ตอนนี้ Glee ผีออก!!!

ชื่อตอนว่า Back-up Plan คงเพราะว่าด้วยเรื่องของทุกคนที่พยายามจะปูทางเพื่ออนาคตตัวเอง

คนแรกเลยคือ นางสาวราเชล แบรี่ ตอนนี้แม่คุณน่าตบตามเคยเอ่อ นะ ทั้งๆที่ได้ทุกอย่างตามที่ใจฝันแล้ว ได้เล่นบทนำในบรอดเวย์และประสบความสำเร็จด้วยทั้งๆที่เพิ่งเริ่มเป็นเรื่องแรกแต่แม่คุณก็ไม่วายหาเรื่องใส่ตัว เกิดอยากจับปลาสองมือ ที่ดันไปตอบรับคำชวนไปออดิชั่นบททางทีวี คือที่จริงก็ไม่แปลกสำหรับนักแสดงนะ ที่จะต้องพยายามเปิดหนทางให้กว้างเข้าไว้และก็ไม่แปลกที่นักแสดง จะเปลี่ยนเส้นทางอาชีพ ไปสู่สื่อที่มันกว้างกว่า แต่นี่นะ sheเพิ่งเล่นบทแฟนนี่มาได้ 3 อาทิตย์เท่านั้นเอง ถึงกับลงทุนโกหกว่าไม่สบายแล้วไปออดิชั่นที่LA แล้วเหรอยะ ใจคอนี่จะคิดถึงคนอื่นๆ มั่งมั๊ยว่าถ้าหล่อนเกิดเปลี่ยนใจเลิกเล่นบทแฟนนี่ไปอยู่ LA แทนมันจะสร้างความเสียหายให้ผู้สร้างที่ลงทุนหมดไปเป็นล้าน แล้วไหนจะลงทุนโปรโมทหล่อนอีกชนิดยังไม่ทันจะได้ถอนทุนคืน หล่อนก็จะชิ่งเหรอยะ

แต่อย่างน้อย ฉากนี้ ก็ฮาอ่ะ ตอนที่ราเชลไปถึงห้องออดิชั่นก็อ้าปากร้องเพลงเลย ร้องซะเพราะ แต่พอร้องจบ เขาบอกบทนี้ไม่ต้องร้องเพลงเพราะเป็นละคร sci-fi คือแบบเวลา Leaเล่นบทตลกๆแบบนี้ทีไร เราว่าเวอร์คดีออก

และพอตอนที่โปรดิวเซอร์ Funny Girlจับได้ว่าราเชลโกหก จนขู่จะฟ้องราเชลให้ไม่เหลืออนาคตถ้ายังไม่เลิกทำตัวแบบนี้ เดี้ยนสะใจมากเลยอ่ะ ถึงแม้ซานทาน่าจะช่วยแก้สถานการณ์ให้ไม่เลวร้ายจนเกินไปนักด้วยการมาเล่นแทน องก์แรกแทนไปก่อน (คนดูละครวันนั้น คงงงเนอะ Fannyองก์แรกกะองก์หลัง หน้าตากะเสียงคนละเรื่องเลย แถมถ้าเป็นเราอาจมีโมโหเพราะอยากดูนักแสดงขององก์แรกเล่นต่อให้จบ 55)

และแน่นอนว่าพอพูดถึงซานทาน่าแล้วต้องบอกว่า วันนี้ น้องรับบทอัศวินม้าขาวมากเลยอ่ะ เพราะนอกจากจะช่วยราเชลไว้แล้วยังช่วยเมอร์เซเดสให้อัดเสียงจนสำเร็จด้วย เวลาเมอร์เซเดส กะซานทาน่าร้องเพลงด้วยกันทีไรเราชอบทุกทีเลย เพราะเสียงสองคนนี้เข้ากันดีมาก

ขอบเมอร์เซเดสได้อีก ที่ยืนหยัดอยากทำเพื่อซานทาน่าด้วยการดึงซานทาน่ามาเป็นคู่หูร้องเพลงในอัลบั้ม ไม่ใช่แค่ให้เป็นนักร้องแบคอัพ ทั้งๆที่โปรดิวเซอร์ก็เตือนแล้วว่าหากคิดจะจับคู่ร้องดูเอทกับนักร้องโนเนม จะเป็นการเอาอนาคตมาเสี่ยงเปล่าๆ ใน Gleeเนี่ย ก็มีเมอร์เซเดสกะเคิร์ทนี่แหละ ที่ทำตัวคงเส้นคงวาเป็นเพื่อนที่ดีของทุกคน มาตลอด เป็นเพื่อนชนิด Friend for life แบบที่ต้องถนอมไว้จนกว่าจะตายกันไปข้างเลยทีเดียวนิ

ส่วนเคิร์ทก็พยายามจะไล่คว้าอนาคตของตัวเองเหมือนกัน เมื่อได้โอกาสที่จะแสดงต่อหน้าเจ้าป้าแห่งนิวยอร์ค จูน ดัลโลเวย์ ผู้มีอิทธิพลต่อวงการบันเทิงและแวดวงไฮโซ และเห็นแววนักแสดงว่าใครจะมีอนาคตไกล(ตามความคิดของป้า) ขนาดว่าสนับสนุนใคร คนนั้นก็ดังเปรี้ยงไม่มีพลาด แต่เพราะเคิร์ทก็คือเคิร์ทที่รักเบลน และมองว่า จะทำอะไร ก็จะก้าวไปด้วยกันไม่ทิ้งกัน เคิร์ทก็ลากเบลนไปแสดงร่วมต่อหน้าเจ้าป้าด้วย

แต่ตอนนี้สงสารเคิร์ทมากเลย อุตส่าลงทุนทำFlirt ใส่เจ้าป้า พยายามทำตาหวานแบบเบลนแต่ดันไม่เวอร์คอ่ะ

นึกถึงตอน Sexy ในซีซั่น 2 เลย ที่ตอนนั้นพยายามทำหน้าที่คิดว่าเซกซี่ร้องเพลง Animal คือเวลาเคิร์ทฝืนทำ หรือตั้งใจทำอะไรพวกนี้ไม่เคยเวอร์คเลยเนอะ แต่พออยู่เฉยๆ โดยไม่ใช้ความพยายามอะไรมากแค่เป็นตัวของตัวเอง กลับออกมาเซกซี่และมีเสน่ห์กว่าทุกทีซิน่า

และยัยเจ้าป้า ก็ดันเลือกเบลนแทนเคิร์ทซะงั้นคือ ตอนที่ยัยเจ้าป้าบอกว่า Not you ไม่ใช่เคิร์ท นี่ เราอยากจะเข้าไปกอดเคิร์ทให้แน่นๆเลย สงสารเคิร์ทอ่า จะรู้สึกยังไงนะที่ไม่ว่าจะยังไง เบลนก็มักจะเป็นคนที่ถูกเลือกแทนเคิร์ทเกือบทุกครั้งเลยตอนนั้นบทโทนี่ ในซีซั่น 3 ก็เหมือนกันอ่า แต่ตอนนี้ ก็สงสารเบลนเหมือนกันเพราะไม่ว่ายังไง เบลนก็อยากให้เคิร์ทเป็นคนที่ถูกเลือกด้วย

ตอนเบลนโกหกเคิร์ท ว่า เคิร์ทจะได้มีส่วนร่วมในการแสดงที่ป้าจะจัดขึ้นเพื่อเป็น showcase ผลักดันเบลน คิร์ทเลยดีใจเอามากๆ อิชั้นแทบจะจิกกัดหมอน ด้วยความสงสารไปเลย

โถ น้องเคิร์ทลูกแม่ แต่ก็เข้าใจเบลนนะที่ต้องโกหกคือแบบเจตนาดีอ่ะ แต่ที่จริง ถ้าลงทุนบอกความจริงไปเลยมันจะโหดร้ายน้อยกว่ารึเปล่า เคิร์ทจะได้ไม่ต้องมีความหวังเพื่อจะต้องพบกับความผิดหวังอ่า

ยังไง งานนี้ ก็ซึ้งน้ำใจน้องเคิร์ทลูกแม่ได้อีกจริงๆนะไม่ว่ายังไง น้องเคิร์ทลูกแม่ ก็ยังเป็นผู้ดีตามตำราสมบัติผู้ดีตัวจริง ใจกว้าง ไม่มีโกรธแม้แต่น้อย เคิร์ทก็ยอมรับว่า แอบอิจฉาอยู่บ้าง แต่ไม่โกรธเบลนเลย แถมยังช่วยดูแลแต่งตัวให้เบลนเอาใจช่วยเบลน แต่พอเบลนเดินออกไป สีหน้าเคิร์ทที่หันหน้ามา แล้วมองตามหลังเบลนไป.. แบบ ฮือ...... ใจสลายอ่า (น้องคริสสุดยอดจริงๆ ขออวยหน่อยเหอะ)

แต่เราก็เข้าใจเจ้าป้าจูนนะ ที่เลือกเบลนและบอกให้เบลนยกเลิกการหมั้นกับเคิร์ทหากอยากมีอนาคตในวงการบันเทิง คือป้าก็มองตามสายตาของป้าที่ผ่านโลกมานานมากกกกกก และป้าก็คงผ่านความรักมาเยอะ จนคิดไปว่าความรักในวัยรุ่นของเคิร์ทกับเบลนมันคงจิ๊บจ้อย ไม่มีความหมายอะไรเมื่อเทียบกับอนาคตอันยาวไกลข้างหน้า (ก็ป้าก็ไม่รู้จักเบลนกับเคิร์ทดีพออ่ะนิ) และที่ป้าเลือกเบลนแทนเคิร์ทเพราะป้าก็คงมองว่า นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงของฮอลลีวูดแล้วหละ ที่หนทางสำหรับคนที่ไม่เหมือนใครอย่างเคิร์ทจะแคบกว่า คนที่มีลักษณะต้องโฉลกตามมาตรฐานฮอลลีวู๊ดอย่างเบลนเสมอ และอย่างน้อยเราก็โล่งใจอ่ะที่ป้ายังไม่ถึงกับบอกให้เบลนปกปิดเพศสภาพที่แท้จริงของตัวเองด้วยอ่ะ แค่บอกว่าเป็นโสดแล้วขายง่ายกว่า อะไรแบบนั้น

และที่จริง ผู้ใหญ่ทุกคนในตอนนี้ที่มีอิทธิพล ต่ออนาคตของทั้งราเชล และเมอร์เซเดสก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นซิดนีย์ที่โรงละคร หรือโปรดิวเซอร์ของเมอร์เซเดส คือไม่มีใครเป็นตัวร้ายอ่ะ การกระทำของทุกคน ล้วนเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ นี่คือส่วนที่เราชอบมากๆเลยของตอนนี้ 

ไม่เหมือนกับซู ที่บ่อยครั้งก็เป็นตัวร้ายแบบไม่มีเหตุผลจนน่าเบื่อ พวกโปรดิวเซอร์และเจ้าป้าในตอนนี้ ต่างก็รับบทคนที่ทำให้เคิร์ทกับเพื่อนๆ ได้ รู้จักโลกแห่งความเป็นจริง ว่า นี่แหละโลกของการทำงานแบบผู้ใหญ่ เราก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆและไม่มีใครที่จะได้ทุกอย่างที่ต้องการโดยไม่เสียอะไรไป แต่ละธุรกิจ ก็จะมีบรรทัดฐานของตัวเองอยู่ หากใครทำไม่ได้ ไปไม่ถึง ก็จะไม่มีที่ยืนอ่ะ

แต่ยังไงก็สะใจนะ ตอนที่ราเชลโดนซิดนีย์ด่าแต่ดันมาขัดใจที่ตอนจบ ราเชลยังไม่ทันจะซึมซับผลการกระทำของตัวเอง ก็โชคเข้าข้างที่โปรดิวเซอร์ของฟอกซ์ดันให้โอกาสใหม่กะราเชลอีก แล้วเมื่อไหร่ ยัยคนนี้มันเจอกรรมสนองกะเค๊าจริงๆมั่งเนี่ย

แล้วทำไมเคิร์ทต้องเป็นคนที่เจอแต่เรื่องที่ทำให้เจ็บปวดตลอด ไม่โชคดีอย่างราเชลมั่ง ทำไมหนทางของเคิร์ทมันถึงต้องฝ่าฟันอย่างยากลำบากตลอดเลยล่ะฟะ  เฮ้อ...อยากจะตั้งชื่อตอนนี้ตามอำเภอใจว่า Story of Kurt’s Lives จัง

ก็นะ ก็เข้าใจแหละ คืออย่างน้อยเรื่องของเคิร์ทมันก็สะท้อนความเป็นจริงอ่ะแหละว่าโลกเรามันก็ยังไม่พัฒนาก้าวหน้า ไปอย่างที่ทุกคนคิดหรอกคนที่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ เก่าๆยังมีอีกเยอะที่อคติ บังตา จนมองไม่เห็นความพิเศษของเด็กอย่างเคิร์ทอ่ะ (ว่าแต่ ทำไมมีแต่เรื่องของเคิร์ทที่สะท้อนความเป็นจริง ทำไมของราเชลไม่เป็นอย่างงี้มั่ง - เดี๊ยนขอเหวี่ยงหน่อยเหอะ)

ยังดีนะ ที่อย่างน้อยก็ยังมีเบลนอยู่  ความรักของเคิร์ทกับเบลน เป็นส่วนที่ดีมากๆ ของตอนนี้เลย ชอบที่สองคนนี้ ไม่ว่ายังไง ก็เข้าใจกัน และสนับสนุนกันเสมอ (ป้าไรอัน ขอร้องละนะ อย่าได้มาพรากเคิร์ทกะเบลนไปอีกล่ะ สงสารเคิร์ทมั่งเหอะ) 

สักวันนะลูกนะ จะต้องมีหนทางที่เปิดกว้างให้เคิร์ทแน่ๆ แล้วซักวันเคิร์ทก็จะส่องแสง เป็นประกายได้เหมือนอย่างคริส โคลเฟอร์แน่นอน

เอาเหอะ ถึงจะมีให้ขัดใจบ้าง ยังไงสรุปแล้ว ตอนนี้เป็น ep. ที่ดีละนะ มีฉากดีๆหลายฉาก ทั้งฮา ทั้งสะใจ และซึ้งก็มี 

หลังจากผีเข้าจนเละเทะเมื่อสองตอนที่ผ่านมา อย่างน้อยตอนที่ 18 นี่ ก็เป็นตอนที่ผีออกแล้วละ

จากนี้ ก็รอดูตอนหน้า อย่างใจจดใจจ่อเพราะเป็นตอนที่น้องคริสเขียนบทเองแล้ว หวังว่า ผีคงไม่กลับมาเข้า glee อีกนะ