช้ำทรุดตัวล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
พี่ปลา พี่ปลาฟังมัทก่อน เขาพยายามจะปล้ำมัท พี่ปลาต้องเชื่อมัท มัทพยายามหนีเอาตัวรอด พี่ปลาต้องเชื่อมัท คนเป็นน้องบอกพี่สาวเสียงสะอื้น โดยที่เธอพยายามปัดป้องตัวเองออกจากฝ่ามือและเล็บทั้งจิกและข่วนของพี่สาว
ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับทูนหัว น้องมัทเธอชวนผมมาเอง ร่างที่ร้องครวญคราง โอดโอยเพราะเขาเพิ่งจะโดนบีบกล่องดวงใจเอ่ยขึ้น โดยเขาโยนความผิดทั้งหมดให้เหยื่อ
เรามีเรื่องจะต้องคุยกันยาวค่ะนพ แต่ขอปลาจัดการกับยายเด็กเลวคนนี้ก่อน หญิงสาวหันไปแหวใส่แฟนหนุ่ม เธอส่งสายตาอย่างรู้ทัน และโกรธเกรี้ยวเพราะรู้ดีว่าเหตุการณ์ในคืนนี้เขามีส่วนผิดอยู่มาก แต่ถึงอย่างไรเธอก็พร้อมที่จะโยนความผิดทั้งหมดให้น้องสาวที่เธอสุดแสนจะเกลียดชังแต่เพียงผู้เดียว
มัจฉารีบเดินลงมาจากห้องนอนทันทีเมื่อเธอเดินไปปิดผ้าม่านหน้าต่าง แล้วเห็นรถยนต์สปอร์ตสีขาวของนพพลยังจอดอยู่ มันผิดสังเกตทั้งที่เขาควรจะกลับออกไปได้เกือบชั่วโมงแล้ว ลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอเห็นมินิโรเวอร์คันเล็กของมัทนีจอดอยู่ที่โรงรถเช่นกัน จนเธอต้องรีบลงมาทั้งชุดนอนบางๆ
มือบางหากมีพลังมหาศาลของมัจฉาพยายามกระชากผม เสื้อผ้าและแขนเล็กๆ ของมัทนีแล้วลากไปตามทางเดินคอนกรีตเพื่อไปยังตึกหลังใหญ่ ริมฝีปากเรียวงามสาดเสียงดังด่าทอน้องสาวมากมายด้วยคำหยาบคาย ชนิดที่ถ้าหากใครได้ยินคงจะไม่คิดว่ามันจะหลุดออกมาจากริมฝีปากงดงามของเธอ
เสียงดังด่าทอนั้นผสานเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของคนร่างเล็กที่บอบช้ำ และเธอพยายามจะอธิบายหากไม่เป็นผล เสียงร้องที่แสดงถึงความเจ็บปวดมากมายทั้งร่างกายและจิตใจมันดังจนทำให้ทุกคนในบ้านตื่นแล้วลงมาดู
เกิดอะไรขึ้นลูกปลา ทำไมทำร้ายน้องแบบนั้น
บิดาเอ่ยเสียงดัง ในขณะที่เขาพยายามเดินเข้ามาขวางร่างของลูกสาวคนเล็กที่นั่งกองกับพื้นด้วยสภาพยับเยิน เส้นผมดกหน้าถูกจิกทึ้งดูไม่เป็นทรง เนื้อตัวมีรอยเล็บจิกข่วนและเลือดซิบที่ริมฝีปาก แก้มที่เคยขาวนวลเต็มปื้นเป็นรอยฝ่ามือแดงๆ ไปทั่วทั้งใบหน้า และน้ำตาที่ทะลักออกมามากมายราวกับทำนบแตกของคนที่ทิ้งร่างสั่นสะท้านลงบนพื้นด้วยความกลัว
ยายเด็กเลวคนนี้ ยั่วแฟนปลาค่ะคุณพ่อขา มัจฉาหันมาบอกบิดาเสียงแหลมสูงก่อนที่เธอจะยืนหายใจหอบในชุดนอนบางๆ ที่ไม่มีแม้เสื้อคลุม เพราะเธอรีบลงมาจากห้องนอนดั่งพายุ
แล้วไหนล่ะแฟนของลูกปลา เขาอยู่ไหน คุณหญิงโฉมศรีเอ่ยเสียงดังกังวาน ดวงตาชะเง้อมองหาคู่กรณีอีกคน แล้วเธอก็เห็นร่างสูงของคนที่มองหาเดินตามเข้ามาในเวลาไม่นานนักพร้อมใบหน้าเหยเก
คุณทำอะไรลูกสาวผม เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามอย่างโกรธจัด
ผม...ผม ปละ...เปล่านะครับคุณพ่อ ผมกำลังจะกลับหลังจากมาส่งปลา แต่น้องมัทเธอชวนให้ผมไปนั่งเล่นในห้องนอนของเธอก่อน
คำโกหกคำโตของนพพล ส่งผลให้มัจฉาโถมเข้ามาเพื่อหวังจะทำร้ายมัทนีที่บอบช้ำอยู่แล้วซ้ำลงไปอีกครั้ง หากเธอต้องชะงักเพราะคำสั่งหยุดเฉียบขาดของบิดา จนมือบางที่กำลังยกขึ้นสูงค้างอยู่กลางอากาศ
มัท มัทเปล่านะคะคุณพ่อ ผู้ชายคนนี้โกหก เขาเข้าหามัท เขาจะปล้ำมัท แต่มัทไม่ยอม มัทช่วยตัวเองออกมาได้ คุณพ่อต้องเชื่อมัทนะคะ มัทไม่ได้โกหก มัทไม่เคยโกหกนะคะคุณแม่ใหญ่ พี่ปลา ต้องเชื่อมัทนะคะ ร่างบอบช้ำของคนที่ตกเป็นแพะละล่ำละลักเอ่ยด้วยเสียงสะอื้น เธอพยายามจะเล่าความจริงอย่างยากลำบากเพราะก้อนสะอื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ หากในช่วงเวลาเดียวกันเธอก็ได้ยินเสียงทุ้มแหบของคนที่โยนความผิดทั้งหมดให้เธอเอ่ยแก้ตัวเพื่อเอาตัวรอด คำแก้ตัวของเขานั้นส่งผลให้เธอหน้าชาและเรียกน้ำตาออกมามากมาย
น้องมัทชวนพี่ก่อน แล้วยังบอกให้พี่เลิกกับคุณปลาแล้วมาเป็นแฟนกับน้องมัทแทน น้องมัทลืมไปแล้วหรือไงครับ
ถ้อยคำน่าเกลียดของนพพล ทำให้มัทนีเงยหน้าขึ้น แล้วเธอก็กวาดตามองทุกคนเพื่อพยายามจะอธิบายว่ามันไม่จริงและผู้ชายคนนี้พูดโกหก ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาหยุดอยู่บนใบหน้าของบิดาเพื่อค้นหาความหมายว่าท่านจะเชื่อเธอหรือไม่ หากสิ่งที่เธอมองเห็นมีเพียงสายตาเย็นชา ที่สามารถตีความหมายไปเองได้ว่าท่านตำหนิและผิดหวังในตัวเธอ
นั่นไงคะคุณพ่อขาคุณแม่ขา นังเด็กนี่มันเลว มันชอบแย่งแฟนปลา ปลาพาแฟนมาที่บ้านกี่คนๆ ก็เสร็จนังเด็กนี่หมด ปลาเกลียดมัน มัจฉายังคงส่งเสียงดังด่ามัทนี
เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ แม่ชอบแย่งยังไงลูกก็ชอบแย่งอย่างนั้น เสียงของคนเป็นแม่เลี้ยงเอ่ย พลางกวาดสายตาค้อนสามีที่ยังคงยืนเงียบ
คุณแม่ใหญ่อย่าว่าคุณแม่ของมัท ถ้ามัทจะเลวก็ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ มัทเลวเอง ร่างบอบช้ำร้องไห้หนักมากขึ้นเพราะความเข้าใจผิดใหญ่โตในครั้งนี้ทำให้มารดาผู้ล่วงลับถูกเรียกขึ้นมาต่อว่าอีกครั้งทำให้เธอทนไม่ได้
นั่นไงล่ะยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าตัวเองเลว ก็แสดงว่าแกยั่วแฟนฉันจริงๆ น่ะสิยายเด็กเลว แกจะไปไหนก็ไปให้พ้นๆ หน้าฉันเลยนะ ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีกเมื่อไหร่ ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่ยายมัท
เสียงของพี่สาวที่ยังคงด่าทอ แต่ทว่าร่างบอบช้ำที่ทรุดลงไปกองอยู่กับพื้นไม่สนใจ เพราะเวลานี้เธอหวังเพียงบิดาเชื่อคำพูดของเธอเท่านั้น หากสิ่งที่เธอเห็นคือดวงตาที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ ทำให้คนที่บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจเพราะน้ำมือและวาจาของคนในครอบครัว เธอจึงเอ่ยกับตัวเองเบาๆ
คุณพ่อไม่เชื่อมัท!
เสียงเบาๆ ของสาวน้อยพร้อมสายตาตัดพ้อแสดงออกถึงความผิดหวังและเสียใจฉายชัดส่งไปยังบิดาที่มองเธอไม่วางตาเช่นกัน
กลับไปเรือนเล็กได้แล้วยายมัท
ไม่มีคำปลอบโยน ไม่มีคำพูดปกป้อง หรือแม้แต่สัญญาณใดๆ ที่จะทำให้เธอเข้าใจได้ว่าท่านเชื่อเธอ เชื่อว่าลูกสาวคนนี้จะไม่ทำเรื่องชั่วช้าตามคำพูดของใครๆ ซึ่งท่านควรจะเชื่อใจเธอ
ไวเท่าความคิดเพราะฟางเส้นสุดท้ายที่ยึดเธอเอาไว้ให้อยู่ที่นี่ ที่ที่เธอไม่เคยคิดว่าเป็นของตัวเอง สาวน้อยลุกขึ้นยืนแล้วพยายามหอบร่างบอบช้ำกลับไปที่เรือนไม้หลังเล็กของเธอ แล้วหยิบเพียงแค่กระเป๋าเป้ใบเดียวก่อนสะพายมันขึ้นหลัง มือเล็กหยิบกุญแจรถ ก่อนที่จะวิ่งกลับมาพร้อมรองเท้าแตะคู่เก่า ขึ้นไปสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อขับพาร่างบอบช้ำออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว โดยที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปที่ไหน...
***************************************************
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=7962
ส่วนรูปเล่มรอฉบับรีปริ้นครั้งที่ 3ใครสนใจอยากได้เล่ม "ดวงใจมัท" ในรูปเล่ม แจ้งเข้ามาได้ที่ E-Mail :wikky7ster@gmail.com ค่ะ
หรือแฟนเพจ