All life is an experiments the more experiments you make, the better....
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
1 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
8th trip- Delhi - 1st half

2/11/07

ระหว่างนั่งรถไฟกลับไปที่เดลี ก็ได้แต่สงสารน้าๆ ที่อุตส่าห์มาตั้งไกล แต่มีเรื่องให้ติดขัดได้ตลอดทริป แต่ทำไงได้นี่แหละอินเดีย “สิ่งที่ไม่คาดคิดคือสิ่งที่คาดคิด- An unexpectedness is expected” แถมว่าส่วนใหญ่ยังต้องหมดไปกับการเดินทางอีก ก็นี่แหละนะอินเดีย กว้างยิ่งกว่าอะไร


3/11/07

เริ่มต้นของวันด้วยการหารถเช่าเพื่อนเที่ยวในตัวเมืองเดลี เช้านี้เรามียาที่นั่งรถไฟมาจากบังกาลอร์มาร่วมขบวนอีกคน จริงๆ ดากับยามีแผนร่วมกันอีกหนึ่งแผน ที่น้าๆ และที่บ้านยังไม่รู้ เอาเป็นว่าเป็นแผนที่จะเฉลยในตอนหน้า และเป็นแผนที่ทำให้ที่บ้านอึ้งไปเลยแล้วกัน

ความจริงถ้ามากันแค่สองคน คงไม่พ้นนั่งรถเมล์หรือเรียกรถออโต้ ไปเรื่อยๆ ตามแผนที่ ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดกว่า ที่ต้องใช้ความลุยพอสมควร แต่เนื่องด้วยน้าๆ ก็อายุอานามพอสมควร และหลังจากดาพาแกไปสมบุกสมบันมาหลายวัน การเช่ารถคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ขอแนะนำว่าให้หารถเช่าตั้งแต่ตอนเย็น เพราะกว่าร้านเช่ารถจะเปิดก็ 9-10 โมง ซึ่งจะทำให้เสียเวลาเที่ยวไปอีกโข

ค่าเช่ารถประมาณ 1000-1200 รูปี ขึ้นอยู่กับร้านเช่า ดาไปเช่าได้ในราคา 1100 รูปี เป็นรถรุ่น Enova อย่างดีคับ แต่ไม่ใช้แอร์ เพราะถ้าใช้แอร์ก็จะชาร์จเพิ่มไปอีก

ที่แรกที่เราไปคือ Red Fort เป็นป้อมปราการของเมืองนี้ มีศิลปะแบบราชวงศ์มุฆัลเหมือนกับที่ Agra มีการตรวจค้นตรงทางเข้าด้วยคับ คาดว่าคงกลัวโดนบึมนั่นแหละ แต่ที่ติดใจน้าๆ มากคงเป็นเครื่องรางแบบแขกเค้าหล่ะ ก็ไอ้เจ้ามะนาวกับพริกนี่แหละ ถ้าหน้าเทศกาลจะเพิ่มใบมะม่วงเข้าไปด้วยนะคับ









ที่นี่มีร้านค้าให้ซื้อเยอะมาก เล่นตั้งกันตรงทางเข้านั่นแหละคับ เห็นตอนแรกนึกว่าป้อมนี้มีไว้ขายสินค้าอย่างเดียวสะอีก ราคาก็ถือว่ายุติธรรมใช้ได้ เอาเป็นว่าร้านพวกนี้ดึงเวลาไปจากน้าๆ ได้เป็นชั่วโมงแล้วกันคับ

ความจริงถ้าเดินทะลุร้านค้าเข้าไป ด้านในป้อมมีสิ่งก่อสร้าง มีพิพิธภัณฑ์ให้เดินชมจนเหนื่อยเลยคับ แถมยังมีเด็กๆ ที่มาทัศนศึกษามาเพิ่มชีวิตชีวาของป้อมนี้อีกด้วย















ด้วยความกว้างและเสียสละเวลาไปซื้อของ ทำให้เราผิดนัดกับคนขับไปเป็นชั่วโมง สิ่งที่เราได้รับกลับก็คืออาการงอนของพี่คนขับ แล้วแกก็ไม่พาเราไป Jama Musjid สะอย่างนั้น ทั้งๆ ที่มันก็ตั้งเยื้องๆ กันนั่นแหละคับ

หลังจากนั้นแกก็พาเราไป Raj Ghat ที่ฝังศพของท่านมหาตมะคานธี ผู้เรียกร้องเอกราชจากอังกฤษให้อินเดีย แต่ท่านก็มาถูกยิงตายที่สวนนี้ตอนกำลังมาสวดมนต์ ท่านถูกยิงโดยชาวฮินดูที่ไม่พอใจการแยกปากีสถานออกจากอินเดีย แล้วหลังจากนั้นตระกูลนี้ใครเข้ามาเล่นการเมืองก็ถูกลอบฆ่าตลอด





ถูกใจที่สุดของที่นี่คือ ที่ฝากรองเท้า เพราะมีสองด้าน ด้านนึงมีคนเฝ้า เสียค่าฝากคู่ละรูปี ส่วนด้านตรงกันข้ามไม่มีคนเฝ้าและเขียนป้ายติดไว้ว่า มันขึ้นอยู่กับชะตากรรมของคุณ




Create Date : 01 มีนาคม 2551
Last Update : 1 มีนาคม 2551 16:41:40 น. 4 comments
Counter : 787 Pageviews.

 
เครื่องลางเค้าถ้ามีน้ำปลาอีกอย่างคงจะอร่อยละเนอะ อิอิ


โดย: fordear วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:20:02:22 น.  

 
ชอบที่ฝากรองเท้าครับ โดยเฉพาะด้านไม่มีคนเฝ้า ผมว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตาหรอก แต่ขึ้นอยู่กับความใหม่และยี่ห้อมากกว่า 555 (ถ้าเน่าแล้วยังหายก็คงจะโชคชะตาแล้วละครับ)


โดย: nongmalakor วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:22:18:52 น.  

 
ทำไมภาพตูมันอุบาตจังอ่ะ แต่ได้อารมณ์ว่ะชอบ


โดย: PriYa วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:21:45:56 น.  

 
fordear – น้ำปลาแพงง่ะตะเอง ขวดละ 90

nongmalakor - จริงแหะ แต่แหมประชากรอินเดียเค้าเยอะค่ะ demand เยอะกว่า supply เพราะงั้นไม่ว่าสภาพไหนก็มีสิทธิ์หายเหมือนกันหมด

priya- It’s not because of the picture but person


โดย: veeda วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:16:12:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

veeda
Location :
ประจวบคีรีขันธ์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add veeda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.