[Glee] Season 5, Episode 20_The Untitled Rachel Berry Project (Season Finale)

DL here

Eng Sub here

Songs:

5.20 “The Untitled RachelBerry Project” DL: Right-click » “Save Link As…”

1. Allof Me (Glee Cast Version)

2. American Boy (Glee Cast Version)

3. Girls on Film (Glee Cast Version feat. Beau Garrett)

4. Glitterin the Air (Glee Cast Version)

5. NoTime at All (Glee Cast Version feat. Shirley MacLaine)

6. Pompeii(Glee Cast Version)

7. Shakin’My Head (Glee Cast Version)

Credit to: //gsongsdl.tumblr.com/

ตอนสุดท้ายของซีซั่น กับ โปรเจคที่ยังไม่มีชื่อของนางสาวราเชล แบรี่

ตอนที่รู้ว่า นักเขียนของตอนนี้คืออีตา Hodgson อิชั้นก็ทำใจไว้ระดับนึงเลยค่ะแต่เอาเหอะ ยังไง ก็ยกเครดิตให้ป้าไรอัน เพราะ ยังดีที Story Line ของตอนนี้ วางไว้ดีพอสมควรถึงบทสนทนาของอีตา Hodgson จะแปลกๆ มันก็เลยพอไปได้

วันนี้ Theme เหมือนจะบอกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอแค่เรามี Trustทุกอย่างก็จะออกมาดี

Rachel Berry –เชื่อมั่นในตัวเอง

ตอนนี้ ยัยราเชลจะมีนักเขียนบทที่ผู้บริหารทีวีส่งมาทำความรู้จักเพื่อเขียนบทโทรทัศน์ที่มีที่มาจากชีวิตรอบตัวของนางสาวราเชล แต่ปรากฏว่ายัยนักเขียนคนนี้หลุดโลกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดจนมีแต่ Brittany เท่านั้นที่เข้าใจป้าแก แบบเหมือนมาจากดาวเดียวกัน เลยพูดภาษาเดียวกันไรแบบนั้น (Brittany ก็โผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเฉยเลย สมกับเป็น Glee จริงๆ) คือแบบไม่ค่อยเข้าใจมุกของป้าคนนี้เท่าไหร่ คิดได้อย่างเดียวเท่านั้นว่า การมีอยู่ของตัวละครยัยป้านักเขียนนี่เพื่อจะบอกให้คนดูรู้ว่า ที่ด่านักเขียนGlee กันมานักนี่แต่มีคนที่ห่วยกว่าป๋มอีกนะเฟ้ย

แต่ยังดีที่ ราเชลฟังคำของเพื่อนๆว่า ยัยป้านี้บ้าไปแล้ว เลยยืนยันกับยัยป้านี่ว่าถ้าชั้นไม่ได้เล่นบทละครที่เป็นตัวชั้น ก็อย่าเล่นมันเลยดีกว่า สรุปแล้วยัยราเชลเชื่อมั่นในจุดยืนของตัวเอง จนยัยป้านี้ยอมฟัง แก้บทให้เรื่องของราเชลเลยลงเอยอย่างแฮปปี้เอนดิ้งไปหนึ่ง

Samcedes – เชื่อในความรัก

Mercedes กำลังไปได้สวยขนาดวางแผนจะออกทัวร์คอนเสิร์ตตามห้างทั่วประเทศส่วนแซมก็ได้งานโฆษณาชิ้นใหญ่เข้ามา แต่ก็ได้มาชนิดที่แทบจะต้องเอาตัวเข้าแลกเอาตัวเข้าแลกๆจริงๆนะ เพราะยัยเจ๊ช่างภาพอยากจะกินแซมเป็นข้าวต้มรอบดึกให้ได้ จนแซมก็เกือบเผลอนอกใจเมอร์เซเดสเข้าให้(ก็อีตาคนเขียนบทมันเขียนอะไรอย่างอื่นไม่เป็นนอกจากมุขนอกใจอ่ะนิ)ยังดีที่แซมรอดมาได้ เพราะเชื่อมันในความรักระหว่างตัวเองกับเมอร์เซเดส แต่ถึงอย่างนั้นทั้งเมอร์เซเดสก็ยอมรับความจริงว่าความสัมพันธ์ที่จะต้องอดทนรอกันจนกว่าจะแต่งงานนี้ มันอาจไม่เวอร์คถ้าต่างตนต่างยังต้องไปตะกายดาวไล่หาความฝันตัวเอง ท่ามกลางสรรพสิ่งยั่วใจ ทั้งชะนี ทั้งลิงค่างในป่ามากมาย ทั้งคู่เลยจากกันด้วยดี 

(แต่สำหรับเรา เราว่าฉากที่เพื่อนๆ ต่างรุมเปิดคอร์สสัมมนายุให้คู่ Samcedesเลิกกันให้ได้นี่มันพิลึกไปหน่อยไหม มีเพื่อนจริงๆที่ไหนทำแบบนี้หว่า ถึงจะรู้ว่าเป็นความหวังดีก็เหอะแต่มันใช่เรื่องของพวกแกเปล่า ห๊า ไม่รุหละ งานนี้เราโทษตา Hodgson แหละทำอะไรประสาทๆแบบนี้ ต้องยกให้ตานี่แหละ)

เอาเหอะ ยังไง 2 คนนี้ก็จากกันแบบแฮปปี้เอนดิ้งเมอร์เซเดสก็ไปทัวร์อย่างสบายใจ แซมก็สมใจที่ได้เห็นภาพเกือบโป๊ของตัวเองอยู่ตามรถเมล์แล้ว แล้วกลับไปอยู่บ้านนอก ตามโครงการสำนึกรักบ้านเกิด เอ๊ยไม่ใช่ เพราะที่จริงรู้ตัวแล้วว่าตัวเองไม่เหมาะกับเมืองใหญ่ที่ทุกอย่างหมุนเร็วเกินไปสำหรับแซม แหมนึกถึงสำนวนของนักเขียนอาวุโสวิลาส มณีวัติของบ้านเราเลยนิ กรุงเทพ ช่วยหยุดก่อนผมจะลง! ของแซม ก็จะเป็น นิวยอร์ค ช่วยหยุดก่อน ผมจะลง 55

Klaine เชื่อในกันและกัน

เจ้าป้าจูนยืนยันอย่างชัดเจนว่า ยังไง ก็ไม่ให้เคิร์ทเข้าร่วมด้วยเบลนเลยเสียใจมาก ร้องเพลง All of Me แต่เอ๊ะ หรือจะเป็นแค่การซ้อมร้องเพลงที่จะเอาไว้ใช้ใน Showcase แต่ก็เลยทำให้นึกถึงเคิร์ทไปด้วยไรแบบนั้นรึเปล่าแต่เคิร์ทก็มาทันได้ดูเบลนร้องเพลงนี้ทันที แล้วก็อีกแล้วที่เคิร์ทรับรู้อารมณ์ของเบลนได้อย่างรวดเร็วว่ามีอะไรผิดปกติเปล่า (หรืออันนี้ อิชั้นคิดไปเองหว่า)

แต่สรุปแล้ว ตอนที่เคิร์ทรู้แล้วว่า เจ้าป้าจูนไม่ยอมให้เคิร์ทเข้าร่วม Showcase ของเบลนแล้ว เคิร์ทโกรธมาก ชนิดที่เราไม่เคยเห็นน้องผู้แสนจะผู้ดีของแจ๊ขว้างปาข้าวของแบบนี้มาก่อน(ส่วนตัวแอบคิดว่า เคิร์ทดราม่าเกินไปหน่อยมั๊ย หรือไม่น้องคริสก็แบบนี้อยากเล่นเอามันส์)

ที่จริง เราว่าAll of Me เป็น Solo ที่ดาร์เรนร้องได้ดีที่สุดในบรรดาSolo ทั้งหมดของเบลนเลยก็ว่าได้ ตอนฟังออดิโอนี่ชอบมากฟังซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ไม่มีเบื่อเลย แต่อย่างที่บอกข้างบนว่า เราว่า ฉากนี้มันคลุมเครือสำหรับเราเราเลยไม่ซึ้งกับมันเท่าที่ควรจะเป็น อดคิดไม่ได้ว่า นี่ถ้าให้เบลนมาร้องง้อเคิร์ท หลังจากที่โดนเคิร์ท โกรธ มันจะซึ้งกว่านี้มากเลยรึเปล่าหว่า

เออ แต่ตอนเคิร์ทกะเบลนยังโกรธกัน มีฉากน่ารักเล็กๆนะ (อันนี้น่าจะต้องยกให้เป็นความดีของผู้กำกับ หรือน้องคริสกะดาร์เรน คงไม่ใช่ตา Hodgsonหรอก)แอบดีใจมากเลยที่สังเกตทัน คือตอนที่ราเชลเรียกเพื่อนมาช่วยกันอ่านบทที่ยัยป้าเขียนเป็นดราฟท์แรกเบลนพยายามจะตามง้อไปนั่งข้างเคิร์ท แต่เคิร์ทชี้ โน่น แกอ่ะ ไปนั่งไกลๆโน่นเลยฮาดีอ่ะ)

แต่ยังไง Klaine ก็เข้าใจกันได้เสมอเคิร์ทตามมาหาเบลนที่กำลังโยนขนมปังให้นกพิราบ (แว่บแรกที่ใจเราคิด เฮ้ย ไม่รู้จัก H5N1 เหรอยะพ่อคุณ แล้วเคิร์ทก็คิดเหมือนเราเลยอ่ะที่บอกว่านั่นน่ะ เชื้อโรคทั้งนั้น)

แล้วเคิร์ทก็ยกอุปมาอุปมัยแปลกๆ เทียบความรักกับนกบิน (ก็ตา Hodgsonนี่น๊า)เราออกจะงง แต่เอาเหอะ สรุปแล้วก็ได้ใจความว่า แต่เคิร์ทก็เลือกที่จะเชื่อใจเบลนและความรักของเบลนในที่สุด

ชอบช็อตนี้มากเลยอ่ะ

แล้วก็ฮาฉากนี้

จากนั้น พอถึงวัน Showcase เบลนก็ตอบแทนความเชื่อมั่นที่เคิร์ทมีต่อความรักของเบลนด้วยการตลบหลังเจ้าป้าอย่างสะใจด้วยการ ดึงเคิร์ทมาโชว์ให้โลกรู้ซะเลยด้วยการร้องเพลงคู่American Boy เพราะเบลนก็ชื่อในความสามารถของเคิร์ท คนที่เป็นรักแท้และรักเดียวของเบลนด้วย

ก็ยังดีที่เจ้าป้าจูนกลับลำทัน และร่วมลงเรือ ช่วยจ้ำช่วยพายไปกับเบลนจนทุกอย่างจบลงด้วยดี

และแล้ว เบลนยังย้ายกลับมาอยู่กับเคิร์ทด้วย เย้! แถมเคิร์ทยังแต่งมุมโต๊ะทำงานแบบที่เบลนชอบด้วยและที่สำคัญ จากนี้ ม่านก็ไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไปแล้วจ้า ผ้าเผ้อ ไม่ต้องขึงแล้วก็ไม่มีคนอื่นเป็นก้างขวางคอในอพาร์ทเมนท์แล้วนี่เน้อ...

สรุปแล้ว อย่างน้อย Season นี้ ก็ถือว่ามีตอนจบที่ดีนะ ไม่มี Cliffhangerทุกอย่างลงตัวด้วยดีแบบชนิดที่หากใครสักคนจะหยุดดู Glee หลังจากนี้ ไม่ตาม Season 6 ต่อยังได้เลย(ได้ข่าวหลายคนก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน เพราะเหนื่อยเหลือเกินแล้วกับความผีเข้าผีออกของ Glee แล้วไม่รู้ว่าคนดูอย่างพวกเราจะโดนปั่นหัวอีท่าไหนอีก)

แต่ตัวเราก็ยังคงรอดูหละนะ ตราบใดที่ยังมี Chris กะ Darrenร่วมแสดงอยู่ เพราะ เราเองก็เชื่อมั่นในสองคนนี้เหมือนกัน และก็เชื่อมั่นแหละว่า ยังไงKurt กะ Blaine ก็ Endgameแน่ และเราก็จะได้ My Big Fat Gleek Wedding ฉบับคู่ Gay วัยรุ่นที่เริ่ดที่สุดในประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์ กับฉากแต่งงานอันยิ่งใหญ่อลังการของ Klaine มาเป็นของขวัญให้กับพวกเราเหล่า Klainers ที่อดทนเดินทางมากับ Glee จนถึงที่สุด ถึงจะต้องรอกับการ Hiatus ชนิดข้ามปีก็เหอะ....

แล้วเจอกันนะ Klaine..

.

.

.

.

ปล. 1. เรทติ้งของตอนนี้ออกมาแล้ว ตกต่ำยิ่งกว่า ตอนที่แล้วซะอีก แบบว่า Dropลงไปเหลือ0.6 โดยมี 1.9 millions viewership ก็ไม่แปลกใจอ่ะนะ (คือสารภาพว่าแอบโล่งใจด้วยว่ามันมีตอนที่ต่ำกว่าคริสเขียนอีก) เพราะเรื่องมันมีอยู่ว่า Nobody gives a damn about Glee anymore. คืองานนี้จะโทษคนเขียนของตอนนี้ก็ไม่ได้ตรงๆหรอก ก็ Glee มันห่วยสะสมมาตั้งแต่เริ่มซีซั่น3 แล้วก็ห่วยลงเหวแบบเริ่มกู่ไม่กลับมาตั้งแต่ซีซั่น 4 อ่ะนิ คนดูที่ไม่ใช่ Hardcore เลยไม่เหลือแล้วอ่า 

พวกเราคงได้ข่าวเมื่อต้นสัปดาห์กันแล้วว่า Kevin Reiley ผู้บริหารของ Foxบอกว่าGlee จะหยุดยาว 8 เดือน แล้วกลับมาใหม่ ปี2015 เลย แต่คราวนี้จะออกอากาศติดต่อกันได้รวด โดยไม่ต้องขยักขย่อนเหมือนปีที่ผ่านๆมาแล้ว (แต่ปัญหาคือถึงตอนนั้นจะมีคนดูเหลือซักเท่าไหร่เหรอ ) ผู้บริหารของฟอกซ์ เองก็ยังบอกว่าไม่มีใครคาดคิดว่า เรทติ้งจะลงเหวมาได้ถึงขนาดนี้เพราะฉะนั้นก็จะต้องมานั่งจับเข่าคุยกับป้าไรอัน ว่าจะเอาไงกับ Season 6 ถึงลุง Kevin จะบอกว่า ณ ตอนนี้ ก็ยังวางแผนว่าซีซั่นหน้า จะยังมี 22 ตอนก็เหอะ (แต่เรทติ้งดิ่งพสุธาขนาดนี้ หากประกาศว่าลดเหลือครึ่งนึง เป็น 13 ตอน เราก็ถือว่า เป็นวาสนาแล้วอ่า) แต่มีคนบอกว่าถ้าโดนลดตอนก็ดีเหมือนกัน เผื่อพวกนักเขียนจะตั้งใจเขียน Story Line และบทให้ออกมาดีกว่านี้เพราะเหลือเวลาน้อยแล้ว แต่เราก็ทำใจแล้วว่า ที่แน่ๆ Glee ก็จะยังเป็น RachelBerry Show เหมือนเดิมแน่ๆ)

ปล. 2 ทิ้งท้ายอีกทีกับ Gifs ฮาๆ ที่เราไปเจอมา เมื่อมีคนโฟโต้ชอบมันส์ๆ ด้วยการแทนที่ภาพถุงอาหารกลางวันที่เคิร์ทเอามาให้เบลน แล้วเคิร์ทก็โมโหจนปัดทิ้ง

เอามาจาก to: //utakpandesal.tumblr.com

Create Date : 15 พฤษภาคม 2557 Last Update : 15 พฤษภาคม 2557 2:00:04 น. Counter : 8504 Pageviews.		5 comments
Share Tweet