... มาแว้วๆ ***ยอดรักนักศิลป์ตอนที่ 26 ทางรอด *** OG 2 ตอน13-ตอนจบ** **คลิกอ่านทุกเรื่องได้ที่เมนูด้านซ้ายเลยจ้า.. ^_^
“ความทุกข์-หากเล่าสู่กันฟังจะลดลงครึ่งหนึ่ง ส่วนความสุข-ถ้าเราแบ่งปันมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” ขอบคุณลูกบล็อกทุกท่านที่ร่วมสร้างบล็อกแห่งความสุขนี้ขึ้นมา อยากให้พื้นที่ในบล็อกแห่งนี้ได้เป็นที่แบ่งปันทุกข์และสุขร่วมกัน จะไม่มีรักรูปแบบใดที่เป็นไปไม่ได้ ณ ที่แห่งนี้....วอนวอน
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
16 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 2 Things Left Behind. จุดประสงค์ที่ซ่อนเร้น ผู้แปล จุงฮา รีไรท์เตอร์ PPP

6th Mangjong 1789
 
 
“ท่านถามข้าว่าข้ามีเพื่อนกี่คนใช่ไหม น้ำ ก้อนหิน ต้นไผ่และต้นสน พระจันทร์ขึ้นทางทิศตะวันออกของเนินเขาก็คือสหายที่ร่าเริง นอกจากนี้สหายทั้ง 5 แล้ว ยังมีอะไรที่ข้าควรตอบอีกไหมครับ”
 
ขณะที่ซุกควอนเข้าใกล้ห้องเรียน จังหวะการพูดที่ดังขึ้นและเบาลงของเสียงเล็กๆ เหล่านี้ล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วก็เงียบลง ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงประตูและมองเข้าไปข้างใน ภายในห้องเต็มไปด้วยเด็กชายที่ต่างวัย นั่งเป็นแถวๆ กำลังจ้องมองที่กระดาษที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา เว้นเพียงเด็กชายที่นั่งใกล้ประตูที่สุดเท่านั้น พวกเขากำลังวุ่นกับการส่งผ่านบางอย่างจากคนหนึ่งไปยังคนอื่นๆ ในแถว การเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดลงเมื่อพวกเขารู้สึกว่าถูกจ้องมองอยู่ ก่อนจะทำหน้าเคร่งขรึมให้กับซุกควอน แล้วก็เป็นเสียงกระซิบกระซาบผ่านใต้เสื้อแทน
 
“อาจารย์ซุกควอนเหรอครับ?” ยุนบกกล่าวพร้อมน้ำเสียงที่ปนความแปลกใจเล็กๆ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ
 
“ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะการสอนของเจ้า แต่ข้ามีเรื่องบางอย่างจะพูดกับเจ้า”        ซุกควอนไม่ใส่ใจความตกใจและสายตาที่วิงวอนที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าเล็กๆ  เมื่อถึงเวลาเป็นงานเป็นการ ใบหน้าเขาจะดูเคร่งขรึม
 
“คัดลอกกลอนนี้ขณะที่ข้าไม่อยู่” ยุนบกสั่งขณะลุกขึ้น ขณะเดินผ่านประตู เขาชำเลืองมองดูเด็กชายที่นั่งอยู่แถวด้านหลัง พวกเขามุมานะ สายตาจ้องไปที่หนังสือ ขณะที่เด็กคนอื่นมองลอดใต้เสื้อ ริมฝีปากเขากระตุก ยุนบกเดินตามซุกควอนออกจากประตูไปยังลานเล็กๆ  
 
“เจ้ากำลังทำอะไรกับพวกเขา” ซุกควอนยิ้มกว้าง “ไม่ใช่เจ้ารึที่คิดว่าจะสอนพวกเขาอ่านตัวหนังสือจีนและลัทธิขงจื้อ แต่ทำไมพวกเขาถึงยังเรียนกลอนซิโจ (sijo) ล่ะ”
 
“เหมือนกับส่งพวกเขาไปให้ดูแลสวน แล้วพวกเขาก็จะเข้าใจธรรมชาติครับ” ยุนบกโค้งไปยังแปลงปลูกผัก “ก็เหมือนกับกลอนซิโจ” เขาหัวเราะ “มันคือฉีกแนวจากการเรียนรู้แบบเก่า สิ่งแปลกใหม่สามารถดึงดูดพวกเขาได้ครับ”
 
“พาโด ก็คือหนึ่งในบรรดากบเหล่านั้น” ซุกควอนอธิบาย
 
“อ่า... ด้วยเหตุผลทั้งหมด ข้าจึงส่งเขาให้ออกไปที่ท้องทุ่ง เขาใจจดใจจ่อที่จะคอยเตือนข้า  ให้ข้าปล่อยเขาเข้าไปในป่า” สายลมอ่อนๆ พัดมา ทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบของใบไม้และหญ้า มันเป็นเรื่องที่ไม่ปกติที่ซุกควอนจะมาอยู่ที่โรงเรียน ดังนั้นยุนบกจึงอดทนรอที่จะฟังว่าซุกควอนต้องการอะไร ก่อนหน้านี้เขาตามหาซุกควอนแล้วพบว่า  ซุกควอนไม่อยู่ในบ้าน แสดงว่าเขาออกไปทั้งคืน ทำให้คิดว่าเป็นลางที่ไม่ดีอย่างแน่นอน “ท่านมาที่นี่เพื่อหยอกล้อข้าเล่นเท่านั้นเองรึครับ”
 
“ไม่ใช่อย่างนั้น” ใบหน้าของซุกควอนปรากฏความน่ากลัวขึ้นขณะที่เขาใช้เสียงต่ำเพื่อกระซิบ “ข้ามีเรื่องมาบอกเจ้า  เมื่อวานนี้เขาต้องการให้เจ้าทำบางสิ่งบางอย่าง”
 
“เขา...” ยุนบกจ้องก่อนจะหยุดเมื่อเข้าใจเรื่องราว “อ่า...อืม...แล้วเรื่องที่ท่านสามารถจะบอกข้าได้ล่ะครับ”
 
“เจ้าต้องไปบอกผู้ใหญ่บ้านว่าเจ้าจะไม่สอนหนังสือจนกว่าถึงปีหน้า”
 
“มันนานขนาดนั้นเชียวรึครับ” คิ้วของยุนบกยกขึ้น
 
“หวังว่าจะไม่นานไปกว่านี้ มันเป็นแผนที่วางไว้เพราะเจ้ากับจองฮยางจะไม่ได้กลับจนกระทั่งใกล้สิ้นฤดูร้อน เจ้าจะยุ่งมากในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นการสอนวันนี้จึงเป็นวันสุดท้าย ต้องขอโทษเจ้าที่มาบอกในช่วงเวลานี้ แต่ข้าก็ไม่ได้รับแจ้งข้อมูลล่วงหน้าเช่นกัน บอกผู้ใหญ่บ้านว่าข้าต้องการให้เจ้าไปทำการค้าเร่งด่วน ทำตัวให้ว่างนะคืนนี้ เพราะเถ้าแก่ฮานเชิญพวกเราทั้งหมดไปทานอาหารค่ำ” ซุกควอนตบหลังของยุนบกเพื่อเป็นการให้กำลังใจก่อนที่จะจากไป
 
จนกระทั่งฤดูใบไม้ร่วงสิ้นสุด จองฮยางจะไปกับเขาแล้วพาโดล่ะ มันเป็นเรื่องที่สุดวิสัยจริงๆ เขาจะฝากให้เอยองดูแลก็แล้วกัน เมื่ออยู่ในภวังค์แห่งความคิด ยุนบกไม่ทันสังเกตว่าเด็กชายยืนอยู่ด้านหลังเขา กำลังตกใจมากที่เขาจบการสอนและบอกว่าจะไม่มีการสอนอีก เหล่านักเรียนต่างมองกันไปมาแล้วก็วิ่งไปกระจายข่าว พาโดพูดกับยุนบกไปเรื่อยเปื่อยด้วยความกลัวว่าเขาจะเป็นเหตุให้การสอนต้องสิ้นสุดลง  
 
“ท่านพ่อ ทำไมท่านจึงยุติการสอนล่ะครับ” เขาจ้องยุนบกที่กำลังยกกองหนังสือและผูกพวกมันเข้าด้วยกัน “เป็นเพราะข้าใช่ไหมครับ?”
 
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย ข้าจะบอกเรื่องนี้กับเจ้าทีหลัง แต่ในตอนนี้นำหนังสือกองนี้กลับไปที่บ้านก่อน บอกให้แม่ของเจ้าเก็บไว้ที่ห้องด้านหลัง นางจะรู้เองว่าต้องทำอะไร” ยุนบกยื่นหนังสือให้กับพาโด แล้วเร่งให้พาโดออกไปเพื่อกันไม่ให้พาโดถามอะไรอีก หลังจากนั้นเขาก็เร่งเก็บอุปกรณ์เขียนภาพก่อนจะเก็บไว้ที่มุมห้อง ผู้ใหญ่บ้านจูแดจุงคงอยู่ในช่วงการพักผ่อน หลังจากนั้นก็ลงกลอนประตูแล้วเดินทางไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านแดจุง แต่กลับเจอลูกสะใภ้ของแดจุงที่บอกว่าแดจุงออกไปที่ทุ่งนา เขาจึงรีบไปที่แปลงเพาะปลูก แดจุงรู้สึกแปลกใจ แต่ก็เข้าใจเมื่อรู้ว่าซุกควอนต้องการให้ยุนบกออกเดินทางไปทำการค้าเร่งด่วน เขาก็ได้แต่หวังว่ายุนบกจะเดินทางอย่างปลอดภัยและสัญญาว่าจะคอยทำความสะอาดโรงเรียนให้
 
จองฮยางดูว้าวุ่นเมื่อเห็นเขากลับบ้าน ขณะที่พาโดก็เช่นเดียวกันนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่หลังโต๊ะ เหมือนกับสำนึกผิดกับการเล่นตลกของเขาตลอดวันนี้และเกรงว่าเขาจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้การสอนต้องยุติลง ยุนบกไม่ได้พูดอะไรกับพาโดและเดินไปที่ห้องด้านหลังพบว่ากองหนังสืออยู่ที่ชั้นบนสุดของตู้หนังสือแล้ว จองฮยางเดินเข้ามาแล้วปิดประตู
 
“อาจารย์ซุกควอนบอกอะไรเจ้าบ้าง?” เขากล่าวขณะแยกหนังสือ
 
“ไม่มากหรอกค่ะ บอกแค่ว่าพวกเราจะต้องเดินทางไปทำการค้า แล้วพาโดล่ะค่ะ จะทำเช่นไร?” นางหยุดพูด เมื่อยุนบกยกนิ้วขึ้นจุ๊ปาก ก่อนจะพยักหน้าไปทางประตู
 
“พวกเราจะให้เขาอยู่กับเอยอง” เขากล่าวอย่างแผ่วเบา
 
“แค่พวกเราเท่านั้นรึคะ?” น้ำเสียงของนางดูไม่พอใจ
 
“ข้าก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน แต่บางทีมันอาจจะอันตรายเกินกว่าจะเอาเด็กไปด้วย” เขาอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผล
 
“แล้วเขาบอกอะไรท่านบ้างคะ?”
 
“ข้าคิดว่าเราน่าจะรู้พอๆกัน พวกเราจะคุยเรื่องนี้กัน เมื่อทานอาหารเย็นพร้อมกับเถ้าแก่ฮาน” เขาจับแขนแล้วดึงนางเข้ามาใกล้พอที่จะกระซิบที่หูของนาง “พระราชาเป็นผู้มอบหมายงานนี้ให้กับข้า”
 
นางนิ่งอึ้งและจ้องมองไปที่เขา ตกตะลึงกับประโยคที่มีความนัยนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมานางได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ถูกเรียกใช้อีก นั่นหมายความถึงพรสวรรค์ของเขาในฐานะช่างเขียนจะถูกนำมาใช้อีกครั้ง ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดเผยแก่ฝ่ายตรงข้ามได้  
 
“ไม่ ข้าไม่ยอมให้มันเป็นเช่นนั้น” นางจับแขนเขาแน่นด้วยความกลัว
 
“เจ้าก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฮยางอา” เขาพยายามทำให้นางสงบขณะที่นางโอบกอดเขาแน่น “พวกเราโชคดีที่ได้รับพระเมตตาและความกรุณาของพระองค์ทำให้เราอยู่อย่างสงบมาตลอด มันถึงเวลาที่จะต้องตอบแทนแล้ว นอกจากนี้ถ้าหากโชคเข้าข้าง พวกเราก็จะทำงานได้ลุล่วงโดยไม่ได้รับอันตราย”
 
“เราจะทำได้ใช่ไหม?” เขากล่าวเหมือนกับว่ามันง่ายมากๆเพื่อทำให้นางเชื่อในสิ่งที่เขาพูด
 
“เราต้องเชื่อว่าเราต้องทำได้ ถ้ามัวแต่นึกถึงเหตุการณ์ร้ายๆที่จะเกิดขึ้น มันก็มีแต่จะบั่นทอนเท่านั้นเอง” เขายืนกราน โดยหวังว่านางจะมองในแง่ดี
 
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปค่ะ” นางพูดขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองรู้สึกอุ่นใจ
 
“ใช่ พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” เขาลูบผมของนางอย่างเบามือ “เจ้ายุติการสอนแล้วรึ?”
 
“ใช่ค่ะ ข้าบอกพวกเด็กผู้หญิงว่าจะกลับมาเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง พวกเราจะกลับมาตามนั้นใช่ไหมคะ?”
 
“ก็ได้แต่หวังว่าพวกเราจะกลับมาก่อนฤดูใบไม้ร่วง” เขามองนางอย่างคิดหนัก “แต่ข้ายังสงสัยว่าทำไมเจ้าถึงเข้ามาเกี่ยวในเรื่องนี้ด้วย”
 
“แล้วมันเป็นยังไงล่ะคะ? แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีข้าเป็นส่วนร่วม ข้าก็จะเดินทางไปกับท่านค่ะ” นางพูดยืนยัน ไม่มีทางเลยที่นางจะคอยอยู่เบื้องหลัง หากรู้ว่าเขากำลังเดินไปสู่อันตราย “ข้าจะไปจัดเสื้อผ้าก่อนค่ะ” แล้วนางก็ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า
 
“บ้านอาจจะถูกทิ้งร้าง เจ้าจะให้ข้าไปบอกเอยองให้มาดูแปลงผักไหม?” เขามัดหนังสืออย่างรวดเร็วก่อนจะใส่หีบ เมื่อได้ยินคำถาม นางเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปรอบๆ ตระหนักว่าลืมที่จะดูแลจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยเพราะมัวแต่ว้าวุ่นกับเรื่องราวที่ได้รับรู้
 
“ใช่ค่ะ เราต้องรบกวนนาง” นางหยุดพูดเพื่อคิด “ยังมีอะไรอีกไหมนะ โอ้ ไม่ใช่ซิยังมีเรื่องแป้งเปียก(doenjang) อีกที่เราต้องรบกวนนางด้วยค่ะ”
 
“ไม่ใช่แค่นางเท่านั้น ยังมีชางซุนที่ต้องมาช่วยกวาดใบไม้ทำปุ๋ยหมักอีกคน” แล้วเขาเปิดตู้เสื้อผ้า “ข้าคิดว่าเราต้องซื้ออะไรจากชินแฮ (Chinhae) มาฝากพวกเขาเพื่อเป็นการตอบแทน”
 
“ข้าก็คิดเช่นนั้นค่ะ” แล้วนางก็หันกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง
 
ซุกควอนกลับมาในช่วงโพล้เพล้พร้อมกลับม้าอีก 2 ตัว ยุนบกอุ้มพาโดส่งให้กับซุกควอน หลังจากที่ช่วยจองฮยางให้ขึ้นม้าเรียบร้อยแล้ว พาโดดีใจมากที่ได้ขี่ม้าไปพร้อมกับยุนบก แล้วพวกเขาก็ออกเดินทางไปยังเมืองอูริยองทันที เมื่อเข้าสู่ลานบ้านตระกูลฮาน ยองจุนก็ร้องทักทาย นอกจากยองจุนแล้วยังมีซูแด ซึ่งเป็นภรรยาของ    ยองจุนและคยองมียืนรออยู่ ยุนบกยิ้มให้กับจองฮยางขณะช่วยนางลงจากม้า เพราะรู้ว่านางสนุกกับการนี้เนื่องจากมีโอกาสน้อยมากที่จะได้ขี่ม้า
 
“ข้าคิดว่าเราควรจะขี่มันอีกครั้งตอนที่เรากลับ” เขาช่วยประคองขณะที่นางเดินสะดุดเล็กน้อย
 
“ถือเป็นสัญญาจากท่าน แล้วท่านจะหาม้าจากไหนมาคะ”
 
“ก็จะเป็นใครได้อีก นอกจากยองจุน น้องที่แสนดีของข้าไง”
 
แล้วพวกเขาก็หันกลับมายังกลุ่มคนที่รอพวกเขาอยู่ ก่อนจะทักทายกันอย่างสุภาพ โดยที่บรรดาผู้หญิงกับเด็กชายต้องไปในส่วนของผู้หญิง ส่วนผู้ชายก็เดินไปที่ห้องโถงใหญ่ ยุนบกมองจองฮยางอย่างสื่อความหมาย แล้วโค้งน้อยๆ ให้กับคยองมี ก่อนจะเดินตามยองจุนและซุกควอนไปสู่ห้องโถงใหญ่ อาหารค่ำเป็นไปอย่างอบอุ่นด้วยการพูดคุยเรื่องการพัฒนาของเมืองฮันยาง
 
ในส่วนเขตของผู้หญิง อาหารค่ำเป็นไปอย่างเรียบๆ เพราะความฉลาดทำให้พาโดวางตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซูแดประทับใจในท่าทางของพาโดมาก จองฮยางยอมรับคำชมเชยนั้นอย่างถ่อมตัว ก่อนจะกล่าวชมเชยลูกชายของซูแดเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้นางกังวลเกี่ยวกับคยองมีมากกว่า เพราะคยองมีพูดเพียงเล็กน้อยและเอาแต่จ้องโต๊ะเท่านั้น ทำให้ยากที่จะเดาความรู้สึกของคยองมีได้ แต่นางก็สังเกตเห็นถึงว่าคยองมีสนใจยุนบกมาก แล้วคนรับใช้ก็เข้ามาเพื่อเชิญให้คยองมีและจองฮยางไปที่ห้องหนังสือใหญ่ ซูแดไม่แปลกใจเพราะเถ้าแก่ฮานได้บอกกับนางว่าเขามีเรื่องบางอย่างที่ต้องนัดหมายกับพวกนางไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
 
ขณะที่จองฮยางนั่งลงข้างๆยุนบก พร้อมกับส่ายศีรษะน้อยๆ เขาหันหน้ากลับ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับความล้มเหลว ซุกควอนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองเพราะเห็นได้ถึงความกังวลใจ เอาไว้เขาจะถามไถ่ทีหลัง หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการเดินทางที่กำลังจะพูดถึงครั้งนี้
 
“ห้องนี้ปลอดภัยแน่นอนเพราะข้าเป็นคนสร้างเอง ก่อนอื่นต้องขอบใจสำหรับเรื่องกระดาษที่เจ้าทำจากเครื่องอัดกระดาษ” เถ้าแก่ฮานกล่าวกับยุนบก “แต่มันน่าจะปลอดภัยมากกว่านี้ ถ้าหากพวกเราจะพูดกันเบาๆ จุนอา เจ้าย้ายโต๊ะนี้ออกไปก่อน” ยองจุนรีบย้ายโต๊ะไปที่มุมห้องอย่างรวดเร็ว “โปรดขยับเข้ามาใกล้ๆ” เขารอจนทุกคนนั่งลงก่อนจะคลี่แผนที่และชี้ไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้
 
“ปูซาน ทุกท่านน่าจะรู้ว่าที่นี่คือเมืองท่าที่มีชุมชนเล็กๆ ที่สำคัญของญี่ปุ่นตั้งอยู่มาตั้งแต่ 200 ปีก่อน นอกจากนี้ยังมีชุมชนอื่นอีก 2 แห่งคือ ชินแฮ (Chinhae) และ อูซาน (Ulsan) ที่เพิ่งตั้งขึ้นไม่นานมานี้ ที่กลายเป็นเมืองท่าหลักแทนปูซาน ตอนนี้พวกเรามีปัญหาเกิดขึ้นที่ชินแฮ มีการรุกรานจากศัตรูและผู้สอดแนม ซึ่งเป็นลางบอกเหตุที่ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นจึงต้องป้องกันไว้ก่อน แต่ศัตรูไม่ได้ทำอย่างโจ่งแจ้ง เขาแฝงตัวอยู่ในกลุ่มพวกเรา”
 
“ท่านหมายถึงคนชาติเดียวกันกับพวกเราอย่างนั้นรึครับ” ยุนบกกล่าวอย่างตรงไปตรงมา พยายามเดาว่าเถ้าแก่ฮานจะไปที่ไหน แล้วเขาต้องทำอะไรบ้าง?
 
“ท่านพูดถูก” เถ้าแก่ฮานผงกศีรษะอย่างเศร้าใจ “มันเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึง ว่ามีผู้ที่ทำทุกอย่างได้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่พวกเขาไม่ได้มีจำนวนมาก แต่ก็ยังเป็นภัยที่คุกคามอยู่ดี พระราชาตั้งใจไว้ว่าจะส่งแผนภารกิจไปยังเกาะซึชิมา (Tsushima) แต่ก็เกิดปัญหาที่ชินแฮเสียก่อน ที่นี่เป็นแหล่งที่มีการส่งข่าวให้ชาวญี่ปุ่นที่มีไหวพริบยิ่งนัก ดังนั้นพวกเราจึงต้องทำลายการรั่วไหลของข่าวเสียก่อน”
 
“ผู้สอดแนม” ซุกควอนกล่าวขณะที่มองไปทางอื่น “เราเชื่อว่าคือนางโลม”
 
ยุนบกและจองฮยางต่างจ้องไปที่อีกฝ่าย ตระหนักแล้วว่าทำไมนางจึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
 
“นางโลมอย่างนั้นหรือคะ? แต่ว่า...” จองฮยางไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่นางได้ยิน “แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้”
 
“เรารู้ว่ามีนางโลมที่ทรยศชาติคนหนึ่งทำให้เราได้รับรู้ถึงว่าพวกนางได้ทำอะไรไปบ้างในช่วงสงครามตลอด 7 ปี แต่โชคไม่ดี เราไม่รู้ว่านางเป็นใคร เราไม่รู้เลยว่านางโลมคนนี้ติดสินบนอย่างไร รวมทั้งบุคคลที่นางส่งสารให้ โดยเฉพาะวิธีการที่นางจะส่งสารไปยังพวกเขา และนั่นเป็นที่ที่เจ้าต้องไป” ซุกควอนพยักหน้าให้ยุนบก “มีคนมากมายเข้าและออกจากเมืองท่านี้และที่เล็กๆอย่างหอนางโลมด้วย เราไม่ได้มีกำลังพอที่จะติดตามให้ครบทุกคน แต่ถ้าเจ้าไปในฐานะช่างเขียนที่มีหน้าที่ให้เขียนภาพของนางโลมแล้ว เจ้าก็จะมีข้ออ้างในการเฝ้าดูพวกนาง พระราชาเชื่อมั่นในการสังเกตของเจ้า ดังนั้นพระองค์จึงมอบหมายงานนี้ให้กับเจ้า”
 
“ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมพวกสอดแนมจึงมีที่มั่นอยู่ในชินแฮไม่ใช่ปูซานล่ะครับ ไม่ใช่เมืองท่าหลักกลับเป็นเมืองท่าท้องถิ่น?” ยุนบกขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
 
“เมืองปูซานมีเครือข่ายพวกสอดแนมเป็นของเราเองซึ่งพวกเราระวังอยู่แต่มันก็เป็นที่ใกล้หูใกล้ตามากเกินไป พวกเขาก็ตระหนักถึงเรื่องนั้น ดังนั้นพวกเราจึงต้องไล่ล่าหาการรั่วไหลของข่าวกันอย่างเงียบๆ”
 
“แล้วจองฮยางล่ะ นางต้องทำอะไรครับ?” เขาถามอย่างกังวล กลัวในสิ่งที่เขากำลังจะได้ยิน
 
“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องไม่ชอบมันแน่...” ซุกควอนยกมือขึ้นขณะที่ยุนบกดูไม่สบายใจ “ฟังนะ นางจะถูกสมมุติว่าย้ายจากหอนางโลมแห่งหนึ่งในเมืองนี้ไปยังหอนางโลมที่ชินแฮ โดยที่เถ้าแก่ฮานจะแสร้งว่าอยากซื้อตัวจองฮยางเพื่อเป็นมอบเป็นอนุแก่เพื่อนของเขา หวังว่าเขาจะเอื้อประโยชน์กลับมา แล้วมอบหมายให้เจ้าไปเขียนภาพของเหล่านางโลม เพื่อให้เถ้าแก่ฮานส่งไปให้เพื่อนของเขาเลือกชมก่อน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจองฮยางไปอยู่ที่บ้านของเขาในทันทีไม่ได้ และเมื่อนางอยู่ที่หอนางโลม หน้าที่ของนางก็คือต้องคอยจับตาความเคลื่อนไหวและรวบรวมข้อมูลของนางโลมคนอื่นๆ”
 
“ตอนนี้นางไม่ได้อยู่ในบันทึกนางโลมแล้ว ท่านกำลังจะนำชื่อของนางกลับใส่ไปในบันทึกนั้นอีกครั้งหรือครับ?” สำหรับยุนบกแล้ว มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ จองฮยางดึงแขนเสื้อของยุนบกเพื่อบรรเทาความโกรธของเขาลง
 
“ชื่อของนางจะไม่อยู่ในบันทึก เจ้าฟังก่อน ใจเย็นๆ นางจะไปพร้อมกับชื่อที่สมมติขึ้นมาใหม่” ซุกควอนส่ายศีรษะไปทางยุนบกที่กำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้ทุกเมื่อ พวกเขาจึงหยุดพูดเนื่องจากเข้าใจในความกังวลของยุนบก คยองมีได้แต่จ้องมองที่มือของนาง หวังว่าความกังวลของเขาจะข้ามผ่านนางไป
 
“มันก็มีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดขึ้นไม่ใช่หรือครับ” ยุนบกพยายามปรับเสียงของเขาให้เบาลง “ทำไมต้องให้นางไปอยู่ที่หอนางโลม? เขาจะไม่ซื้อบ้านหรืออะไรอย่างอื่นให้กับนางหรือครับ? แล้วยังเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลหอนางโลมที่ชินแฮอีกล่ะ?”
 
“ก็จริงอยู่ เถ้าแก่แบอาจจะร่ำรวย แต่การซื้อบ้านให้นางพักอาศัยอยู่ชั่วคราวก็เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป” ซุกควอนกล่าวอย่างใจเย็น เพราะรู้ว่าอารมณ์ของยุนบกเป็นเช่นไร “ดังนั้นจึงมีการเตรียมการอย่างดีที่หอนางโลม เราได้ทำความเข้าใจบางอย่างกับเจ้าหน้าที่ดูแลนางโลมในเขตนี้ เขาเชื่อถือได้ไม่เหมือนใครในชินแฮ ดังนั้นเอกสารทั้งหมดจึงเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว นางก็ไม่ต้องให้ความบันเทิงแก่ใคร เนื่องจากนางถูกซื้อไปแล้ว” ซุกควอนเข้าใจในสิ่งอื่นที่ยุนบกกังวลและหวังว่าความยุ่งยากจะกระจ่างไปได้
 
“ที่ท่านพูดมามันก็จริงครับ” ยุนบกกล่าวอย่างลังเลหลังจากที่พิจารณาแล้ว เขารู้ว่าเขาต้องเชื่อใจอาจารย์ของเขา แต่แผนการนี้มันก็ดูเลวร้ายสำหรับเขาอยู่ดี “แล้วท่านล่ะครับ ต้องทำอะไร”
 
“ข้าเป็นคนรับใช้ของจองฮยางประจำอยู่ที่หอนางโลม” ซุกควอนยิ้มกว้าง
 
“งั้นก็ได้ครับ ถ้าท่านอยู่ที่นั้น” ยุนบกเบาใจขึ้น เมื่อรู้ว่าจองฮยางได้รับการคุ้มครอง “แล้วข้าจะไปอาศัยอยู่ที่ไหนครับ?”
 
“อาศัยอยู่กับเพื่อนของข้าเอง แบ วอนชิค เขาเป็นพ่อค้า แล้วก็เป็นเจ้าหน้าที่ที่เกษียณแล้วเช่นเดียวกับข้า” เถ้าแก่ฮานยิ้ม “เอาล่ะนี่คือทั้งหมดที่เราจะคุยกันตอนนี้ ซุกควอนสามารถพักผ่อนกับเจ้าสองคนได้ถึงพรุ่งนี้”
 
“ข้าต้องขอโทษที่ขัดจังหวะท่านนะครับ เถ้าแก่ฮาน แต่ทำไมหลานสาวของท่านจึงมาอยู่ที่นี่” นับถึงตอนนี้คยองมียังไม่มีส่วนร่วมในแผนการนี้เลย ยุนบกเข้าใจดีว่าทำไมยองจุนถึงอยู่ที่นี่ เถ้าแก่ฮานไม่สามารถกันลูกชายไม่ให้เขามาอยู่ในเหตุการณ์ความเลวร้ายที่ไม่สิ้นสุดนี้ได้ แต่คยองมีล่ะ ทำไมนางถึงอยู่ที่นี่
 
“นางจะเดินทางไปชินแฮเช่นเดียวกัน อากาศชายทะเลจะช่วยให้นางดีขึ้น” เถ้าแก่ฮาน มองหลานสาวอย่างครุ่นคิด
 
“แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไม...” ยุนบกงงงวยว่าทำไมถึงไม่อธิบายหน้าที่ของนาง
 
“ยองจุนไม่สามารถเดินทางไปชินแฮได้ ดังนั้นท่านต้องไปเป็นเพื่อนนาง ทั้งในฐานะญาติและคู่หมั้นของนาง”
 
ยุนบกตะลึง ได้แต่จ้องไปที่เถ้าแก่ฮาน เช่นเดียวกับที่คยองมีที่งุนงงเท่าๆ กัน
 
“เหตุผลที่นางอยู่ที่นี่ ก็คือข้าต้องการให้นางได้รับรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น” เถ้าแก่ฮานพูดเสริมขึ้นมา
 
แล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เถ้าแก่ฮานพยายามจะบังคับเขา เขาชำเลืองมองยองจุนที่ได้เพียงแค่จ้องไปที่มืออย่างไม่สบายใจ ซุกควอนที่มีสีหน้าปราศจากอารมณ์ใดๆ แต่กลับมีประกายของการเตือนออกมาจากสายตา นี่อาจารย์รู้หรือนี่ สีหน้าของจองฮยางสื่อออกมาถึงความเข้าใจ
 
“ข้าคิดว่าเราต้องคุยกัน” เถ้าแก่ฮานมองไปที่ทุกคน ยกเว้นยุนบกกับคยองมี เพื่อบอกให้ทุกคนออกจากห้องนี้ “ที่ข้าต้องทำเช่นนี้ก็เพราะท่านเป็นคนเลือกเอง ลูกชายข้าได้คุยเรื่องนี้กับท่านหรือไม่?”
 
“ใช่ครับ เขาเคยคุยเรื่องนี้กับข้า” ยุนบกพูดกัดฟันขณะมองเถ้าแก่ฮาน สงสัยในความหมายของคำที่เถ้าแก่ฮานพูด คู่หมั้น?
 
“และข้าเชื่อว่าท่านตอบปฏิเสธอย่างแน่นอน หลานสาวข้าต้องเศร้าหมองมาตลอด 9 ปี สิ่งที่ข้ารับรู้มีเพียงมันเป็นความผิดของท่าน แม้ว่าข้าจะคิดเช่นนั้น ข้าก็ยังต้องทำบางสิ่งอยู่ดี ดังนั้นข้าจึงหาทางออก ถึงแม้ว่ามันจะมีอยู่เพียงน้อยนิด และที่ท่านอธิบายแก่ยองจุนนั้นถูกต้องทุกอย่าง ว่าสิ่งที่พวกเราทำนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อคยองมีเลย”
 
“ท่านลุงคะ...” นางรู้สึกว้าวุ่นใจที่นางเป็นเหตุของความยุ่งยากนี้
 
“โปรดเงียบก่อน หลานสาว ให้ข้าพูดให้จบก่อน” เถ้าแก่ฮานห้ามเพื่อให้นางเงียบ เขามองยุนบกด้วยสายตาที่มุ่งมั่น “เพราะข้ารักนางจึงปล่อยให้นางได้ตัดสินใจเกี่ยวกับความสุขด้วยตัวของนางเอง แต่นางกลับใช้มันในทางที่ผิด ดังนั้นข้าจะไม่มีวันปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้อีก ทางเลือกของข้าคือข้าจะขายนางให้แก่หอนางโลม”
 
“เถ้าแก่ฮาน!!” ยุนบกตกใจ ขณะที่คยองมีหน้าซีด ใจตกลงไปที่ตาตุ่ม ก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เมื่อคิดว่าท่านลุงต้องล้อเล่นอย่างแน่นอน
 
“หรือไม่ ข้าจะให้นางไปอยู่ที่สำนักชีตลอดชีวิต หากนางยังคงปฏิเสธการแต่งงานอีกเช่นเดิม” เถ้าแก่ฮานยังคงพูดต่อ เพื่อตัดบทไม่ให้ยุนบกแย้งได้ “และทางเลือกสุดท้ายคือพวกเจ้าทั้งสองต้องมาทำความเข้าใจกัน ข้าให้โอกาสท่านตัดสินใจว่าจะทำเช่นไร ไม่ว่าท่านจะเลือกทางไหนข้าก็จะไม่เข้าไปก้าวก่าย แม้ว่าเรื่องจะจบอย่างไม่มีความสุขก็ตาม หนุ่มน้อย ถึงเวลาที่ท่านต้องตัดสินใจแล้ว”
 
คยองมีดูสับสนเหมือนโลกกำลังจะสิ้นสุด นี่ท่านลุงจะทิ้งนางไปจริงๆหรือ ก้นบึงในใจนางตกวูบในทันใด นางไม่รู้ว่าควรทำอะไรหรือจะเลือกทางไหนดี นางมองไปที่ยุนบกที่ไม่สามารถโต้แย้งท่านลุงได้ แล้วเขาจะทำเช่นไร
 
“ท่านจะมอบความรักทั้งหมดแก่หลานสาวข้าได้หรือไม่?” ในที่สุดเถ้าแก่ฮานก็กล่าวออกมา เมื่อเห็นว่ายุนบกยังคงเงียบ
 
“ข้า...” ยุนบกรู้ว่าคำตอบของเขาอาจจะทำให้นางเสียใจ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก “ข้าไม่อาจ...” พร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ โดยไม่หันมองคยองมี “ตอบรับความรู้สึกที่นางมีให้ได้ ข้าถือว่านางเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นครับ”
 
“ดีมาก” เถ้าแก่ฮานผงกศีรษะ “สั้นและชัดเจน คยองมีอา เจ้าได้ยินสิ่งที่เขาพูดแล้วใช่ไหม ถึงเวลาที่ต้องตัดความรักนี้ทิ้งไปได้หรือยัง”
 
“ข้าทำไม่ได้ค่ะ” คยองมีตัวสั่น แม้ว่าเขาจะเคยอธิบายเมื่อ 8 ปีก่อนแล้ว แต่มันก็ยังเป็นคำพูดที่สร้างความเจ็บปวดอีกได้อยู่ดี
 
“เพราะฉะนั้น หนุ่มน้อย ท่านจะตัดสินใจหรือว่าจะให้ข้าตัดสินใจเองล่ะ” เถ้าแก่ฮานถอนหายใจ นางฝังใจกับมันมาก แม้ว่านางจะตกอยู่ในอันตราย นางก็ยังคงจะยึดมั่นกับความรักที่ไม่เข้าท่านั้นอยู่ดี เพื่อให้นางทิ้งมันไปได้ เขาจะต้องทำให้ทั้งสองเกิดความเจ็บช้ำ “ข้าเจ็บปวดมามากแล้ว ตอนนี้ข้าจะเลือกทางที่สะดวกที่สุด”
 
เถ้าแก่ฮานจะขายหลานสาวให้หอนางโลมงั้นหรือ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ยุนบกไม่คิดว่าเขาจะทำเช่นนั้น เขาต้องคิดอย่างรอบคอบแล้วที่จะทำให้คยองมีกลัว ตอนนี้นางก็กลัวจนสั่นรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมดแล้ว หรือจะปล่อยให้เถ้าแก่ฮานพานางไปอยู่ที่สำนักชี หรือว่าจะค่อยๆ ทำความเข้าใจกับนางดีล่ะ
 
“ท่านลุงคะ ปล่อยให้ข้า...”
 
“ในฐานะหัวหน้าครอบครัวข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าภาระหน้าที่นี้จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว” เถ้าแก่ฮานกล่าวยืนยัน โดยไม่มองคยองมี แต่กลับจ้องไปที่ยุนบก ผู้ซึ่งรับรู้ได้ถึงคำวิงวอนจากหญิงสาว ก่อนจะหลับตาอย่างยอมจำนน
 
“ข้าจะเดินทางไปชินแฮเป็นเพื่อนนางเองครับ” เขากล่าวออกมา
 
“ดีมาก” เถ้าแก่ฮานไม่ได้ยินดีที่ได้รับชัยชนะ ในทางตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกเสียใจที่ต้องบังคับให้ยุนบกรับภาระนี้ เขามองไปที่คยองมี “เพราะฉะนั้น เจ้าต้องเดินทางไปยังชินแฮเพื่อให้สุขภาพเจ้าดีขึ้น แต่โปรดจำไว้ว่าเขากำลังอยู่ในภารกิจที่เสี่ยงอันตรายอยู่ อย่าทำอะไรที่จะทำให้เขาต้องตกอยู่ในอันตราย”
 
ในเวลานั้น เถ้าแก่ฮานหวังว่าเขาได้พูดบางประโยคที่จะทำให้ชายหนุ่มที่ดูจะเศร้าซึมนั้นสบายใจขึ้นบ้าง แต่ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออก เขาต้องกล่าวโทษความผิดพลาดของเขาเอง ขณะเดียวกันก็เสียใจที่ยุนบกไม่สามารถตอบรับรักของหลานสาวเขาได้ เขาอยากให้ยุนบกมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงการคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเขา ซึ่งมันอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ เขาก็จะปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาที่ลิขิตไว้
 
“ข้าจะบอกข้อมูลเพิ่มอีกที นับจากตอนนี้ไปท่านมีเวลาจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้เพื่อเตรียมตัว”
 
“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อนครับ” ยุนบกอ่านความคิดของเถ้าแก่ฮานออก จึงโค้งคำนับก่อนจะเดินออกไป โดยเขาหวังว่าจะได้ไม่ต้องมองคยองมี
 
ยองจุนยืนรอเขาอยู่ที่หน้าประตู
 
“พี่ซอ ข้ามีบางอย่างอยากจะคุยกับท่าน” เขากล่าวอย่างแผ่วเบา เพราะรู้ว่าเพื่อนเขากำลังว้าวุ่น “ไปที่สวนกันเถอะ”
 
พวกเขาเดินผ่านซุกควอนและจองฮยางที่นั่งคอยอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ซึ่งสังเกตเห็นอาการโกรธจากท่าเดินที่เย็นชาของยุนบก ขณะที่เดินตามยองจุนออกไป มีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่ช่วยนำทาง
 
“ทำไมพวกเราต้องออกมาคุยข้างนอกนี้ด้วย” ยุนบกกล่าวเมื่อพวกเขามาหยุดอยู่ที่สระบัว
 
“พี่ชาย ที่นี่ท่านสามารถด่าว่าข้าได้อย่างเต็มที่” ยองจุนกล่าวขึ้น รู้ดีว่ายุนบกจะต้องโกรธอย่างแน่นอน เขาพร้อมจะรับมือกับพายุที่กำลังจะถาโถม
 
“ทำไมท่านไม่ทำให้มันง่ายขึ้นกว่านี้ล่ะ ทำไมท่านคาดหวังให้ข้าเปล่งคำด่าว่าท่านออกมามากกว่าผลสำเร็จที่ได้ล่ะ ทำไมท่านไม่ใช้กระบี่จ่อที่ลำคอของข้าล่ะ มันไม่ง่ายกว่าหรือ”
 
“ข้ารู้ว่ามันไม่ยุติธรรมต่อท่าน...”
 
“ท่านเพิ่งจะ...โยนข้าลงไปในหลุม” ความโกรธครอบงำยุนบก รู้สึกว่าถูกต้อนให้จนมุม “ให้ข้าเป็นคนกำหนดโชคชะตาของผู้อื่นรึ”
 
“พี่ซอ ข้าเสียใจจริงๆ แต่มันไม่เหลือเวลาอีกแล้วเพราะท่านจะต้องออกเดินทางไปเร็ววันนี้ ข้าต้องเตรียมความพร้อมให้กับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ใช่การกล่าวโทษพาดพิงท่าน พวกเราแค่ต้องการแก้ไขความผิดพลาดที่ได้ทำต่อนาง เราหวังว่านางจะตระหนักถึงความผิดพลาดของนางเองและกลับมาเข้มแข็งพอที่จะทำให้ตัวนางเองหลุดพ้นจากมันได้” ยองจุนเข้าใจในความกังวลและไม่พอใจของยนุบก
 
“ท่านต้องเตรียมการ...” มันเป็นเรื่องน่าขันสำหรับยุนบก เขาจึงหัวเราะออกมา “ท่านต้องเตรียมการว่ามันอาจจะจบแบบเศร้าโศกงั้นรึ ท่านจะเตรียมการให้พร้อมสำหรับตอนจบของชีวิตที่ยังไม่เกิดขึ้นได้อย่างไร ท่านเคยรู้สึกว่ามีใบมีดจ่อที่คอท่านหรือไม่ น้องชาย ท่านเคยก่นด่าตัวเองที่เคยเป็นเหตุให้ชีวิตถึงคราแตกดับหรือเปล่า? ท่านเคยมั้ย?”  แววตาของยุนบกสะท้อนความมืดมนขณะที่มองหน้ายองจุน “ข้าเกรงว่า ท่านไม่รู้หรอก สำหรับท่านแล้วยังมีอะไรที่จำต้องเก็บงำ”
 
“ข้าไม่เคยหรอก พี่ซอ” น้ำเสียงของยุนบกดูเศร้าโศกและเจ็บปวด ทำให้ยองจุนถึงกับน้ำตาคลอ พวกเขาเห็นแก่ตัวมากเกินไปที่หลอกใช้เพื่อนของเขา “แต่พวกเราไม่มีทางเลือก ท่านพ่อและข้าได้ปรึกษาแล้วก็เห็นสอดคล้องกันว่านี่เป็นทางเดียวที่จะบังคับให้นางได้เผชิญกับความจริงซะที ได้โปรด ให้โอกาสนางด้วยเถอะ” เขาอ้อนวอนหวังว่ายุนบกจะเข้าใจ
 
“ข้าต้องขอโทษด้วย ข้าขอตัวก่อน” เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้เขาต้องการไปที่ไหนก็ได้เพียงลำพัง จองฮยางเพิ่งออกมาที่ระเบียง พร้อมกับเห็นเขาเดินออกไปที่ประตูด้านหน้า แล้วยองจุนก็รีบตามมา นางจึงรีบสวมรองเท้าก่อนจะเข้าไปรั้งยองจุนเอาไว้
 
“ได้โปรดปล่อยให้เขาออกไปเถิดค่ะ” นางกล่าวก่อนจะรีบวิ่งตามยุนบกออกไป ยองจุนหยุดอยู่ที่ประตูแล้วมองพวกเขาหายไป เขาเดินกลับมาที่ระเบียงก็พบซุกควอนคอยอยู่
 
“ข้าคิดว่าพวกเขาคงจะตรงกลับบ้านหลังจากที่...ไปถึงยังที่ที่กำลังไปอยู่ตอนนี้” ยองจุนกล่าวอย่างเศร้าใจ
 
“พวกเขาคงจะทำเช่นนั้น” ซุกควอนพยักหน้า “งั้นข้าจะพาพาโดกลับบ้านก่อน”
 
“อาจารย์ซุกควอน พวกข้าทำผิดหรือเปล่าครับ?” ยองจุนสงสัยว่าเขาคิดอย่างไรกับเรื่องนี้
 
“ที่สุดแล้ว มันขึ้นอยู่กับทางที่เราเลือก” ซุกควอนกล่าวสั้นๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในตัวบ้าน แล้วมองอย่างไม่สบายใจไปทางระเบียงที่มียองจุนนั่งสิ้นหวังกับผลที่เลวร้ายกว่าที่เขาคิด
 
จองฮยางเดินตามยุนบกไปอย่างเงียบๆ นางรู้ว่ายุนบกต้องการอยู่เพียงลำพัง พวกเขาเดินไปถึงถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ก่อนจะเดินแยกไปทางประตูตะวันออก ยุนบกเดินไปตามสัญชาตญาณโดยไม่รู้ว่าเขาจะเดินไปที่ใด ท้ายที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่ลำธารก่อนถึงโรงงานกระดาษ เมื่อเห็นว่าเขาหยุดยืนอยู่ที่นี่นานมาก นางคิดว่าควรจะเรียกเขาได้แล้ว และเขาก็หันกลับมามองนางทันที
 
“เจ้ารู้ไหมว่ามันเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะเยาะมากเลย” เขากล่าวอย่างเศร้าใจ “ถ้าข้าเกิดทำผิดพลาด นางอาจต้องตายและทั้งหมดก็เป็นเพราะนางไม่น่าจะมาหลงรักข้าเลย”
 
“แต่ท่านไม่ลองคิดดูว่าทำไมนางถึงได้เลือกเดินทางนี้ล่ะคะ” นางโอบกอดเขาอย่างเข้าใจความลำบากของยุนบก “ไม่ผิดที่จะรักใครสักคน แต่มันก็มีไม่ใช่หรือที่จะไม่ยอมรับความจริง เช่นนั้นท่านก็น่าจะช่วยให้นางมองเห็นความจริง ไม่ใช่หรือคะ”
 
“แล้วข้าจะช่วยให้นางมองเห็นความเป็นจริงได้อย่างไร ข้าไม่รู้ว่าจะทำยังไงจริงๆ” เขาถอนหายใจ “ข้าเกรงว่านางจะเข้าใจว่าทุกอย่างที่ข้าพูดและทำนั้น เป็นการแสดงความสนใจในตัวนาง”
 
“ข้าคิดว่าเถ้าแก่ฮานทำถูกแล้วค่ะ ท่านลองคิดดูนะคะ นางเพียงคิดแค่ว่าการพบท่านเพียงชั่วครู่โดยความบังเอิญ เพียงชั่วขณะที่พบกัน การชำเลืองมอง คำพูดและการสัมผัสคือการพบกันของหนุ่มสาว” นางยิ้มขณะนึกว่าพวกเขาเจอกันได้อย่างไร “เพียงแค่นี้ก็พอที่จะสร้างความประทับใจระหว่างพวกเขาแล้ว เพียงแค่ได้มองอีกฝ่ายก็อาจจะทำให้สุขหรือทุกข์ ซึ่งก็เหมือนกับเรื่องระหว่างท่านกับนาง นางต้องการจะพูดคุยกับท่าน แต่ท่านกลับแสดงออกว่ากลัวที่จะพูดคุยกับนาง นั่นไม่ได้เกิดมิตรภาพจริงระหว่างกันกับท่าน ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงสมมติเหตุการณ์ที่นางอยากให้เป็นขึ้นมา ถ้านางรู้จักตัวตนของท่าน สิ่งเหล่านี้ก็จะเข้าไปแทนที่สิ่งที่นางสร้างขึ้นมา และนางก็จะมองเห็นถึงความจริง”
 
“มันก็เป็นเหตุเป็นผลดี แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นทั้งหมดล่ะ” เขาหลับตาขณะที่นางนวดไหล่ให้
 
“มันขึ้นอยู่กับตัวของท่านเอง ท่านต้องทำให้นางรับรู้ว่าสิ่งที่ท่านสามารถมอบให้นางได้มีเพียงมิตรภาพเท่านั้น แต่ถ้าท่านยังคงเลี่ยงไม่ยอมพบนางต่อไป มันก็ยิ่งทำให้นางจมอยู่ในภาพลวงตานั้นค่ะ” นางพาเขาเดินไปยังทางกลับบ้าน “ท่านต้องพยายาม เพื่อตัวนางและตัวท่านเอง”
 
“อืม...” เขาพึมพำ เขารู้สึกดีขึ้นเมื่อฟังที่นางพูด เขาถอดหมวกและเสื้อนอกไว้ที่ห้องด้านหลัง แล้วตอนนั้นเองเขาก็นึกได้ว่าลืมใครบางคนไป “ข้าคิดว่าพาโดคงจะอยู่กับอาจารย์ซุกควอนนะ”
 
“ใช่ค่ะ ข้าคิดว่าท่านดูว้าวุ่นมากและย่ำเท้าออกจากบ้าน ดังนั้นข้าจึงฝากให้เขาดูแล” นางยิ้ม พอใจที่ได้เห็นว่าเขารู้สึกดีขึ้น แต่เขากลับถอนหายใจ
 
“เจ้าอ่านข้าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่ข้าก็ยังไม่ชอบความคิดที่จะให้เจ้ากลับไปเป็นนางโลมอีกครั้งอยู่ดี” เขาบ่นขณะคลี่ฟูกนอน
 
“มันช่วยไม่ได้ที่เราเหมาะสมที่จะทำงานนี้ นางโลมจะรับรู้เรื่องราวจากบรรดาแขกได้มากกว่าและไปไหนมาไหนสะดวกมากกว่า แต่ข้าก็มีเพียงอันตรายเพียงน้อยนิดค่ะ” นางหยุดหวีผม “เมื่อเทียบกับท่านแล้ว ภาพเขียนจะสามารถสื่อถึงตัวท่านได้”
 
“ข้ารู้” เขามองไปที่หวี แล้วเขียนภาพนางกำลังหวีผมเบาๆ “ถ้าข้าเขียนภาพหยาบๆ ก็จะไม่มีใครรู้ตัวจริงของข้าหรอก แล้วข้าจะแปรงผมให้เจ้าได้ไง ในเมื่อเจ้าพิงข้าอยู่เช่นนี้” เขาบ่นขณะที่พักผ่อนอยู่ด้วยกัน
 
“ขอโทษค่ะ ข้าแค่ไม่อยากให้ท่านคิดมาก” นางพูดขณะถักผมเปียอย่างคล่องแคล่ว
 
“ข้าคิดว่าพรุ่งนี้เราค่อยเก็บของก็แล้วกัน...และบอกพาโดว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาเอนตัวลงนอนก่อนจะถอนหายใจ
 
“ตอนนี้เขาก็กังวลไปเรียบร้อยแล้วค่ะ” นางดับไฟตะเกียงน้ำมัน
 
“ข้าคงจะคิดถึงเขา ก็ได้แต่หวังว่าเขาจะปลอดภัยหากอยู่ที่นี่”
 
“ก็คงจะเป็นเช่นนั้นค่ะ หากเขาไม่ตกต้นไม้ลงมาซะก่อนนะ”
 
รุ่งเช้าพาโดรีบไปหาจองฮยางทันที เขากังวลมากเนื่องจากเมื่อคืนเขาไม่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน ยุนบกเดินไปที่บ้านเอยองที่อยู่ในเขตบ้านของคนงานเพื่อนัดแนะบางอย่าง แต่ก็ต้องแปลกใจที่เอยองตอบรับดูแลพาโดอย่างง่ายดาย เสร็จธุระแล้วยุนบกก็เดินไปยังบ้านของซุกควอน ประตูถูกเปิดออกอยู่ก่อนแล้ว เขาเห็นอาจารย์ถูกห้อมล้อมไปด้วยหีบห่อ ทั้งถุงกระสอบและหีบห่ออีกมากมายที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น
 
“เข้ามาซิ” เขากล่าวเมื่อสังเกตเห็นยุนบก “ข้ากำลังจะไปหาเจ้าอยู่พอดี เราจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ข้ากับจองฮยางจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ ส่วนเจ้ากับคยองมีจะออกเดินทางในอีกวันถัดไป เถ้าแก่ฮานอยากให้เจ้าไปคุยรายละเอียดในคืนนี้ แล้วเจ้าจะให้พาโดอยู่ที่ไหน”
 
“ครับ ก่อนหน้านี้ ข้าไปคุยกับเอยองมาแล้ว” เขาปิดประตู แล้วจะขยับพวกหีบห่อให้ออกไปข้างๆ เพื่อให้เขาสามารถนั่งตรงข้ามซุกควอนได้แล้วกล่าวออกมาอย่างลังเลใจ “อาจารย์ ถ้าหากผลมันไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง ท่านช่วยดูแลพาโดแทนข้าจะได้ไหมครับ”
 
“เอาอีกแล้ว...” ซุกควอนถอนหายใจ หวังให้ยุนบกเลิกคิดในแง่ร้ายซะที “เจ้าเชื่อได้เลยว่าข้าจะทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน แล้วเจ้าบอกพาโดแล้วหรือยัง”
 
“ข้ายังไม่ได้บอกครับ”
 
“งั้นก็รีบไปบอกซะ อย่างไรก็ตาม...”
 
“ทำไมท่านไม่เตือนข้าเกี่ยวกับเจตนาของเถ้าแก่ฮานล่ะครับ” ยุนบกพูดแทรกขึ้นมา “เขาคงคุยเรื่องนี้กับท่านแน่นอนครับ”
 
“ใช่เขาพูดกับข้า” ซุกควอนถอนหายใจ รู้สึกเสียใจต่อยุนบก “เขาบอกข้าในสิ่งที่เจ้าบอกยองจุนและเจ้าก็เป็นฝ่ายถูก เถ้าแก่ฮานคิดว่าเจ้าเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้นางเผชิญกับความจริงด้วยตัวเองได้ เถ้าแก่ฮานรู้ว่าเจ้าเป็นกุญแจ มีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้นางเปิดรับความคิดได้ เขาบอกว่าจะมอบทางเลือกให้แก่เจ้า แล้วข้าก็รู้ว่าเจ้าจะเลือกทางไหน ด้วยความเมตตาของเจ้า เจ้าคงไม่ต้องการให้นางไปอยู่ที่สำนักชีหรอก แต่ข้าก็รู้ว่าเจ้าคงต้องโกรธมากที่ต้องถูกบังคับให้เลือกทางเดินให้กับใครสักคนเพราะเจ้าอาจจะเลือกทางที่ผิดก็เป็นได้”
 
เขายื่นมือไปจับที่ไหล่ของยุนบก
 
“ยุนอา” ยุนบกมองไปที่ซุกควอนยืนอยู่ ซุกควอนไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน “เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เจ้ามักจะเกิดความกลัว แต่ก็เอาชนะมันได้เสมอ นั่นเป็นเพราะเจ้าใช้ความกลัวมากกว่าที่จะปล่อยให้ความกลัวครอบงำเจ้า ให้มันช่วยนำทางเจ้า เจ้าเข้าใจที่ข้าพูดไหม”
 
ความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าของซุกควอนว่าเขาสามารถทำให้มันสำเร็จลุล่วงได้ นั่นทำให้ยุนบกทำได้เพียงพยักหน้าน้อยๆ กลับไป
 
“ดีมาก” ซุกควอนปล่อยมือแล้วมองไปรอบๆ ถุงนั้นอยู่ที่ไหน “ที่เจ้าต้องมาร่วมงานนี้ก็เพราะ ต้นเหตุของรอยรั่วก็คือหนึ่งในคณะบริหารกองทัพ ผู้ส่งสารที่หักหลังพวกเราก็คือพ่อค้าที่ชื่อ ชอ นัมฮง ซึ่งเป็นลูกค้าประจำที่หอนางโลม เราสืบมาแล้วว่านัมฮงรับช่วงต่อมาจากใครบางคนที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีก่อน”
 
“แล้วทำไมไม่จับเขามาสอบสวนเลยล่ะครับ ไม่เห็นต้องทำอะไรที่ซับซ้อนอย่างนี้เลย”
 
“อ่า ก็เพราะเราสงสัยว่าถ้าเกิดเขารู้วิธีการสื่อสารของพวกสอดแนมจริงๆ เขาก็จะมีหน้าที่นำสารจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ถ้าในฐานะพ่อค้าเครื่องเรือน มันก็จะง่ายต่อการส่งข้อความและเขาก็ยังได้รับการว่าจ้างเป็นพิเศษกับทางสำนักราชวังด้วย สิ่งที่เราต้องการคือการค้นหาผู้ส่งสารคนนี้และรูปแบบการสื่อสารของพวกเขา”
 
“แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อครับ หากค้นพบแล้ว”
 
“เราจะหาเส้นทางการส่งข่าวไปยังคนอื่นๆ ก่อนสกัดกั้นแล้วสับเปลี่ยนเป็นข่าวปลอมแทน”
 
“แล้วเบาะแสทั้งหมดอยู่นี่นางโลมอย่างนั้นหรือครับ” ยุนบกแปลกใจว่าอาจารย์กำลังหาอะไร เพราะตอนนี้ซุกควอนกำลังยกและโยนพวกหีบห่อ จนทำให้พวกมันไม่เป็นระเบียบยิ่งกว่าเดิม
 
“เราจำกัดวงให้แคบลงเหลือแค่หอนางโลมเฮงซอ (haengsu) เท่านั้น เนื่องจากที่นั่นให้ความบันเทิงแก่ระดับเศรษฐีเท่านั้น พวกเขามีประมาณ 10 คนได้ แต่เราก็ไม่อาจจะจับตามองพวกเขาได้เมื่อถึงกลางคืน คนที่ดูแลหอนางโลมเฮงซอ ก็คือนางโลมอายุ 29 ปีชื่อ มยองฮี (Myung-hee) ชื่อเสียงของนางดีในบรรดาผู้ชาย โดยเฉพาะกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเขตนั้น ข้าเดาว่านางน่าจะเป็นหัวหน้าใหญ่”
 
“นั่นทำให้สงสัยนางหรือครับ”
 
“แน่นอนที่สุด เราคิดว่าคือนาง แต่ปัญหาก็คือนางมักจะหายตัวไปหลังจากที่แสดงเสร็จ เราพยายามตรวจสอบแขกทุกคนของนาง แต่เราก็ไม่มีกำลังคนพอที่จะติดตามพวกเขา ที่คืนหนึ่งจะมีมากกว่า 3 คน นางจะไม่แสดงหรือพูดคุยกับแขกคนไหนนานๆ เว้นแต่นัมฮง แต่นางก็ไม่ได้แสดงให้เขาดูตามลำพัง เพราะเขาจ่ายเงินดีทำให้เป็นที่นิยมในบรรดานางโลม”
 
“แล้วคนงานที่มากับเรือสินค้าจากญี่ปุ่นล่ะ”
 
“นางไม่ได้ให้ความบันเทิงแก่พวกเขาเลย”
 
“นางได้รับข่าวอย่างไรกันนะ หรือท่านก็ไม่รู้เช่นกันครับ?”
 
“เราก็คิดเรื่องนี้ไม่ตกเหมือนกัน” ซุกควอนถอนหายใจอย่างหนักพร้อมกับส่ายศีรษะ
 
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มสังเกตจากอะไร” ยุนบกลูบกรามขณะพยายามคิด
 
“โดยทั่วไปเราจะสังเกต ท่าทีของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาทำ หรือแม้แต่คำพูดของพวกเขา เจ้าอาจจะสังเกตสิ่งที่พวกเรามองข้ามไปได้จากภาพเขียน เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ไปหรอก เอ่อ ใช่ จองฮยางจะใช้ชื่อใหม่ว่าซอนยุน (Sun-Yun) หากเจอกัน เจ้าก็อย่าทำอะไรให้ความลับถูกเปิดเผยล่ะ”
 
“สิ่งที่ข้าต้องทำก็คืออยู่จนถึงฤดูใบไม้ร่วงเพื่อค้นหาวิธีการทำงานของพวกสอดแนม แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากข้าทำไม่สำเร็จ พระราชาจะมีงานอื่นให้ข้าทำอีกไหมครับ?” เขาสงสัย
 
“เจ้าไม่ต้องทำอะไรอีก นอกจากกลับบ้านพร้อมกับจองฮยาง” ซุกควอนกล่าวขึ้นมาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
 
“ได้ยินเช่นนี้ ข้าค่อยเบาใจหน่อยครับ” เขารู้สึกโล่งอก เพราะหากเขาล้มเหลว เขาก็ไม่ต้องทำอะไรนอกเหนือจากนี้ แต่ทำไมเขาอยากให้มันล้มเหลวล่ะ
 
“อ่า เจอแล้ว อยู่นี่เอง” ซุกควอนหยิบถุงที่ซ่อนอยู่ใต้ถุงกระสอบแล้วเขย่าป้ายประจำตัวออกมา “ข้าทำมันขึ้นมาเอง คิดว่ามันน่าจะดีกว่าพกอันนี้แทนอันเดิมที่เจ้ามีอยู่ตอนนี้”
 
ยุนบกมองไปที่แผ่นป้าย : อาห์น คา-กวอน, 1758, บัณฑิต (Ahn Ka-gwon) เขาปลดป้ายอันเดิมที่ห้อยอยู่ที่พู่ตรงเอวออก แล้วห้อยอันใหม่แทน
 
“นอกจากนี้ พระราชายังมีแผนพิเศษอีกแผนหนึ่ง” ซุกควอนกล่าวเพิ่ม
 
“แผนคืออะไรครับ” ยุนบกรู้สึกกังวล
 
“ให้อาจารย์คนเก่าของเจ้าได้พบกับเจ้า”
 
ยุนบกกะพริบตา อาจารย์ทันวอนน่ะรึ?
 
“แล้ว?” เขาไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกอย่างไร
 
“พระราชาให้อิสระเขาในการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ เพื่อให้เขียนภาพภูเขาหรืออะไรทำนองนั้น เขาขึ้นเหนือล่องใต้ไปทั่วเพื่อหาข่าวของเจ้า แต่แท้จริงแล้วข้าคิดว่า เขาลองทำสิ่งที่เจ้าเคยทำเมื่อ 13 ปีก่อน...ที่สร้างปัญหาหนักอกหนักใจสำหรับหัวหน้าหน่วยองครักษ์”
 
ยุนบกไม่สามารถช่วยอะไรได้กลับหัวเราะ เขานึกถึงวันเวลาเก่าๆ ที่อยู่กับอาจารย์ทันวอน ที่สร้างแต่เรื่องยุ่งๆ
 
“ข้าแปลกใจนัก ไม่รู้ว่าใครเรียนรู้จากใครกันแน่ แต่ในกรณีนี้ ข้าไม่รู้ว่าพวกสอดแนมจะรู้ในสิ่งที่เขาทำหรือเปล่า” ซุกควอนกล่าวต่อ “แต่อาจารย์เก่าของเจ้าได้รับคำสั่งว่าเมื่อถึงกลางฤดูร้อนให้ไปที่เมืองปูซาน”
 
“เขาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการนี้หรือครับ”
 
“ใช่ เราต้องการรู้ว่าพวกสอดแนมเคลื่อนย้ายข่าวสารได้อย่างไร แต่ไม่ว่าเราจะได้ข้อมูลจากนางหรือไม่ เจ้าจะได้พบกับเขาอีกครั้ง”
 
“มันไม่เสี่ยงหรือครับ ถ้ามีคนสะกดรอยตามมาล่ะ” ยุนบกนึกภาพที่สมุนของพระอัยยิกาจองซุนจับตัวอาจารย์ของเขาได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาหรือคนอื่นๆ ก็ต้องตายกันหมด เขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกนำตัวกลับฮันยางแน่นอน
 
“คนสะกดรอยเขางั้นรึ? เราคิดเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นที่นัดพบจึงไม่ได้อยู่ในเกาหลี” ซุกควอนพูดให้กำลังใจ พร้อมกับโบกมือขจัดความกังวลของยุนบก
 
“ท่านไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม...ครับ” ยุนบกจ้องด้วยความประหลาดใจ “ท่านน่ะ”
 
“เมื่อเจ้าไม่ได้ไปทำงานนี้พร้อมกับเขา เขาจึงไปขอพระราชาให้ทรงอนุญาตให้ได้พบเจ้า แล้วพระองค์ก็ทรงอนุญาต”
 
“ข้าเข้าใจแล้วครับ”
 
“โอ้ ใช่แล้ว บ้านเจ้าจะต้องปิดร้าง ข้าอยากให้เจ้าย้ายสิ่งของที่สามารถเชื่อมโยงถึงตัวจริงของเจ้าออกไปให้หมด ทั้งกระบอกภาพวาด ตราประทับหรืออะไรก็ได้ที่เจ้านึกออก อย่าปล่อยพวกของเหล่านี้ไว้ เอาไปเก็บซ่อนไว้ในที่ที่ข้าสร้างไว้ให้กับเจ้า และถ้า    จองฮยางมีอะไรที่สามารถสื่อถึงตัวเจ้าก็ให้ทำเช่นเดียวกัน งั้นก็ตกลงตามนี้...ข้าคิดว่าพาโดกำลังตามหาเจ้า”
 
เด็กชายอาจจะได้ยินเสียง ยุนบกลุกยืนและมองไปที่ประตู
 
“ท่านพ่อ ท่านแม่อยากพบท่านพ่อน่ะครับ”
 
“งั้นข้าขอตัวก่อน ไว้เจอกันนะครับ อาจารย์” เขาตะโกนบอกก่อนจะสวมรองเท้า ข้าวของมากมายถูกจัดเป็นกลุ่มๆ อยู่ที่ประตูหน้าบ้าน นางทำงานได้เร็วจริงๆ เมื่อเข้าไปในบ้านจองฮยางกวักมือเรียกให้เข้าไปที่ห้องด้านหลัง เขาจับมือพาโดเดินไปหานาง นางมอบภาพเขียนที่ม้วนไว้แล้วส่งให้เขา และยังมีภาพเขียนอีกอันคลี่ออกเล็กน้อย เขาเชื่อว่ามันน่าจะเป็นภาพเขียนที่เขาเขียนให้กับนาง หลังจากเขาเมาแล้วหลับอยู่ที่ห้องของนางเมื่อตอนอยู่ที่ฮันยาง
 
“ข้าคิดว่าท่านน่าจะเก็บมันให้ดี ข้าไม่อยากให้มัน...” นางชำเลืองไปที่พาโด “หายค่ะ”
 
“อ่า อาจารย์ซุกควอนเพิ่งจะบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้” เขาม้วนมันกลับ เขาค่อยกลับมาทำทีหลัง ตอนที่ไม่มีพาโดอยู่ใกล้ๆ
 
“ข้ายังไม่ได้บอกเขาเลย เขาถามข้าตลอดช่วงเช้าเลยค่ะ” จองฮยางผงกศีรษะไปทางพาโด
 
“นั่งลงก่อน พาโด” ยุนบกมองไประหว่างตัวเขากับจองฮยาง เด็กชายทำตามอย่างรวดเร็ว มองไปที่พ่อและแม่อย่างกังวล
 
“พวกท่านจะไปที่ไหนขอรับ” เขาถาม
 
“แม่ของเจ้าและพ่อจะต้องเดินทางไปทำการค้ากับท่านลุงซุกควอนในวันพรุ่งนี้ มันเป็นการเดินทางที่นาน ดังนั้นเราจึงนำเจ้าไปด้วยไม่ได้ เจ้าจึงต้องอยู่กับท่านน้าไรราง (Ry-Rang) แทน”
 
“แล้วท่านพ่อจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ” เด็กชายอึ้งไปชั่วขณะ พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อในดวงตาน้อยๆ นั้น พ่อและแม่ไม่เคยปล่อยเขาไว้ตามลำพังมาก่อน เมื่อไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ เขาจึงรู้สึกกลัว
 
“แน่นอน พ่อและแม่ต้องกลับมา” ยุนบกยีผมเด็กชายเล่น “พูดง่ายๆก็คือ พ่อและแม่จะกลับมาหลังสิ้นฤดูร้อน”
 
“ทำไมนานเช่นนั้นล่ะครับ” เด็กชายร้องไห้ แล้วกระโจนเข้าหายุนบก “พวกท่านอย่าไป ได้ไหมครับ”
 
“พ่อและแม่ต้องไป มันเป็นงานที่สำคัญมาก” จองฮยางกล่าว ตบที่หลังของพาโดเบาๆ  
 
“แล้วเจ้าเก็บของเสร็จหรือยังล่ะ?” ยุนบกถามด้วยเสียงที่ฟังไม่ชัด เพราะเด็กชายกอดคอเขาแน่น
 
“ข้าเก็บเสร็จแล้วค่ะ พาโดแล้ววันนี้เจ้าอยากทำอะไรล่ะ”
 
“พวกเราไปในเมืองกันดีไหม?” ยุนบกถามพาโดที่เอาแต่ร้องไห้ “งั้นตอนนี้ ให้แม่ของเจ้าพาไปล้างหน้าก่อน แล้วพวกเราค่อยออกเดินทาง”
 
เขาดึงแขนพาโดออกแล้วให้จองฮยางพาออกไปที่ห้องครัว ก่อนจะปิดประตู แล้วเดินไปทางตะวันตกของมุมห้องแล้วกดไปที่พื้น แล้วแผ่นไม้สี่เหลี่ยมยาวก็เลื่อนลงไปอีกด้าน เขาค่อยๆหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะมองเห็นช่องที่ซ่อนอยู่ เขาดึงกระบอกภาพวาดออกมา แล้วใส่ภาพเขียนของจองฮยาง ตามตราประทับเข้าไป แล้วใส่ไปในช่องเหมือนเดิม อ่า...นั่นมันป้ายประจำตัวอันแรกของเขา เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วเช็ดทำความสะอาดตรงที่สลักชื่อ ซิน ยุนบก, 1758, บัณฑิต ซึ่งเขาได้รับมันเมื่อเขาอายุได้ 16ปี เป็นสิ่งที่แสดงชื่อและระบุถึงตัวเขา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว เขายิ้มเมื่อหวนนึกถึงความทรงจำเก่าๆ ตอนนี้มันแทนที่ด้วย ‘ซอยอง’ แล้วตราประทับล่ะ? ไม่ซิ เขาอาจต้องใช้มันก็ได้ หนังสือที่เขียนด้วยลายมือของพ่อ เขาใส่เข้าไปในช่อง แล้วนำแผ่นไม้สี่เหลี่ยมมาปิดเหมือนเดิม เมื่อพอใจแล้ว เขาก็เดินออกมาพบจองฮยางและพาโดที่ยังคงสูดน้ำมูกอยู่    
 
พวกเขาใช้เวลาทั้งวันอยู่ในเมือง โดยกิจกรรมมากมายทำให้พาโดนั้นลืมเรื่องเศร้า แล้วกลับมาร่าเริงอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการชนไก่ที่ตลาด หรือแม้แต่ที่จองฮยางไม่บ่นที่ยุนบกซื้อลูกอมและขนมให้กับพาโด มีแค่บ่นเล็กๆน้อยๆ เรื่องที่พาโดต้องทำตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ เมื่อถึงกลางคืน ก็อนุญาตให้พาโดฟังคายากึมจนดึกได้ เมื่อเห็นว่าพาโดเพลียแล้ว ยุนบกก็อุ้มเขาไปที่เตียงนอน
 
“จำไว้ว่าท่านต้องดูมันทุกๆ คืน” จองฮยางดึงหนวดปลอมของยุนบกออกเบาๆ ขณะที่เอนตัวลงนอนในความมืด “มันอาจจะหลุดก็ได้”
 
“ข้าจะคอยตรวจดูมัน แต่มันไม่หลุดง่ายๆ หรอก ข้ายังจำได้เมื่อตอนที่อยู่ฮันยาง อาจารย์ทันวอนดึงหนวดของข้าออก หลังจากที่เขาจับได้ว่าข้าแอบขายภาพ ข้ารู้สึกว่ามันเจ็บมากๆ ข้าเลยสาบานว่าจะไม่ใส่มันอีก แต่ตอนนี้ใส่มันอีกครั้งเพราะมีเหตุผลจำเป็น”
 
“อ่า นั่นเป็นเพราะท่านขายภาพเพียง 5 นยางใช่ไหมคะ”


“ใช่ อาจารย์ทันวอนโกรธข้ามาก เฮ้...” ยุนบกยิ้มเมื่อนึกถึงวันวาน “ข้าลืมบอกเจ้า...”

“เรื่องอะไรคะ” นางลูบรอยแผลเป็นที่มือของเขา

“อาจารย์ทันวอนจะอยู่ที่ปูซานเมื่อถึงกลางของฤดูร้อน อาจารย์ซุกควอนบอกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการนี้ เขาได้ร้องขอและได้รับอนุญาตจากพระราชาให้มาพบข้าได้”

“แล้วท่านรู้สึกอย่างไรคะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข้าก็ต้องรู้สึกดีใจที่ได้พบอาจารย์อีกครั้ง”

“ท่านรักเขาไหมคะ”

“ในฐานะอาจารย์ เพื่อน พ่อ...” ยุนบกค่อยๆ ไล่ลำดับ

“ในฐานะคนรัก”

“...ถ้าหากให้ข้าเดานะ ในช่วงที่อยู่ที่บ้านหลังเก่าเพื่อวาดภาพองค์ชายซาโด ข้าคือผู้หญิง มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ข้ารู้สึกว่าข้าคือผู้หญิง มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากสำหรับข้า รู้สึกแปลกๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์”

“แล้วทำไมท่านถึงจากมา หลังจากที่แก้แค้นสำเร็จแล้วล่ะคะ? ท่านน่าจะสร้างครอบครัวกับเขา”

“ไม่หรอก เมื่อมองย้อนกลับไป ตอนนั้นมันสับสนมาก ข้าอันตรายเกินไปที่จะตั้งหลักปักฐานกับใครสักคน นอกจากนี้ข้าก็ยังไม่พร้อม เหมือนกับที่เจ้าไม่ควรอยู่กับข้า ข้าก็ไม่ควรอยู่กับเขาเช่นเดียวกัน ข้าจึงจากเขามา ทิ้งไว้เพียงรูปเหมือนของข้าเท่านั้น...แล้วเจ้า...ไม่สบายใจกับเรื่องความรู้สึกของข้าที่มีต่อเขาหรือเปล่า”

“ไม่เลยค่ะ หัวใจก็เหมือนกับบ้านที่มีหลายห้อง แต่บางครั้งข้าก็มีหึงหวงบ้างเช่นกัน” นางยอมรับ “แต่ข้าเข้าใจว่าทำไมท่านจึงรู้สึกเช่นนั้นค่ะ”


พิสูจน์อักษรโดย Zigzag XL




Create Date : 16 กันยายน 2553
Last Update : 12 ตุลาคม 2553 13:35:39 น. 61 comments
Counter : 2187 Pageviews.

 
รอมานานในที่สุดก้อได้อ่านแล้ว มาคอมเมนท์ให้ก่อนครับเด่วจะกลับไปอ่านให้ละเอียดอีกรอบ ขอบคุณในความสวยงามของอักษรที่ช่างแปลทุกคนได้แปลให้พวกเรานะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับผม


โดย: เกษตรศิลป์ IP: 58.11.8.162 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:12:50:45 น.  

 
ตอนที่ 2 มาแล้วอ่านกันจุใจไปเลย

ขอบคุณช่างแปลและบุคคลที่รีไรท์ทุกท่าน ที่ทำให้เราได้อ่านกัน ขอบคุณมากๆๆจ้า


โดย: phenixepp IP: 61.90.90.46 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:13:40:07 น.  

 
ขอบคุณท่านหลวงแพ่งที่แปลตอน1-2
ขอบคุณท่านซิก ที่แปลตอนนี้ ยาวสะใจจริงๆ

ขอบคุณช่างแปลและพิสูจน์อักษรทุกท่าน
ที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่านกัน ดีใจสุดๆที่ได้อ่านต่อค่ะ


โดย: สุเกียง IP: 125.24.111.138 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:13:50:55 น.  

 
มาแล้วตอนใหม่ สนุกมากๆสมกับที่ตั้งตารอ


ต้องขอขอบคุณทีมแปลทุกท่านมากๆ
ที่สละเวลาแปลมาให้เราได้อ่านกัน

^_____^ ขอบคุณมากๆ


โดย: mai.ka IP: 222.123.216.48 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:17:53:32 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาแปล และเรียบเรียง ให้อ่านนะเจ้าค่ะ ขอบคุณจริงๆ เจ้าค่ะ^^


ปล..ท่านสุคะวันนี้ไปซื้อแว่นกันแดดกันลมจากร้านที่ท่านสุแนะนำมาแล้วค่ะ

รุ่นที่ท่านสุฯ แนะนำเค้าบอกว่าของหมดค่ะเป็นที่นิยมมากเลย ของจะเข้ามาใหม่เดือนหน้า น้ำก็เลยลงชื่อฝากเบอร์โทรไว้ถ้าของมาให้โทรบอกจะมาลองใหม่ค่ะ

แต่...วันนี้ก็ซื้ออีกรุ่นหนึ่งมาค่ะแบบติดไม้ติดมือก็สวยดีเหมือนกันค่ะเป็นสีดำเห็นเค้าบอกว่ารุ่นใหม่แต่ว่าใส่แล้วติดหน้าดีลมไม่ค่อยเข้าค่ะแล้วก็ไม่หลวมไปก็เลยซื้อมาไว้ก่อนกะว่าถ้ารุ่นท่านสุฯ มาเดือนหน้าจะเข้าไปลองใหม่อีกค่ะ ดีนะคะที่ท่านสุฯ แนะว่าให้ไปลองใส่เพราะลองหมดตู้เลยค่ะ ใส่ได้แค่ไม่กี่แบบ หลวมไปบ้าง ไม่พอดีบ้าง ใส่แล้วไม่เข้ากับหน้าบ้าง T_T จำชื่อรุ่นไม่ได้แล้วแห่ะ ไว้วันที่ไปทริปจะใส่ไปเจ้าค่ะเค้าแถมกล่องแล้วก็เลนส์ใสไว้ให้เปลี่ยนได้ด้วยค่ะ มีซองใส่แว่นด้วยค่ะ ลด20% อย่างที่ท่านสุบอกจริงๆ ด้วยเย้.. แต่จักรยานและของแต่งที่ร้านนี้รู้สึกว่าจะแพงกว่าโปรไบร์คหมดเลยค่ะ จักรยานก็ไม่มียี่ห้อ trek เลยค่ะ -_-"


โดย: น้ำ IP: 27.130.40.175 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:19:52:08 น.  

 
ขอบคุณจ้า อ่านจนมึนเลยซาหนุกมากๆๆๆๆ
ขอบคุณซิกใหญ่ที่กรุณารีไรท์ให้พวกเราได้อ่านกันเพลินๆๆขอบคุณก๊าบๆๆๆๆๆๆ


โดย: oui IP: 115.87.170.111 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:19:58:31 น.  

 
//www.thaicycling.com/board/viewtopic.php?f=7&t=6543

ประกาศเลื่อนกำหนดการ
งานจัดกิจกรรม Bangkok Car Free Day 2010
จากเดิม วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553
เป็น วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2553
เวลา 06.00 – 17.00 น.
ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

เรื่อง เลื่อนกำหนดการจัดกิจกรรม Bangkok Car Free Day 2010
เรียน ผู้ร่วมกิจกรรม Bangkok Car Free Day 2010 ทุกท่าน

ในวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553 ซึ่งเป็นวันกำหนดการจัดกิจกรรม Bangkok Car Free Day 2010กรุงเทพมหานครผู้สนับสนุนกิจกรรมหลัก ไม่สะดวกในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ขอให้เลื่อนกำหนดการจัดกิจกรรม Bangkok Car Free Day 2010 เป็นวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2553 แทน

ทั้งนี้ในส่วนต่างจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ ยังคงจัดกิจกรรมในวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553 เช่นเดิม

สมาคมขออภัยในความไม่สะดวกในครั้งนี้

จึงประกาศเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย


โดย: สุเกียง IP: 125.24.111.138 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:21:59:32 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะท่านสุ ที่นำข่าวสารมาแจ้งให้ทราบ เพราะวันที่ 19 ไม่ว่าง(แอบเสียดายเล็กๆ) ดีใจจังเลื่อนไปวันที่ 26 อิอิอิ ^_^


โดย: ไม้หมอน IP: 192.168.10.42, 118.175.64.80 วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:8:54:54 น.  

 
ขอบคุณ คุณจุงฮา เพ่สามพี และทีมแปลรวมถึงพิสูจน์อักษรท่านซิกใหญ่ด้วยนะค่ะ

สมกับที่รอคอย ลอยคอ มานานแสนนานนนน
หนุกหนานๆ (ได้นึกถึงยุนบกอีกครั้ง) จะรอติดตามอ่านนะค่ะ

เอากะละมังใจไป 2 ใบ ^____^


โดย: ไม้หมอน IP: 192.168.10.42, 118.175.64.80 วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:9:03:04 น.  

 
เข้ามาอ่านรอบ2 ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
คนแต่งฟิคท่านนี้ แต่งได้ดีละเอียดอ่อน
เหมือนอ่านกำลังภายในที่ตื่นเต้น น่าติดตาม
ชอบมากๆ ทำให้ระลึกนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ
ชอบอ่านฟิคเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของตัวละครในเรื่องนี้มากๆ
เรียกว่าชิรีย์ในทีวีจบ แต่แฟนฟิคที่ยังค้างคาใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พยามยามสานต่อให้
เรื่องราวดำเนินไปได้อย่างไม่รู้เบื่อ นับว่าบล๊อคนี้ได้สนาเจตนารมณ์
ของผู้อ่านเป็นไปตามฝันได้จริงๆ

ขอบคุณท่านซิก ที่แปลให้อ่าน และทุกท่านที่ช่วยกันเรียบเรียงพิสูจน์อักษรจนออกมาดูดีน่าอ่าน
ชอบมากๆเลยที่ทุกท่านร่วมด้วยช่วยกันจนได้เนื้อเรื่องที่สวยงามน่าติดตาม

ตอนนี้อ่านจุใจจริงๆ สมกับที่รอคอย..มานานแสนนาน..


โดย: สุเกียง IP: 125.24.156.11 วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:12:30:23 น.  

 
ขอบคุณช่างแปลจุงฮา พี่พี ท่านซิกค่ะ ที่มีงานแปลหนุกๆ ออกมาให้ได้อ่านและติดตามกัน

ขอบคุณท่านสุ ที่แจ้งข่าวการเลื่อนกำหนด คาร์ฟรีเดย์ค่ะ เอ่อ ตามที่ท่านสุุเคยแจ้งว่าวันที่ 26 กย. มีปั่นสำรวจเส้นทางในฝันน่ะค่ะ ไม่ทราบว่ายังคงมีอยู่มั๊ยคะ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้น่ะค่ะ

//www.thaicycling.com/board/viewtopic.php?f=7&t=6493

กำหนดการ

07:00 น. พบกัน ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) กรุณารับประทานอาหารเช้าให้เรียบร้อย
08:00 น. ฟังสรุปเส้นทาง ล้อหมุน
11:00 น. แวะรับประทานอาหาร ณ ห้างโรบินสันรัชดาตามอัธยาศัย (คกคจ.)
14.00 น. กลับมาถึงสวนรถไฟ ร่วมเสวนาเรื่องแนวทางที่จะทำทางจักรยานในฝันเป็นจริง

เส้นทาง

สวนรถไฟ – วิภาวดี-รังสิต – ถนนรัชดาฯ – สะพานพระราม 7 – จรัญสนิทวงค์ – สะพานกรุงเทพฯ – ถนน
พระราม 3 - สวนเบญจกิติ – – ถนนพระราม 9 – ถนนรัชดาฯ –สวนรถไฟ

ท่านสุคะขอถามอีกคำถามนึงค่ะ
คือว่าท่านสุ เฮนี่ น้ำและน้อง ไปปั่นคาร์ฟรี เดย์ ส่วนผอ. และเพื่อนๆ ไปปั่นสำรวจเส้นทางจักรยานในฝัน ถ้าหาผอ. และเพื่อนๆ เปลี่ยนมาปั่นคาร์ฟรีเดย์น่ะค่ะ จะต้องลงทะเบียนด้วยมั๊ยคะ

ปล. วันที่ 26 นี้อยากให้ทุกท่านมาปั่นงานคาร์ฟรีเดย์ค่ะ เพราะมีของขาย อิอิ พี่ยามควง ถ้าอยากได้เป๋ากะเบาะเจล ก็มาซื้อได้ด้วยตัวเองแล้วนะคะ ^^


โดย: เฮนี่ IP: 125.24.116.117 วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:14:41:46 น.  

 
ได้ถามคำถามในลิ้งค์นี้แล้วค่ะ

//www.thaicycling.com/board/viewtopic.php?f=7&t=6543&p=32149#p32149

คิดว่าอีกไม่นานคงได้คำตอบ
ช่วงนี้คงวุ่นๆกันน่าดู อีกไม่กี่วันคงลงตัว
ได้กำหนดวันไปปั่นคาร์ฟรีเดย์ที่ชัวร์
พร้อมกับวันปั่นทริป สำรวจเส้นทางในฝัน
เดี๋ยวจะไปชมรมฯจ่ายค่าทริป ไปปั่นเที่ยวอยุธยา นั่งเรือไปกลับ ค่ะ


โดย: สุเกียง IP: 125.24.156.11 วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:15:11:29 น.  

 
เมื่อตอนเย็นได้ไปจ่ายเงินค่าทริปไปปั่นเที่ยวอยุธยานั่งเรือไปกลับ
เขาบอกว่าทริป สำรวจเส้นทางในฝัน วันอาทิตย์ที่ 26 กย.53 นั้นยกเลิก
เอางานคาร์ฟรีเดย์แทนที่ไปก่อน ส่วนคนที่จะไปปั่นวันคาร์ฟรีเดย์นั้น
จะลงชื่อเพิ่ม ก็ไปลงในวันงานเลย ไม่ต้องสมัครในเว็บเพราะส่งชื่อสรุปยอดไปแล้ว

ไปสมัครในงานลงชื่อแล้วรับเสื้อได้เลย

จักรยานของข้าไม่เหลือให้เพื่อนๆยืมซะแล้ว เพราะท่านน้ำได้ยืมไป2คัน
เลยหมดอดให้เพื่อนๆยืมอีก จึงเรียนมาเพื่อทราบ..



โดย: สุเกียง IP: 125.24.156.11 วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:20:43:21 น.  

 
ขอบคุณท่านสุค่ะ ^^


โดย: เฮนี่ IP: 125.24.141.158 วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:14:39:34 น.  

 
//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/07/D5663273/D5663273.html

เมื่อตอนกลางวัน 11.30น.ไปกินติ่มซำ ที่HONG KONG FOOK MUN มา

ราคา 299 รวม ชา กับ เก็กฮวย แล้ว อยู่สี่แยกรัชดา - ห้วยขวาง สถานีรถไปใต้ดินห้วยขวาง ขึ้นประตู โรงเรียนกุนนที ค่ะ
Dim sum buffet มี ตั้งแต่ 11:00- 14:30 เองครับ เบอร์ โทรนะ 02-6929818
ต้อนรับดี ก็สั่งรายการตามเมณูติ๋มซำหลายๆรายการ

เอาเก๊กฮวยร้อนมาดื่มก่อน
รายการแรก เป็ดย่างสับพร้อมไก่ อร่อยใช้ได้
ข้าวผัดหยางโจว ผัดได้ดี รสชาดกลมกล่อม ข้าวอร่อยไม่แข็ง นุ่มเป็นเม็ดดีผัดกุ้งอร่อยค่ะ
ขนมจีบ1เข่งมี 4 ลูก พอใช้ได้
ฮะเก๋า2เข่งๆละ3ลูก อร่อยดีค่ะ
ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง อร่อยใช้ได้
ตีนไก่น้ำแดง 2เข่ง นุ่มดีใช้ได้
กระดูกหมูนึ่งเต้าซี่ นุ่มอร่อยดีค่ะ
ฟองเต้าหู้ทอด1จานมี4ชิ้น อร่อยดีค่ะ
เสี่ยวหลงเปา1เข่งมี2ลูก อร่อยกว่าซั่งไห่เสี่ยวหลงเปาค่ะ
เต้าหูน้ำแดง ก็อร่อยดีค่ะ กินกะข้าวผัดใช้ได้เลย
ซุปต้มจืด หวานอร่อยต้มกระดูกหมูเล็บตีนไก่อืมซดร้อนๆอร่อยดี
ข้าวเหนียวห่อใบบัว1ห่อ ไม่อร่อย
อิ่วก้วยไส้รวมมิตร1เข่งมี2ตัว อร่อยดี
ทัสตาด1จานร้อนๆอร่อยแต่หวานไปนิด อร่อยกว่าโฮฯ
ซาลาเปาหมูแดง1เข่ง2ลูก ไส้อร่อยค่ะเปลือกก็อร่อย
ไส้ครม1เข่ง2ลูก อร่อยดี ครีมเยอะเปลือกอร่อยใบกลางๆกิน1ใบอิ่มเลย
ตบท้ายด้วยสาคูแคนตาลูฟแช่เย็น3ถ้วย แตงโมสับปะรด 1จาน

ร้านนี้อยู่คนละฝั่งถนน ตรงข้ามรร.บางกอกชฎา ค่ะ ไปง่ายดี ทดลองไปชิมมาก็ใช้ได้
2อาทิตย์ก่อนไปกิน ลงอวน เริ่มเบื่อ เฉยๆแล้ว เลยหาที่ใหม่ลองชิมไปบ่นไปดู
ทานบุฟเฟ่ต์ต้องไปไปซ้ำจึงจะดี
รร.บางกอกชฎา อุตส่าห์ปริ้นใบโบชัวรฺมา โทรไปที่นั่งเต็มตลอดทั้งเดือนวันธรรมดาไม่เต็ม ก็เลยมาลงเอยที่ฮ่องกงดู

อิ่มเลยอ่ะ ยังมีหลายรายการที่ไม่ได้ลง จำไม่ได้ กินๆๆแล้วอิ่มนั่งแขม่วท้องเดี๊ยวจะไปปั่นเที่ยวคลองถม
จะไปซื้อที่สูบลมที่ท่านนก ฝากซื้อ2กระบอก
เสาร์ทิตย์ที่แล้วไม่มีของ
เมื่อคืนเสาร์ไปก็ไม่มา เดี๊ยวจะไปทดลองดูใหม่ มีก็จะได้ซื้อๆมา ไม่มีก็แปลว่าของขาดตลาด
ที่สูบลมอันนี้รุ่นนี้ดีมากๆ 100บาทใช้หลายปีไม่เสียไม่รวน ยี่ห้อ WINDY ซะอย่าง ตราช้างเลียนแบบเหมือนมาก
ฉ๖"ฒ๋ฏ,ษซื้อเพราะตราช้างมีห่วงยางปั๊มสูบแค่1วง ของแท้ WINDY มีห่วง 2วงทำให้แรงสูบดีกว่ามาก
ไปละ ค่ะ จะปั่นย่อยอาหารสักหน่อย







โดย: สุเกียง IP: 125.24.128.115 วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:14:54:35 น.  

 
ซื้อที่สูบลมมาแล้วค่ะ ท่านนกฝากซื้อ2กระบอก
โชคดีที่ไปถึงฝนกำลังตกโปรยปรายนิดหน่อย
เขายังขายอยู่ เมื่อคืนไม่ได้มาขาย ๆตอนเช้าวันอาทิตย์ขายถึงเย็นๆ
หมดภาระที่รับฝากไปอีกเปราะหนึ่ง หากไม่มีจักรยาน
เป็นเมื่อก่อนไม่รับฝากอะไรจากใครหรอก เพราะขึ้นรถเมล์ลำบาก ขี้เกียจไปค่ะ
แต่นี่ อยากหาเรื่องปั่นจักรยานออกนอกบ้าน เลยยอมๆ เพราะชอบช๊อบเหมือนกัน


โดย: สุเกียง IP: 125.24.128.115 วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:17:57:06 น.  

 
กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วค่ะท่านสุฯ (หลังจากแวะไปรับน้องสาวที่คณะกลับมาบ้านพร้อมกันด้วยเลยค่ะ) ขอบคุณท่านสุมากๆ อีกครั้งนึงเจ้าค่ะ วันนี้ได้ไปปั่นที่สวนลุมแต่วัน แต่พี่ยามก็ยังคงดุอีกเช่นเคยทำเหมือนเรากำลังเล่นเกมส์โปลิสจับขโมยยังงั้นแหล่ะ คราวหน้าจะไปปั่นตั้งแต่10-15.00น. เล้ยยย คอยดูซิว่าจะว่าอย่างไรกัน...อิอิ ดูเค้าทำกับผู้ขับจักรยานสิคะให้ไปปั่นกันร้อนๆ ตอนร้อนระอุเลยทีเดียวเห็นเราเป็นร่ม UV ไปได้...แห่ะ-_-"

ท่านสุฯ ช่างกว้างขวางเสียจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะท่านอีก1จอกค่ะเพราะเมื่อท่านสุฯ เดินเข้าโปรไบร์ค พนักงานก็ตั้งแถวรอรับและไหว้กันอุตลุต นอกจากนี้ฝรั่งที่กำลังฟุตฟิตฟอไฟว์ซื้อจักรยานอยู่เมื่อหันมาเห็นท่านสุฯ ก็ร้อง โอ้...(ท่าน)สุเกียง...ไม่เจอกันนานเล้ย...ไปปั่นด้วยกันไม๊กฐินๆ ท่านสุฯ "โอ้วnono ไม่อาวๆ มันตั้ง2วัน" ฝรั่ง"ง้านเจอที่คาร์ฟรีเดย์หน่า" ท่านสุฯ "โอเคๆ ได้เล้ย" ดูสิคะพนักงานยังอึ้งกับความกว้างขวางของท่านสุจริงๆ ค่ะ เท่ห์สุดไปเล้ยยยยย(รู้สึก
เหมือนมากับดาราเลยค่ะ)^^


ต่อจากนั้นติดอุปกรณ์แล้วก็ไปปั่นๆๆ ปั่นไปได้ซักพักก็ปรี๊ดๆๆๆ จักรยานขี่ในครับๆๆ เราก็อ๋อๆๆ เค้าคงหมายถึงเลนในก็อุตส่าห์ขี่ชิดด้านใน ท่านสุก็พาคณะฝึกฝนการปั่นขึ้นสะพาน ปั่นเลี้ยวทางโค้งที่มีโค้งหักศอกด้วย-_-" ปั่นผ่านฝูงชนที่กำลังเล่นแอร์โรบิคกัน(เค้าก็เต้นไปจริงๆ เราก็ปั่นผ่านจริงๆ Oh My God!!) จากนั้นก็พบยามสองคน(เดิมอีก) นี่คุณ! บอกว่าให้ปั่นด้านในไง เราก็คิดในใจว่า"ทำไงดีท่านสุกับเฮนี่ปั่นไปแล้วซวยล่ะ" ก็จอดจักรยานยิ้มแหย่ๆ ถามว่า" พี่คะ ข้างในนี่มันอยู่ตรงไหนเหรอคะ หนูไม่เคยมาค่ะ เค้าก็บอกว่าข้างในก็ตรงสระบัวไง หรือตรงสวนปาล์มไง เราก็อ๋อ ค่ะๆๆ(คิดในใจตรงไหนหว๋า?)" ก็ปั่นไปเทียบท่านสุฯ บอกว่าเค้าให้ปั่นสวนปาล์มท่านสุฯตอบว่า "ปั่นในที่แคบๆ ก็ไม่สนุกน่ะสิ" และแล้วก็ปั่นต่อไปอีก ปั่นขึ้นลง สะพาน ผ่านไปยังที่ผู้สูงอายุกำลังรำมวยไท้เก๊กกันอยู่ ขอเน้นว่าปั่นผ่านกลางวงไท้เก้ก...ค่ะ...เจ๋งป่ะล่า อิอิ


และแล้ว....ก็ปั่นไปเจอยามคนเดิมอีก คราวนี้ทำไงดีล่ะ ในที่สุดก็ทำเป็นจอดจักรยานเมื่อยามมองมา แล้วก็นั่งบนฟุตบาทเฮนี่ถามเป็นไรอ่ะ น้ำตอบอ๋อเจ็บเท้าอ่ะ รองเท้ามันบีบเกินไป ยามก็มองมาแต่ด้วยความที่หยุดรถแล้วไง...ผู้ป่วยนะ อย่ามาว่าเค้านะ อะไรประมาณนั้นก็นั่งร้อยเชือกรองเท้าใหม่ ซักพักท่านสุ(ที่ปั่นเลยไปไกลมากแล้วก็ปั่นกลับมาพร้อมกับหัวเราะ555) ไม่ไหวแล้วเหรอ T_T ก็รองเท้ามันรัดแน่นไปค่ะ เสร็จแล้วพวกเราก็เล่นรองเท้าเล่นไฟหมวกไปเนียนๆ ท่านสุกรุณาซ่อมและติดตั้งไฟกระพริบให้น้ำใหม่ด้วยขอบคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ


หลังจากที่นั่งนวยนาดกันซักพัก(ในขณะที่ท่านสุยังฟิตมากค่ะ) ก็ทำเนียนว่าหายเจ็บล่ะไปกันเถอะ...ยามก็โอ๊ะ...พวกแก๊งส์สาวซ่าส์มันหายไปไหนแล้วหันมาอีกทีมันหายไปแล้ว555 แล้วก็ปั่นถนนใหญ่อีกคราวนี้ปั่นผ่านสมาคมลีลาส และคนที่กำลังวิ่งมาราธอนค่ะ ท่านสุลีลาพริ้วไหวมากค่ะ(ก่อนจะเริ่มปั่นท่านสุเตือนด้วยสีหน้าจริงจังหนักแน่นว่า ปั่นให้ระวังคนนะ อย่าเร็วมาก เดี๋ยวชนคน) ปรากฎว่า...ท่านสุฯ ปั่นพริ้วซิกแซกแทรกไปตามผู้ที่กำลังวิ่งมาราธอนเต็มถนนเลย พวกเราตามไปติดๆ ค่ะ...ท่านสุแซงซ้าย..น้ำแซงซ้าย เฮนี่แซงซ้าย...ไม่มีจักรยานคันไหนกล้าปั่นแถวนี้ดูซ้ายขวาไม่มีเลย ปั่นผ่านตรงที่เล่นเพาะกล้ามแซงซ้าย...แซงขวา...ท่านสุปั่นเจอเด็กกำลังปั่นจักรยานสามล้อ...ท่านสุฯก็เอ็นดูเด็กค่ะ กดกระดิ่ง กริ๊งๆๆ ประมาณว่ารถใหญ่มาหลบไป...555 -_-" พวกเราก็ตามต่อค่ะ

สรุปปั่นครั้งนี้สนุกมาค่ะเพราะปั่นได้นานกว่าทุกครั้งเลยน้ำปั่นไป 9.99กม. เฮนี่ 9.70กม. ท่านสุฯ 17.89 กม.ค่ะ T_T

คราวหน้าจะไปปั่นสวนจตุจักรเพราะท่านสุบอกว่ายามไม่ดุแบบที่นี่ค่ะอิอิ:P


ปล..ขอบคุณท่านสุเกียงมากๆเลยเจ้าค่ะสำหรับโกยซี่หมี่ค่ะเย้ดีใจจัง พรุ่งนี้เช้ามีอาหารกินแย้วฮื่อๆ ปกติกินแต่รำเอ้ย กาแฟค่าแห่ะๆ ^^


โดย: น้ำ^^ IP: 183.89.38.154 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:22:59:35 น.  

 
แง้ทำไมเมื่อวานที่น้ำเมนท์ปั่นสวนลุมกับท่านสุและท่านเฮนี่ไม่ล่ะคะพี่ผอ.ขา


โดย: น้ำ^^ IP: 202.91.19.201 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:10:53:52 น.  

 
กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วค่ะท่านสุฯ (หลังจากแวะไปรับน้องสาวที่คณะกลับมาบ้านพร้อมกันด้วยเลยค่ะ) ขอบคุณท่านสุมากๆ อีกครั้งนึงเจ้าค่ะ วันนี้ได้ไปปั่นที่สวนลุมแต่วัน แต่พี่ยามก็ยังคงดุอีกเช่นเคยทำเหมือนเรากำลังเล่นเกมส์โปลิสจับขโมยยังงั้นแหล่ะ คราวหน้าจะไปปั่นตั้งแต่10-15.00น. เล้ยยย คอยดูซิว่าจะว่าอย่างไรกัน...อิอิ ดูเค้าทำกับผู้ขับจักรยานสิคะให้ไปปั่นกันร้อนๆ ตอนร้อนระอุเลยทีเดียวเห็นเราเป็นร่ม UV ไปได้...แห่ะ-_-"

ท่านสุฯ ช่างกว้างขวางเสียจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะท่านอีก1จอกค่ะเพราะเมื่อท่านสุฯ เดินเข้าโปรไบร์ค พนักงานก็ตั้งแถวรอรับและไหว้กันอุตลุต นอกจากนี้ฝรั่งที่กำลังฟุตฟิตฟอไฟว์ซื้อจักรยานอยู่เมื่อหันมาเห็นท่านสุฯ ก็ร้อง โอ้...(ท่าน)สุเกียง...ไม่เจอกันนานเล้ย...ไปปั่นด้วยกันไม๊กฐินๆ ท่านสุฯ "โอ้วnono ไม่อาวๆ มันตั้ง2วัน" ฝรั่ง"ง้านเจอที่คาร์ฟรีเดย์หน่า" ท่านสุฯ "โอเคๆ ได้เล้ย" ดูสิคะพนักงานยังอึ้งกับความกว้างขวางของท่านสุจริงๆ ค่ะ เท่ห์สุดไปเล้ยยยยย(รู้สึก
เหมือนมากับดาราเลยค่ะ)^^


โดย: น้า IP: 183.89.95.44 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:21:08:44 น.  

 
ต่อจากนั้นติดอุปกรณ์แล้วก็ไปปั่นๆๆ ปั่นไปได้ซักพักก็ปรี๊ดๆๆๆ จักรยานขี่ในครับๆๆ เราก็อ๋อๆๆ เค้าคงหมายถึงเลนในก็อุตส่าห์ขี่ชิดด้านใน ท่านสุก็พาคณะฝึกฝนการปั่นขึ้นสะพาน ปั่นเลี้ยวทางโค้งที่มีโค้งหักศอกด้วย-_-" ปั่นผ่านฝูงชนที่กำลังเล่นแอร์โรบิคกัน(เค้าก็เต้นไปจริงๆ เราก็ปั่นผ่านจริงๆ Oh My God!!) จากนั้นก็พบยามสองคน(เดิมอีก) นี่คุณ! บอกว่าให้ปั่นด้านในไง เราก็คิดในใจว่า"ทำไงดีท่านสุกับเฮนี่ปั่นไปแล้วซวยล่ะ" ก็จอดจักรยานยิ้มแหย่ๆ ถามว่า" พี่คะ ข้างในนี่มันอยู่ตรงไหนเหรอคะ หนูไม่เคยมาค่ะ เค้าก็บอกว่าข้างในก็ตรงสระบัวไง หรือตรงสวนปาล์มไง เราก็อ๋อ ค่ะๆๆ(คิดในใจตรงไหนหว๋า?)" ก็ปั่นไปเทียบท่านสุฯ บอกว่าเค้าให้ปั่นสวนปาล์มท่านสุฯตอบว่า "ปั่นในที่แคบๆ ก็ไม่สนุกน่ะสิ" และแล้วก็ปั่นต่อไปอีก ปั่นขึ้นลง สะพาน ผ่านไปยังที่ผู้สูงอายุกำลังรำมวยไท้เก๊กกันอยู่ ขอเน้นว่าปั่นผ่านกลางวงไท้เก้ก...ค่ะ...เจ๋งป่ะล่า อิอิ


และแล้ว....ก็ปั่นไปเจอยามคนเดิมอีก คราวนี้ทำไงดีล่ะ ในที่สุดก็ทำเป็นจอดจักรยานเมื่อยามมองมา แล้วก็นั่งบนฟุตบาทเฮนี่ถามเป็นไรอ่ะ น้ำตอบอ๋อเจ็บเท้าอ่ะ รองเท้ามันบีบเกินไป ยามก็มองมาแต่ด้วยความที่หยุดรถแล้วไง...ผู้ป่วยนะ อย่ามาว่าเค้านะ อะไรประมาณนั้นก็นั่งร้อยเชือกรองเท้าใหม่ ซักพักท่านสุ(ที่ปั่นเลยไปไกลมากแล้วก็ปั่นกลับมาพร้อมกับหัวเราะ555) ไม่ไหวแล้วเหรอ T_T ก็รองเท้ามันรัดแน่นไปค่ะ เสร็จแล้วพวกเราก็เล่นรองเท้าเล่นไฟหมวกไปเนียนๆ ท่านสุกรุณาซ่อมและติดตั้งไฟกระพริบให้น้ำใหม่ด้วยขอบคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ


หลังจากที่นั่งนวยนาดกันซักพัก(ในขณะที่ท่านสุยังฟิตมากค่ะ) ก็ทำเนียนว่าหายเจ็บล่ะไปกันเถอะ...ยามก็โอ๊ะ...พวกแก๊งส์สาวซ่าส์มันหายไปไหนแล้วหันมาอีกทีมันหายไปแล้ว555 แล้วก็ปั่นถนนใหญ่อีกคราวนี้ปั่นผ่านสมาคมลีลาส และคนที่กำลังวิ่งมาราธอนค่ะ ท่านสุลีลาพริ้วไหวมากค่ะ(ก่อนจะเริ่มปั่นท่านสุเตือนด้วยสีหน้าจริงจังหนักแน่นว่า ปั่นให้ระวังคนนะ อย่าเร็วมาก เดี๋ยวชนคน) ปรากฎว่า...ท่านสุฯ ปั่นพริ้วซิกแซกแทรกไปตามผู้ที่กำลังวิ่งมาราธอนเต็มถนนเลย พวกเราตามไปติดๆ ค่ะ...ท่านสุแซงซ้าย..น้ำแซงซ้าย เฮนี่แซงซ้าย...ไม่มีจักรยานคันไหนกล้าปั่นแถวนี้ดูซ้ายขวาไม่มีเลย ปั่นผ่านตรงที่เล่นเพาะกล้ามแซงซ้าย...แซงขวา...ท่านสุปั่นเจอเด็กกำลังปั่นจักรยานสามล้อ...ท่านสุฯก็เอ็นดูเด็กค่ะ กดกระดิ่ง กริ๊งๆๆ ประมาณว่ารถใหญ่มาหลบไป...555 -_-" พวกเราก็ตามต่อค่ะ

สรุปปั่นครั้งนี้สนุกมาค่ะเพราะปั่นได้นานกว่าทุกครั้งเลยน้ำปั่นไป 9.99กม. เฮนี่ 9.70กม. ท่านสุฯ 17.89 กม.ค่ะ T_T

คราวหน้าจะไปปั่นสวนจตุจักรเพราะท่านสุบอกว่ายามไม่ดุแบบที่นี่ค่ะอิอิ:P


ปล..ขอบคุณท่านสุเกียงมากๆเลยเจ้าค่ะสำหรับโกยซี่หมี่ค่ะเย้ดีใจจัง พรุ่งนี้เช้ามีอาหารกินแย้วฮื่อๆ ปกติกินแต่รำเอ้ย กาแฟค่าแห่ะๆ ^^


โดย: น้ำ IP: 183.89.95.44 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:21:09:14 น.  

 
ต่อจากนั้นติดอุปกรณ์แล้วก็ไปปั่นๆๆ ปั่นไปได้ซักพักก็ปรี๊ดๆๆๆ จักรยานขี่ในครับๆๆ เราก็อ๋อๆๆ เค้าคงหมายถึงเลนในก็อุตส่าห์ขี่ชิดด้านใน ท่านสุก็พาคณะฝึกฝนการปั่นขึ้นสะพาน ปั่นเลี้ยวทางโค้งที่มีโค้งหักศอกด้วย-_-" ปั่นผ่านฝูงชนที่กำลังเล่นแอร์โรบิคกัน(เค้าก็เต้นไปจริงๆ เราก็ปั่นผ่านจริงๆ Oh My God!!) จากนั้นก็พบยามสองคน(เดิมอีก) นี่คุณ! บอกว่าให้ปั่นด้านในไง เราก็คิดในใจว่า"ทำไงดีท่านสุกับเฮนี่ปั่นไปแล้วซวยล่ะ" ก็จอดจักรยานยิ้มแหย่ๆ ถามว่า" พี่คะ ข้างในนี่มันอยู่ตรงไหนเหรอคะ หนูไม่เคยมาค่ะ เค้าก็บอกว่าข้างในก็ตรงสระบัวไง หรือตรงสวนปาล์มไง เราก็อ๋อ ค่ะๆๆ(คิดในใจตรงไหนหว๋า?)" ก็ปั่นไปเทียบท่านสุฯ บอกว่าเค้าให้ปั่นสวนปาล์มท่านสุฯตอบว่า "ปั่นในที่แคบๆ ก็ไม่สนุกน่ะสิ" และแล้วก็ปั่นต่อไปอีก ปั่นขึ้นลง สะพาน ผ่านไปยังที่ผู้สูงอายุกำลังรำมวยไท้เก๊กกันอยู่ ขอเน้นว่าปั่นผ่านกลางวงไท้เก้ก...ค่ะ...เจ๋งป่ะล่า อิอิ


และแล้ว....ก็ปั่นไปเจอยามคนเดิมอีก คราวนี้ทำไงดีล่ะ ในที่สุดก็ทำเป็นจอดจักรยานเมื่อยามมองมา แล้วก็นั่งบนฟุตบาทเฮนี่ถามเป็นไรอ่ะ น้ำตอบอ๋อเจ็บเท้าอ่ะ รองเท้ามันบีบเกินไป ยามก็มองมาแต่ด้วยความที่หยุดรถแล้วไง...ผู้ป่วยนะ อย่ามาว่าเค้านะ อะไรประมาณนั้นก็นั่งร้อยเชือกรองเท้าใหม่ ซักพักท่านสุ(ที่ปั่นเลยไปไกลมากแล้วก็ปั่นกลับมาพร้อมกับหัวเราะ555) ไม่ไหวแล้วเหรอ T_T ก็รองเท้ามันรัดแน่นไปค่ะ เสร็จแล้วพวกเราก็เล่นรองเท้าเล่นไฟหมวกไปเนียนๆ ท่านสุกรุณาซ่อมและติดตั้งไฟกระพริบให้น้ำใหม่ด้วยขอบคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ


โดย: น้ำ^^ IP: 183.89.95.44 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:21:09:45 น.  

 
หลังจากที่นั่งนวยนาดกันซักพัก(ในขณะที่ท่านสุยังฟิตมากค่ะ) ก็ทำเนียนว่าหายเจ็บล่ะไปกันเถอะ...ยามก็โอ๊ะ...พวกแก๊งส์สาวซ่าส์มันหายไปไหนแล้วหันมาอีกทีมันหายไปแล้ว555 แล้วก็ปั่นถนนใหญ่อีกคราวนี้ปั่นผ่านสมาคมลีลาส และคนที่กำลังวิ่งมาราธอนค่ะ ท่านสุลีลาพริ้วไหวมากค่ะ(ก่อนจะเริ่มปั่นท่านสุเตือนด้วยสีหน้าจริงจังหนักแน่นว่า ปั่นให้ระวังคนนะ อย่าเร็วมาก เดี๋ยวชนคน) ปรากฎว่า...ท่านสุฯ ปั่นพริ้วซิกแซกแทรกไปตามผู้ที่กำลังวิ่งมาราธอนเต็มถนนเลย พวกเราตามไปติดๆ ค่ะ...ท่านสุแซงซ้าย..น้ำแซงซ้าย เฮนี่แซงซ้าย...ไม่มีจักรยานคันไหนกล้าปั่นแถวนี้ดูซ้ายขวาไม่มีเลย ปั่นผ่านตรงที่เล่นเพาะกล้ามแซงซ้าย...แซงขวา...ท่านสุปั่นเจอเด็กกำลังปั่นจักรยานสามล้อ...ท่านสุฯก็เอ็นดูเด็กค่ะ กดกระดิ่ง กริ๊งๆๆ ประมาณว่ารถใหญ่มาหลบไป...555 -_-" พวกเราก็ตามต่อค่ะ

สรุปปั่นครั้งนี้สนุกมาค่ะเพราะปั่นได้นานกว่าทุกครั้งเลยน้ำปั่นไป 9.99กม. เฮนี่ 9.70กม. ท่านสุฯ 17.89 กม.ค่ะ T_T


โดย: น้ำ^^ IP: 183.89.95.44 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:21:10:45 น.  

 
คราวหน้าจะไปปั่นสวนจตุจักรเพราะท่านสุบอกว่ายามไม่ดุแบบที่นี่ค่ะอิอิ:P
ปล..ขอบคุณท่านสุเกียงมากๆเลยเจ้าค่ะสำหรับโกยซี่หมี่ค่ะเย้ดีใจจัง พรุ่งนี้เช้ามีอาหารกินแย้วฮื่อๆ ปกติกินแต่รำเอ้ย กาแฟค่าแห่ะๆ ^^
ปล..2 ต้องเมนท์ทีละนิดถึงโพสติดแฮ่ะเย้


โดย: น้ำ IP: 183.89.95.44 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:21:12:50 น.  

 
โห น่าสนุกจังคะน้ำ
ขาใหญ่ ขาแรง ขาแข็งขัน ท่านสุเกียงงงงงงง
เคยเห็นท่านสุ ปั่นบนถนนใหญ่คะ พลิ้วจริงๆ เร็วด้วยนะจะบอกให้ ^_^

น้ำๆๆๆๆ เอามาเล่าให้ฟังอีกนะ สนุกดี เจอขาใหญ่ กับ ขาอ่อน ยามขา ขายามยังไม่ทันขานักปั่นเ้ล้ยยยย อิอิอิ


โดย: ไม้หมอน IP: 183.89.43.180 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:21:28:36 น.  

 
ขอบคุณจ้ะท่านหมอนที่ติดตามอ่านเรื่องหน้าแตก(ของน้ำเอง555) ท่านสุพริ้วและซ่ามากๆ จริงๆ เจ้าค่ะ อิอิ

ไว้คราวหน้าคิดว่าจะไปลองปั่นสวนจตุจักรเพราะท่านสุบอกว่ายามไม่ดุแบบที่นี่ค่ะอิอิ:P

ปล..ขอบคุณท่านสุเกียงมากๆเลยเจ้าค่ะสำหรับโกยซี่หมี่ค่ะเย้ดีใจจัง พรุ่งนี้เช้ามีอาหารกินแย้วฮื่อๆ ปกติกินแต่รำเอ้ย กาแฟค่าแห่ะๆ ^^


โดย: น้ำ^^ IP: 183.89.211.94 วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:12:45:30 น.  

 
เอาเว็บของน้องเชอรี่ ฉายามนุษย์ไฟฟ้ามาให้เฮนี่และนำดูค่ะ

//www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=59&t=125203

รายนี้จ้าวแห่งไฟกระพริบ ติดไฟรอบตัวรถและติดรอบเป้ หมวกและเสื้อ
หมดไป3หมื่นค่าทดลองไฟต่างๆอ่ะ

ลิ้งค์ของน้องเชอรี้ อ่านแล้วขำมากๆ คำพูดคำจาตลอกอารมณืขัน
ตอนเจอกันใหม่ๆ จะอ้วน ตอนนี้ผอมลลงไปมากๆ
ชอบปั่นไปชิมไปทุกๆคืนจะปั่นอยู่ตามท้องถนนวันละ40กว่ากม. แล้วชิมอาหารตามร้านต่างๆ
มาเล่ามาคุยให้เพื่อนๆฟังสนุกสนา ตอนนี้ก็ได้ชมรมฯแก๊งค์นักปั่นชวนชิมยามค่ำคืน

ฮาๆ ดีใจท่านน้ำสนุกกับการไปลองปั่นสวนลุม ฯ นะคะ
แต่ไม่เหมือนสมัยก่อน ยอมให้ปั่นตลอดทั้งวัน เดี๊ยวนี้แย่มาก ๆ ปั่นแล้วเหมือนโดนไล่ตลอด เสียอารมณ์มากๆ

ฮาๆๆท่าน้ำ กล่าวเกินไปแล้ว อิอิ ตั้งแต่ปั่นจักรยานมาหลายปี ได้รู้จักคนในวงการนักปั่นมากมาย
ก็ทักไปทักมาแบบนี้แหละค่ะ ขนาดเฮนี่ไปซ่อมจักรยานที่แอลเอ ยังรู้สึกหัวใจพองโต
ที่ได้เจอเพื่อนนักปั่น
จะไปงานคาร์ฟรีเดย์เหมือนกัน 555ก็คล้ายๆพบเพื่อนที่ชอบกีฬาแบบเดียวกัน จะดีใจตื่นเต้นน่ะค่ะ

ฮาๆขอบคุณท่านหมอนที่แซว ปั่นบนท้องถนนในกรุงสนุกดี ชินซะแล้วค่ะ
กลายเป็นสิงห์นักปั่นๆจักรยานออกถนนได้ทุกๆแบบ
เดี๋ยวนี้ไม่กลัวรถสวนไปมา เพราะเริ่มได้ใจสวนไปมาบ้าง
ใจคิดจะไปไหน ขาติดล้อไปได้ทุกที่
อีกหน่อยทุกท่านจะเป็นแบบนี้กันทุกคน

ท่านน้ำป่านนี้ไปเรียนดนตรีบ้านอาจารย์ด้วยจักรยานจนเริ่มคุ้นเคยแล้วนะคะ

(ลองอ่านสำนวนคุณเชอรี่ ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับไฟต่างๆที่ทดลองซื้อหามาติด จะรู้เลยว่าคนเราพอมีจักรยานของตัวนั้น
ไฟจะเป็นสิ่งแรกที่ยอมควักเงินมาทดลองความสว่างของแต่ละรุ่นนั้นเป็นฉันท์ใด)


โดย: สุเกียง IP: 125.24.141.186 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:19:51:07 น.  

 
ขาอ่อนลัล ลา ตะลอนทัวร์ - ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์

//www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=147635

หมาไล่กัด

//www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=60&t=242790

งูเขียวออกลูก

//www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=242250




โดย: สุเกียง IP: 125.24.141.186 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:20:57:13 น.  

 
5555ได้อ่านเรื่องของคุณมนุษย์ไฟฟ้าแล้วเชื่อโดยสนิทใจเลยค่ะว่าไฟทั้งคันรถจริงๆ ค่ะ เห็นแล้วก็ตกใจว่ามีไฟจักรยานหลายรุ่นขนาดนี้เชียวหรือ ทำให้นึกไปว่าตัวเราเองช่างโลกแคบเสียจริงๆ

วันก่อนลองเอาไปปั่นที่มหาวิทยาลัยดูค่ะ ปรากฎว่าพอเริ่มมืดจักรยานแม่บ้าน หรือ LA ของนักศึกษาจะมองแทบไม่เห็นเลยค่ะ เรียกว่าถ้าไม่เพ่งให้ดีก็มีสิทธิ์ชนได้เลยค่ะ จึงได้เห็นคุณประโยชน์ของไฟส่องสว่างของรถจักรยานแบบชัดเจนก็วันนี้แหล่ะค่ะ มีเสียฮือฮาด้วยว่าจักรยานมีไฟด้วยๆ 555 ^^"

ปล. โกยซี่หมี่ของท่านสุฯ อร่อยมากๆ ค่ะเส้นยังกรอบอยู่เลย แล้วก็มีกลิ่นหอม แถมยังกรุณาแยกผักให้อีกทำให้ไม่เสียเร็วแถมน้ำผักยังไม่ออกมาปนให้เสียรสชาติเวลาอุ่นอีกด้วย ท่านสุ ช่างรอบคอบยิ่งนักข้าน้อยขอคารวะเจ้าค่ะ^^


โดย: น้ำ^^ IP: 27.130.66.63 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:23:27:17 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ น้ำ
ขอให้มีความสุขมากๆ นะ
สุขภาพแข็งแรง
พบเจอแต่สิ่งที่ดีในชีวิตนะคะ


โดย: เฮนี่ ^^ IP: 158.108.52.129 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:14:30:44 น.  

 
HBD. ด้วยดิ ได้ป่าว น้ำ

ขอให้ปั่นจักรยานเก่งๆ

ขอให้ปั่นได้แชป์จักรยานโลก

ขอให้โชคดีตลอดทุกปี

ขอให้มีคนรัก

ขอให้มาปักหลักในบล็อก

ขออย่าให้หายไปไหน

ขอให้มีคนรักมากมาย

ขอให้มีคนรักที่ดี(อย่างตอนนี้)


โดย: ...... IP: 202.129.32.226 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:15:10:06 น.  

 
สุขสันต์วันเกิด(ย้อนหลัง) จ้า น้ำ น้ำ น้ำ
มีความสุขมากๆ ในทุกๆ วัน
มีความรักที่อบอุ่น ในทุกๆ วัน
มีสุขภาพที่แข็งแรง ในทุกๆ วัน
ขอให้ประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ตั้งใจ
และขอให้สิ่งศักดิ์คุ้มครองตลอดไปนะจ๊ะ


โดย: ไม้หมอน IP: 192.168.10.42, 118.175.64.80 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:15:31:26 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะทุกท่าน...ขอส่งต่อคำอวยพรของทุกท่านด้วยเช่นกันค่ะ ขอให้มีความสุข สมหวังเช่นกันค่ะ^^

ปล.เอ่อ..ความจริงก็ต้องเป็นวันคล้ายวันเกิดจิ ไม่งั้นน้ำคงจะพึ่งร้องอุแว้ๆ วันนี้เป็นแน่ค่ะ 555


โดย: น้ำ^^ IP: 183.89.253.217 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:15:40:05 น.  

 
หุ หุ แก้ผ้าด้วยเลยน้ำ แล้วคลานออกมา อิอิ

จะได้เป็นวันเกิดพอดี


โดย: ...... IP: 202.129.32.226 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:15:43:39 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดนะคะ ครูน้ำ
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงๆ
มีความสุขกับการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน
เหงื่อออกเยอะๆ เชฟก็จะสวยเข้าที่ กล้ามเนื้อก็จะกระชับได้ส่วนโค้งเว้าที่สมส่วน
สักวันหนึ่งรูปร่างจะดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ
ความกระฉับกระเฉงว่องไวจะตามมัน

ไม่เชื่อก็ลองสังเกตุตัวเองบ่อยๆว่าไวขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
เพราะนักปั่นจะคิดไวทำไวเพราะเขาปั่นอย่างมีสติ จะตัดสินใจเร็วจริงๆไหม?

คิดว่าครูน้ำปีนี้ ได้ให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับตัวเองในวันเกิด
ก็คงแฮ๊ปปี่มากที่สุด เพราะของเล่นที่ถูกใจชิ้นนี้ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจริงๆ

ขอให้มีความสุข สดชื่น สมปรารถนาในทุกสิ่งนะคะ

** ฮาๆๆ อ่านแล้วขำและดีใจที่น้ำเอาจักรยานไปปั่นที่มหาลัย ฯ ก็คงมีคนมองอ่ะจิเพราะรถจักรยานรุ่นนี้ใหม่ล่าสุด(รุ่นเอาใจสาวๆ)
อืมๆ ไฟส่องทาง หน้ารึหลังล้วนแล้วสำคัญมากๆ
ยามค่ำคืนรถผ่านไปมาเขาไม่เห็นเราจริงๆ เราจึงต้องป้องกันตัวเองด้วยการติดไฟส่องให้เขาเห็นเรา มันจะสะท้อนไปมาระหว่างปั่น

เหมือนอย่างน้องเชอรี่เกริ่นไว้ อย่ามาชนหนูๆเตือนพี่แล้ว ...ว่าหนูกลัวพี่ชนจึงติดซะ360องศา
แม้จะประกันชีวิตไว้กะ3บริษัทประกัน แต่ไม่อยากใช้บริการจากการประกันเลยสักจ้าว

น้องเชอรี่เป็นคนมีมุขตลกอารมณ์ขันสุขภาพใจกายดี แต่เป็นโรคภูมิแพ้อย่างมากจึงต้องช่วยตัวเองด้วยการออกกำลังกาย
มาถูกโฉลกกะการปั่นจักรยาน มีเพื่อนเยอะเพราะคารมน่ารักจริงใจเสมอ

ออกทริปทีไรจะเจอกลุ่มของน้องเชอรี่ประจำ ชวนไปปั่นไปชิมไปบ่อยๆแต่กลัวอ้วนเลยไม่กล้าไป





โดย: สุเกียง IP: 125.24.130.178 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:15:57:44 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ.....น้ำจ๋า

มีความสุขมากๆๆ ร่างกายแข็งแรง เป็นที่รักของนักเรียนและของที่คนรักน้ำ การงานรุ่งเรืองๆๆ
เจอแต่สิ่งดีๆๆ ได้รับแต่สิ่งดีๆๆนะจ๊ะ....^^


โดย: phenixepp IP: 58.9.100.180 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:16:58:31 น.  

 
สุขสันต์วันต์เกิดครับครูน้ำ ขอให้สุขภาพแ๘็งและสมหวังในสิ่งที่ตั้งใจครับ มีความสุขมากๆในทุกๆวันครับ


โดย: เกษตรศิลป์ IP: 61.90.64.107 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:18:24:50 น.  

 
มาแก้ มาแก้ เพล้งงงงงงงง
โอ้ยยย ตาลายๆๆๆๆๆๆ

แวะเข้ามาทีทำหน้าแตกเลยเรา ดูยังไงไป HBD น้ำ ย้อนหลัง แหะๆๆๆๆๆ เป็นเพราะ...เพราะ...เพราะบักขี้นกทีเดียวเชียว (ไม่รู้ล่ะ ไม่รู้จะโทษใคร อิอิอิ)

แต่มะเปงรายเนอะน้ำเนอะ^______^"


โดย: ไม้หมอน IP: 27.130.19.197 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:19:35:53 น.  

 
ตามมา Birthday ด้วยคนคร้าบ..บ

มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงนะ ^^


โดย: ยามควงกะ IP: 124.121.90.19 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:23:35:51 น.  

 
ขอบพระคุณทุกท่านค่ะขอสิ่งดีๆ จากคำอวยพรนั้นโปรดสะท้อนกลับไปยังทุกท่านให้พบแต่สิ่งดีๆ เช่นกันเจ้าค่ะ^^

ขอบคุณท่านเฮนี่ ท่านหมอน ท่าน..... ท่านสุเกียง ท่านนก ท่านนัท และท่านยามมากๆ เลยเจ้าค่ะขอให้ท่านมีความสุขและสุขภาพแข็งแรงยิ่งๆ ขึ้นไป ปึ๋งปั๋งกันนะเจ้าค่ะอิอิ

ปล.ท่าน... น้ำคงจะไม่กล้าทำขนาดนั้นหรอกค่ะ กลัวว่าเดี๋ยวท่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช็อคไปซะก่อน

ปล.2 ไม่เป็นไรจ้ะหมอนก็มันเป็นวันเกิดย้อนหลังจริงๆ นี่หน่า เพราะว่าเกิดมาแล้วนิคะ555:P


ปล.เมื่อวานยุ่งมากๆ ค่ะ เพราะไปดูจะเข้โบราณจากกรุสมบัติ(คนอื่นมา)ในที่สุดก็ทนไม่ไหวได้กับเค้ามาด้วย 2 อย่างคือ จะเข้ และขิม อายุไม่ต่ำกว่า10ปี (ไม่เคยเล่นของเก่าเลยนะเนี่ยกลัวเหมือนกันค่ะ) กลับมาแล้วจึงเอามาขัดกระดาษทรายทีละชิ้นส่วนจากกระดาษทรายหยาบไปละเอียด แล้วก็พ่นแล็คเกอร์ใหม่ทีละชิ้นๆ (ทำเองไม่เสียตังค์เพิ่มค่ะ T_T ) ตอนนี้ใกล้จะเสร็จสำเร็จแล้้วค่ะ เฮนี่บอกว่าต่างจากตอนที่ซื้อมามาก ตอนนี้เหมือนของใหม่เลย 555 สุขใจค่ะ (ของขวัญให้ตัวเองอีกชิ้นแห่ะๆ)^^"


โดย: น้ำ^^ IP: 180.183.229.86 วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:10:48:39 น.  

 
ปล..3 ที่ขาดไม่ได้ขอบคุณพี่เติมเต็มที่กรุณาโทรมาอวยพรน้ำเลยเจ้าค่ะขอบคุณมากๆ เลยค่า ขอให้พี่เติมสุขภาพแข็งแรง และโตไวๆ เช่นกันค่า อิอิ^^"


โดย: น้ำ^^ IP: 180.183.229.86 วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:10:49:56 น.  

 
น้ำจ๋า

สุขสันต์วันเกืดนะจ๊ะ
ขอให้เจอแต่สิ่งดีงาม
และมีความสุขมากๆนะจ๊ะ


โดย: ตะวัน IP: 124.122.210.172 วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:22:09:40 น.  

 
Happy Birthday ค่ะน้ำ พี่ไม่อยู่หลายวันเลยมาอวยพรวันเกิดไม่ทัน มีความสุขมากขึ้นๆ ทุกๆ วันนะคะ วันนี้ได้ไปปั่นจักรยาน นั่งคุย นั่งหัวเราะ ขำก๊ากกันสารพัดเรื่อง สนุกมากมายค่ะ รอวันและโอกาสที่จะได้ไปปั่นจักรยานด้วยกันอีกนะคะ

อ้อ ที่ขาดไม่ได้เลยต้องเรื่องนี้ ขอบคุณโต๊ะข้างๆ ที่นั่งกันหญิงสามชายหนึ่งที่บาบีคิวพลาซ่า ที่กรุณาช่วยค่าอาหารโต๊ะพี่ มาสองร้อยบาท ขอบพระคุณมากค่า ^__^


โดย: Won won IP: 58.8.30.204 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:21:02:12 น.  

 
ขอบคุณค่ะตะวันสำหรับคำอวยพร ขอบคุณพี่ผอ.ด้วยนะคะ อิอิ ขอให้สิ่งดีๆ กลับคืนสู่พวกท่านเช่นกันเจ้าค่ะ^^"

เมื่อวานกว่าจะกลับถึงบ้านก็ประมาณ4ทุ่มครึ่งค่ะ เพราะว่ากลับมาถึงบ้านกันแล้วท่านแม่ของน้ำชวนไปช็อปปิ้งต่อค่ะ ก็เลยยกขโยงกันไปเดินโลตัสอีก 3 ชม. T_T( ทรมานเพราะปวดขาแห่ะๆ) แต่ก็สนุกดีค่ะ ท่านแม่น้ำฝากขอบคุณ ท่านสุเกียงมากๆ จ้าค่ะ ท่านแม่ฟังเรื่องที่ลูกๆ และเพื่อนๆ เล่าก็พูดว่า "ท่าน" เนี่ยน่ารักนะดูสิ ยังจะไปสายให้ท่านรออีก แล้วได้ขอโทษท่านหรือเปล่าพอไปถึง โอ๊ยชั้นจะบ้าตายทำไมให้ผู้ใหญ่รออย่างนี้ ฯลฯ บ่นไปยาวหลายไมล์ แล้วก็ถามต่อว่า แล้วท่านไม่ว่าเอาหรอ พวกเราบอกว่าท่านไม่ว่าน้องบอกว่าท่านบอกว่าไม่ต้องรีบปั่นค่อยๆ ปั่นไปเรื่อยๆ นะ แต่น้องบอกว่าท่านปั่นเร็วมากกกก น้องใช้เกียร์6 แม่บ้านเพื่อกวดท่านให้ทัน ตอนขึ้นสะพานด้วยความที่ได้รับคำแนะนำมาตอนทางราบว่าเกียร์เลขเยอะจะแรง ก็ปั่นขึ้นสะพานเกียร์ุ6 ปั่นๆๆๆ ใหญ่ พอถึงชมรมน้องบอกว่าเส้นเลือดขาเต้นตุ๊บๆ ขาสั่นแทบจะลงจากจักรยานมายืนไม่ได้เลย 555 ท่านปั่นเร็วมาก ใจจะขาดเลยท่านแม่ข้าน้อยได้ัฟังเรื่องที่ลูกๆ แย่งกันเล่าก็หัวเราะบอกว่า ท่านนี่น่ารักจริงๆ ไม่ว่าเด็กๆ (แต่คราวหลังอย่าให้ท่านรอนะ!!-_-"") ท่านแม่บอกว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เอาใจใส่ลูกทีมดีเพราะฟังเรื่องที่ท่านปั่นไปตามท่านนกกับกลุ่มที่พลัดหลงกัน แล้วก็ปั่นมาตามน้ำตอนที่หาที่ชมรมไม่เจอ แล้วก็บอกว่าอย่างนี้พ่อแม่ใครๆ ก็วางใจที่ให้ลูกไปด้วยอย่างสบายใจค่ะ ขอบพระคุณท่านด้วยเจ้าค่ะ

จากนั่นไปโลตัสแม่ก็เดินดูจักรยานเอง บอกว่าจะเอาไปปั่นแถวบ้านบ้าง...-_-"555 ท่านแม่บอกว่าไปเอานมอะไรมามากมายจะบ้าตาย เดี๋ยวท่านก็ว่าเอาหรอกว่าไปกับพวกเด็กสร้างบ้าน น้องและข้าน้อย และเฮนี่ และเอกกี้บอกว่า "ท่าน" นั่นแหล่ะเป็นคนพาไปเอา555

ปล.เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกค่ะ ท่านแม่สนับสนุนให้น้องไปปั่นทริปอีกเพราะได้สุขภาพดีค่ะ แต่น้องบอกว่าเกรงใจท่านเพราะต้องยืมจักรยานท่าน แถมท่านยังไม่รับน้ำใจจากพวกเด็กน้อยตาดำๆ อีก T_T ทำให้ยิ่งเกรงใจค่ะ ท่านแม่ข้าน้อยบอกว่าถ้าอยากปั่นก็ไปดูจักรยานกับน้ำสิ แล้วให้ท่านช่วยเลือกให้ว่าคันไหนเหมาะกับ สารรูป เอ้ย รูปลักษณ์อย่างพุดดิ้ง 555 (ถ้าพุดดิ้งและเอกกี้อ่านอยู่ข้าน้อยคงจะโดนแน่ๆ เหอๆ เผาน้อง
ตัวเอง ว่ะฮ่าๆๆ )

ปล..ขอบคุณเพื่อนๆ ในบล็อคทุกท่านนะคะ ปั่นทริปเมื่อวานแม้ว่าจะไม่มีคอนเซ็ปต์อะไรแต่ก็สนุกมากๆ เลยเจ้าค่า^^ น้องข้าน้อยและเพื่อนก็สนุกมากค่ะ


โดย: น้ำ^^ IP: 115.67.102.80 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:11:47:49 น.  

 
ที่แขวนจักรยานค่ะ ท่านนก

//picasaweb.google.co.th/momotcc/utkSFI#5521526982517696706

รูปจากกล้องพี่เจี๊ยบค่ะ

(เลื่อนภาพจากลูกศรไปเรื่อยๆ ค่ะ)

//picasaweb.google.co.th/momotcc/utkSFI#5521526992815192146

//picasaweb.google.co.th/momotcc/12#5521507561822710402



โดย: สุเกียง IP: 125.24.165.188 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:17:19:02 น.  

 
ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยท่านสุ ที่ไปสายถึงสายมาก และให้ท่านสุต้องคอย คราวหน้าจะพยามยามไม่สายอีกค่ะ

เมื่อกี้แวะไปดูรูปตามลิ้งที่ท่านสุ วางไว้ให้ มีรูปพวกเราด้วย และก็ได้เห็นบรรยากาศภายในงาน เห็นรถแปลก ล้อหน้าใหญ่มาก ล้อหลังเล็กนิดเดียว ไม่น่าเชื่อว่าจะขี่ได้ เมื่อวานตอนเช้า ปั่นสนุกมากค่ะ อากาศก็ไม่ร้อนมาก รถก็ไม่ค่อยเยอะ ช่วงสายเริ่มร้อนขึ้นจนถึงร้อนมากกกกกก แต่ก็สนุกค่ะ ไว้ทริปหน้าไปกันอีกค่ะ

ปล. ขอบคุณท่านสุ สำหรับอาหารเช้าที่แสนอร่อยนะคะ
พี่นกอย่าลืมส่งรูปให้เฮนี่นะฮะ ^^


โดย: เฮนี่ ^^ IP: 125.24.181.11 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:20:05:37 น.  

 
(รูปน้ำเฮนี่และน้องแบบโดนถ่ายไม่รู้ตัว 5555)
//picasaweb.google.co.th/momotcc/12#5521506414495743522

**สวัสดีเฮนี่ ครูน้ำ**

เห็นเพื่อนๆไปร่วมกิจกรรมแล้วดีใจมากๆเลยนะคะ
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ได้รวมตัวกันไปปั่นจักรยานอีกครั้ง
และที่วิเศษสุดคือ สามารถทำให้น้ำและเฮนี่อยากมาปั่นจักรยาน
และในที่สุดก็ซื้อจักรยานมาร่วมปั่นกับเขาจนได้ เก่งจริงๆ ใจกล้าหาญมากที่ปั่นบนถนนกัน

แถมยังพาน้องและเพื่อนชายมาปั่นด้วย น้องพุดดิ้งและเอกกี้ คงตื่นเต้นและสนุกไปด้วย

บอกท่านแม่ว่าไม่เป็นไรหรอก ทริปแรกก็ตื่นเต้นกันทุกคน กะเวลาไม่ถูกกัน
และมากันหลายคนก็เป็นธรรมดาที่จะรอไปรอมา
พอดีข้าทั้งตื่นเร็วก็ปิ้งขนมปังพริกเผาและห่อปอเปี๊ยะกล้วยกวน กลัวเพื่อนๆหิว
แพ็คเสร็จก็ได้เวลานัดออกมารอหน้าปากซอยตอน6.00น. เพราะทางชมรมฯเขาจะออกรถ6.30น.
เฮนี่โทรมาแบบกังวลก็เลยบอกค่อยๆมา ขับรถจะได้ปลอดภัย
ฟังออกว่าเสียงสั่นๆเร่งรีบกัน ไม่ได้โอ้เอ้กัน มาถึงก็ดีใจ เพราะน้องสาวที่รอทางนั้นบอกพวกเขารอเราอยู่
ถึงแล้วก็ดีใจค่ะ น้ำก็เก่งหาที่จอดรถได้เจ๋งมากๆ ตอนกลับได้เห็นท่านจอดรถตรงนั้น อืมๆรถไม่หาย แน่ๆ

แถมยังได้รวมกลุ่มพักผ่อนตรงนั้น คุยกันสนุกสนานเฮฮา ครื้นเครงกันทุกๆคน
แค่จะปั่นกลับยังไงท่าไหน นกก็ทำเอาฮาแตกซะแล้ว
จาส่งรถพับคืนข้าอย่างไร ปวดเฮดปวดขหมองจริงๆ
นกย่างจอดรถเก๋งที่สวนรถไฟ หากจะปั่นไปคืนรถข้า ตัวเขาจะกลับอะหยังอย่างไร ก็
ทำเอาสติแตก ก็เลยบอกง้านนกนั่งแท๊กซี่ไปสวนรถไฟคนเดียว
หมอนปั่นเสือแม่พลอยไปคืนที่บ้าน ผอ.กับท่านยามก็ปั่นไปพร้อมกัน
เท่านี้ก็คงไม่มีปัญหา จบ แต่ท่านยาม จอดรถที่โบ๊เบ๊ อ่ะ ง้านทุกท่านก็ปั่นไปโบ๊เบ๊ให้ท่านยามบรรทุกรถจย.แล้วส่งรถพับมาบ้านข้า
นกผอ.แม่พลอยหมอนนก ท่านยามจัดการส่งทุกคนกลับบ้าน ก็ตามนี้
เฮ้อ..ตลกโปกฮาตรงใครจากลับกะใครนี่แหละ

เฮนี่ น้ำและน้องๆ ทำตาปริบๆ เลย บอกให้กลุ่มนี้กลับกันเต๊อะ จาได้จบทริปตะลอนทัวร์

ข้าก็พาน้องของน้ำและเพื่อนชายปั่นมาบ้าน เพราะเขาสองคนยืมรถข้าเลยต้องปั่นมาคืน
น้ำและเฮนี่รอที่สนามกีฬาสักพักค่อยไปรับน้องที่รอหน้าปากซอยบ้านข้า
กลุ่มผอ.ก็ปั่นไปโบ๊เบ๊ทันที บ๋ายบายตรงนั้น

ข้ามาถึงซอยบ้านก็ถึงบ้านเข้าบ้านทันที น้องพุดดิ้งและเอกกี้ หายไป
เลยออกมาดูไปดูมารอบๆหายไปได้อย่างไรตามมาติดๆ
ที่แท้เขาสองคนปั่นไปท้ายซอยโน่น ต้องเดินตามไปท้ายซอย โบกมือก็ไม่ได้เห็น พวกเขาปั่นซะลึกสุด
กว่าพวกเขาจะเห็นลิ้นห้อยพอดี พวกเขาหันรถปั่นเริ่มต้นมากลางซอยเลยเห็นข้า

ฮาๆ เอกกี้ วัยรุ่นไหงจำทางไม่ได้ล่ะจ๊ะ ตอนมารับรถก็เดินนิดหน่อยเอง ทำไมปั่นหาบ้านข้าซะก้นซอยงั้นล่ะคะ
พวกเขาคงเหนื่อย น้องพุดดิ้ง หน้านี่งี้แดง โดนแดดจัดๆหน้าขาวๆก็แดงแป๊ดเลย คงเข็ดแล้วนะคะ
ตอนขึ้นสะพาน บอกต้องค่อยๆบีบเบรค เลี้ยงเบรคไว้
ส่วนเกียร์ยิ่งมากยิ่งแรง จะปั่นได้ไกล แต่ขึ้นสะพานหากใช้เกียร์เยอะจะหนัก แลกินแรงมาก ต้องใช้เกียร์ต่ำๆ จึงจะปั่นขึ้นไหว
555คงเข้าใจสลับกัน อิอิ ดีใจที่รถแม่บ้านน้องพุดดิ้ง ปั่นไหว และปั่นได้ตลอดทริป

อย่าเกรงใจหากมีเวลาชอบทริปไหนก็มายืมไปปั่นได้เสมอ ขอให้สนุกก็ดีใจหลายๆแล้ว
อย่าได้ซื้อของมาฝากนะคะ เพราะเพื่อนกันหากเกรงใจก็จะเหมือนไม่ใช่เพื่อน
เราต่างมีความสุขกับการได้ออกกำลังกายด้วยกัน
เป็นเพื่อนร่วมทางที่ต้องไปไหนไปด้วยไม่ทิ้งกัน
จะได้อยู่กันนานๆเที่ยวอย่างนี้บ่อยๆจะมั่นคงกว่า มั่นใจในความอึกและอดทนไม่ต้องเกรงใจไปมานะคะ

ออกทริปบ่อยๆ อีกหน่อยพวกเราก็เป็นแก๊งค์ไปไหนไปด้วยไงคะ
ฝึกความทรหดอดทน แบบอยู่สุขสบายในบ้านไม่ชอบ
ต้องไปเที่ยวแบบทรหดหรรษา ไม่ลองไม่รู้
กลับมาบ้านร้องโอดโอย พอหายเหนื่อย ลืมตัว แล้วก็ไปกะเขาอีก เหมือนโดนเขาหรอกแต่ก็อยากลองอีก ไม่เข็ดจริงๆให้มันดิ้นตายประมาณเนี่ยะอ่ะ..

แล้วเจอกันนะคะ









โดย: สุเกียง IP: 125.24.165.188 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:21:22:01 น.  

 
ok เลยค่ะ งั้นไว้พุดดิ้งขาหายสั่นและร้องโอดโอ้ยแล้วคงจะไปปั่นอีกเจ้าค่ะ

ท่านสุกล่าวได้ถูกต้องเลยเจ้าค่ะ เพราะ้น้ำก็ปวดขา ปวดแข้งมากค่ะ ตั้งแต่วันที่กลับมาจากทริป แห่ะๆ ท่านแม่บอกให้นวดน้ำมันมวยและทานยาคลายกล้ามเนื้อค่ะ น้ำกับพุดดิ้งจึงกินยาคลายกล้ามเนื้อกันก่อนนอนคนละเม็ดค่ะ เดี๋ยววันนี้ก็กินอีกค่ะ แห่ะๆ

แต่พุดดิ้งท่าทางจะชอบแต่เกรงใจท่านค่ะเพราะว่าไปสายอีกต่างหากแห่ะๆ T_T

ปล..ไหง๋ โดนถ่ายได้แบบไม่รู้ตัวอย่างนี้ล่ะำฮื่อๆๆ ท่านสุคงจะหัวเราะแย่เลยแง้...เฮนี่ พุดดิ้ง และเอกกี้ ก็หัวเราะและอับอายไปตามๆ กันว่าไหง๋หน้าตาดูเหนื่อย(เกินความจริงกันขนาดนั้นแห่ะๆ)

ปล..2 ท่านสุกับท่านยามควงก็โดนแอบถ่ายเช่นกันนะคะ ตอนกำลังติดตั้งกระเป๋าถ่ายรถกันอยู่อิอิ นั่งหัวเราะกับเฮนี่กันใหญ่ พุดดิ้งก็ดูด้วยค่ะ555


โดย: น้ำ^^ IP: 125.24.181.11 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:22:10:07 น.  

 
ท่านน้ำ
ฮาๆ5555 หุ่นเราสองคนเท่ากันแย้วนะ
สงสัยเราชาตินี้จาลดไม่ได้แย้วอ่ะ
ยิ่งปั่นยิ่งอ้วน ขาติดล้อ มีที่ไปเยี่ยมชมร้านของกินเยอะแยะมากมาย
หากปั่นไปแต่ละตรอกซอกซอย จะมีร้านอาหารขายกันหลายๆจ้าว
ร้านไหนคนเข้ามาก ร้านนั้นจะอร่อย คงหนีไม่พ้นเรื่องปั่นไปชิมไปอ่ะ

ใหม่ๆทุกๆคนจะปวดเมื่อยกัน ปั่นบ่อยๆสภาพร่างกายปรับไปเรื่อยๆค่ะ
ตื่นเช้าๆตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้ง ความเมื่อยล้าไม่มีเลยสักนิด
เมื่อก่อนไม่เชื่อ เพราะปั่นแล้วปวดหลังปวดขา ต้องยกขานอนสูงๆหมอนข้าง2ใบ
เด๋วนี้ไม่ปวดเมื่อยเลยสักนิด มีแต่เพลียสลบอย่างเดียว หลับถึงเช้า ตื่นมาไม่เมื่อยเลยค่ะ

ไว้มีทริปสำรวจเส้นทางปั่นวงแหวนรอบใน อย่าลืมชวนพุดดิ้งและเอกกี้ไปด้วยสิคะ
จะได้เห็นเขาสร้างทางให้ชาวจักรยานปั่น แต่ถูกเมินเพราะคิดหนัก ไม่ใช้ดีกว่า
ยอมเสี่ยงดวงข้ามบนถนนดีกว่า กลายเป็นมีแต่ม๊ะหมาสี่ขาขึ้นไปใช้บริการอึ..สบายไปอ่ะ


โดย: สุเกียง IP: 125.24.165.188 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:22:46:14 น.  

 
//www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=189&t=185358

รถรุ่นนี้สวยดีค่ะ หลายๆอย่างดีกว่าโอยาม่า ค่ะ
ราคาอาจต่อลองได้ รุ่นนี้หากน้องพุดดิ้งและเอกกี้ไปทดลองปั่นที่ร้านเขา
ก็จะดีไม่น้อย ท่านน้ำพาไปด้วยสิคะ ไปดูว่าถูกใจไหม?และเหมาะกะสำพร่างกายขณะขึ้นไปปั่นไหม?
ต้องทดลองดูค่ะ หากถูกใจก็จะดีตรงเดินทางไปไหนก็พับขึ้นรถเก๋งรึนั่งแท๊กซี่บรรทุกไปด้วยได้2คันพอดี
จะออกทริปไปไหนก็สะวกเก็บง่าย แค่พับไว้มุมใดมุมหนึ่งของบ้านไม่เกะกะ ดีตรงนี้ค่ะ



โดย: สุเกียง IP: 125.24.165.188 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:23:06:34 น.  

 
//www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=86&t=186984
ตัวนี้มินิจาวา พับไม่ได้ เบามากๆ เหมาะกะน้องพุดดิ้ง

//www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=86&t=230250

ส่วนตัวนี้พับได้ ก็เหมาะกะน้องพุดดิ้งอีก
คือพับใส่รถเก๋งเดินทางไปไหนสะดวก
จะดีกว่ารุ่นที่แปะอยู่ทู้บนมากๆ แตกต่างแค่พันกว่าบาทหากจะซื้อๆรุ่นนี้ไปเลย
จะดีกว่ารถพับโอยาม่ามากๆตรงที่มีถ้วยคอสแตม มีดิสเบรคหน้าหลัง มีตีนผีที่สุดยอดกว่าเยอะเลย เกียรก็ดีกว่า เฮ้อ..ข้าล่ะเสียดายจัง
ไม่มองดีกว่าเด๋วจักรยานในใจงอกมาอีก แย่แน่ๆ


โดย: สุเกียง IP: 125.24.106.187 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:10:45:04 น.  

 
ทำไมห้องแชทหายไปอ่ะ
เค้าทำไรผิดเนี่ย ห้องแชทหายไปหนาย
go จนgoล้าแล้วอ่ะ
เกิดรายเนี่ย แงๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: oui IP: 115.87.186.136 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:11:43:23 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่มอบความสนุกในทริปนี้ให้นะคะ

ขอบอกว่าพุดดิ้งไม่ได้กินยาคลายกล้ามเนื้อนะคะ ท่านแม่กะท่านพี่ให้กิน แต่มะด้ายกิน ตื่นมาก็โออยู่ มะด้ายเมื่อยไรมากมายค่า

ขอบคุณสำหรับอาหารเช้าและจักรยานนะคะ

ขอบคุณตัวเองสำหรับการเลี้ยง BBQ Plaza ค่า อิอิ


โดย: พุดดิ้ง IP: 10.13.106.250, 202.28.179.13 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:16:09:16 น.  

 
55555...ดีใจที่น้องพุดดิ้งและเอกกี้ไปปั่นด้วยค่ะ

เก่งมากๆ ค่ะ ไว้โอกาสหน้าไปปั่นอีกนะคะ..


โดย: สุเกียง IP: 125.24.99.173 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:15:26:25 น.  

 
หายหน้าไปนานมากแล้วกลับมาใหม่มีเรื่องดีๆมากมายขอบคุณทุกๆคนมากที่สร้างสิ่งดีๆให้ได้อ่านกัน


โดย: แหม่ม IP: 124.120.134.4 วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:17:36:29 น.  

 
ขอบคุณท่านที่แปลทุก ๆ ท่านและท่านที่เขียนด้วยนะคะ คือพึ่งได้ผ่านเข้ามาทางกูลเกิ้ลนะคะ ตามหาอ่านงานเรื่องนี้อยู่ค่ะ พึ่งรู้จัก พึ่งดูซีดีได้ 4 แผ่นค่ะ ไปอยู่หลังเขามา อิอิ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ หลงเสน่ห์ชองฮยางแบบถอนตัวไม่ขึ้น อิอิ จะติดตามอ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: เจ้ารัก IP: 118.172.25.252 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:14:37:18 น.  

 
ยินดีต้อนรับค่ะ เจ้ารัก คงมีอะไรในบล็อกให้อ่านไปอีกเดือนหลังดูซีรี่ส์จบ ดูหนังให้จบก่อนนะคะ แล้วค่อยมาตามไล่อ่านน่าจะได้อรรถรสที่สุด

ขอบคุณเช่นกันค่ะ น้องพุดดิ้ง และเอกกี้ วันนั้นสนุกและอร่อยทุกมื้อเลย มีโอกาสไปปั่นด้วยกันอีกนะคะ

คุณแหม่มหายไปนานจริงๆ คิดว่าลืมกันไปซะแล้ว มาเยี่ยมกันบ่อยๆ นะคะ


โดย: Won won (albatross11 ) วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:20:17:04 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่wonwon
รักเลือกดูเฉพาะฉากของยุนบกกับจองฮยางในซีดีค่ะ อิอิ และก็อ่านควบคู่ไปด้วย หวานมาก ๆ เลยค่ะ หัวใจรักกำลังละลายยยย อิอิ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


โดย: เจ้ารัก IP: 124.157.209.25 วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:12:24:52 น.  

 
^^ ฮ่า ฮ่า เจ้ารัก อาการเหมือนทุกคนในนี้เมื่อแรกๆ ที่ได้ดูเรื่องนี้เลยค่ะ รพ บ้าแห่งนี้จึงตั้งขึ้นมาเพื่อบำบัดอาการของพวกเราที่เป็นแบบนี้ทุกคนไงคะ ตอนนี้ทุกคนได้รับการบำบัดจนเกือบหายดีแล้วก็ยังไม่ไปไหน กลายเป็นเพื่อนรักเพื่อนซี้กันไปแล้ว หลายคู่ก็กลายเป็นแฟนกัน หลายคนก็กำลังจีบกัน อิอิ


โดย: Won won (albatross11 ) วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:21:21:03 น.  

 
ถึงคุณ won won คิดถึงจังแต่ไม่รู้ว่าจำได้รึปล่าว


โดย: แหม่ม IP: 124.120.132.200 วันที่: 8 ตุลาคม 2553 เวลา:15:42:50 น.  

 
จำได้ค่ะคุณแหม่ม ทำไมจะจำคุณแหม่มที่งองแงไม่ยอมขึ้นรถไปทำงานต่างจังหวัดถ้ายังไม่ได้อ่านเรื่องแปลตอนต่อไปไม่ได้5555 ตอนนั้นยังยุ่งๆกะเรื่องแปลเลยส่งไม้ผลัดให้เลขาโคปลอบคุณแหม่มแทน ที่บอร์ดบ้านสองมูน

เข้ามาคุยกันที่นี่บ่อยๆ นะคะ


โดย: Won won (albatross11 ) วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:9:28:39 น.  

 
จะพยายามเข้ามาคุยบ่อยๆจร้า
(ถ้าเจ้านาย บ' อยู่เด้อ 555)
ปล.คิดถึงทุกคนเสมอจร้า


โดย: แหม่ม IP: 124.120.133.17 วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:15:45:17 น.  

albatross11
Location :
สุรินทร์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




รักกันเพียงใดก็ต้องพลัดพราก หวงไว้เพียงใดก็ต้องจำจาก ข้ามาคนเดียวข้าไปคนเดียว ไม่มีใครเป็นอะไรของใคร ต่างคนมาต่างคนไป ยิ่งยึดยิ่งทุกข์ ปล่อยวางได้จึงเบาสบาย... เมื่อปัญญาแจ่มแจ้งจะสลัดคืน เมื่อมาจากดิน ท้ายที่สุดก็สลายกลายเป็นดิน ยึดเอาไว้ก็ได้แต่ทุกข์ตอบแทน อยากโง่ก็ยึดต่อไป คิดได้ก็วางเสีย พุทธทาสภิกขุ............ .............................. .............................. ความทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจนั้น เป็นเรื่องทรมานยิ่ง และเรื่องที่จะบังคับมิให้พลัดพรากก็เป็นสิ่งสุดวิสัย... ทุกคนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ที่พอใจ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง...พุทธโอวาท --------------------------- พระราชดำรัส ในรัชกาลที่ 7 เมื่อทรงสละพระราชสมบัติ เพื่อประชาชน ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรทั่วไป ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจโดยสิทธิ์ขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร
New Comments
Friends' blogs
[Add albatross11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.