เหรียญแผ่นปั๊มรูปเหมือน พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม (1)
เหรียญแผ่นปั๊มรูปเหมือน พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม (1)
มุมพระเก่า อภิญญา
นบรรดาศิษย์ของท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แม่ทัพธรรมสายอีสาน ต้องนับว่า พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม (พระญาณวิศิษฐ์ สมิทธิวีราจารย์) เป็นศิษย์เอกที่ใกล้ชิด และเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจยิ่งกว่าใคร
จนได้รับการขนานนามว่า "พระอาจารย์สิงห์ใหญ่" ซึ่งท่านก็ใหญ่จริงๆ ในด้านกระแสจิตและอำนาจญาณสมาบัติ จนชาวอีสานเรียกท่านว่า "พระมาลัย"
ท่านมีนามเดิมว่า สิงห์ บุญโท เกิดตรงกับวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. 2432 ที่บ้านหนองขอน ต.หัวตะพาน อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี เป็นบุตรคนที่ 4 ของนายเพีย อินทวงศ์ (อ้วน) และนางหล้า
อายุ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านหนองขอน แล้วย้ายไปศึกษาความรู้วิชาภาษาไทยอยู่ในสำนักวัดสุทัศนาราม ตัวเมืองอุบลฯ พร้อมกันนี้ได้บรรพชาเป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุต ในสำนักของพระครูสมุห์โฉม เจ้าอาวาสในสมัยนั้น เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2449
อายุครบ 20 ปีได้อุปสมบท ณ พระอารามแห่งนี้ โดยมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสโส อ้วน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระศาสนดิลก (ชิต เสโนเสน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2452 ได้ฉายาว่า "ขันตยาคโม"
จากนั้นไปเรียนหนังสือไทยต่อใน ร.ร.สร่างโศรกเกษมศิลป์ สอบไล่ได้ชั้นมัธยมปีที่ 3 ปี พ.ศ.2454 เข้าสอบไล่ได้วิชาบาลีไวยากรณ์ในสนามวัดสุทัศน์ ปี พ.ศ.2455 สอบได้นักธรรมตรี ปี พ.ศ.2458 ได้รับแต่งตั้งจากกระทรวงธรรมการ (ศึกษาธิการ) เป็นครูมูลและครูมัธยมประจำอยู่ที่ร.ร.สร่างโศรกฯ
ในช่วงที่เป็นครูนั้นท่านได้ค้นพบหนังสือธรรมเทศนาเอง เทวสูตร ซึ่งมีใจความว่า พระบรมศาสดาทรงตำหนิการบรรพชาอุปสมบท ที่มีความบกพร่องคือ การบวชแล้วไม่มีการประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยมีมาก ตกนรกไม่พ้นอบายภูมิทั้ง 4
เป็นเหตุให้ท่านเกิดความสลดสังเวชสำนึกในตน จึงลาออกจากตำแหน่งครูผู้สอน และมุ่งหน้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458
ในปีเดียวกันนี้ ท่านอาจารย์มั่นได้เดินทางกลับจากเขาสาริกา จ.นครนายก มาจำพรรษาที่วัดบูรพา จ.อุบลฯ มีกิตติศัพท์เลื่องลือกันไปทั่วว่า ท่านบรรลุมรรคผล สำเร็จธรรมมาจากเขาสาริกาใหม่ ท่านอาจารย์สิงห์จึงเข้าพบและสมัครเป็นศิษย์
ติดตามท่านอาจารย์มั่นเดินธุดงค์ปฏิบัติกรรมฐาน บำเพ็ญเพียรตามสถานที่ต่างๆ ทั้งป่าช้า ถ้ำเขา จนเกิดความชำนาญ รู้จักบังคับจิตตนเอง รู้วาระจิตของตนและผู้อื่น เกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริง จนเป็นที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่สั่งสอนอบรมพระเณรแทน ในบางโอกาสพร้อมกับการยกย่องต่อหน้าศิษย์ทั้งหลายอยู่เสมอ
ต่อมาท่านได้ออกเผยแผ่พระศาสนา เดินธุดงค์ไปตามป่าเขา อาศัยถ้ำบ้าง ป่าช้าบ้าง ตอนเช้าเข้าบิณฑบาตจากหมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านไปฟังเทศน์ฟังธรรมท่านก็อบรมสั่งสอนให้เกิดศรัทธา พร้อมกับสอนให้นั่งภาวนาทำสมาธิไปเรื่อยๆ ทำให้มีคนศรัทธายึดมั่นในความดีมากมาย
ทั้งนี้ ท่านจะพักธุดงค์หมู่บ้านละ 5 วันบ้าง 7 วันบ้าง ตามแต่ชาวบ้านนิมนต์อยู่ ตลอดเวลามีพระเณรลูกศิษย์ออกธุดงค์ตามเสมอ เช่น หลวงปู่ฝั้น, พระอาจารย์มหาปิ่น, หลวงปู่กงมา, หลวงปู่อ่อน, หลวงปู่ขาว หลวงพ่อลี วัดอโศการาม เป็นต้น
หน้า 31
ขอขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์ มุมพระเก่า คุณอภิญญา
ภุมวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 26 กรกฎาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2554 14:22:59 น. |
Counter : 6438 Pageviews. |
|
|
|