DL here

Eng Sub  here

Songs: “Glee Celebrating 100 Episodes” DL: Right-click » “Save Link As…”

Defying Gravity (Glee Cast Season 5 Version)

Happy (Glee Cast Version feat. Kristin Chenoweth and Gwyneth Paltrow)

Keep Holding On (Glee Cast Season 5 Version)

Raise Your Glass (Glee Cast Season 5 Version feat. Kristin Chenoweth)

Toxic (Glee Cast Season 5 Version)

Valerie (Glee Cast Season 5 Version)

Credit to: //gsongsdl.tumblr.com/

เพิ่งจะมีเวลาได้ดูวันนี้เอง
..

Ep นี้ฉลองครบ 100 episode ซึ่งเป็นธรรมเนียมของซีรีส์ทุกเรื่อง ว่าถ้าเรื่องไหน อยู่ยาวมาจนถึง 100 Episode จะต้องฉลองใหญ่ ด้วยการมีอะไรพิเศษให้กับคนดู (แถมได้ฉลองที่จะได้สิทธิในการ syndication ด้วยนิ 55)

...
สำหรับ Glee  ผู้จัดโปรโมทใหญ่โต บอกว่า นักแสดงที่หายหน้ากันไปแล้ว จะกลับมารวมตัวกันเป็นพิเศษ และแม้แต่เหล่า shippers ของคู่ที่คิดว่าโดนดับจิ้น ดับฝันไปแล้ว ก็อาจมีความหวังสำหรับคู่เหล่านี้อีกครั้ง

...
นอกจากนี้ ผู้จัดยังเปิดโอกาสพิเศษให้คนดูอย่างพวกเรา ร่วมโหวต ว่าอยากให้เอาเพลงไหนกลับมาร้องใหม่ในโอกาสนี้ด้วย แล้วก็ได้ประกาศมาแล้วว่า เพลงที่ได้มีทั้งหมด 10 เพลง จะเอามาใส่ ในตอนที่ 100 กับ 101 ซึ่งจะเป็นการฉลองต่อเนื่องกัน 2 ตอน

สำหรับตอนนี้ เพลงที่จะใส่มา คือ
Raise Your Glass  (เคยร้องโดย the Warblers ตอน Original Song ซีซั่น 2)
Keep Holding On (เคยร้องโดย ND ตอน Throw Down ซีซั่น 1)
Defying Gravity  (เคยร้อง โดย Kurt กับ Rachel ตอน Wheels ซีซั่น 1)
Toxic (เคยร้องโดย บริทนีย์ ตอน Britney/Brittany ซีซั่น 2)
Valerie (เคยร้องโดย ซานทาน่า ตอน Special Education ซีซั่น 2)
และเพิ่มเพลงใหม่ Happy (จากที่ตอนแรก บอกว่าจะเป็น Dog days are over)

ดังนั้น เราก็เลยเพิ่มความคาดหวังลงไปนิดหน่อย จากที่ตั้งแต่เริ่มซีซั่นนี้มา เลิกดูแบบคาดหวังมาตลอด แล้วก็พบว่า... เอ่อ.... ไม่น่าไปคาดหวังอะไรกับ Glee เลยตู...

...

แถมเพลงทุกเพลง ในตอนนี้ ไม่รู้เราคิดไปเองรึเปล่า ว่า มันเหมือนมีอะไรขาดหายไป ไม่มี Magic Moment เหมือนตอนเก่าเลย ทั้งการเรียบเรียงเพลง แล้วก็เนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเพลง โดยเฉพาะเนื้อเรื่องเนี่ย มันเหมือน แบบเอาเพลงเป็นตัวตั้ง แล้วเขียนเนื้อเรื่อง ยัดเยียดเข้ามาเพื่อจะได้ใช้เพลงนี้ได้ อะไรแบบนั้น

...

ธีมของตอนนี้คือ ซูสั่งปิด glee club ดังนั้น ครูชูส์เลยเชิญบรรดาศิษย์เก่าที่แยกย้ายกันไปให้กลับมาร่วมรำลึกความทรงจำ ทิ้งท้ายก่อนที่จะต้องปิด Glee Club อย่างถาวร

...
แต่สำหรับเรา เราอยากบอกว่า ธีมของวันนี้ คือ “อาถรรพ์(ร้าย)ในห้องชมรม” ต่างหาก

อาถรรพ์ที่ 1. Diva- off

...
อันนี้ เริ่มตั้งแต่ต้นเรื่องเลย เพราะเปิดมาก็เป็นตอนที่เมอร์เซเดส กับราเชล เดินมาตามทางเดินในอาคารเรียน ไม่ได้เดินเข้ามาด้วยกันหรอกนะ แต่มีปฎิกิริยาเหมือนกันคือ ความเป็น Diva ในตัวมันกำเริบ  เพราะทั้งคู่คาดหวังว่า ในเมื่อตัวต่างก็ออกไปประสบความสำเร็จ หลังจากเรียนจบกันมาระดับนึง ก็น่าจะมีใครในโรงเรียนตื่นเต้นกับการกลับมาของตนบ้าง แต่กลับปรากฏว่า ไม่มีเลย เงียบ...

...

แถมเมื่อเข้าห้องชมรม มาเจอหน้ากัน กลับกลายเป็นหมั่นไส้ เกลียดขี้หน้ากันขึ้นมาทันที บรรยากาศเก่าๆที่สมัยยังแข่งกันเด่น ตอนวัยเรียนมันกลับมาได้อีก ทั้งๆที่ก่อนแยกย้าย เรียนจบ สองคนนี้ ก็จากกันด้วยดีไปแล้ว นี่แหละ เราเลยเข้าใจว่า ห้องชมรมนี่ มันต้องมีอาถรรพ์ร้ายแน่นอนเลย เพราะเมอร์เซเดส เกิดอยากจะชิงความเป็นดาวเด่นกับ ราเชลกันขึ้นมาอีกครั้ง จนต้องจัด การแข่ง Diva-off กันขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยเพลงเดิมเลย คือ Defying Gravity ที่ราเชลเคยแข่งกับเคิร์ทมาก่อน
...

Defying Gravity ในครั้งนี้ ไม่ได้ออกแนว บรอดเวย์เหมือนตอนก่อนเลย คงเพราะ สไตล์ของแอมเบอร์ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีการโชว์การร้องโน้ตสูง ที่เป็นจุดเด่นของเพลงนี้  ทั้งๆที่ Amberกับ Lea ก็ทำได้สบายมาก แถมที่คาดหวังว่าจะได้ดูเคิร์ทร้องเยอะหน่อย ก็แทบไม่มีเลย คือที่จริง ถ้าไม่มีเคิร์ทใส่มาด้วย ในครั้งนี้ไปซะเลย เราก็คงไม่ว่าไรหรอก เพราะงานนี้ เคิร์ทไม่ได้บ้า ไปแข่งDiva กับเขาด้วย (ซึ่งเป็นสิ่งที่เราโล่งใจไปข้อนึง) แถมการที่มีช่วงของเคิร์ทไปผลุบๆโผล่ๆ ในเพลงขณะที่สองคนนี้กำลังแข่งกัน มันกลับแปลกๆด้วยซ้ำ เพราะหลังจากนั้น ก็ไม่มีใครพูดถึงเคิร์ท หรือโหวตให้เคิร์ทเลย  ราวกับไม่มีใครเห็นการแสดงของเคิร์ทด้วยซ้ำ (แต่ เอ๊ะ หรือที่จริง เคิร์ทก็ไม่ได้ลุกขึ้นยืนร้องจริงๆน่ะแหละ แต่ภาพเคิร์ทที่เราเห็น คือเค๊าแค่ทำมาให้พวกเราได้เห็นจินตนาการของนายเบลนนั่นเอง แบบ.. ยัยสองคนนี้ จะร้องก็ร้องไป แต่ในหัวผมเห็นแต่ภาพเคิร์ทร้องเท่านั้น อิ อิ)

...
โมเมนท์ตอนที่ประกาศผลว่าใครชนะมันก็ไม่ได้ แบบ Epic เหมือนตอนนั้นด้วย คือตอนนั้น ถึงเคิร์ทจะแพ้ราเชล แต่เคิร์ทชนะใจตัวเอง และชนะใจคนดูไปเลย เพราะเคิร์ทเลือกที่จะทำเพื่อพ่อมากกว่าเอาชนะราเชล ตอนนั้นเลย ที่เคิร์ทเกิดอย่างถาวรในใจเรา แต่ครั้งนี้ แบบว่า ใครจะชนะก็ช่างมันเหอะ ไร้สาระทั้งคู่ แถมครั้งนี้ เคิร์ทก็ยังชนะในสายตาคนดูอย่างเราอีกนั่นแหละ เพราะเคิร์ทไม่โดนอาถรรพ์ชมรมจนบ้าไปกับเขาด้วย คราวนี้เคิร์ทมาแบบเชื่อมั่นในตัวเอง จนไม่สนใจที่จะไปแข่งกับใครให้เหนื่อยอีกแล้วนั่นเอง

...

ว่าแต่ แอบสงสัยนิดนึงหละ ที่ผลโหวตมันออกมาเสมอกัน แต่พอนับหัวคนในชมรม ยังไงมันก็เลขคี่ อ่ะ แล้วมันจะเสมอกันได้ไงฟะ (มีคนเสนอไอเดียว่า เพราะจริงๆแล้ว นายเบลนทำบัตรเสียไง คือ  นายเบลนไม่ได้โหวตเลือกสองคนนี้ แต่ดันเขียนชื่อเคิร์ทลงไป  555 คู่หมั้นผมเก่งที่ซู๊ด)

..
อาถรรพ์ที่ 2 ถ่านไฟเก่าของคู่จิ้น

..
ตอนนี้ อย่างที่บอกว่า เขาเอาใจShippers ของหลายๆคู่ แม้กระทั่งคู่ที่ ไฟจิ้นโดนดับไปแล้ว จนไม่น่าจะกลับมาคู่กันได้เพราะนักแสดงไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังกลับมาคุกุร่นได้อีก แน่นอน ไฟนี้จุดติดได้ทันทีในห้องชมชม เพราะแต่ไหนแต่ไหรมา คนในห้องชมรมนี้ ก็เดทกันวนไปวนมาเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว จนกลายเป็นอาถรรพ์ดึงคู่จิ้นให้กลับมาคืนดีกันได้ อย่างคู่ Brittana กับ Quick ตามที่แฟนๆของคู่นี้ทั้งเรียกร้อง ก็ติดไฟได้ภายใน 1 ตอนเท่านั้น

..
อย่างที่รู้กันว่า Heather มีลูก เลยไม่กลับมารับบท Brittany แล้ว ส่วนซานทาน่า ก็มีแฟนใหม่ที่นิวยอร์คแล้ว แต่พอมาเจอหน้ากันที่ชมรม ถ่านไฟเก่าก็ติดได้อีก ถึงแม้ตอนแรก ซานทาน่าแค่ทนไม่ได้ ที่เห็นบริทนีย์ไม่เป็นตัวของตัวเอง หมกหมุ่นกับโลกของคณิตศาสตร์ที่บรรยากาศการเรียนที่ MIT ทำให้บริทนีย์เปลี่ยนจนแบบนี้ ซานทาน่าเชื่อว่า บริทนีย์ เกิดมาเพื่อเต้น เลยใช้วิธีแบบ Glee ที่ดนตรีเอาชนะได้ทุกสิ่ง พยายามสร้างบรรยากาศด้วยการฟื้น Unholy Trinity สามอนงค์ในบาปขึ้นมาโชว์เพลง Toxic  แต่แหม ขอบ่นหน่อยเหอะ ทำไมคราวนี้ Toxic มันถึงได้เนือยๆ หลอนๆยังไงไม่รุ ทั้งๆที่ อุตส่ามีสามสาวมาเต้นในชุดชั้นในแล้วนะเนี่ย เพราะแบบนี้รึเปล่า แค่นี้เลยยังไม่พอจะเปลี่ยนความคิดของบริทนีย์ได้

....

ต่อมาซานทาน่า เลยใช้เพลง Valerie ที่บริทนีย์เคยเต้นนำกับ Mike ในงานแข่ง Sectionals เพลงนี้ ยังไงเราก็ชอบเสียงร้องกับการเรียบเรียงของครั้งก่อนมากกว่า แค่สำหรับคราวนี้ เราชอบบรรยากาศนะ ที่ทุกคนในชมรม เต้นกันได้สนุกสนานมาก และนี่เอง ที่บริทนีย์เริ่มใจอ่อน อยากลับคืนสู่ตัวตนดั้งเดิมของตนเอง รวมถึงอยากกลับมาคืนดีกับซานทาน่าด้วย แต่เหลือที่ซานทาน่าจะใจอ่อนด้วยรึเปล่า ตอนหน้าก็รู้กัน แต่แค่นี้ ก็เห็นแล้วว่า ซานทาน่าใจอ่อนเต็มที่แล้ว

..
อาถรรพ์ที่ 3 ศึกชิงนาง 

อาถรรพ์ที่ 3 นี้สืบเนื่องมาจาก อาถรรพ์ที่ 2 เมื่อถ่านไฟเก่าของคู่จิ้นมาปะทุอีก แต่ในเมื่อนี่คือ Glee มันก็จะต้องมีเรื่องของศึกชิงนางเข้ามาด้วย คือแบบว่า พัคกลับมาในชุดทหารอากาศขาดรัก ที่รู้ตัวเองว่ารักควินน์มาตลอด (ว้าว...) แต่ตอนนี้ ควินน์กลับควงหนุ่มเยล ที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและเงินมาด้วย (รวยขนาดเป็นผู้ก่อตั้งฟาร์มแอปเปิ้ลแมคอินทอช ที่ส่งขายไปทั่วประเทศอ่ะ)

...

ที่จริงพัคก็คงเกือบจะตัดใจแล้ว แต่ดันพบว่า คุณบิฟ แฟนของควินน์ ไม่ได้คบกับควินน์แบบที่จะสนใจควินน์จริงๆ หรือยอมรับกับตัวตนที่แท้จริงเลย ควินน์เองก็พยายามปิดบังอดีต ไม่ให้บิฟรู้ กลายเป็นผู้หญิงที่คิดว่า การแต่งงานกับคนรวยๆ จะสร้างทุกอย่างในชีวิตได้ (แม่เจ้า ผู้หญิงเก่งอย่างควินน์ กลายเป็นแบบนี้ไปได้นิ เมื่อก่อนก็โดนเขียนบทให้คิดว่า ตัวเองจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมีผู้ชายมาสน ตอนนี้ ก็เป็นแบบนี้ไปได้อีกแน่ะ) พัคเลยคิดจะชิงควินน์กลับมา โดยใช้สไตล์Glee คือทุกอย่างเคลียร์ได้ด้วยเพลงอีก คุณพี่พัคใช้เพลง Keep Holding On ที่ตอนนั้น ND เคยร้องให้กำลังใจควินน์ ตอนควินน์โดนเบน จาคอบ อิสราเอลแฉว่าท้อง
...

งานนี้ ตามท้องเรื่องควินน์ซึ้งใจมาก จนร้องไห้ แต่สำหรับเรามันดูเป็น Forced Moment ไงไม่รุ มันไม่สมจริง ดูไม่เป็นธรรมชาติไงไม่รู้อ่ะ  แต่เอาเหอะ มันก็ทำให้ควินน์ตัดสินใจบอกความจริงเรื่องอดีตทุกอย่างกับบิฟ และบิฟก็ยอมรับไม่ได้จริงๆซะด้วย ควินน์เลย ไม่ทนกับบิฟอีก โดยมีพัคเข้ามาช่วยสั่งสอนบิฟด้วย และสรุป ควินน์ก็ใจอ่อน คืนดีกับพัคสมใจแฟนๆ ในที่สุด อย่างแฮปปี้เอนดิ้งงงงงงง

...
 เฮ้อ เอาเหอะ อย่างน้อยก็คงมีชิปเปอร์หลายคนแหละ ที่แฮปปี้ไป(มั๊ง) เหมือนแบบ ผู้จัดอาจจะคิดว่า เอาเหอะ ก็ให้แฟนๆได้สมใจก็แล้วกัน ในเมื่อ นักแสดงก็ไม่รู้จะกลับมาอีกรึเปล่า อะไรแบบนั้น แบบนี้ ทำไมไม่ให้ทีน่ากับไมค์คืนดีกันไปด้วยซะเลยล่ะ เฮ้อ.. ได้แต่หวังว่า อย่าเกิดอะไรขึ้นแบบนี้กับKlaine  ของเราด้วยแล้วกัน

......
ส่วนพลอตที่เหลืออื่นๆในเรื่อง แทบไม่มีอะไรให้จดจำเลย นี่ขนาดมีไมค์ มีพัค และครู ฮอลลี่ ฮอลลิเดย์ที่เราชอบกลับมานะ แล้วก็มี April Rhoads ที่ครูชูส์คาดหวังจะให้มาช่วยกอบกู้สถานการณ์ในชมรมด้วย แต่ขอบ่นนิดเหอะ ตอนที่ครูชูส์กับ April ร้อง Raise your glass เนี่ย บอกตรงๆว่า ชอบตอน The Warblers ร้องที่สุดแล้ว เสียง April เหมือนเสียงหุ่นยนต์เลยอ่ะ ป้า Kristin คงไม่เหมาะกับเพลงนี้มั๊ง
...

อ้อ แต่มีฉาก 2 ฉากที่ชอบ คือ อย่างตอนที่ April แอบเอาเหล้าให้Kurt Blaine บอกให้เป็นของขวัญแต่งงานล่วงหน้า หน้า เคิร์ทกับเบลนฮาดีอ่ะ

...

แล้วก็มีโมเมนท์ที่สะใจปนฮา คือ ตอนที่กำลังจะโหวตว่าใครชนะ Diva-off ซานทาน่าก็ลุกขึ้นมาด่าๆราเชล พอพูดจบก็บอกว่า สบายใจแระ โหวตได้ อย่างฮา 

 แต่งานนี้ หมั่นไส้ราเชลนิดนึง ได้อีก ตรงที่ หล่อนทำราวตัวเองเป็นเหยื่อที่โดนทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวอีกแระ ทีตัวเองเคยเที่ยวไปพูดจาข่ม แล้วก็ร้ายใส่ชาวบ้านมาตั้งมาก นี่ไม่เคยจำเนอะ อย่างตอนที่แย่งบทกับเมอร์เซเดสหรือเคิร์ท หรือตอนที่แกล้งส่งซันไชน์ไปที่ซ่องพี้กัญชาไรแบบเนี้ย (คือ สรุปแล้ว เราจะสะใจ มีความสุข เวลาที่มีใครลุกขึ้นมาด่าราเชลซะบ้างนั่นเอง )

...
โดยรวม ตอนนี้ ไม่สมกับที่คาดหวังและจั่วหัวว่าเป็น Special Episode เลย เราเลยไม่แปลกใจเลยที่ เรทติ้งขึ้นมานิดเดียวเอง แล้วก็ยังอยู่ในภาวะที่ถือว่าน่าเป็นห่วงเข้าไปใหญ่ เพราะขนาดเชิญดาราใหญ่ๆมา รวมถึงคาดว่า จะดึงแฟนๆของคู่จิ้นที่เลิกดูเพราะโดนดับฝันให้กลับมาด้วย แต่ก็แทบไม่ผลอะไรเลยอ่า ได้แต่หวังจริงๆนะ ว่า พอโฟกัสไปที่นิวยอร์คเต็มตัว โดยไม่มีอาถรรพ์ร้ายของชมรมแล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้น

..
ทิ้งท้าย กับข่าวที่ช่วยทำให้คึกคักกันขึ้นมาเล็กน้อย โดยเฉพาะสำหรับคนรัก น้องคริส เมื่อ คริสได้รับเชิญให้ร่วมเขียนบท Glee ด้วย คริสบอกว่า จะเป็นตอนที่ 19 แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มเขียนเลย ได้แต่คุยเรื่อง ธีมและไอเดียกับทีมนักเขียนแล้ว ใจคริสเอง อยากเน้นไปที่ธีมสัตว์และคนแก่ (ทำไมคะ จะดันคุณแมวลูกรัก Brian Colfer เข้าวงการมั่งเหรอคะ 55) แล้วถ้าให้เลือกแบบตามใจตัวเองจริงๆละก็ อยากจะเขียนบทที่ ทริบิวท์ไมลีย์ ไซรัส (เอ่อ ... คุณน้องคะ  พูดเล่นพูดจริงคะ) แต่คริสก็ราวกับจะรู้ใจเรา  บอกต่อว่า รู้น่า ว่าทำไม่ได้ ไม่ทำหรอก
...

ที่จริงก่อนหน้านี้ เวลาแฟนๆโมโหพวกนักเขียน ที่เขียนบทแบบผีเข้าผีออก ไม่เคยสนใจความต่อเนื่อง และชอบใช้มุขซ้ำๆ ก็มีแฟนๆหลายคนบ่นเลยหละว่า อย่างนี้ ไปให้คริส โคลเฟอร์ ลองเขียนดูมั่งไหม เผื่อ Glee จะมีอะไรดีขึ้น เพราะทุกคนก็ได้เห็นมาแล้วถึงความสามารถด้านงานเขียนบทของคริสในหนัง Struck by Lightning มาแล้ว
....

เวลานักข่าวสัมภาษณ์  ก็มีบางคนที่ถามเหมือนกันว่าสนใจคิดอยากเขียนบทให้ Glee ดูมั่งไหม แต่คริสก็จะปฎิเสธมาตลอดว่า เขาเป็นนักแสดงใน Glee มีหน้าที่เล่นไปตามบท ในโลกที่นักเขียนสร้างขึ้น ซึ่งไม่ใช่โลกของเขา งานนี้ นักแสดงก็เป็นเหมือนเป็นผู้โดยสารบนรถบัสที่คนเขียนบททำหน้าที่เป็นผู้ขับ ดังนั้น เขาขอเป็นผู้โดยสารอย่างเดียวน่ะดีแล้ว
...

คือที่จริง ปกตินักเขียนซีรีส์ หลักๆก็ทำหน้าที่เขียน Dialogues นั่นแหละ เพราะธีมและเนื้อหาของแต่ละตอน Show Runner อย่างป้า Ryan  จะเป็นคนกำหนด และควบคุมอีกที รวมทั้งการเลือกเพลงที่จะเอามาใช้ในตอนนี้ด้วย  งานนี้ คริสก็แค่ต้องใช้ความสามารถของตัวเองเล่าเรื่องราวผ่านคำพูดของตัวละครต่างๆ ออกมาให้ได้ ตามที่ Show Runner วางแผนไว้ และเลือกจังหวะว่า จะใส่เพลงเข้าไปช่วงไหน ยังไง

...
เราคงรอดูตอนนี้ อย่างใจจดใจจ่อ แต่คงจะไม่คาดหวังอะไรมาก และคิดว่า คริสเองก็คงจะกดดันน่าดู กับความคาดหวังจากหลายๆฝ่าย แถมยังวางตัวลำบากด้วยนะเนี่ย เราว่า แบบ...จะเขียนให้ตัวเองเด่นก็ไม่ได้ (และคงจะรวมถึง เรื่องของ Klaine ด้วย งานนี้ทำใจไว้ได้เลยค่ะ เหล่า Klainers )  
....

ท้ายนี้  ส่วนตัวเราแอบคิดว่า ป้าคงหมดมุขจริงๆแล้วละมั๊ง เลยไปขอให้คริสเขียนให้ ส่วนนึง ก็คงเพราะ เรทติ้งที่ร่วงลงไปทุกวัน ลองให้ดารามาเขียนดู อาจจะเรียกเรทติ้งขึ้นมามั่ง แล้วส่วนนึง ก็อาจจะแบบ... เป็นไงล่ะ เรียกร้องกันดีนักใช่ไหม แถมพวกแกยังชอบว่านักเขียนกันยังงั้นยัง งี้ ได้... เดี๋ยวป้าจัดให้  ให้คริสลองมาเขียนให้สมใจพวกหล่อนกันไปเลย ถ้าไม่ชอบ ก็ไปด่ากันเอาเองแล้วกัน