ปฎิรูป-ถอยอย่างไรไม่ให้ล้ม*** WHITESPACE.CO.LTD

whitespace
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เมื่อไม่มีสิ่งใดจริง จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
.....อ่านเรื่องพุทธบารมี
.....ลีลาสมเด็จพุฒาจารย์โต
.....ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา-หลวงปู่มั่น

Google..
.....................พ่อของแผ่นดิน...
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add whitespace's blog to your web]
Links
 

 
เมื่อหนึ่งนิ้วนั้น.. ชี้ขึ้นฟ้า

บ่นเป็นเรื่องกับอวกาศสีขาว


หรือเป็นไปได้ว่า.. ความเชื่อความศรัทธาบางอย่างจะฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกของมนุษย์เราชนิดไม่เคยสูญหาย (มนุษย์สายพันธุ์ที่ตามหาความจริงนะไม่ใช่พวกทุนนิยม) อะไรบางอย่างที่สมบูรณ์ดีงาม อะไรสักอย่างที่เป็นจริงไม่แปรเปลี่ยน อะไรที่เป็นแก่นสารไม่ไร้สาระ และที่นั่น.. เป็นจริงอย่างนิรันดร!!

การคาดหวังศรัทธาและจิตนาการถึงสถานที่จริงที่นั้น แม้จะถูกถ่ายออกมาเป็นความเชื่อในภาพต่างๆ กัน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจกับการที่เราๆ เพียรฝันหาสถานที่นั้นไม่เสื่อมคลายนั่นก็คือ หรือว่ามันคงมีอยู่จริง!!

อวกาศสีขาวคิดว่า อาจเป็นเพราะความรู้สึกของคนเรา คลับคล้ายอะไรๆ ก็จะดูไม่ลงตัว ไม่พอดี เป็นเหตุให้รู้สึกถึงความขาดไปความเกินไปอยู่เสมอ ไม่ถูกใจเสมอ ยังไม่พอดิบพอดีแบบอมตะนิรันดร์กาล เราจึงดั้นด้นตามหาความสมบูรณ์แบบ ที่มันจะต้องลงตัว สมบูรณ์ ไร้ที่ติ รวมไปถึงอารมณ์ ไม่เหงา ไม่เศร้า ไม่ชั่ว ไม่ดี ไม่ผิดหวัง ไม่สุขเกินขอบเขต ฯลฯ อะไรแบบนี้หรือเปล่า?? และความสมบูรณ์แบบนี่เอง จึงเป็นที่สุดของคำตอบในชีวิต ที่เราต่างพยายามค้นหาสถานที่นั้นให้เจอ สถานที่ที่สมบูรณ์ที่ซู้ดดดด...^____^”

เพลโต อีกชื่อหนึ่งที่ให้ความสำคัญต่อสถานที่หนึ่งซึ่งเปี่ยมไปด้วยความสัมบูรณ์ หากแต่ท่านตีความความสัมบูรณ์โดยโยงใยจากมนุษย์โลก ดังนั้น โลกของแบบ หรือทฤษฎีที่ว่าด้วย “แบบ” (Theory of Forms) จึงถูกจินตนาการถึงความสมบูรณ์ของต้นแบบ ที่เป็นแม่แบบให้กับสำเนามากมายที่มีอยู่บนโลก ทั้งสิ่งมีชีวิต วัตถุ หรือสสารทั้งปวง (อันนี้ไม่แน่ใจนัก)

ภาพชี้นิ้วขึ้นฟ้าของเพลโต จึงเปรียบดุจดังสัญลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาลของการบ่งบอกว่า ที่ที่นั้นมีอยู่
(ชี้ไปถึงที่ไหน.. ก็ที่นั่นแหละค่ะ -_-“..)


เพลโต อาจารย์ของอริสโตเติ้ลนักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียง เป็นนักปรัชญาที่วางรากฐานทางการศึกษาวิชาต่าง ๆ ไว้มากมาย เช่น การปกครอง วิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ ฯลฯ เสียชีวิตเมื่อ 347 ปีก่อนคริสต์ศักราช แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่แนวความคิดและผลงานทางวิทยาศาสตร์ของเขาก็มีอิทธิพลต่อนักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน

เมื่อเด็กคนหนึ่ง เกิดขึ้นมาภายใต้ความโกลาหลทางการเมือง สงครามกลางเมืองระหว่างชาวสปาร์ตาและชาวเอเธนส์ในประเทศกรีซยุติลงด้วยชัยชนะของชาวสปาร์ตา ชาวเอเธนส์ฝ่ายปราชัยย่อมต้องถูกกดขี่ข่มเหงเป็นธรรมดา เหตุนี้ทำให้เพลโตมีแนวคิดต่อต้านการเมืองอย่างรุนแรง ก็เพลโตไม่ใช่ชาวสปาร์ตานี่นะ โด่..

เขาจึงมุ่งมั่นอยู่กับการแสวงหาความจริง รับการศึกษาขั้นต้นเช่นเดียวกับลูกผู้ดีมีเงินทั่วไป ลองไม่มีเงินดิ..อะไรจะเกิดขึ้น? และผลของการที่ท่านเพลโต เรียน ปรัชญา ดนตรี บทกวีและวาทศิลป์ จากอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นลูกศิษย์ของเฮราไคลตุส นักปรัชญาชาวกรีกที่มีชื่อเสียงอีกท่านหนึ่ง ก็คือทำให้เราต้องมารู้จักกับเพลโตกันอยู่ถึงทุกวันนี้ไงล่ะ.. ดีนะที่เป็นลูกคนรวย.. แล้วไม่มัวแต่เที่ยวสำราญจนเสียเด็ก

นอกจากมหาปราชญ์ผู้นี้ จะมุ่งมั่นศึกษาศาสตร์ทุกแขนง ยังรายล้อมตัวไปด้วยผู้รู้ บิดาของเพลโตเป็นเพื่อนสนิทกับโสเครตีสนักปรัชญ์ชาวกรีก ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของปีทากอรัส ในเวลาต่อมาเพลโตได้ศึกษาวิชาการด้านต่าง ๆ กับโสเครตีส ทำให้เขามีแนวความคิดคล้ายกับนักปราชญ์ทั้งสองมาก ก็จะไปให้คล้ายคนอื่นได้ไงเล้า?? ไม่ใช่ลูกศิษย์นอกคอกนี่หว่า...ค่ะ ..

เพลโตผู้สร้างตำนานให้ทฤษฎีโลกของแบบ (Theory of Forms) หลังได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของนักปรัชญาหลายท่านที่เขาได้ศึกษาด้วย แต่ทฤษฎีของเพลโตแตกต่างจากโสเครตีส ที่ว่าด้วยความรู้ทั้งปวงมาจากแบบ เพราะมีการขยายเนื้อหาทางอภิปรัชญาที่กว้างขวางขึ้น แบบของเพลโต มีความเป็นอิสระและอยู่เหนือจิต โดยเชื่อว่า การรับรู้จากสัมผัสทั้งหลาย ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ จะแตกต่างกันไปตามความคิดหรือสถานการณ์นั้นๆ เช่น การที่มองเห็นสัตว์ตัวหนึ่ง ไม่สามารถบอกได้ว่ามันมีขนาดใหญ่หรือเล็ก อาจมีขนาดใหญ่หากเปรียบเทียบกับสัตว์ที่มีขนาดเล็กกว่า หรืออาจจะมีขนาดเล็กหากเปรียบเทียบกับสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า และจากทฤษฎีนี้ เพลโตสรุปว่า โดยตัวของมันเอง ไม่มีสรรพสิ่งใดๆ ในโลกนี้ที่มีลักษณะแน่นอนตายตัว แต่ต่างมีแบบที่สมบูรณ์ของตัวเอง แบบที่ว่าก็อยู่ที่นั่นไง ที่ที่ท่านชี้ขึ้นไปอะ.. ค่ะ จำกันได้บ่..

ผลงานช่วงสุดท้ายจากประสบการณ์และความรู้ที่มากมายของเพลโต หลังจากตั้งสำนักอะคาเดมี (Academy) แล้ว ได้แก่ ปรัชญา จริยศาสตร์ การเมือง การศึกษา และวิทยาศาสตร์ งานเขียนสำคัญที่สุดในช่วงนี้ชื่อว่า รีพับลิค (Republic) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเมืองในความคิดของเพลโต ซึ่งเกิดขึ้นจากสภาพการเมืองในกรุงเอเธนส์ที่วุ่นวายอย่างมากในขณะนั้น และถือว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดเล่มหนึ่ง ได้เป็นหนังสือเรียนในวิชารัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง

ส่วนกฎสำคัญทางวิทยาศาสตร์อีกชิ้นหนึ่งของเพลโตคือ กฎที่ว่าแสงเดินทางเป็นเส้นตรง เมื่อแสงกระทบวัตถุ มุมของแสงตกกระทบจะเท่ากับมุมของแสงสะท้อน เป็นกฎที่ถูกต้องและยึดถือกันมาจนถึงปัจจุบัน

อวกาศก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เชื่อเรื่อง โลกของแบบ อย่างเหนียวแน่น (ไม่ใช่ชอบข้าวเหนียวนะ) ทั้งยังเชื่อว่า.. ที่นั่น มันสมบูรณ์ อิสระและเหนือจิต(ที่คิด)โดยสิ้นเชิง นั่นก็คือความไม่มีแบบ เพราะตราบใดที่ยังมีแบบ ตราบนั้นยังไม่ถึงที่สุดของแบบ เอิ๊กกกกกก....

กรุณาอย่าโห่..ตอนจบ เพราะทำแบบนั้น มันไม่ดี... “-_-

.......................................................
หมายเหตุ ข้อมูลส่วนหนึ่งเรียบเรียงมาจาก ประวัติ Plato จากเว็บ ประวัตินักวิทยาศาสตร์โลก



Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 5 ตุลาคม 2549 18:01:20 น. 0 comments
Counter : 1131 Pageviews.
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.