แฮร์ทา มึลเลอร์ .. ผู้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ปี 2009
แฮร์ทา มึลเลอร์
แฮร์ทา มึลเลอร์ (เยอรมัน: Herta Müller) (17 สิงหาคม ค.ศ. 1953 - ปัจจุบัน) แฮร์ทา มึลเลอร์เป็นนักเขียน กวี และนักเขียนบทความคนสำคัญชาวเยอรมัน เกิดที่ประเทศโรมาเนีย
แฮร์ทา มึลเลอร์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ในปี ค.ศ. 2009 งานเขียนที่มีชื่อเสียงของมึลเลอร์ เป็นงานเขียนที่เกี่ยวกับสภาวะอันทารุณของชีวิตในสาธารณรัฐประชาชนโรมาเนีย (Communist Romania) ภายใต้การปกครองอันกดขี่ของรัฐบาลของนิโคไล เชาเชสกู
เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เยอรมนีในภูมิภาคบานัท (Banat) ในยุโรปกลาง และ การทำร้ายชาวเยอรมันเชื้อสายโรมาเนียโดยกองทหารโซเวียตที่ยึดครองโรมาเนียของสตาลิน
ชีวิตและอาชีพ
มึลเลอร์เกิดที่ Niţchidorf (เยอรมัน: Nitzkydorf) ซึ่งเป็นเมืองที่พูดภาษาเยอรมัน ในภูมิภาคบานัททางตะวันตกของโรมาเนีย เป็นบุตรสาวของเกษตรกร ครอบครัวของมึลเลอร์เป็นชนกลุ่มน้อยชาวโรมาเนียเชื้อสายเยอรมัน
บิดารับราชการเป็น Waffen SS และมารดารอดชีวิตมาได้จากการถูกกักในค่ายกรรมกร ในยูเครน สหภาพโซเวียต อยู่เป็นเวลาห้าปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ปู่ของมึลเลอร์เคยเป็นพ่อค้าและเกษตรกรผู้มีฐานะดี
มึลเลอร์เรียนเยอรมันศึกษา และ วรรณกรรมโรมาเนียที่มหาวิทยาลัยตะวันตกแห่ง Timişoara
ในปี ค.ศ. 1976 มึลเลอร์ก็เริ่มทำงานเป็นนักแปล สำหรับโรงงานวิศวกรรม แต่ถูกปลดในปี ค.ศ. 1979 เพราะไม่ยอมร่วมมือกับ Securitate ซึ่งเป็นกองตำรวจลับของพรรคคอมมิวนิสต์โรมาเนีย หลังจากถูกปลดมึลเลอร์ก็ไปทำงานเป็นครูสอนเด็กอนุบาล และสอนภาษาเยอรมันเป็นการส่วนตัว
หนังสือเล่มแรกที่เขียนเป็นภาษาเยอรมัน ตีพิมพ์ในโรมาเนียในปี ค.ศ. 1982 เป็นฉบับที่ได้รับการตัดทอนโดยรัฐบาลเช่นเดียวกับ งานเขียนอื่นๆ ในคอมมิวนิสต์โรมาเนียขณะนั้น
การเซ็นเซอร์งานวรรณกรรมขณะนั้น ไม่รุนแรงเท่ากับการถูกเซ็นเซอร์เมื่ออยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่มึลเลอร์ก็เป็นสมาชิกของกลุ่มปฏิกิริยาบานัท (Aktionsgruppe Banat) ซึ่งเป็นกลุ่มนักเขียนผู้ใช้ภาษาเยอรมัน ผู้สนับสนุนเสรีภาพการพูดและการเขียนที่ถูกควบคุมภายใต้การควบคุมของรัฐบาลของเชาเชสกู
งานเขียนก็รวมทั้ง The Land of the Green Plums (ดินแดนลูกพลัมดิบ) ซึ่งมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับปัญหาที่นักเขียนต้องประสบ และความสัมพันธ์ของนักเขียนกับการเซ็นเซอร์งานของรัฐบาล
มึลเลอร์ย้ายจากโรมาเนียมายังเบอร์ลินตะวันตก พร้อมกับสามีริชาร์ด วากเนอร์ ผู้เป็นนักเขียนเช่นกันในปี ค.ศ. 1987 จากความกดดันของรัฐบาลโรมาเนีย ในช่วงสองสามปีต่อมามึลเลอร์ก็รับตำแหน่งเป็นผู้ปาฐกในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเยอรมนีและต่างประเทศ ในปัจจุบันมึลเลอร์พำนักอยู่ในเบอร์ลิน
มึลเลอร์ได้รับเข้าเป็นสมาชิกของสถาบันเยอรมัน สำหรับภาษาและการเขียน (Deutsche Akademie für Sprache und Dichtung) ในปี ค.ศ. 1995 และตำแหน่งอื่นๆ ที่ตามมา ในปี ค.ศ. 1997 มึลเลอร์ถอนตัวจากศูนย์องค์การนักเขียนนานาชาติ (International PEN) แห่งเยอรมนีในการประท้วง เมื่อองค์การรวมตัวกับสาขาที่เดิมเป็นสารธารณรัฐประชาชนเยอรมัน
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2008 มึลเลอร์ก็เขียนจดหมายวิพากษ์เปิดผนึกไปถึง Horia-Roman Patapievici ประธานสถาบันวัฒนธรรมโรมาเนีย (Romanian Cultural Institute) ในการประท้วงการสนับสนุนขององค์การ
ทั้งทางจริยธรรมและทางการเงินให้แก่อดีตสายลับ ในหมู่นักเขียน (informant) ขององค์การลับของรัฐบาลสองคนที่โรงเรียนโรมาเนีย-เยอรมันสำหรับฤดูร้อน
ในปี ค.ศ. 2009 นวนิยาย Atemschaukel (ทุกอย่างที่เป็นเจ้าของอยู่กับตัว) ได้รับการเสนอสำหรับรางวัลหนังสือเยอรมัน (Deutscher Buchpreis) และเป็นหนึ่งในหกเล่มที่เข้ารอบสุดท้าย
ในหนังสือเล่มนี้มึลเลอร์บรรยายการเดินทางของชายหนุ่ม ไปยังค่ายกักกันกูลาก (Gulag) ในสหภาพโซเวียตที่เป็นตัวอย่าง ของชะตาของประชากรชาวเยอรมัน ที่อยู่ในทรานสซิลเวเนียหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
งานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจ จากประสบการณ์ของกวีออสคาร์ พาสติออร์ (Oskar Pastior) ที่มึลเลอร์บันทึกเรื่องราวที่ออสคาร์เล่าให้ฟัง ผสมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมารดาของตนเอง
สถาบันสวีเดนมอบรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ให้แก่มึลเลอร์ ในปี ค.ศ. 2009 โดยบรรยายว่าเป็นนักเขียนผู้จาก "งานกวีนิพนธ์มากมายและงานเขียนร้อยแก้วอย่างเปิดใจ บรรยายภูมิทัศน์ของผู้ไร้ดินแดน"
ก่อนที่จะได้รับรางวัลมึลเลอร์ก็แทบจะไม่เป็นที่รู้จักกันเท่าใดนักนอกเยอรมนี และแม้แต่ในเยอรมนีเองก็เฉพาะในกลุ่มปัญญาชนและนักวิพากษ์วรรณกรรมเท่านั้น ซึ่งทำให้ถูกวิจารณ์ว่าคณะกรรมการผู้พิจารณามีทัศนคติที่ลำเอียงในการนิยมมอบรางวัลให้แก่ชายยุโรป (Eurocentric)
งานเขียน
Niederungen, เรื่องสั้น, ฉบับเซนเซอร์พิมพ์ในบูคาเรสต์ในปี ค.ศ. 1982. ฉบับเต็มพิมพ์ในเยอรมนีในปี ค.ศ. 1984. พิมพ์ในภาษาอังกฤษในชื่อ Nadirs ในปี ค.ศ. 1999 โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเนบราสกา
Drückender Tango (แทงโกแห่งความกดดัน), รวมเรื่อง, บูคาเรสต์, ค.ศ. 1984 Der Mensch ist ein großer Fasan auf der Welt, เบอร์ลิน ค.ศ. 1986. พิมพ์ในภาษาอังกฤษในชื่อ The Passport, Serpent's Tail, ค.ศ. 1989 ISBN 978-1-85242-139-7
Barfüßiger Februar (เท้าเปล่าในเดือนกุมภาพันธ์), เบอร์ลิน ค.ศ. 1987 The Absolute Wasteman นวนิยายขนาดสั้น, เบอร์ลิน ค.ศ. 1987 Reisende auf einem Bein, เบอร์ลิน ค.ศ. 1989. พิมพ์ในภาษาอังกฤษในชื่อ Traveling on One Leg (เดินทางด้วยขาเดียว), ค.ศ. 1992
Wie Wahrnehmung sich erfindet (ความเข้าใจค้นพบตัวเอง), พาเดอร์บอร์น ค.ศ. 1990 Der Teufel sitzt im Spiegel (ปีศาจนั่งอยู่ในกระจก), เบอร์ลิน ค.ศ. 1991 Der Fuchs war damals schon der Jäger (แม้ว่าในสมัยนั้น หมาจิ้งจอกก็ยังเป็นผู้ล่า), ค.ศ. 1992 Eine warme Kartoffel ist ein warmes Bett (หัวมันฝรั่งอุ่นในเตียงอุ่น), แฮมบวร์ก ค.ศ. 1992 Der Wächter nimmt seinen Kamm (ยามฉวยหวี), ค.ศ. 1993
Angekommen wie nicht da (มาถึงเหมือนไม่ได้มา), ค.ศ. 1994 Herztier, ค.ศ. 1994. พิมพ์ในภาษาอังกฤษในชื่อ The Land of Green Plums, ค.ศ. 1996 Hunger und Seide (ความหิวและไหม), บทความ ค.ศ. 1995 In der Falle (ในกับดัก), เกิททิงเกน ค.ศ. 1996 Heute wär ich mir lieber nicht begegnet, ค.ศ. 1997. พิมพ์ในภาษาอังกฤษในชื่อ The Appointment (นัดหมาย) ค.ศ. 2001 Der fremde Blick oder das Leben ist ein Furz in der Laterne ค.ศ. 1999 Im Haarknoten wohnt eine Dame, กวีนิพนธ์, ค.ศ. 2000 Heimat ist das, was gesprochen wird, ค.ศ. 2001
A good person is worth as much as a piece of bread (คนดีมีค่าพอกับขนมปังหนึ่งแผ่น), คำนำที่พิมพ์ในหนังสือที่เขียนโดยเคนท์ คลิค Children of Ceausescu ค.ศ. 2001 Der König verneigt sich und tötet (กษัตริย์ก้มพระเศียรแล้วสังหาร), บทความ, ค.ศ. 2003 Die blassen Herren mit den Mokkatassen (ชายผิวบางกับแก้วกาแฟเอ็กเพรซโซ), ค.ศ. 2005 Atemschaukel, ค.ศ. 2009. พิมพ์ในภาษาอังกฤษในชื่อ Everything I Possess I Carry With Me, ค.ศ. 2009.
บรรณาธิการ
ทีโอดอร์ เครเมอร์: Die Wahrheit ist, man hat mir nichts getan (ความจริงแล้วก็ไม่มีใครทำอะไรฉัน), ค.ศ. 1999 Die Handtasche (ไทย: กระเป๋าถือ), ค.ศ. 2001 Wenn die Katze ein Pferd wäre, könnte man durch die Bäume reiten (ไทย: ถ้าแมวเป็นม้า ก็จะขี่เข้าป่า), ค.ศ. 2001
รางวัล
1981 Adam-Müller-Guttenbrunn Sponsored Prize the Temeswar Literature Circle
1984 Aspekte Literature Prize 1985 Rauris Literature Prize 1985 Encouragement Prize of the Literature Award of Bremen 1987 Ricarda-Huch Prize of Darmstadt 1989 Marieluise-Fleißer Prize of Ingolstadt
1989 German Language Prize, together with Gerhardt Csejka, Helmuth Frauendorfer, Klaus Hensel, Johann Lippet, Werner Söllner, William Totok, Richard Wagner 1990 Roswitha Medal of Knowledge of Bad Gandersheim 1991 Kranichsteiner Literature Prize
1993 Critical Prize for Literature 1994 Kleist Prize 1995 Aristeion Prize 1995/96 City-writer of Frankfurt-Bergen-Enkheim 1997 Literature Prize of Graz
1998 Ida-Dehmel Literature Prize and the International IMPAC Dublin Literary Award for Herztier / The Land of Green Plums 2001 Cicero Speaker Prize 2002 Carl-Zuckmayer-Medaille of Rhineland-Palatinate 2003 Joseph-Breitbach Prize (together with Christoph Meckel and Harald Weinrich)
2004 Literature Prize of Konrad-Adenauer-Stiftung 2005 Berlin Literature Prize 2006 Würth Prize for European Literature und Walter-Hasenclever Literature Prize 2009 รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาทิตยวารสิริวิบูลย์ รัศมิสูรย์ส่องจำรูญจรัสเรืองนะคะ
Create Date : 09 มกราคม 2554 |
Last Update : 9 มกราคม 2554 11:42:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1173 Pageviews. |
|
|
|
|
|