DL here

Eng sub here

Song :5.19 “Old Dogs, New Tricks” DL: Right-click » “Save Link As…”

1. I Melt with You (Glee Cast Version)

2. Lucky Star (Glee Cast Version feat. June Squibb)

3. Memory (Glee Cast Version feat. June Squibb)

4. Take Me Home Tonight (Glee Cast Version feat. June Squibb)

5. Werewolves of London (Glee Cast Version)

credit to: //gsongsdl.tumblr.com/

Old Dogs, New Tricks

Wriiten by Chis Colfer, the boy who fliesวันนี้ที่รอคอย…. ตอนที่เขียนบทโดยสุดที่รัก คริส โคลเฟอร์

ธีมสำหรับตอนนี้ ก็คือ คนแก่ และสัตว์ อันเป็นธีมที่คริสชอบที่สุดนั่นเอง

ตอนนี้ Story line หลักๆเป็นเรื่องของเคิร์ท แต่แน่นอนว่า ยังต้องมีเรื่องของนางสาวราเชล แบรี่ และรวมทั้งเรื่องของ Samcedes ด้วย แถมยังหยอด Klaine Sweet Moment ที่แสนจะน่ารักโคตร มาเอาใจแฟนๆด้วยฮี่ ฮี่

Rachel (กับ Hummelpezberry)

คือที่จริง เนื้อเรื่องของ ep. นี้ มันก็เกิดขึ้นมาจากพฤติกรรมฉาวของยัยราเชลนี่แหละที่ดันริโดดร่มละคร Funny Girl ไปออดิชั่นบททีวี จนโดนเวบซุบซิบพวก Blind item เอามาเมาท์ แต่งานนี้ เราแอบฮา เพราะมันเหมือนว่า อีตา Colfer ของอิชั้นแอบจิกกัด เวบ Blind Gossip ยังไงก็ไม่รุ ก็นะ คนที่อยู่ในฉากตอนราเชลอ่าน Blind Item อยู่ คือ คริส ดาร์เรน ลีอา แล้วก็นายา ล้วนเป็น subject ที่เดากันว่าเป็น blind item สดๆร้อนๆเลย (ใครที่เคยอ่าน Blindgossip.com คงพอรู้เนอะว่าเราหมายถึงเรื่องไหน) แถมอีตาโคลเฟอร์ยังไม่หยุดแค่นั้นยังแอบจิกกัด เรื่องของ PR ต่อ เมื่อซานทาน่าแนะนำวิธีแก้ปัญหาให้ราเชลด้วยการใช้วิธีPR สร้างภาพ เพื่อแก้ไขอิมเมจ ซึ่งยัยราเชลก็เกิดไอเดียว่า งั้น เราก็มาทำกิจกรรม Broadway Bitches เพื่อช่วยน้องหมาตามShelter ในนิวยอร์คกันเหอะ (ฮามาก ชื่อนี้ คิดได้ไงเนี่ย ) คนเขาจะได้เห็นกันว่า นางสาวราเชล แบรี่ เป็นคนงามจากทั้งภายนอกและภายใจจริงๆนะ

บทบาทของซานทาน่า ในฐานะ publicist ส่วนตัวของนางสาวราเชลจึงอุบัติขึ้นมาด้วยประการฉะนี้ แล้วก็เป็นอะไรที่โดนใจอิชั้นมาก ชอบสุดๆ ตอนที่วันจัดฉากให้เพื่อนๆทำตัวเป็นแฟนๆที่ตามปลื้มมาชื่นชมราเชลที่ช่วยเอาสุนัขที่ Shelter มาจูงออกกำลัง น้องหมากะน้องเบลนน่ารักโคตร

She ทำหน้า ตอ...ได้ใจมากอ่ะ 55

เนี่ย จริงๆนะ เวลา Leaเล่นฉากตลกแนวนี้ทีไรเวอร์คทุกทีอ่ะ ควรทำอะไรแบบนี้บ่อยๆนะ

แล้วพอตอนมีนักข่าวมาทำข่าว ก็ยิ่งฮาน้ำหมากกระจาย โดยเฉพาะตอนราเชลโดนหมาลากไปถูลู่ถูกังไปตามทางแล้วตอนท้าย ที่คุณหมากอดขานักข่าวนี่ แบบว่า ฮาไม่หวาดไม่ไหวเลย..

แล้วก็ชอบมุกนี้มาก ตอนที่ซานทาน่าตามเช็คข่าวหลังเหตุการณ์ มุขแต่ละมุขที่แม่คุณปล่อยมาสไตล์ซานทาน่าแท้ๆ แบบว่าฮาอ่ะ

Thank god you were wearing underwear.. 

เรื่องของราเชลนี่ ยังมีฉาก Hummelberry ที่แบบว่า ทำให้ตบเข่าป้าบๆด้วย

คือแบบว่า ตอนที่ราเชลเอาแต่สนใจเรื่องของตัวเอง ขนาดจัดกิจกรรม Broadway Bitches แต่ดันไม่ให้เคิร์ทเข้าร่วมด้วยนี่ ตอนนั้นเดี้ยนอยากฟาดกบาลราเชลมาก แต่แล้วคริสก็ทำในสิ่งที่เราคิดว่า แฟนๆทั้งหลายอยากเห็นมานาน คือให้เคิร์ทตอกใส่หน้าราเชลซะมั่ง เอาแบบจังๆเลย ไม่ใช่แค่ประโยคสองประโยคสั้นๆ อย่างที่ผ่านๆมา ยิ่งตอนนี้ เรายังสะอึกเลยอ่ะ

น้องคริสเก่งมากลูก Well done, sir. เข้าใจหัวอกแฟนๆดีแท้

ยังมีการแถมฉากที่โดนคุณแม่ในรองเท้าเทนนิสด่าราเชล ว่าจอมปลอม .. อิชั้นละสะใจสุดๆ

Samcedes

วันนี้ แซมน่ารักดีอ่ะ ไม่น่ารำคาญเท่าไหร่ แซม ไปรับน้องหมาจาก Shelterมาเลี้ยงกะเค๊ามั่ง

ตอนแซมเล่นกับหมาน่ารักมากๆเลย (คือคอร์ดกับลูกหมา เป็นอะไรที่ดูเข้ากันดีมาก 55 )แต่เมอร์เซเดสไม่เห็นด้วยที่แซมรับหมามาเลี้ยง เพราะคิดว่า ขนาดแซมดูแลตัวเองยังทำแทบไม่ได้ แถมยังปล่อยหมาทำบ้านเลอะเทอะอีก แต่ในที่สุด แซมก็พยายามฝึกหมาและพยายามทำให้เมอร์เซเดสเห็นจนได้ว่าแซมกะหมา เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฝึกหัดได้ เอ้ย ไม่ใช่ ..แต่เพราะเนื้อแท้แล้ว แซมจะทำดีที่สุดเพื่อคนที่ตัวรักอยู่แล้ว อย่างตอนเมื่อก่อน แซมยังคอยดูแลครอบครัวตัวเองดีเท่าที่เด็กม.ปลายจะทำได้เลย

เออ เนอะ คริสยังอุตส่าจำได้ด้วยว่าตอน ซีซั่น 2 แซมเป็นเด็กดีแค่ไหน (แต่พอมาเดทกับบริทนีย์ในซีซั่น 4 กลับ dumb ตามบริทนีย์ไปซะงั้น ขนาดเรายังเกือบลืมไปแล้วเลยที่แซมเคยช่วยพ่อแม่ทำงานตอนพ่อตกงานแล้วก็ช่วยดูแลน้องๆด้วย)

ว่าแต่ตอนเมอร์เซเดสกะแซมทะเลาะกันนี่ ทำไมให้ความรู้สึกเหมือนตอนอ่านคอลัมน์ผัวเมียละเหี่ยใจยังไงไม่รุ55

Kurt

ตอนนี้อิ่มใจมากค่ะ Kurt ออกเยอะดีมาก เป็นโฟกัสของเรื่อง (น้องคริสลูกแม่ กล้าดีมาก กล้าเขียนบทที่โฟกัสตัวละครที่ตัวเองเล่นนะยะ แต่ทำไมจะไม่ล่ะ เพราะในเมื่อมันออกมาเวอร์คแถมยังเป็นสิ่งที่แฟนๆก็อยากดูเคิร์ทที่เป็นตัวละครที่คนรักอยู่แล้ว... นิ)

เคิร์ทเห็นเพื่อนๆพากันได้ดิบได้ดี จนเหมือนใครๆก็ค้นพบสิ่งที่ต่างพากันหาในนิวยอร์คแล้ว แต่มีเคิร์ทคนเดียว ที่ยังหาที่ยืนให้ตัวเองไม่ได้ แถมยังรู้สึกเดียวดายเหมือนตัวเองเป็น underdog อยู่คนเดียวด้วย คือที่ผ่านมาเคิร์ทก็ดูเหมือนมั่นใจในตัวเองนะ แต่พอเห็นคนอื่นๆต่างก็มีที่ทางของตัวเองกันแล้ว แถมการที่เคิร์ทป็นคนคิดถึงใจของคนอื่นเข้าใจคนอื่นอยู่เสมอ แต่กลับไม่มีใครหันมานึกถึงเคิร์ทมั่งเลยเนี่ย เป็นใครก็ต้องสงสัย คิดน้อยใจกันมั่งแหละวะ ว่าแล้วตูมาทำอะไรอยู่ที่นี่ มัวทำอะไรอยู่ในขณะที่คนอื่นๆเขาไปถึงไหนกันแล้ว

แต่แล้ว เคิร์ทก็ได้รู้จักกับแมกกี้ แบงค์ ดาราอาวุโส ที่เป็นตำนานบรอดเวย์แต่ตอนนี้อยู่บ้านพักคนชรา และกำลังจัดการแสดงละคร Peter Pan ที่บ้านพักคนชราที่ตัวเองอยู่ ความรู้สึกโดดเดี่ยวทำให้เคิร์ทไปเยี่ยม แมกกี้ จนจับผลัดจับผลู ไปทดสอบบทปีเตอร์แพนซะเอง

แบบว่า ตอนที่รู้จากPromoว่าเคิร์ทจะร้อง Memory เป็นเพลงออดิชั่น แล้วก็ได้ทดลองฟังเพลงก่อนดูละครนี่ ก็ชอบนะ เสียงใสๆของเคิร์ทเพราะมาก นึกถึงตอน ร้องAs If we never said goodbye เลย ฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็แอบคิดไม่ได้ว่า ยังไงก็อยากให้ปล่อยที่เป็นSolo เพลงนี้ของเคิร์ทล้วนๆออกมาด้วยจัง แต่พอดูละคร ที่แมกกี้ ออกมาร่วมร้องกับเคิร์ทอิชั้นกลับน้ำตาไหลพรากๆเลยอ่ะ รู้สึกว่าที่แมกกี้ร่วมร้องกับเคิร์ทและมีคนแก่อื่นๆมาร้องด้วยตอนท้ายแบบนี้ เหมาะมากเลย มันเป็นเหมือนการที่บอกให้รู้ว่า เคิร์ทเป็นที่ยอมรับของคนที่นี่แล้ว คือเรามีความสุขร่วมไปกับเคิร์ทด้วยเลยอ่า 

มันยังบอกให้รู้ด้วยว่า เคิร์ทไม่ได้เดียวดายอีกแล้ว เคิร์ทไม่ใช่แค่เงาของราเชล.. ไม่ใช่แค่คนที่มานิวยอร์คเพื่อให้กำลังใจคนอื่นๆเท่านั้นอีกต่อไปแล้ว 

นอกจากเคิร์ทจะค้นพบที่ยืนของตัวเอง ได้รับการยอมรับ ได้เพื่อนใหม่เคิร์ทยังมีความสุขจากการที่ทำให้แม่ลูกที่ห่างเหินกันมานานได้กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ด้วย และเคิร์ทก็ยังคืนดีกะราเชลในตอนท้ายด้วยเมื่อราเชลคิดได้ซะทีว่า ตัวเองทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีกับเคิร์ทแค่ไหน (แต่หวังว่า คราวนี้ยัยราเชล จะสำนึกตัวได้แบบถาวะซะทีนะ)

ว่าแต่ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคริสเขียนเองเราจะได้เห็นโมเมนท์ที่เคิร์ทลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างแบบนี้ไหมเนี่ย แล้วอีตาพวกลุงๆป้าๆ นักเขียน จะนึกได้กันมั่งไหม ว่าคนดูควรจะได้มองจากมุมมองของเคิร์ทมั่ง 

แถม ถ้าไม่ใช่เพราะคริสเขียนบท แต่เป็นป้า Ryanหรือนักเขียนคนอื่น  เพลง Memory ที่คริสเอามาให้เคิร์ทร้องเป็นเพลงออดิชั่น ก็อาจจะเอาไปให้ คนอื่นร้องด้วยซ้ำป่ะเนี่ย

แต่ถึงจะเป็น ep ที่โฟกัสเรื่องของเคิร์ทกับราเชลเป็นหลัก แต่คริสก็ยังเชื่อมโยงเรื่องเคิร์ทกะราเชลเข้ากับเรื่องของตัวละครอื่นๆ ด้วย อย่างอาร์ตี้เนี่ย แบบว่าเป็นตัวละครที่ก่อนหน้านี้ โดนเขียนบทแบบผีเข้าผีออกมาก ก่อนหน้านี้ก็หายไปสองตอนเลยแต่ ep. นี้คริสยังเขียนถึงความเป็นเพื่อนระหว่างแซมกับอาร์ตี้ที่ช่วยกันเรื่องน้องหมามาด้วย ไม่ใช่จะยัดเยียดแต่ Blam อย่างที่นักเขียนคนอื่นๆชอบทำ (คือที่ค่อนข้างรำคาญ blam เนี่ย ไม่ใช่ไร เพราะเวลาแซมกับเบลนอยู่ด้วยกัน แซมจะดูdumb มากๆ แล้ว blaine ก็แทบจะทำตัวdumbตามแซมไปซะงั้น เหมือนเวลา แซม dumbตาม บริทนีย์นั่นแหละ)

แล้วคริสก็ยังคำนึงถึง ความต่อเนื่องของตัวละครด้วย อย่างเอลเลียต กับแดนี่สมาชิกวงone three hill ที่หายไปดื้อๆเลย คริสก็ยังอธิบายด้วยว่า สองคนนี้หายไปไหน

อ้อ แล้วชอบที่สุด คือ Klaine moment คือคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมีในตอนนี้ด้วย คือตอนแรกเราก็คิดว่า คงจะแบบแค่คุยกัน ยิ้มกันไปกันมา เออ ก็ไม่ถึงกับมีฉากintimacy อะไรมากมาย แต่นี่ โอ้ว....น่ารักมากๆ คริสเอาใจ Klainers เต็มที่เลย เพราะ Klaine ในตอนนี้ นอกจากจะไม่ทะเลาะกันแล้ว Blaine ยังทำตัวเป็นแฟนที่น่ารักสุดๆอย่างชนิดแสดงให้เห็นกันจะๆไปเลย ว่า เบลน ภูมใจในตัวเคิร์ทและเห็นเคิร์ทสำคัญมาก ขนาดยอมทิ้งโอกาสที่จะได้เจอคนดังและอาจจะสร้างอนาคตให้เบลนได้ เพื่อมาให้กำลังใจเคิร์ท ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆบอกว่าติดโน่น ติดนี่ มาไม่ได้

ยิ่งฉากที่เบลนช่วยติดกาวใบไม้ลงบนเสื้อ ชอบมากๆเลย แบบว่า ดูเป็นฉากที่แสดงออกอย่างง่ายๆนะแต่น่ารักอ่ะ และเบลนก็มีความสุขที่เห็นเคิร์ทมีความสุข แค่นี้ ก็ซึ้งสุดๆแล้ว 

เออ มันต้องแบบนี้สิ ที่ Glee พยายามบอกให้คนดูเชื่อตลอดว่าเคิร์ทกะเบลน มีความรักที่มั่นคงเป็น role-model ให้วัยรุ่นอะไรแบบนั้น  นี่....คนรักกัน มันก็ต้องทำอะไรเพื่อกันแบบเคิร์ทกับเบลนแบบนี้นี่แหละ

อ้อ แล้วก็ยินดีด้วยนะ นายเบลน หลังที่จากพยายามจะหอมแก้มแสดงความยินดีกะเคิร์ท แต่พลาดจังหวะมาหลาย ep. แล้ว (เพราะตอนก่อนถ่ายไม่ได้นัดกันไว้หรืออะไรซักอย่าง 55) แต่ตอนนี้ เบลนหอมแก้มเคิร์ทได้สำเร็จแล้วจ้า

สรุป ดูจบแล้ว สิ่งแรกที่แว่บขึ้นมาในหัวคือ ให้คริส โคลเฟอร์ขึ้นแท่น รับหน้าที่เหมาเขียนบท Glee ตลอดไปเลยได้ม๊าย.....ย..

หน้าตาเราตอนที่ดู ep.  นี้ เป็นอย่างนายเบลนตอนนี้เลย ภูมิใจในตัวน้องสุดๆ น้องคริสเก่งมากอ่า นี่อิชั้นไม่ได้ลำเอียงเลยนะคะ (ที่จริงก็ลำเอียงแหละ ในบลอกก็ประกาศตัวไว้แล้วนิ) 

คือแหม แบบไม่ได้ดู Glee แบบที่เดี๋ยวก็หัวเราะก๊าก เดี๋ยวก็น้ำตาไหล แล้วก็มีโมเมนท์ที่ทำให้สะใจตบเข่าฉาด... เดี๋ยวก็ยิ้มจนตาเยิ้ม... หลากหลายอารมรณ์แบบนี้มานานแล้วอ่า แถมยังให้อารมณ์ที่ดูแล้วก็นึกถึงGlee สมัยซีซั่นแรกๆ เลยอ่า

ที่เขียนมาทั้งหมด นี่มีแต่ชมนิ ...ชมกันเข้าไป แต่นะ ใครที่ดูแล้วคงคิดไม่ต่างจากเราหรอก ว่า คริสได้พิสูจน์แล้ว ว่านี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คริสทำได้จริงๆ สมควรได้รับคำชมแล้ว และก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้นักเขียน Glee คนอื่นๆเลยด้วย (อะแฮ่ม... อะแฮ่ม ...ดีกว่าหลายๆคนด้วยซ้ำ อย่างอีตาHodgeson เงี้ย โละๆทิ้งไปเหอะ อีตานี่เขียนตอนไหน ออกมาห่วยตลอด)

แต่ก็นะ ถ้าคริสต้องมัวเขียนบท คงไม่ไหวหรอกเนอะ จะเอาเวลาที่ไหนมาทั้งแสดงและเขียนหนังสือภาคต่อของ Land of Stories ล่ะ งั้น ซีซั่นหน้าอย่างน้อยก็เขียนบทแค่ซัก 2-3 ตอนแล้วกัน (เราไม่โลภเล๊ย)

เพราะเราอยากเห็นภาพแบบนี้อีก...