ตอนที่ 12 Promises /PPP แปล Zigzag พิสูจน์อักษร
POTW : OfInk And Song 2-12 Promises 13th Soseo1789 ในวันถัดมาการตั้งคำถามอย่างละเอียดเป็นไปด้วยความเข้มข้นยุนบกเพิ่มเติมรายละเอียดมากขึ้นกว่าวันก่อนให้กับเถ้าแก่เบและซุกควอนความเหลือเชื่อและความพิศวงทำให้พวกเขาตั้งคำถามกับยุนบกอย่างถี่ยิบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมยองฮีหรืออากิโน่ก็ถูกเปิดเผยจนหมดสิ้นคงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายจะสามารถปรับตัวไปเป็นผู้หญิงได้วิธีที่นำมาใช้ช่างแยบยลซุกควอนไม่สามารถช่วยเหลือได้แต่ก็ยอมรับกับความงดงามของรูปโฉมด้วยข้อมูลที่ถูกเปิดโปง ต่อไปเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นและนางโลมจะอยู่ภายใต้การจับจ้องอย่างเข้มงวดมากขึ้นถ้าหากมีใครจัดอยู่ในประเภทเดียวกับอากิโน่ พวกเขาก็จะถูกค้นพบเมื่อยุนบกเอ่ยปากบอกความต้องการรับตัวลูกสาวของอากิโน่ เถ้าแก่เบก็เห็นใจ ข้าขอบใจความประสงค์ของเจ้าที่จะทำตามสัญญาแต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการที่จะปลดปล่อยเด็กหญิงหากแม่ของนางเป็นนางโลมนะเถ้าแก่เบออกจะแปลกใจที่ชายหนุ่มต้องการจะรับเด็กมาเป็นห่วงผูกคอตัวเอง มันต้องมีวิธีอื่นมากไปกว่าการจ่ายเงินอย่างแน่นอนงั้นหรือครับ? ยุนบกส่งสายตาขอร้องไปยังชายทั้งสอง มันก็พอจะมีหนทางอยู่นะ เจ้าแน่ใจนะว่าอยากจะได้อย่างนั้นจริงๆ? ซุกควอนเลิกคิ้วไปทางยุนบก ใช่ค่ะอาจารย์ซุกควอน นั่นน่ะคือสิ่งที่เราต้องการค่ะ ชองฮยางพูดย้ำ ทำให้ซุกควอนพยักหน้า ยอมรับการตัดสินใจของพวกเขา เรื่องของฮักซัน.... เขาเริ่มเรื่อง จะเผาเขาเมื่อไหร่ครับ ยุนบกพูดขัดขึ้น สิ่งที่เขาตั้งใจเอาไว้ตอนนี้มันไม่สำคัญอีกแล้วครับ ทั้งเขาและมยองฮีจะถูกเผาในวันพรุ่งนี้เถ้าแก่เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในงานเผาศพทั้งหมด โอ้ว...ใช่แล้ว ร่างของสาวใช้บองอึน นางถูกเผาไปเรียบร้อยแล้ว แล้วเรื่องที่แต่งขึ้นเกี่ยวกับการจากไปของมยองฮีคืออะไรคะ ชองฮยางอยากรู้วิธีที่ซุกควอนจัดการเรื่องราวที่หอนางโลม อืม มันก็ยุ่งยากเล็กน้อยเราบอกไปว่านัมฮงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของมยองฮีกับสาวใช้ ซุกควอนใช้การจับกุมปกปิดเรื่องราวได้สมบูรณ์แบบส่วนเรื่องอื่นๆก็เป็นไปตามจริงแต่ทุกสิ่งทุกอย่างในที่นี้จะต้องถูกจัดระเบียบซะใหม่ ข้าคิดว่าพวกเขาคงจะไม่ได้ใช้วิธีการสับเปลี่ยนแบบเดิมๆหรอกนะในเมื่อรู้แล้วว่าเราค้นพบความลับนี่แล้ว แล้วทรัพย์สินส่วนตัวของอากิโน่ล่ะครับ? ยุนบกถามขึ้นเพราะไม่คิดว่าอากิโน่จะทิ้งสิ่งสำคัญไว้เบื้องหลัง อืมข้าคิดว่าเขาคงเตรียมการทุกอย่างไว้ก่อนแล้ว เราเลยไม่มีพบอะไรเลยในห้องของเขาน่ะ ซุกควอนเกลียดนักเมื่อรู้ว่าศัตรูนำหน้าเขาหนึ่งก้าวสิ่งที่เหลือทิ้งไว้คือชัยชนะที่ค่อนข้างอ่อนไหว สิ่งที่เหลืออยู่เราจะมอบให้กับลูกสาวของเขาเช่นเดียวกับฮักซัน ข้าจะเข้าไปดูของเขาในภายหลังข้าจะดูว่า...เขาเหลืออะไรไว้บ้าง สำหรับพาโด ซุกควอนอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้ เขามั่นใจว่าชายคนนั้นจะฝากบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ให้กับลูกชาย ใช้เวลาสองวันไปแดโซยุนบกมองกลับไปที่ซุกควอน คำถามที่ไม่มีเสียงได้แต่เก็บไว้ในใจ เจ้าก็รู้นี่ว่าทั้งเจ้าและข้าจะต้องเดินทางไปแดโซเป็นที่แรก เขายืนยัน ไปกันแค่สองคนหรือครับ? เขาควรจะถามว่าชองฮยางจะได้ไปด้วยหรือเปล่า? ยุนบกมองไปที่ชองฮยางนางอยากจะไปมั้ยนะ? ข้าคิดว่า...ข้าควรจะไปด้วยค่ะ นางพูดจ้องกลับไปที่ยุนบก เขาพยักหน้ารับการตกลงกันภายใต้ความเงียบเป็นการสื่อสารโดยไม่ต้องใช้เสียงหันกลับไปที่ซุกควอนก็ยักไหล่ให้ ซึ่งมันก็น่าจะดีสำหรับเขาแล้ว เมื่อไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านี้ก็เท่ากับว่าภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้วซุกควอนได้จัดการนำของใช้ส่วนตัวของชองฮยางกลับมายังบ้านพักเถ้าแก่เบ พอๆกับที่ยุนบกและชองฮยางไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งแสดงละครอีกต่อไปทำให้เหล่าบรรดาสมาชิกภายในบ้านพักของเถ้าแก่เบนึกคลางแคลงใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวใช้ชุงซอก จนกระทั่งเถ้าแก่เบรู้จึงทำความเข้าใจว่านางโลมที่เขาอุปถัมภ์อยู่นั้นได้ถูกยกให้เป็นของขวัญให้แก่ยุนบกเพื่อเป็นการตอบแทนมิตรภาพให้กับเพื่อน ไม่ว่าจะมีใครเชื่อหรือไม่ก็ตามก็ไม่ได้สลักสำคัญต่อคนทั้งสองอยู่แล้ว เมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทั้งสองเดินทางเข้าไปในตัวเมืองสำหรับช่วงเวลาที่ดีกว่าช่วงอื่นๆของวัน พวกเขาเดินชมตลาดซะจนทั่วเมื่อมีชองฮยางมาด้วยให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมยุนบกคิดว่าเป็นเพราะอยู่กับชองฮยางทำให้เขาผ่อยคลายอย่างแท้จริงในตอนนี้ไม่รีบไม่ร้อน ไม่ต้องมีคนคอยคุ้มกัน หรือกังวลว่าคำพูดของเขาจะทำให้เกิดความข้าใจผิดและนางกำลังให้ความสนใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า นั่นเจ้าถืออะไรอยู่หรือ? ยุนบกพยายามเพ่งดูถุงเล็กๆที่นางถือไว้ในมือในขณะที่ทั้งสองเดินกลับบ้านพักเถ้าแก่ในช่วงเย็น เอาไว้ก่อนค่ะ นางตอบเอาของที่ถือไว้ซ่อนด้านหลังเพื่อเลี่ยงการซักถาม ยังดูตอนนี้ไม่ได้ค่ะ อ่า....ต้องเป็นของเขาแน่นอนเขาสังเกตว่านางทำตัวลับๆล่อๆตอนที่เขาเดินไปดูของที่ร้านเครื่องประดับและทั้งคู่ก็มีความคิดเหมือนๆกัน เขาตบถุงเล็กๆที่อยู่ในเสื้อคลุมเบาๆความรักที่แสดงต่อกันอย่างเปิดเผยมันช่างชัดเจนแม้ว่าจะมีชุงซอกเดินตามหลังจนยากที่จะเชื่อว่าพวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำไมที่ผ่านมาพวกเขาจึงได้เสแสร้ง? ต้องมาจากที่พวกเขาถูกบังคับให้แยกจากกันเพราะว่านายหญิงของนางถูกซื้อเพื่อที่จะมาเป็นภรรยาน้อยของเถ้าแก่เบนี่นาและในตอนนี้ก็เป็นความกรุณาของเขาที่จะให้ทั้งสองครองคู่กัน ความอ่อนไหวทำให้นางฟุ้งซ่านหลังจากนี้ คงจะไม่มีเรื่องเหลวไหลอย่างที่นักเล่านิทานเอ่ยถึงแล้วงั้นสิ?ความคิดของหญิงสาวผุดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวมาก่อนซึ่งนางก็คงจะไปเล่าให้เพื่อนๆฟังในภายหลังว่าพวกเขากลับเข้าห้องทันทีที่ถึงคฤหาสน์ เหลืออีกเพียงไม่กี่วันอาจารย์ทันวอนก็จะเดินทางมาถึงปูซานแล้ว ยุนบกเขย่าตราประทับให้ออกจากถุงเล็กๆเขาตรวจสอบภาพที่วาดเสร็จแล้วก่อนที่จะประทับตราลงไปและหวังว่าอาจารย์ทันวอนจะชอบของขวัญที่เขาเตรียมไว้ แม้ว่าครั้งหนึ่งมันจะเป็นความโชคร้ายเมื่อทันวอนได้เจอกับมันเสียงชองฮยางเรียกดังอยู่ด้านนอกเขาตะลึงจนขยับตัวไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเมื่อเห็นว่าข้างกายของนางเป็นใคร นางจูงเด็กหญิงตัวน้อยมานั่งอยู่ตรงหน้าเขาอย่างอ่อนน้อมเขารู้ว่าเด็กหญิงจำเขาได้ ท่านลุง เด็กน้อยพูด นั่นนางผ่านการร้องไห้มาหรือ? ตาของนางดูแดงๆ พ็อกก๊อตเจ้าจำข้าได้มั้ย? เขายิ้ม แล้วนางก็พยักหน้า เมื่อไหร่ที่เจ้าได้.... เขามองไปที่ชองฮยาง เพิ่งเมื่อกี้นี้เองค่ะ นางลูบศีรษะเด็กน้อยเบาๆอาจารย์ซุกควอนพานางมาให้กับข้าพร้อมกับของใช้ส่วนตัวค่ะ เขาฝากบอกท่านว่าถือไพ่อยู่เหนือกว่าเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นค่ะ จบประโยคนางก็ยิ้มขณะที่เขาหัวเราะเบาๆ และนี่อีกค่ะ นางวางจดหมายฉบับหนึ่งไว้บนโต๊ะ เขาพบว่ามันซ่อนอยู่กับทรัพย์สินส่วนตัวของฮักซันค่ะ จดหมายจ่าหน้าถึงเขามีของบางอย่างอยู่ในซองจดหมาย เมื่อเทออกมาให้อยู่ในมือก็พบว่าเป็นจี้ที่ดูคุ้นตาเขาอ่านจดหมายเงียบๆ ถ้าท่านได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ข้าคงจะตายไปแล้วขณะที่ข้ายังกลัว ข้าไม่โทษท่านหรอกหากท่านคิดว่าข้าทรยศ แต่ข้าสามารถอธิบายได้คืนหนึ่งบองอึนเข้ามาตีสนิทและเสนอเงินให้ข้า สองร้อยเนียงนางสามารถรู้ตัวตนของข้าได้จากรอยประทับที่อยู่บนปลอกดาบของข้า อย่างไรก็ตามข้าไม่ได้บอกข้อมูลรายละเอียดในภารกิจของท่านข้ารู้ว่านางเชื่อไม่ได้ในทางกลับกันนางเองก็เช่นกันข้าทำไปตามที่นางสั่งเพื่อที่จะรู้ว่านางตั้งใจทำอะไรกันแน่และแล้วเป้าหมายของนางคือการกำจัดมยองฮี อย่างที่รู้กันว่าเป็นนางโลมที่ให้ความสนใจต่อท่านข้าคิดแล้วว่าท่านจะต้องถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นข้าจึงตกลงนางไม่ได้บอกแผนการใดๆกับข้าบอกแต่เพียงให้ข้าเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวได้ทันทีเมื่อนางส่งสัญญาณมาข้าหวังแต่เพียงว่าจะสามารถปกป้องอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับท่านและภรรยา ตั้งแต่ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถเติมเต็มความฝันของลูกชายข้าได้ข้าศรัทธาต่อความการุณย์ของท่าน ข้าได้เห็นแล้วว่าท่านกับภรรยา รักและดูแลเขาได้ดีเพียงใดข้าจึงสามารถจากไปได้อย่างหมดห่วง ความจริงเกี่ยวกับตัวข้า ขออย่าได้เอ่ยถึงจนกว่าเมื่อเขาโตพอปิดผนึกจดหมายฉบับนี้ แล้วมอบให้เขาเมื่อถึงเวลานั้น ข้าภาวนาว่าเขาจะตัดสินในตัวข้าด้วยความอาทรผู้ที่เป็นพ่อของเขาเอง ข้าขอบคุณและขออวยพรแก่ท่านและภรรยา เขาส่งจดหมายให้นางโดยไม่เอ่ยคำใดได้แต่ลูบจี้ คิดว่าชายคนนี้ยังคงยึดมั่นในคำสาบานไม่เสื่อมคลาย ช่างน่าสงสารนักเขาควรจะมีโอกาสทำความรู้จักฮักซันได้มากกว่านี้ ตอนนั้นเขาพยายามจะปกป้องข้า เมื่อวางจดหมายลงประกายน้ำตาอยู่ในดวงตาของชองฮยาง ยุนบกเพียงถอนหายใจและยื่นจี้ออกไป ไม่ค่ะ นางส่ายหน้า ท่านควรจะเป็นคนมอบให้กับพาโดนะคะ มันสำคัญตรงไหน? ยังไงเราก็ไม่สามารถบอกอะไรได้จนกว่าเขาจะอายุสิบหก เขาผลักจี้ไปให้ทำให้นางต้องยอมรับอย่างไม่เต็มใจไปโดยปริยาย อย่าได้ร้องไห้ตอนมอบให้เขาล่ะ มีอีกเสียงถอนหายใจแทรกเข้ามา เขาหันไปมองทางพ๊อกก็อตที่ยังคงสะอื้นเบาๆเพิ่งจะรู้ตัวว่าไม่ควรมีใจคอหดหู่เมื่ออยู่ใกล้ๆนาง จี้ถูกสวมใส่อย่างรวดเร็วแล้วชองฮยางก็รวบพ็อกก๊อตมากอดเอาไว้ พ็อกก๊อต... นางจะเริ่มเรื่องอย่างไร? แล้วพ็อกก็อตจะเข้าใจมากแค่ไหน? เจ้ารู้หรือไม่ว่าแม่ของเจ้า นางไปที่ใดแล้ว? นางจากไปแล้วค่ะ พ็อกก๊อตถูเปลือกตาไปมา ใช่แล้วจ้ะแต่ก่อนที่นางจะไป นางบอกพวกเราให้ดูแลเจ้าน่ะ พวกเราให้สัญญากับนางว่าเจ้าจะกลับบ้านไปพร้อมกับพวกเรา อย่างนี้ใช่มั้ยจ๊ะ? ว่าแล้วนางก็ใช้ผ้าเช็ดหน้า เช็ดใบหน้าของพ็อกก๊อตไปพลางๆ ท่านแม่ไม่ต้องการข้าแล้วหรือคะ? น้ำตาทะลักขึ้นมาอีก ไม่ใช่อย่างนั้นจ้ะนางไม่สามารถพาเจ้าไปในที่ที่จะไปได้ต่างหากล่ะ ยุนบกรู้สึกว่าบางทีมันจะดีกว่าเมื่อไม่ต้องพูดถึงเรื่องเป็นเรื่องตายตอนแรกเขาคิดจะพาพ็อกก๊อตไปในพิธีศพด้วย แต่ตอนนี้รู้แล้วไม่ว่าจะยังไงเขาไม่ควรพานางไปอย่างเด็ดขาด ท่านแม่เคยพูดไว้เหมือนกันค่ะ แล้วนางเคยพูดว่าไงบ้างจ๊ะ? ชองฮยางชำเลืองมองไปทางยุนบกด้วยความกังวลอากิโน่ได้เตรียมความพร้อมให้ลูกสาวสำหรับการพรากจากงั้นหรือ? ท่านแม่บอกว่าหากนางไม่อยู่ให้ข้าไปกับท่านลุงเพราะว่าเขาจะดูแลข้าเอง ท่านลุงจะกลายเป็นท่านพ่อจนกว่าข้าจะโตพอแล้วเขาจะบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องท่านแม่ได้มากกว่านี้ท่านแม่บอกว่าให้ข้าพูดแต่ความจริงกับท่านลุงดีกว่าโกหกค่ะ เด็กหญิงท่องจำได้ขึ้นใจราวกับถูกฝึกสอนให้พูดแบบนี้มาแล้ว ดังนั้นเขาคงได้บอกทุกสิ่งทุกอย่างกับลูกสาวแล้วความไว้วางใจมากับเด็กทั้งสองที่ยังมีชีวิตอยู่อาจเปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อพวกเขาโตพอเขาควรจะพูดให้ถูกคือความรับผิดชอบเป็นของคนอื่น เขานวดหัวคิ้วอย่างเหน็ดเหนื่อยหวังว่าโชคชะตาคงไม่ตัดสินโยนภาระมาให้เขาหรอกนะ แต่ชีวิตมันคงไร้สีสันหากปราศจากการลองผิดลองถูกและความยากลำบากซึ่งจะหล่อหลอมให้เกิดการเติบโตและความแหลมคมของการใช้ชีวิตอย่างไรซะ เขาทำได้แค่หวังว่าเขากับชองฮยางจะช่วยกันอุ้มชูเด็กทั้งสองได้เป็นอย่างดี งั้นเราก็มาช่วยกันทำให้สิ่งที่แม่เจ้าต้องการดีมั้ย? เขายิ้มให้เมื่อนางพยักหน้าและเปิดปากหาวออกมาแบบยั้งไม่ทัน ท่านเห็นหรือไม่คะนางมีแววตาดุจเดียวกับท่าน ชองฮยางพูดขณะที่จับเด็กหญิงนอนหนุนตัก อะไรนะ?? ยุนบกไม่แน่ใจว่าควรจะเชื่อนางได้หรือเปล่าในเมื่อตอนนี้ตาของเด็กหญิงปิดไปแล้ว เขาคงไม่สามารถพิสูจน์ได้ ในบางเวลาท่านมองดูนางดีๆซิคะนางเกลี่ยแก้มเด็กน้อยเบาๆ ตอนที่ข้าพบนางครั้งแรก ข้าคิดว่ารู้สึกคุ้นเคยแบบแปลกๆมันไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นจนกระทั่งตอนที่ข้าเห็นท่านทั้งสองคนต่างมีส่วนเติมเต็มกันและกันค่ะ จริงรึ.....? เขาพินิจพิเคราะห์เด็กหญิงมากขึ้นจนชองฮยางแอบขำ ท่านกำลังจะทำอะไรคะนั่น? ชองฮยางพยักหน้าให้กับภาพวาดที่คลี่อยู่บนโต๊ะขณะที่กำลังเก็บงานชิ้นสุดท้ายและเสร็จสิ้นธุระของเขาแล้ว นั่นนะเหรอ? เขากดตราประทับลงบนภาพวาดแผ่นสุดท้ายและส่งให้กับนางสำหรับท่านอาจารย์น่ะ ไตร่ตรองดีแล้วหรือคะ? นางกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? ชองฮยางพยักหน้าให้กับรูปของผู้หญิงที่กำลังหาบผักหาบปลานางแน่ใจว่าหากนางอยู่ใกล้มากพอคงจะได้ยินที่สองหญิงกำลังจ้อกันอย่างเมามัน บางทีอาจจะไม่ก็ได้นะแต่ข้าสงสัยว่าเราอาจจะได้เจอกันอีกครั้งดังนั้นสิ่งนี้จะเป็นของที่ระลึก ของขวัญแทนคำขอบคุณให้กับเขาที่ทุ่มเทสั่งสอนและทำหลายๆอย่างให้กับข้า กำหนดการสักเมื่อไหร่คะ? นางส่งภาพวาดคืนให้และทำความเข้าใจกับความระลึกถึงนั้น ข้าคิดว่า.... เขานับในใจ อีกสองถึงสามวันนับจากวันพรุ่งนี้น่ะอาจารย์ซุกควอนบอกข้าไว้แล้วว่ามีการพบกันได้อย่างไรและเมื่อไหร่ เขาบอกแต่เพียงว่าจะไม่ใช่ถิ่นที่เราคุ้นเคย แล้ว.... นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนนางเคยเชื่อว่าการพบปะจะเกิดขึ้นที่ชินเฮ ข้าก็ไม่รู้ เขายักไหล่และฝืนใจที่จะเปิดเผยมากไปกว่านี้ข้าคิดว่านางควรจะนอนบนเตียงได้แล้วล่ะ เด็กหญิงบนตักของนางหลับสนิทไปเรียบร้อยแล้ว เจอกันพรุ่งนี้นะ นางอุ้มเด็กน้อยขึ้นอย่างระมัดระวังในขณะที่รอยุนบกเปิดประตูให้ รีบพักผ่อนนะคะ เขาพยักหน้ารับก่อนที่จะไปยังโต๊ะยังมีสิ่งที่จะต้องทำอีกเขาตัดสินใจรวบรวมภาพวาดหย่อนลงในกระบอกภาพอันใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อมาจากตลาดก่อนหน้านี้ตราประทับถูกใส่ในถุงเล็กๆและนำทั้งหมดไปซ่อนอีกครั้ง เหลือเวลาอีกไม่กี่วันตอนนี้อาจารย์ทันวอนจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2555 |
|
12 comments |
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2555 10:37:39 น. |
Counter : 2536 Pageviews. |
|
|
|
นี่มันเกินกว่าสองวันแล้วหรือเปล่า? หรือสามวัน? ฮองโดทำหน้าบึ้งและหวังว่าเขาจะเร่งฝีเท้าให้ไปถึงปูซานได้ในวันพรุ่งนี้ ถ้าไม่อย่างนั้น เขาต้องพักแรมอยู่ภายในสภาพอากาศที่ร้อนเช่นนี้ โดนแมลงรบกวนแล้วยังแดดที่แผดเผาผิวบนหน้าอีกล่ะ เขาตบบางอย่างที่เกาะและกัดอยู่บนคออย่างโมโห ด้วยฝีเท้าขนาดนี้ เขาคงจะกลายเป็นชายแก่ที่ถูกสูบเลือดจนซีดแน่ แล้วก็ตบอีกครั้ง ไอ้แมลงดื้อ มองไม่เห็นสักที แห้งแล้งและน่าเบื่อยังกับเดินทางเป็นพันวัน
มีอะไรผิดปกติเหรอทันวอน? ท่านดูขี้ตกใจยังกะสุนัขแล้วก็ยังทำจมูกฟุดฟิดยังกะหนู เสียงหยอกขำๆมาจากผู้ชายซ้ายมือ
แล้วท่านไม่เป็นเหรอ รุ่นพี่? กับสภาพอากาศแบบนี้และพวกแมลงที่กำลังเห็นท่านเป็นอาหารมื้อหนึ่งน่ะ? น้ำเสียงแสนเซ็ง เขาพัดให้ตัวเองแรงๆ
เหอะ เหอะ ชายคนนั้นส่งเสียงแบบไม่เห็นด้วย ท่านทรมานกว่านี้ตอนที่เราอยู่บนเขากึมกังปีที่แล้ว ข้าก็ยังเคยได้ยินเสียงบ่นคล้ายๆแบบนี้ เขาถองม้าเข้ามาใกล้มากขึ้น ที่นั่นมีใครบางคนที่ท่านรอพบจนทนไม่ไหวเลยหรือ?
ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร? ฮองโดปรายตามองเพื่อนร่วมทาง คิมอึงฮวาน นี่เขาดูออกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?
ทันวอน ทันวอน....เจ้าน่ะใสกระจ่างยังกะน้ำในอานับจีแน่ะ (//www.wonder12.com/2011/04/anapji-pond.html) ชายที่แก่กว่าต่อว่าต่อขานเข้าให้ นางเป็นใครล่ะ
ที่นั้นไม่ใช่นางหรอกแต่อะไรดี แล้วไหนล่ะ ฤดูใบไม้ผลิที่สดใสกับถ้วยเหล้าองุ่นในวันที่แดดเผาหนังพองแบบนี้? เขาเมินหน้าออกไปอีกทางและส่งเสียงออกทางจมูก โน่น โน่นไงล่ะ ไปทางเดินนี่แหละ พลางชี้ออกไปด้วยพัดในมือ เจ้าเห็นอะไรเรอะ? ไม่มีเล้ยจนสุดถนนรกๆนั่นล่ะ มีแต่โรคภัยซ่อนตัวอยู่ในต้นไม้ใบหญ้าคอยแต่ดูดเลือดของเรา
ท่านเห็นอย่างนั้นจริงหรือ? จริงๆแล้ว ต้องเว้นไว้สักคนที่จะทำให้ทันวอนกลายเป็นคนขี้บ่นหากเขายังไม่สามารถควบคุมความไม่อดกลั้นเอาไว้ได้
เจ้าไม่ได้ยินบทเพลงหรือกลิ่นหอมรวยระรินที่ล่องลอยอยู่ในอากาศรึ? หรือมองไม่เห็นสีสันของดอกไม้แย้มบาน? มาเถอะน่า ทันวอน อึงฮวานไม่ได้ใส่ใจกับความขุ่นมัวของอีกคน ที่โน่นไม่มีแท่งเงิน แต่ที่นี่มีสามร้อยตำลึง
เก็บงาเมล็ดเดียวกลับเสียแตงโมทั้งใบ ฮองโดโต้กลับไปบ้าง
ดี ดี เก็บความลับของเจ้าไว้นะ อึงฮวานหัวเราะลั่น เลิกการต่อล้อต่อเถียง เขาซ่อนยิ้ม ขณะที่ฮองโดกลับทอดถอนใจระบายความอึดอัด ถ้าเขาไม่นำการคุยมาสู่เรื่องนี้ มันกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่ตั้งใจที่จะได้รับรู้ จริงๆแล้วก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเลย เป็นที่รู้กันดีว่าพระราชาชื่นชอบฮองโดและสาระส่วนใหญ่ถูกแบ่งปันระหว่างกันซึ่งหมายถึงไม่ได้ให้คนอื่นล่วงรู้ด้วย อย่างไรก็ตามบางอย่างที่จะต้องไปทำมีความลับแฝงไปกับภารกิจซึ่งพวกเขาก็คงจะได้เห็นเอง เขาเชื่อว่ารุ่นน้องจะบอกเขาเองถ้ามันสำคัญมาก
ตอนนี้นางจะเป็นเช่นไร? ฮองโดนึกแปลกใจ ย้อนคิดไปถึงภาพวาดให้วันที่นางวาดทิ้งไว้ให้เขาในฮันยางวันหนึ่ง ต้องแก่ขึ้นซินะ นางคงไม่ทำสิ่งโง่ๆเหมือนเมื่อสิบสามปีก่อน แล้วก็คงจะไม่อารมณ์ร้อนหรือหุนหันพลันแล่น เขาไม่สงสัยเลยถ้านางยังคงใช้ชีวิตอยู่ในสภาพที่ถูกสมมติขึ้นในตัวตนของความเป็นชายแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในชื่อเดิมๆ พระราชาต้องรู้เป็นแน่ เขาคาดว่าจะมีสายลับคอยส่งข้อมูลของยุนบกแต่เขาก็ไม่ได้เต็มใจที่จะให้ข้อมูลหรอกและทันวอนก็ยังต่อต้านการบีบบังคับเพื่อที่จะได้ข้อมูล นั่นน่ะเป็นความทะนงของตัวเขาเองล่ะ แต่เขาก็มั่นใจว่า พระราชาได้พยายามเปรยบางอย่างให้กับเขาในการพบกันครั้งล่าสุดก่อนที่เขาจะถูกส่งออกไปวาดรูปภูเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ แล้วมันคืออะไรนะ?
เช่นเวลาที่ผ่านพ้น ทันวอน แม้กระทั่งภาพวาดก็มีอายุ การไม่เห็นอยู่ทุกๆวันทำให้เกิดมุมมองที่แตกต่างออกไป แต่ความสวยงามก็ยังคงอยู่ไม่แปรเปลี่ยน หรือไม่จริง?
เขาเห็นด้วยแต่นั่นเป็นแววตาวิบวับแหนบแนมแกมตลกของพระราชา ยังมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับยุนบกที่จะทำให้เขาขบขัน? นางต้องทำบางสิ่งบางอย่าง แล้วมันคืออะไรนะ? เหนื่อยวุ้ย เขายังไม่สามารถหาคำตอบได้ เสียงดังลั่นทำให้เขาหลุดออกจากห้วงคำนึง
อ๊าก! อึงฮวานชี้ไปข้างหน้า นั่นโรงเตี๊ยมคำภาวนาของเจ้าสัมฤทธิ์ผลแล้ว, ทันวอน ดูเจ้าอึดอัดนะ?
ท่านต้องเลี้ยงเหล้าข้านะ รุ่นพี่ อย่างแน่นอนที่สุดเลย! ฮองโดยิ้มกริ่มพร้อมกับเตะม้าที่ยังวิ่งเหยาะให้ฝีเท้าเร็วขึ้น
ชินเฮ
14th Soseo
ในพิธีฝังศพมีผู้คนเพียงหยิบมือ มีแค่เด็กคนหนึ่ง ผู้หญิงสองคน ผู้ชายอีกสามคน นอกนั้นก็เป็นแรงงานหามโลง หลุมฝังถูกขุดดินออกเตรียมไว้แล้ว มันดูราวกับปากสีดำขนาดใหญ่กำลังรอคอยที่จะได้กลืนกินผู้ตายกลับสู่ผืนดิน ยุนบกวางเงื่อนซ้อนไว้บนฝาโลงของฮักซัน ก่อนที่จะคลุมด้วยธงสามเหลี่ยมสีแดงที่เขียนชื่อผู้ตายและต้นตระกูลด้วยหมึกสีขาว เขาพยักหน้าให้กับเหล่าแรงงาน เพื่อหย่อนโลงลงหลุม ข้าขอโทษ ที่ไม่สามารถจัดพิธีให้สมเกียรติมากกว่านี้ แต่ข้าก็หวังว่าเจ้าจะได้พักผ่อน ณ ที่นี่อย่างสงบ กับสิ่งเล็กน้อยที่พวกเราจะทำได้ ฮักซัน ข้าจะทำอย่างสุดกำลังที่จะผลักดันให้พาโดได้เติมเต็มตามความสามารถของเขาให้ได้ เขาคิดในใจก่อนที่จะคำนับให้กับหลุมศพที่กำลังถูกกลบฝัง คนอื่นๆเดินตามเข้ามา จากนั้นเขาก็หันไปทางเด็กหญิงน้อยที่ยืนข้างชองฮยางและยื่นเงื่อนซ้อนอีกอันให้
วางสิ่งนี้ไว้บน....โลงนะ เขาพูด
มีอะไรอยู่ในโลงนี้คะ? เด็กน้อยถามด้วยความอยากรู้ ก้มลงมองเงื่อนซ้อนที่อยู่ในมือตัวเอง แล้วทำไม ข้าจะต้องไปวางไว้ด้านบนด้วยล่ะคะ?
มีบางสิ่ง....จากเราไป ตอนนี้เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้ว ดังนั้น...จึงมีหน้าที่ที่เจ้าจะต้องทำ ตรงนี้ เขาอุ้มเด็กน้อยขึ้นเพื่อให้สามารถวางเงื่อนซ้อนไว้บนโลงได้ ก่อนที่จะส่งนางให้กับชองฮยาง เขาวางธงสามเหลี่ยมสีแดงไว้ด้านบนของโลงศพอากิโน่ มันก็แค่ชื่อของเขาแต่ศิลาหน้าหลุมที่วางอยู่บน ชื่อบนหลุมฝังศพสลักเป็นสถานที่พักพิงแห่งสุดท้ายของมยองฮี ดินถูกโกยลงไปอย่างรวดเร็วและเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการ หลังจากนั้นผู้คนทั้งกลุ่มก็แยกย้ายกันไปอย่างเงียบๆ
วันต่อมาเป็นวันที่แสนสงบ ยุนบกและชองฮยางใช้เวลาส่วนใหญ่ท่องเที่ยวชายหาดของชินเฮพร้อมกับพ็อกก๊อตผู้ซึ่งสนุกสนานอยู่กับการวิ่งไล่จับปู คอยเอาไม้ไล่จิ้มปลาดาวและเก็บเปลือกหอยเอาไว้หลายๆอัน เม็ดทรายติดตามเนื้อตัวทั่วไปหมด ความร่าเริงและเสียงหัวเราะของนาง เรียกรอยยิ้มของพวกเขา เมื่อแน่ใจแล้วว่าชายหาดแห่งนี้ร้างลาผู้คนมีแต่เฉพาะพวกเขาเท่านั้น ชองฮยางจึงถอดถุงเท้าและรองเท้า เดินย่ำไปบนพื้นทรายชุ่มน้ำทะเล ชักชวนให้ยุนบกทำตามเมื่อเห็นเขาจึงหัวเราะ ทางยาวของรอยเท้าติดตามพวกเขาไปตลอดทางที่เดินเล่นอยู่ริมหาด จวบจนนั่งมองดวงอาทิตย์ลอยต่ำลงไปจนสุดขอบทะเล
เจ้าคิดว่าเราควรจะบอกพวกเขาว่าอากิโน่ทำอะไรกับฮักซันมั้ย? ยุนบกครุ่นคิดแล้วเอ่ยถาม ขณะที่พวกเขานั่งอยู่บนพื้นทราย กำลังมองพ็อกก๊อตใช้นิ้วขีดเขียนพื้นทรายเปียกๆ
ท่านบ้าไปแล้วถ้าทำเช่นนั้น? ชองฮยางนึกเหลือเชื่อกับความคิดนั้น แล้วจะทำให้อะไรดีขึ้นมาล่ะคะ? นอกจากความเกลียดชังระหว่างเด็กๆ
ข้ารู้ .. เขาถอนหายใจ แต่เจ้าก็รู้ มันจะเป็นความลับได้อย่างไรล่ะ ข้าจะไม่แปลกใจเลยถ้าไม่ว่าใคร ณ สถานที่ใดในอนาคตจะไม่หลุดมันออกมา
แต่ใครจะไปรู้? ท่านกังวลเกินไปแล้วล่ะค่ะ นางกระทุ้งสีข้างเขาเพื่อเตือนสติ
บางที เจ้าอาจจะพูดถูก มีเราแค่สองคนที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่น เขาลากนิ้วไปบนทรายละเอียดใกล้ฝ่าเท้า วันพรุ่งนี้เราควรจะพาพ็อกก๊อตไปด้วยหรือเปล่า?
ข้าไม่เห็นว่าทำไมจะไม่ได้คะ การท่องเที่ยวทางน้ำจะช่วยเปิดหูเปิดตานี่คะ นางเอนตัวพิงเขา วาดแขนโอบเอว ขณะที่เขาก็โอบไหล่นาง
นั่นคงจะเป็นอาทิตย์อัสดงที่แสนหวาน ใช่มั้ย? เขาพูดพึมพำ ขณะที่ท้องทะเลสะท้อนแสงจากท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มแดง
ถ้ามีเวลา เราน่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งนะคะ นางถอนหายใจอย่างพึงใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกสุขสงบนับตั้งแต่มาที่ชินเฮ
เราได้มาอีกแน่ เขาเห็นด้วย ดวงตาส่องประกายวิบวับ