คาร์ลา จิลแบร์ตา บรูนี เตเดสคี (Carla Gilberta Bruni Tedeschi) มาดามฝรั่งเศส
"สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส"
"คาร์ลา บรูนี เมื่อเป็นนางแบบ"
คาร์ลา จิลแบร์ตา บรูนี เตเดสคี (Carla Gilberta Bruni Tedeschi) (23 ธันวาคม พ.ศ. 2510 - ) นักประพันธ์เพลง นักร้อง นางแบบชาวอิตาลี และเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนปัจจุบันของประเทศฝรั่งเศส
ประวัติ
คาร์ลา บรูนีเกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ที่เมืองโตริโน ประเทศอิตาลี เป็นทายาทของบริษัทอุตสาหกรรมยาง CEAT ซึ่งก่อตั้งโดยปู่ของเธอ วีร์จีนิโอ บรูนี เตเดสคี และถูกขายต่อโดยอัลแบร์โต พ่อเลี้ยงของเธอ ให้แก่บริษัทปิเรลลี่ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970
ครอบครัวของเธอย้ายไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2516 ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่า พวกเขาหลบหนีการลักพาตัวของกองทหารแดง (Brigate Rosse - กลุ่มก่อการร้ายสายมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์ในประเทศอิตาลีช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970)
คาร์ลา บรูนีได้เติบโตขึ้นในประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ และเข้าศึกษาที่โรงเรียนประจำ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และกลับมายังกรุงปารีสเพื่อเรียนศิลปะและสถาปัตยกรรม แต่ทว่าเมื่ออายุได้เพียง 19 ปีก็เลิกศึกษาต่อ และมาเป็นนางแบบอาชีพ
ครอบครัว
คาร์ลา บรูนีเป็นลูกสาวของนักเปียโนคลาสสิค มาริสา โบรีนีและนักประพันธ์เพลงคลาสสิค อัลแบร์โต บรูนี เตเดสคี เธอมีพี่สาวนามว่า วาเลเรีย บรูนี เตเดสคี (16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507) ซึ่งเป็นนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์
และมีพี่ชายนามว่า วีร์จีนิโอ บรูนี-เตเดสคี (พ.ศ. 2502 - 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2549) ในปี พ.ศ. 2550 ได้มีการเปิดเผยว่า พ่อที่แท้จริงของเธอคือ เมาริซิโอ เรมเมร์ต นักธุรกิจชาวอิตาลี ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศบราซิล
อาชีพ เดินแบบ บรูนีได้เซ็นสัญญากับซิตี้ โมเดลส์ เมื่ออายุเพียง 19 ปี หลังจากนั้นปอล มาร์ซีอาโน ประธานบริษัทเกสส์ (GUESS? Inc.) ได้เลือกให้เธอได้เดินแบบคู่กับเอสเตลล์ เลอเฟบูร์ นางแบบชื่อดัง เพื่อที่จะโฆษณากางเกงยีนส์ของเกสส์
หลังจากนั้นบรูนีก็ได้ทำงานกับเหล่าผู้ออกแบบ และบริษัทแฟชั่นอีกมากมายเช่น คริสเตียน ดีออร์, ปาโก ราบานเน, โซเนีย รีกีเอล, คริสเตียง ลาครัวซ์, คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์, จอห์น กาลิอาโน, อีฟส์ แซงต์-โลรองต์, ชาแนล, เวอร์ซาเช่ ฯลฯ
ในคริสต์ทศวรรษ 1990 บรูนีกลายเป็นนางแบบที่มีรายได้สูงที่สุด 20 อันดับ โดยรับเงินกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ทำอาชีพเดินแบบนั้น บรูนีได้คบหากับอีริค แคลปตัน มิค แจ็คเกอร์และโดนัลด์ ทรัมพ์
ดนตรี
ในปี พ.ศ. 2540 บรูนีได้ก้าวออกจากวงการแฟชั่น และได้ทุ่มเทเวลาของเธอให้กับดนตรี เธอได้ส่งเนื้อร้องไปให้ชูเลียง แกลร์ก ในปี พ.ศ. 2542 ซึ่งได้ลงในอัลบั้มซิ เชเตส์ เอลล์ (Si j'étais elle) ซึ่งมี 7 เพลงในปี พ.ศ. 2543
ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 เธอได้ออกอัลบั้มออกมาชุดแรกคือ แกลเกิง มา ดิต์ (Quelqu'un m'a dit) ซึ่งผลิตโดยคู่รักเก่าของเธอ หลุยส์ แบร์ตีญัค ซึ่งออกจำหน่ายในทวีปยุโรป และประสบความสำเร็จในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาฝรั่งเศส (Francophonie)
มีเพลงจากอัลบั้มของเธอ 3 เพลงได้ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Conversations with Other Women ของฮานส์ คาโนซา และเพลงเลอ ปลูส์ โบ ดู การ์ตีเย่ร์ (Le plus beau du quartier) ได้ใช้ในโฆษณาคริสต์มาส 2006 ของเอชแอนด์เอ็ม (H&M)
ปี พ.ศ. 2547 เธอได้เป็นนักร้องรับเชิญในการกลับมา ในอัลบั้มของหลุยส์ แบร์ตีญัค ในเพลงเลส์ โฟรเลิส (Les frôleuses) ซึ่งทั้งคู่ได้ร้องเป็นเพลงคู่
ในปี พ.ศ. 2549 บรูนีได้อัดเพลงโธส ลิตเติ้ล ธิงส์ (Those Little Things) เป็นภาษาอังกฤษ โดยแปลจากเพลงเซส์ เปอตีต์ เรียงส์ (Ces Petits Riens) ในอัลบั้มเมอซิเยอร์ แก็งส์บูร์ก รีวิซีเต็ด (Monsieur Gainsbourg Revisited) ของแซร์ช แก็งส์บูร์ก
บรูนียังได้ร่วมในพิธีเปิดโอลิมปิคฤดูหนาว 2006 ในการเดินพาเหรดโดยทำความเคารพแก่ธงชาติอิตาลี
อัลบั้มชุดที่สองของเธอคลอดออกมา ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2550 ชื่อว่า โน โพรมิสเซส (No Promises) โดยมีกลอนจากยีตส์, เอมิลี่ ดิคคินสัน, โดโรธี ปาร์คเกอร์, โอเดน, วอลเตอร์ เดอ ลา มาร์และคริสเตียน่า โรเซตติ
อัลบั้มที่สามของเธอจะวางจำหน่ายในฤดูร้อนปี พ.ศ. 2551
ความสัมพันธ์
เป็นที่กล่าวกันว่า คาร์ลา บรูนี เคยมีความสัมพันธ์กับหลุยส์ แบร์ตีญัค, มิค แจ็คเกอร์ (ภรรยาของแจ็คเกอร์สืบทราบความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการหย่า), อีริค แคลปตัน, โดนัลด์ ทรัมพ์, โลโอส การักซ์, ชาร์ลส์ แบร์แล็ง, แวงซองต์ เปอเรซ และอดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส โลรองต์ ฟาบิอูส์
เธอกล่าวว่าเธอเบื่อกับ "ชีวิตสมรส" และ "การรักชั่วชีวิต" แต่ความปรารถนาอย่างเร่าร้อน - สองถึงสามอาทิตย์
ครอบครัวอองโตวอง
เมื่อเธอได้อาศัยอยู่กับฌอง-ปอล อองโตวอง บรูนีได้ตกหลุมรักและมีความสัมพันธ์กับลูกชายของเขา ซึ่งเป็นนักปรัชญา ชื่อว่าราฟาเอล อองโตวอง (เพลงที่ 2 ราฟาเอล ในอัลบั้มแกลเกิง มา ดิต์ ของบรูนี มาจากชื่อของเขา) ซึ่งในขณะนั้นเขาได้แต่งงานกับนักเขียนชูสตีน เลวี ลูกสาวของนักปรัชญา แบร์นาร์ด-อองรี เลวี
ความสัมพันธ์ของทั้งสองได้จบลงหลังจากเลิกกัน ซึ่งได้แนวความคิดมาจากหนังสือขายดีติดอันดับ ของชูสตีน เลวี "เรียง เดอ กราฟ" (Rien de grave - ไม่มีอะไรซีเรียส) พิมพ์ในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งในหนังสือนั้นเลวีได้ระบายภาพแสบๆ ของ "พอลล่า" ซึ่งเป็นผู้หญิงที่แย่งสามีตัวเองในละครไป โดยเป็น "ตั๊กแตนตำข้าว" ด้วยรอยยิ้มที่โหดร้าย
บรูนีและราฟาเอล อองโตวอง มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนคือ โอเรเลียง (พ.ศ. 2544 - ) ตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ได้แยกทางกัน
นิโกลาส์ ซาร์โกซี
ปลายปี พ.ศ. 2550 ได้มีรายงานว่าคาร์ลา บรูนีกำลังมีความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส นิโกลาส์ ซาร์โกซี หลังจากที่ช่างภาพถ่ายภาพทั้งคู่กำลังเข้าชมดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ปารีส และพักผ่อนที่ลูซอร์ ประเทศอียิปต์และเปตรา ประเทศจอร์แดน ระหว่างเทศกาลคริสต์มาส
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์แก่นักข่าวและหนังสือพิมพ์ที่เอลิเซ่ ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551 นั้น ประธานาธิบดีซาร์โกซีได้ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง และพูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการแต่งงานของทั้งสอง
ซึ่งทั้งสองได้แต่งงานในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ที่พระราชวังเอลิเซ่ ในกรุงปารีส การแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งงานครั้งแรกของคาร์ลา บรูนี และเป็นครั้งที่ 3 ของซาร์โกซี
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จันทรวารศุภสวัสดิ์ ปรีดิ์มนัสวัฒนสิริค่ะ
Create Date : 17 กันยายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 4 ตุลาคม 2553 18:12:06 น. |
Counter : 1290 Pageviews. |
|
|
|