พระภัททิยเถรศากยราชา พระเอตทัคคะผู้เลิศทางผู้เกิดในสกุลสูง
สิริสวัสดิ์จันทรวาร - กมลมานเจิดจรัส ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ค่ะ
พระภัททิยเถรศากยราชา หรือ พระภัททิยศากยะ เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล
พระภัททิยเถรศากยราชา เป็นพระประยูรญาติของพระพุทธเจ้า โดยทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งศากยราชวงศ์ ก่อนทรงสละราชสมบัติออกผนวชจนบรรลุเป็นพระอรหันต์
พระภัททิยเถรศากยราชา ออกผนวชโดยการชักชวนของเจ้าชายอนุรุทธ กุมารผู้ทรงเป็นพระสหาย พระองค์ออกผนวชพร้อมกับเจ้าราชกุมารอีก 5 พระองค์ และนายอุบาลีภูษามาลา ณ อนุปิยนิคม
เมื่อท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านมักอุทานเสมอว่า "สุขหนอ ๆ" พระพุทธเจ้ายกย่องท่านให้เป็นพระเอตทัคคะผู้เลิศทางผู้เกิดในสกุลสูง
พระราชประวัติ
พระภัททิยเถรศากยราชา เป็นพระประยูรญาติของพระพุทธเจ้า โดยท่านเป็นเจ้าชายนับเนื่องในพระบรมศากยราชวงศ์ ไม่ปรากฏว่าพระราชบิดาของพระองค์ทรงพระนามใด
แต่พระราชมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่าพระนางกาฬิโคธาราชเทวี พระองค์ได้เสวยราชสมบัติสืบต่อจากพระราชบิดาจวบจนเสด็จออกผนวช
พระภัททิยเถรศากยราชา มีพระราชศรัทธาเสด็จออกผนวชในพระพุทธศาสนาพร้อมกับเจ้าราชกุมารทั้ง 5 คือ เจ้าชายอนุรุทธะ, เจ้าชายอานันทะ, เจ้าชายภัคคุ, เจ้าชายกิมพิละ และเจ้าชายเทวทัตต์ และนายช่างกัลบกนามว่านายอุบาลีภูษามาลาอีก 1 ท่าน รวมเป็น 7
ณ อนุปิยอัมพวัน ในอนุปิยนิคม โดยการชักชวนของเจ้าชายอนุรุทธะ โดยในวันผนวชนั้น เจ้าชายทั้ง 6 ได้ตกลงกันให้นายอุบาลีผู้เป็นช่างภูษามาลาออกบวชก่อนตน
เพื่อจะได้ทำความเคารพเป็นการลดทิฐิและมานะแห่งความเป็นเชื้อสายกาษัตริย์ของตนลง โดยทั้งหมดได้อุปสมบทด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทาโดยตรงจากพระพุทธเจ้า
เมื่อผนวชแล้ว ได้ทรงตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ จนเมื่อบรรลุแล้วพระองค์มักเปล่งอุทานว่า "สุขหนอ ๆ" อยู่เสมอ ๆ จนพระสงฆ์เข้าใจผิดว่าท่านคำนึงเสียดายราชสมบัติที่ทรงสละมา พระสงฆ์เหล่านั้นจึงไปกราบบังคมทูลความนั้นแด่พระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าจึงเรียกท่านมาสอบถาม ท่านกราบบังคมทูลพระพุทะเจ้าว่าที่ท่านชอบอุทานเช่นนั้นเป็นเพราะความสุขคือความสบายและปลอดภัยอันเกิดจากการสละราชสมบัติ
เพราะเมื่อยังทรงครองราชสมบัตินั้น มีแต่ความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ต้องมีข้าราชบริพารและทหารรักษาพระองค์ล้อมรอบเพื่อถวายการอารักขา ทำให้เมื่อออกบวชแล้วจะอยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องมานั่งมัวระแวงภัย อาสัยบิณฑบาตเลี้ยงชีพ มีใจดุจมฤคา คือคนผู้ไม่มีภาระท่องเที่ยวไป
เมื่อกราบทูลเสร็จ พระพุทธองค์จึงทรงตรัสชมเชยพระภัททิยเถรศากยะ
และด้วยความที่ท่านเกิดในตระกูลแห่งกษัตริย์ ดำรงพระราชสถานะเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ผู้เป็นประธานแห่งแคว้นสักกะ แต่มีใจพระราชศรัทธาออกผนวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา บำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าจึงยกย่องท่านว่าเป็นผู้เลิศด้าน ผู้เกิดในตระกูลสูง
บั้นปลายพระชนม์ชีพ
ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาไม่ระบุว่าท่านดับขันธปรินิพพานเมื่อใดและที่ใด แต่ท่านคงดำรงขันธ์อยู่พอสมควรแก่กาลจึงปรินิพพาน
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จันทรวารสิริสวัสดิ์ มานมนัสสวัสดิ์สิริ ที่มาอ่านค่ะ
Create Date : 16 พฤศจิกายน 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2552 19:27:00 น. |
Counter : 1112 Pageviews. |
|
|
|