... มาแว้วๆ ***ยอดรักนักศิลป์ตอนที่ 26 ทางรอด *** OG 2 ตอน13-ตอนจบ** **คลิกอ่านทุกเรื่องได้ที่เมนูด้านซ้ายเลยจ้า.. ^_^
“ความทุกข์-หากเล่าสู่กันฟังจะลดลงครึ่งหนึ่ง ส่วนความสุข-ถ้าเราแบ่งปันมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” ขอบคุณลูกบล็อกทุกท่านที่ร่วมสร้างบล็อกแห่งความสุขนี้ขึ้นมา อยากให้พื้นที่ในบล็อกแห่งนี้ได้เป็นที่แบ่งปันทุกข์และสุขร่วมกัน จะไม่มีรักรูปแบบใดที่เป็นไปไม่ได้ ณ ที่แห่งนี้....วอนวอน
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2562
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
19 ธันวาคม 2562
 
All Blogs
 

ตอนที่ 27/1 สายสัมพันธ์ By เกษตรศิลป์&กบน้อย

“ อาจารย์!!!!!!..” เสียงของทุกคนรวมทั้งยุนบกดังขึ้นพร้อมกัน สายตาทุกคนไปหยุดอยู่ที่ชายวัยกลางคนที่เพิ่งเปิดประตูแล้วก้าวเข้ามาภายในห้อง ซุกควอนมองใบหน้าของยุนบกและสังเกตท่าทีของทุกคนก็เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทันที ซุกควอนจึงไม่รอช้ารีบหยิบห่อผ้าออกมาจากสาบเสื้อด้านในก่อนจะยื่นส่งให้แก่ชายชราพร้อมกับกล่าวว่า

“ท่านหมอขอรับ นี้คือสิ่งที่ท่านต้องการขอรับ ข้าขอฝากชีวิตภรรยาของหลานชายไว้กับท่านแล้ว ได้โปรดช่วยนางด้วยเถอะนะขอรับ”

ปู่โซยื่นมือไปรับห่อผ้ามาพร้อมกับแกะห่อผ้าเพื่อตรวจดูสิ่งที่อยู่ภายใน ก่อนจะหันไปหายุนบกพร้อมทั้งกล่าวว่า

“คุณชายซอ ตอนนี้ตัวยาสำคัญที่จะทำใช้ยาถอนพิษนั้นมีครบถ้วนแล้ว ขอให้ท่านโปรดวางใจ ข้าและหลานสาวจะรักษาภรรยาของท่านอย่างสุดความสามารถ ในระหว่างนี้ข้าขอให้คุณชายจงอย่าหวั่นวิตกและรักษาสุขภาพของท่านด้วย เดี๋ยวข้าจะเขียนใบสั่งยาและเตรียมยาไว้สำหรับท่านเช่นกัน”

ยุนบกได้ฟังสิ่งที่ท่านปู่โซกล่าว ชายหนุ่มรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณดวงตาความรู้สึกตื้นตันและดีใจถาโถมเข้ามา ยุนบกก้มตัวคำนับชายชราพลางกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่ยินดีและเปี่ยมไปด้วยความหวัง

“ขอบคุณท่านปู่ขอรับ ข้าขอฝากชีวิตนางด้วยนะขอรับ ข้าจะทำจะตามที่ท่านปู่แนะนำขอเพื่อมิให้ท่านปู่ต้องเป็นกังวลในระหว่างที่ท่านปู่ได้ทำการรักษานางขอรับ”

ปู่โซพยักหน้ารับแววตาแสดงถึงความเอื้ออาทรออกไปให้กับยุนบกพร้อมทั้งหันไปยื่นห่อยาให้แก่หลานสาว

“ยอน เจ้าจงไปต้มยาตามที่ปู่เขียนไว้ในใบสั่งยาเมื่อยาต้มเสร็จแล้วเจ้าจงรีบนำไปให้ปู่ ปู่จะไปทำการฝังเข็ม เพื่อสกัดพิษมิให้ลุกลามไปมากกว่านี้”

ยอนที่ยืนมองยุนบกกับปู่สนทนากัน ในช่วงที่ยุนบกกล่าวขอบคุณท่านปู่นั้นเขาได้หันมาสบสายตากับหญิงสาว ในแววตาของชายหนุ่มนั้นสะท้อนถึงความรักที่มีต่อจองฮยางอย่างเปี่ยมล้น ยอนนิ่งงันราวกับตกอยู่ในภวังค์ก่อนจะละสายตาจากชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงที่ท่านเอ่ยบอก หญิงสาวจึงหันไปหาท่านปู่พร้อมกับยื่นมือไปรับห่อยาจากมือของท่านปู่

“ค่ะ ท่านปู่ ข้าจะรีบไปจัดเตรียมยาที่ท่านปู่ต้องการ”

จากนั้นหญิงสาวก็รีบสาวเท้าเดินออกไป ยุนบกที่เห็นยอนกำลังจะก้าวออกไปจึงได้ส่งเสียงเรียกหญิงสาวไว้

“ยอน เดี๋ยวก่อน ข้าขอขอบคุณเจ้าในทุกๆเรื่อง ในคราวก่อนนั้นเจ้าได้ช่วยชีวิตของข้าและมาในครั้งนี้เจ้าช่วยชีวิตข้าอีกครั้งรวมถึงภรรยาของข้าอีก ข้ามิรู้จะตอบแทนเจ้าและท่านปู่โซอย่างไร จึงจะเหมาะสมกับสิ่งที่เจ้าและท่านปู่โซนั้นได้ให้ความช่วยเหลือข้ามาตลอด หากมีสิ่งใดที่เจ้าและท่านปู่โซปรารถนาหรือต้องการความช่วยเหลือได้โปรดบอกกับข้าได้เสมอ ข้าพร้อมจะทำตามในสิ่งที่เจ้าและท่านปู่ต้องการ”

ยอนที่ได้ฟังคำกล่าวของยุนบก หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจเมื่อได้รับรู้ความรักและความผูกพันของทั้งสองคน ระหว่างยุนบกและจองฮยางที่ไม่มีสิ่งใดทำให้ความรักที่ทั้งสองคนมีต่อกันลดน้อยลงไปได้เลย หรือแม้แต่ความเป็นและความตายก็มิอาจพรากความรักของคนทั้งสองได้

“ เจ้ามิต้องห่วงหรอก ข้าและท่านปู่ย่อมทำหน้าที่ของหมออย่างเต็มที่ ไม่มีหมอที่ไหนจะยอมปล่อยให้คนเจ็บคนป่วยเป็นอะไรไปต่อหน้าหรอก ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นยาจกหรือเศรษฐีจะเป็นคนดีหรือคนร้าย ผู้เป็นหมอก็ต้องให้การรักษาอย่างเท่าเทียม หากมิใช่เช่นนั้นแล้ว ข้าและท่านปู่ไม่อาจจะเรียกตัวเองว่าหมอได้ เพราะหน้าที่หมอคือการรักษาชีวิตมิใช่หรือ”

ยอนกล่าวจบพร้อมหันหลังแล้วก้าวเดินออกไปจากห้อง แม้จะเจ็บปวดแต่นางก็อดชื่นชมในความรักของคนทั้งคู่มิได้ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

“สิ่งที่ข้าปรารถนานั้นหรือ ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะว่าเจ้านั้นไม่ว่าหลับหรือตื่นแม้แต่ในความฝัน เจ้ามีเพียงนางเท่านั้น”

เมื่อหลานสาวเดินออกไปเตรียมงานที่สั่งแล้ว ชายชราจึงจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะรักษาและเอ่ยว่า

“ท่านซุกควอน ข้าต้องการอาสาสมัครผู้หญิงไปช่วยในระหว่างการรักษา”

เมื่อซูซอนจูและดานุงได้ยินเช่นนั้นจึงรีบขันอาสาชายชราทันที

“ท่านหมอ ข้าขออาสาไปช่วยท่านเอง เพราะนางนั้นเป็นหลานสาวของข้า”

“ข้าขอไปด้วยค่ะ เพราะข้าคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ได้โปรดให้ข้าได้มีโอกาสทำอะไรเพื่อชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้บ้างเถอะค่ะ” ชายชราจึงพยักหน้ารับก่อนจะกล่าวว่า

“ถ้าเช่นนั้นขอเชิญท่านหญิงทั้งสองตามข้ามา พวกเราต้องเร่งมือแล้ว”

ท่านปู่โซรีบเดินออกไปพร้อมทั้งซูซอนจูและดานุงก็ต่างเร่งรีบเดินตามออกไป ซุกควอนเมื่อเห็นว่าท่านหมอชราได้ไปทำหน้าที่รักษาจองฮยางแล้ว เขาจึงรู้สึกวางใจก่อนที่จัดการสั่งงานแก่ทุกคนเพื่อแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ต่างๆ

“จิลซิล เจ้าไปจัดการเตรียมคนของเราวางเวรยามตรวจขันที่โรงผลิตกระดาษและที่นี้ให้แน่นหนากว่าเดิม บอกกับทุกคนด้วยว่าหากพบสิ่งผิดปกติให้ส่งสัญญาณเตือนทันที ระหว่างรอยอนอูและจีวานกลับมาสมทบ จากนั้นเจ้าจงไปพักผ่อนเสีย ส่วนแม่นางแชยุนข้าอยากจะรบกวนให้ท่านเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำแผลรอพวกเขาที่กำลังจะกลับมาถึงที่นี้ มักนึน ส่วนเจ้านั้นจงไปช่วยหมอหญิงเตรียมยาให้คุณหนูของเจ้าและอาหารให้กับพวกหนุ่มๆที่กำลังจะมาถึง’’

เมื่อจบคำกล่าวของซุกควอน ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายทันที

ภายในห้องโถง ณ ตอนนี้จึงเหลือยุนบกเพียงผู้เดียว ซุกควอนเดินเข้าไปหาลูกศิษย์ของตนก่อนจะใช้มือตบลงที่บ่าเบาๆพร้อมทั้งกล่าวว่า

“ยุนบก เจ้าจงวางใจเถอะสวรรค์นั้นเมตตาพวกเจ้าแล้ว ข้าเชื่อว่านางต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ ความเข้มแข็งที่มีอยู่ต่อหน้าของผู้อื่นนั้นก็ได้พังทลายลง ชายหนุ่มปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาแบบไม่อายสายตาของผู้เป็นอาจารย์ ก่อนจะยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา ภาพนั้นทำให้ซุกควอนทั้งสงสารและเข้าใจแต่ก็อดขำมิได้ ชายวัยกลางคนจึงหลุดหัวเราะและยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยุนบกนี้เจ้านี้ร้องไห้เหมือนเด็กเลย มานี้เจ้าหลานรัก”

ซุกควอนกล่าวและเดินเข้าไปโอบกอดพลางตบลงที่กลางหลังเบาๆก่อนจะกล่าว

“ข้าว่าหากใครเห็นเจ้าตอนนี้ คงไม่มีใครอยากเชื่อเลยว่าเจ้าแต่งงานแล้วแถมยังมีภรรยาที่งดงาม นางจะต้องหายดีแน่นอนทำใจให้สบายเถอะหลานชาย”

ยุนบกกอดตอบซุกควอน ผู้เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่ของตนในเวลานี้ที่เขานั้นอ่อนแอและต้องการกำลังใจ ชายหนุ่มรู้สึกถึงมิตรภาพและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ซุกควอนเป็นบุคคลที่สองที่เปรียบเหมือนญาติผู้ใหญ่ของเขาอีกคนนอกจากทันวอน คิม ฮงโดอาจารย์คนแรกของเขา และพ้องเพื่อนที่โรงผลิตกระดาษล้วนแต่มีความจริงใจและคอยช่วยเหลือเขายามทุกข์ยากเสมอ มันช่างแตกต่างกับสมัยที่เขานักเรียนที่อยู่ในสำนักช่างเขียนหลวงเพื่อเป็นสอบเป็นช่างเขียนหลวงยิ่งนัก เมื่อตั้งสติและสงบจิตใจได้แล้ว ยุนบกจึงผละออกก่อนจะนึกถึงสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง

“อาจารย์ จริงสิขอรับ ตัวยาสำคัญที่ท่านปู่โซต้องการท่านเอามาจากไหน”

ซุกควอนก้าวเดินเข้าไปใกล้ยุนบกก่อนจะกระซิบพร้อมกับกล่าวว่า

“แฮวอน ตามข้าไปที่ห้องลับคืนนี้ ข้ามีสารจากท่านผู้นั้นที่ต้องแจ้งต่อเจ้า”

หลังจากนั้น 7 วันต่อมา ยุกบกและซุกควอนต่างวุ่นวายอยู่งานที่โรงผลิตกระดาษเนื่องจากกลุ่มการค้าจงซางนั้นได้ลอบเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับโรงผลิตกระดาษไม่น้อย แม้ว่าซุกควอนจะเตรียมการรับมือไว้

แต่ทางกลุ่มการค้าจงซางได้จ้างกลุ่มนักฆ่าให้ลอบเข้ามาสร้างความเสียหายและได้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มคนทั้งสองกลุ่ม จึงมีคนได้บาดเจ็บไม่น้อยจึงทำให้ปู่โซและยอนต้องรักษาคนเจ็บเพิ่มอีกหลายคนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“อาจารย์ ข้อมูลพวกนี้ข้าได้ตรวจสอบและคัดแยกให้ท่านเรียบร้อยแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อนนะขอรับ”

ซุกควอนเงยหน้าจากเอกสารที่กำลังตรวจทานอยู่ ก่อนจะเอ่ยถามยุนบกว่า

“ตอนนี้จองฮยางเป็นเช่นไหร่ นางอาการดีขึ้นบ้างหรือยัง”

“อาการของนางดีขึ้นมากแล้วขอรับ เห็นว่าพิษในร่างกายของนางถูกขจัดใกล้หมดแล้วตอนนี้นางอยู่ระหว่างการพักฟื้นตัว แต่ข้าก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับนางเสียที นางมักตื่นมาในยามที่ข้ามาทำงานและยามที่ข้ากลับบ้านนางก็หลับเสียแล้วครับ คงเป็นเพราะฤทธิ์ของยาด้วยนะครับ”

ซุกควอนมองดูยุนบกที่กล่าวบอกและกำลังเร่งมือทำงานเพื่อจะได้ไปดูแลจองฮยางดั่งเฉกเช่นทุกวัน

“อืม หากข้าการจัดการปัญหาต่างๆเรียบร้อยแล้ว ข้าจะแวะไปเยี่ยมเยือนนาง แล้วเรื่องของคุณหนูดานุงล่ะ เจ้าคิดว่าอย่างไร ท่านหมอกับหลานสาวนั้นเจ้าได้ให้การดูแลท่านอย่างดีหรือเปล่า”

ยุนบกที่กำลังเขียนเอกสารอยู่ได้หยุดมือและเงยหน้ามาพูดคุยเพื่อตอบคำถามของซุกควอน ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงจองฮยาง

“คุณหนูดานุง นางขอไปจัดการเรื่องนั้นด้วยตัวเอง คุณดานุงไปดูแลจองฮยางด้วยตัวเองตลอดช่วงที่ข้ามาทำงานทุกวัน เห็นว่านางได้เลื่อนการเดินทางกลับซองตูออกไปแล้วครับ ส่วนท่านปู่โซและยอนนั้นไม่ต้องห่วงเพราะข้าได้ให้การดูแลแก่ทั้งสองคนเป็นอย่างดีขอรับ พอเถอะท่านอาจารย์อย่าได้ชวนข้าคุยนัก รีบทำงานให้เสร็จกันเถอะ ข้าอยากจะกลับไปหาภรรยาของข้าแล้ว”

“หนอย!!! เจ้านี้มัน งั้นก็เอาส่วนของข้าไปทำด้วย ช่วยๆกัน ข้าก็อยากเลิกงานไวๆเหมือนกันและจะได้ไปเยี่ยมเยือนนางเช่นกัน”

ตึก! ตึก!ตึก! ครืด!! เสียงเดินและเสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้หญิงสาวทั้งสองคนที่กำลังคุยกันอยู่หันไปมองผู้ที่เข้ามา ดานุงส่งยิ้มไปให้กับยอนก่อนจะลุกไปนั่งที่โต๊ะและปล่อยให้หมอหญิงทำการตรวจร่างกายของจองฮยาง ยอนทำการฝังเข็มเพื่อตรวจหาพิษก่อนจะถอนเข็มออกเมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติ หญิงสาวจึงยกยิ้มด้วยพอใจ

“ตอนนี้พิษในร่างกายของเจ้าได้ถูกขจัดออกหมดแล้ว หลังจากนี้เจ้ากินยาสำหรับฟื้นกำลังอีกสัก 3 วันก็หายเป็นปกติแล้วล่ะแต่คงยังต้องดูว่าพิษนี้จะมีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่เท่านั้น”

ยอนกล่าวในขณะที่ทำความสะอาดเข็มเงินและเก็บอุปกรณ์ต่างๆเข้ากล่องยา จองฮยองมองสำรวจใบหน้าของหมอหญิง ยอนมีใบหน้าเรียว คิ้วเรียวสวย ใบหน้าใสกระจ่างริมปากบางอมชมพู ผิวขาวใส รูปร่างสมส่วนงดงามราวกับคุณหนูตระกูลคหบดีหรือขุนนาง จัดเป็นหญิงสาวที่มีงดงามอีกนางหนึ่ง ไม่แพ้คุณหนูดานุงที่งดงาม สุขุม นุ่มลึกและมีความเด็ดเดี่ยว

“อีกสักพักข้าจะให้คนนำยามาให้ ตอนนี้ข้าขอตัวไปตรวจอาการคนที่ได้รับบาดเจ็บและคนอื่นๆก่อน หากเจ้าเบื่อที่จะนอนอยู่แต่ในห้องก็สามารถออกไปเดินเล่นข้างนอกได้ เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้ร่างกายจะได้รับอากาศเย็นจนเกินไปจนกว่าเจ้าจะกินยาตามที่ข้าบอกจนครบ 3 วัน”

ยอนจับกล่องยาพร้อมลุกขึ้นและก้าวเท้าเดินออกไปเพื่อตรวจคนป่วยที่เหลือ แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก

“เดี๋ยวค่ะท่านหมอหญิง โปรดรับการขอบคุณจากข้าด้วยค่ะ เพราะท่านและท่านปู่ของท่านข้าเลยรอดชีวิตมาได้ มีสิ่งไหนที่ข้าพอจะตอบแทนบุญคุณท่านได้บ้างค่ะ”

ยอนมองจองฮยางที่กำลังก้มตัวย่อลงคำนับเพื่อแสดงความขอบคุณ ภาพในวันวานของยุนบกย้อนเข้ามาให้ความคิด หญิงสาวเพียงได้คิดอยู่ในใจ

“ทั้งคำพูดและการกระทำของพวกเจ้านั้นราวกับคนๆเดียวกัน แบบนี้หรอกหรือที่เคยได้ยินมาว่า แค่มองตาก็รู้ใจ”

ยอนส่งรอยยิ้มจริงใจไปให้จองฮยางพร้อมทั้งหันหน้าไปทางคุณดานุงแล้วกล่าวบอกแก่จองฮยางว่า

“เจ้าควรขอบคุณคุณหนูดานุงเสียมากกว่า หากไม่มีนางอาการของเจ้าคงไม่ดีขึ้นในเร็ววันเช่นนี้แน่ อีกทั้งนางรับอาสาดูแลเจ้าตลอดระหว่างการรักษา”

“ท่านหมอหญิงอย่าได้กล่าวแบบนั้นเลย ข้าเสียอีกที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณนาง เพราะนางเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตข้าไว้ แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้าย แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีแฝงอยู่ทำให้ข้าได้พบเจอกับน้องสาวเพียงคนเดียวที่ข้าพยายามตามหามานับเป็นเวลามากกว่า10ปีที่ผ่านนี้”

ยอนพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้สองพี่น้องมีเวลาอยู่ร่วมกัน หากเพียงคล้อยหลังหญิงสาวไปนานแชยุนและมักนึนก็นำยาและอาหารมาให้สองพี่น้อง ดานุงลุกไปประคองน้องสาวของตนให้ลงจากเตียงเดินมานั่งที่โต๊ะที่มีอาหารและยาวางอยู่ ก่อนนางจะนั่งตามและหยิบถ้วยยามาเปิดถ้วยดูก่อนจะส่งให้แก่จองฮยาง

“โมรยอน น้องพี่เจ้าดื่มยาเสียก่อนเถอะยานี้อุ่นกำลังพอดี จากนั้นอีกสักครู่เราค่อยกินข้าวกัน”

จองฮยางหยุดะงักก่อนจะยื่นมือไปรับยาแล้วยกขึ้นดื่ม ในขณะที่ดานุงรินน้ำอุ่นจากกาลงในถ้วยชาก่อนจะขยับถ้วยน้ำอุ่นไปให้จองฮยางดื่มเพื่อกลั้วยาที่เพิ่งยกดื่มไปเมื่อครู่ จองฮยางวางถ้วยยาลงก่อนจะหยิบถ้วยน้ำดื่มตามแล้วกล่าวขอบคุณ

“ขอบคุณคุณหนูดานุงมากนะคะ ข้าอยากจะถามท่านว่าเหตุใดท่านจึงทราบนามเดิมของข้าที่มีเพียงคนรู้ไม่กี่คนเพียงเท่านั้นค่ะ เหตุใดจึงมั่นใจว่าข้าคือน้องสาวของท่านค่ะ”

ดานุงยิ้มและส่งสายตาเอ็นดูไปให้แก่หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นน้องสาวต่างมารดาของตนพร้อมกับกล่าวบอกว่า

“ในตอนที่เจ้าไม่รู้สึกตัวเพราะถูกพิษนั้น ท่านหมอโซได้ใช้ยาถอนพิษรักษาเจ้า หลังจากที่ได้ดื่มยาถอนพิษเข้าไปได้เพียงชั่วครู่ เจ้านั้นได้อาเจียนออกมาเป็นเลือด ในระหว่างนั้นเจ้าก็หมดสติไปสาเหตุคือการได้รับพิษเป็นเวลาหลายวันอีกยังอาเจียนเป็นเลือดหลังจากการดื่มยาถอนพิษเข้าไป ท่านหมอต้องการเลือดของคนที่มีเลือดเข้ากับเจ้าได้ ท่านหมอโซได้เคยพบเจอหมอทางตะวันตกและเห็นการรักษาคนไข้ที่รักษาที่คล้ายคลึงกับเจ้า เคยได้เห็นวิธีตรวจสอบเลือดที่เข้ากันได้กับวิวัฒนาการทางแพทย์ที่ก้าวไกล โดยเฉพาะการถ่ายเลือด จากการตรวจสอบนั้นมีเพียงข้าเท่านั้นที่มีเลือดที่สามารถเข้ากับเจ้าได้ แต่คนที่ทำการถ่ายเลือดนั้นต้องคอยเฝ้าดูอย่างต่อเนื่องคือท่านหมอหญิง ตอนนั้นแม้ตัวข้าจะไม่แน่ใจนักว่าใช่เจ้านั้นเป็นน้องของข้าจริงๆหรือไม่ แต่ข้าก็รู้สึกถูกชะตาและรู้สึกเอ็นดูเจ้ายิ่งนัก จึงคิดว่าจะขอให้เจ้าเป็นน้องสาวบุญธรรมอยู่แล้ว แต่ในระหว่างที่ได้ดูแลเจ้า ตอนที่ข้าทำการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้า ข้าเผอิญเห็นสิ่งนี้เข้า”

ดานุงกล่าวอธิบายให้จองฮยางฟังอย่างละเอียด ก่อนจะหยิบหยกรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวสองอันออกมาจากนั้นดานุงจึงนำหยกทั้งสองอันประกบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นรูปพระจันทร์เต็มดวง จองฮยางมองหยกรูปพระจันทร์ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูก่อนที่จะน้ำตาคลอ

“หยกชิ้นนี้เป็นของท่านพ่อที่ทิ้งไว้ในดูต่างหน้า ท่านมักจะเล่าให้ฟังเสมอถึงรักแรกของท่าน และเคยบอกว่ามีหยกอยู่อีกชิ้นหนึ่งนั้นได้มอบไว้ให้บุตรสาวคนแรก ข้าไม่จะอยากเชื่อเลยว่าจะมีโอกาสได้พบเจอกับพี่สาวตัวเอง ในคราวแรกเจอท่านข้าก็รู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยรู้จักท่านมาก่อน ท่านให้ความรู้สึกเหมือนคนในครอบครัว แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าท่านคือพี่สาวต่างมารดาที่ท่านพ่อเคยพูดถึง ท่านพี่ค่ะ”

หญิงสาวทั้งสองโผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง ทั้งสองคนต่างน้ำตาคลอออกมาด้วยด้วยความตื้นตันใจที่ได้พบเจอกัน

“ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้เจอท่าน ไม่นึกฝันว่าจะได้มีโอกาสได้พบเจอกับท่านแม้จะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆข้าดีใจที่ท่านปลอดภัย เมื่อได้รู้คนที่ข้าช่วยนั้นแท้จริงเป็นพี่สาวของข้าเอง”

“ข้าเองก็ดีใจไม่น้อยไปกว่าเจ้าหรอก เจ้าคงลำบากมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ข้าได้พูดคุยกับคุณซอ แล้วขอให้เขาเล่าเรื่องราวของเจ้าให้ฟัง ข้าเองรู้สึกดีใจที่เจ้ามีคนรักที่ดีแบบคุณชายซอ ข้ารู้สึกผิดที่ไม่ห้ามปรามแชยุนที่เกือบทำให้เจ้าและคุณชายซอนั้นมีปัญหากัน และยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีกที่ทำให้เจ้าต้องถูกพิษจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะต้องการช่วยเหลือข้า”

“ช่างเขียนและข้าต่างผ่านเหตุการณ์ที่ทั้งดีและร้ายมาเสมอ เรื่องราวเหล่านี้ก็ทั้งมีความทรงจำที่ดีและร้ายปะปนกันไปค่ะ ทั้งช่างเขียนและตัวข้าต่างมีข้อผิดพลาดด้วยกันทั้งคู่ สิ่งที่เกิดขึ้นเราสองคนคนไม่อาจจะย้อนไปแก้ไขได้อีก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้าคิดว่าชีวิตคนเราสั้นนักไม่มีสิ่งใดที่เที่ยงแท้แน่นอน ชีวิตของข้าและช่างเขียนนั้นล้วนอยู่บนความเสี่ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เหตุการณ์ครั้งนี้นั้นทำข้าได้คิดว่าจากนี้ต่อไปจะใช้วันเวลาที่มีร่วมกับคนที่ข้ารักให้คุ้มค่าที่สุดในทุกวินาทีขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่”

ณ ห้องรับรองของโรงผลิตกระดาษที่บัดนี้ได้กลายเป็นสถานรักษาพยาบาลชั่วคราว เมื่อมีข่าวแพร่ออกไปเกี่ยวกับท่านหมอโซทำให้มีผู้คนในหมู่บ้านเข้ามาขอรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยกันอย่างเนื่องแน่น

“คุณชายจิลซิล บาดแผลของท่านดีขึ้นมากแล้วนะค่ะ ข้าขอล้างแผลและพันผ้าให้ท่านใหม่ อีกสักครู่แม่นางแชยุนและมักนึน จะนำยาที่ข้าได้ขอให้พวกนางช่วยจัดเตรียมมาให้ท่านและทุกคนที่นี้นะค่ะตามใบสั่งยาตามอาการของแต่ละท่านนะค่ะ”

หลังทำการตรวจดูสภาพแผลของจินซิลพร้อมลงมือล้างแผลพันผ้าปิดใหม่จนเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงลงมือตรวจและดูแลผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาพร้อมกับคำให้แนะนำด้วยความตั้งใจและใส่ใจ

“อาการของลูกสาวท่านเป็นอาการของไข้หวัด ท่านมิต้องกังวลใจ เพียงแค่ให้นางอยู่ในที่อากาศเทถ่ายและทำให้ร่างกายอบอุ่นและให้นางจิบน้ำอุ่นบ่อยๆและนำยานี้ไปต้มให้นางดื่มวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลาห้าวันก็จะหายดี หากนางตัวร้อนเพราะพิษไข้ขอให้ท่านใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดตัวให้ หากผ่านสองวันถึงสามแล้วอาการนางไม่ดีขึ้น หลังจากที่ท่านได้ปฏิบัติตามที่ข้าแนะนำไปแล้ว ขอให้ท่านพานางไปหาข้าหรือหมอที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ได้ แล้วนำใบสั่งยาและรายงานอาการของลูกสาวที่ข้าเขียนไว้ให้แก่หมอท่านนั้นด้วย”

“ขอรับท่านหมอ ข้าจะปฏิบัติตามท่านแนะนำขอรับ ค่ารักษาเท่าไหร่หรือขอรับ”

“ข้ากับหลานสาวไม่เก็บค่ารักษา เพราะท่านซุกควอนและคุณชายซอพร้อมกับกลุ่มการค้าซงซางร่วมทั้งท่านซูยองจูเศรษฐีประจำเมืองอูริยองต่างต้องการช่วยเหลือผู้คนที่นี้เลยจัดการเรื่องค่ารักษาไว้ให้แก่ข้าแล้ว”

ท่านปู่โซกล่าวบอกกับผู้คนที่มารอรักษา เมื่อท่านหมอชรากล่าวจบผู้คนก็ส่งเสียงเซ็งแซ่ไปทั่วห้องและบริเวณด้านนอกของห้องรับรอง

“โอ้!!!! ท่านซุกควอน คุณชายซอช่างมีน้ำใจประเสริฐยิ่งนัก”

“ท่านเศรษฐีนีซูซอนจูช่างมีเมตตา ส่วนกลุ่มการค้าซงซางเป็นกลุ่มการค้าที่ชื่อเสียงเรื่องความมีคุณธรรมมาก”

“ข้าได้ยินมาว่าภรรยาคุณชายซอนั้นป่วย ข้าภาวนาขอให้นางหายป่วยไวๆได้ยินมาว่าคุณชายรักนางมากจนปฏิเสธที่จะมีอนุภรรยา”

“ข้าได้ข่าวมาเหมือนกันว่านางงดงามมาก ทั้งกิริยาอ่อนหวานมีความเป็นแม่ศรีเรือนมากแถมยังเล่นคายากึมเก่งมากด้วย”

“ช่างเป็นคู่สร้างคู่สมเสียจริงๆ ทำให้ข้าเสียดายจริงๆข้ามีทั้งบุตรสาวบุตรชาย แต่เมื่อเห็นทั้งคู่แล้วปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า คุณชายซอและภรรยานั้นเหมาะสมกันยิ่งนัก”

ขณะนั้นแชยุนและมักนึกได้ยกยาที่จัดเตรียมเสร็จแล้วพร้อมทั้งของว่างมาให้คนป่วยและผู้คนที่มารับการรักษา แชยุนที่ได้ฟังผู้คนกล่าวถึงยุนบกและจองฮยางนางก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นได้ทำนั้นผิดมากที่ทำให้ยุนบกและจองฮยางนั้นมีปัญหากัน ยิ่งในตอนนี้จองฮยางนั้นคือน้องสาวของคุณหนูดานุงที่เป็นนายหญิงของนาง แชยุนยิ่งรู้สึกผิดจนทำให้นางมีสีหน้ามิค่อยดีเท่าไหร่ จุนวานที่คอยมองอยู่จึงสังเกตเห็น

“แชยุนเจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดสีหน้าจึงไม่ค่อยดีเลย พักซักเดี๋ยวเถอะไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่ไหม ข้าเห็นว่าที่นี้มีธารน้ำตกอยู่นะ เจ้าอยากไปหรือไม่”

แชยุนหันไปมองจุนวานและเห็นรอยยิ้มจริงใจแฝงความเป็นห่วงใยในน้ำเสียงของเขา นางจึงกล่าวบอกกับชายหนุ่ม

“หากมิรบกวนท่านจนเกิน ช่วยโปรดรอสักครู่ขอข้าช่วยท่านหมอและหมอหญิงอีกสักพักค่ะ”

ซ่า!!!! ครืน!!!!ซ่า!!!!เสียงน้ำตกกระทบโขดหินจนเป็นละอองฝอยๆเมื่อยามกระทบกับแสงแดดยามบ่ายทำให้เกิดเป็นสายรุ้ง กลิ่นของหมู่มวลดอกไม้ถูกพัดพาเอากลิ่นหอมล่องลอยมากับสายลมด้วย แชยุนสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ลอยมากับลมให้นางรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

“เจ้ารู้สึกดีขี้นหรือยัง รู้สึกผ่อนคลายบ้างหรือป่าว บรรยากาศที่น้ำตกนี้ทำให้ใจสงบลงได้มากเลยล่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าอย่าได้โทษตัวเองอีกเลยทุกอย่างผ่านไปแล้ว ข้ารู้ดีว่าเจ้าเองก็เจ็บปวดไม่น้อยยิ่งเห็นเจ้าเจ็บปวดเท่าไหร่ตัวข้านั้นยิ่งเจ็บปวดมากกว่าที่ไม่อาจจะแบ่งเบาความเจ็บปวดนั้นมาจากเจ้าได้”

หญิงสาวนิ่งฟังความในใจที่จุนวานกล่าวขึ้น แชยุนมองสบตาของเขาในแววตาที่สะท้อนกลับมานั้นมีภาพของนางอยู่ในดวงตาของเขา แววตาที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักความหวังดีความห่วงหาอาทรเจือที่อยู่ในดวงตาของชายหนุ่มเสมอ ไม่ว่านางจะทำอะไรและผิดพลาดแค่ไหน เขาไม่เคยกล่าวโทษนางสักครั้งมีแต่คำว่าให้อภัยเสมอสำหรับเขา แชยุนยอมรับว่าตัวนางนั้นรู้สึกอ่อนแอสับสนทั้งรู้สึกผิดต่อยุนบกและจองฮยางที่เข้าไปแทรกจนทำให้ทั้งสองนั้นมีปัญหาก่อนที่จะเกิดเหตุร้าย แต่ที่ทำให้นางยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นคือชายหนุ่มผู้นี้ ผู้ที่ยืนอยู่เคียงข้างนางเสมอตั้งแต่เด็กจนโต

“พี่จุนวานค่ะ ท่านยังรักข้าอยู่ไหมในตอนนี้ หรือท่านเห็นข้าแค่น้องสาวอย่างที่ข้าเคยขอท่านแล้วค่ะ”

“ใจของข้าที่มีต่อเจ้ายังเหมือนเดิม ต่อให้เจ้าไม่รักข้าความรักของข้าที่มีต่อเจ้าก็ยังคงอยู่ และข้าก็ไม่สามารถเป็นพี่ชายที่แสนดีให้เจ้าได้ หากแต่ข้าอยากเป็นผู้ชายแค่คนหนึ่งเท่านั้นที่รักเจ้าแชยุน”

แชยุนถึงกับน้ำตาไหลรินออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ จุนวานที่เห็นน้ำตาของหญิงสาวที่ตนหลงรักไหลรินออกมาเขาจึงดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อด้านในและใช้ซับน้ำตาให้แก่หญิงสาวพร้อมทั้งปลอบประโลม “เจ้ามิต้องรักข้าตอบก็ได้ ข้าเพียงอยากบอกความรู้สึกให้เจ้ารู้เอาไว้ หัวใจคือสิ่งที่เราไม่อาจบังคับกันได้ เจ้าอย่าได้ร้องไห้เลย น้ำตาของเจ้าเหมือนน้ำกรดที่กัดเซาะหัวใจของข้า”

“ไม่ใช่ค่ะ ที่ท่านเข้าใจผิดแล้ว ที่ร้องไห้เพราะข้าซาบซึ้งใจในความรู้สึกของท่านที่มีต่อข้า ขอเวลาให้ข้าอีกสักหน่อย ให้ข้าได้ลืมคุณชายซอ ขอเวลาให้ข้าได้มีเวลาคิดว่าที่ผ่านมานั้นข้าได้หลงรักคุณชายซอจริงหรือไม่หรือข้าแค่ประทับใจและปลาบปลื้มเขากันแน่ ท่านจะรอข้าได้หรือไม่”

จุนวานที่ได้ฟังคำกล่าวของแชยุน ชายหนุ่มทั้งตกใจและระคนดีใจ จุนวานกล่าวด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าด้วยความดีใจ

“ได้สิ ที่ผ่านมาข้าเองก็รอคอยและเฝ้ามองเจ้าเสมอมากับสิ่งที่เจ้ากล่าวเมื่อครู่ ทำไมจะรอไม่ได้ล่ะ”

แชยุนยิ้มออกมาด้วยความสบายใจก่อนที่นางจะเดินหนีเขาไปด้วยความอาย

“ขอบคุณท่านมาก ตอนนี้ข้าสบายใจมากขึ้นแล้วและข้าขอตัวไปช่วยมักนึนทำงานก่อนนะค่ะ”

“อาจารย์ งานที่ท่านสั่งให้ข้าจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าขอตัวกลับบ้านแล้วนะครับ ท่านจะกลับพร้อมข้าเลยหรือไม่”

“ยุนบก เจ้านี้มันจริงๆเลย เจ้าไปช่วยข้าเลือกของสำหรับจะจัดงานเลี้ยงก่อนแล้วค่อยกลับบ้านพร้อมกับข้า”

“โอ้ย อาจารย์ ไปพรุ่งนี้แทนมิได้หรือขอรับ วันนี้ข้ารีบจริงๆวันนี้ได้ยินมาจากมักนึนว่าคุณหนูดีขึ้นมาก นางเริ่มเดินออกมาสูดอากาศนอกบ้านแล้วและนางก็ถามถึงข้าด้วย ข้าอยากรีบกลับไปหานางนะครับ”

ซุกควอนได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับความรีบร้อนของยุนบก ที่เอาแต่เร่งเร้าจะกลับไปหาจองฮยางให้ได้

“ข้าจะไปเยี่ยมนางก็ควรมีของไปเยี่ยมนางด้วยสิ แล้วอีกอย่างข้าจะหาซื้อของไปให้ท่านหมอโซแม่นางยอนเพื่อขอบคุณท่านหมอโซและแม่นางยอนที่ทำการรักษาจองฮยางและคนในโรงผลิตกระดาษที่ปะทะกับกลุ่มนักฆ่าไหนจะที่พวกเขาสองคนปู่หลานจะดูแลรักษาคนในหมู่บ้านอีก จนตอนนี้ก็ผ่านมาหลายวันทั้งข้าและเจ้าก็มัวยุ่งอยู่กับจัดการปัญหาที่เกิดจากกลุ่มการค้าจิงซาน ตอนนี้จองฮยางอาการดีขึ้นจนใกล้จะหายแล้ว ข้าเลยคิดว่าควรไปขอบคุณด้วยตัวเองในฐานะเจ้าของบ้านที่ดีก็ไม่ควรปล่อยละเลย”

ซุกควอนกล่าวบอกเหตุผลแก่ยุนบก ซึ่งทำให้ชายหนุ่มคิดได้ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องวุ่นวายเขายังไม่ได้ขอบคุณท่านปูโซและยอนเลย

“อาจารย์ ข้าต้องขอโทษจริงๆที่มิได้คิดตรึกตรองให้รอบคอบ ท่านปู่และยอนนั้นต่างมีบุญคุณกับข้า เช่นนั้นเราสองคนรีบไปหาซื้อของกันเถอะครับ”

“นายท่านเชิญทางนี้ครับ วันนี้มีของใหม่ๆมากมาย เชิญๆครับคุณชายไม่ทราบว่าอยากได้อะไรครับวันนี้ร้านเรามี…..”

“หมั่นโถร้อนๆจร้า”

“นายท่านเชิญด้านในได้นะขอรับ วันนี้ร้านเรามีสุราหมักชั้นดีมาให้ลิ้มลอง”

เสียงตะโกนเรียกหาลูกค้าและผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ เสียงเชียร์ของผู้คนที่ดูการเล่นมวยปล้ำเสียงคนที่ขับรถตะโกนขอทางดังให้เซ็งแซ่ไปทั่วทั้งตลาด ชายวัยกลางคนและชายหนุ่มรูปงามกำลังเดินเลือกซื้อไปพลางทะเลาะกันไป เป็นภาพที่หลายคนมองแล้วต่างก็อมยิ้มให้ โดยเฉพาะยุนบกที่มักมีหญิงสาวชะม้ายชายตามองมาที่เขาเสมอ

“เฮ้อ!!!! เจ้านี้มันเสน่ห์แรงเสียจริง ที่โรงกระดาษก็เยอะแล้ว ไหนจะที่หมู่บ้านที่เจ้าไปสอนหนังสืออีก มาตลาดเจ้าก็เป็นจุดสนใจของหญิงสาวเสียจริงๆ”

“อาจารย์ ข้าอยู่เฉยๆไม่ได้หว่านเสน่ห์อะไรสักนิด ท่านอย่าเที่ยวไปพูดเล่นแบบนี้ให้จองฮยางได้ยินเป็นเด็ดขาด เดี๋ยวนางจะพาลคิดมากและงอนข้าอีก”

“เจ้าศิษย์โง่ เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าอย่าดูถูกสายตาและลางสังหรณ์ของผู้หญิงเป็นเด็ดขาด ข้าเคยได้ยินมาว่าพวกนางมักจะดูออกเสมอหากมีใครมาสนใจคนรักของตัวเอง”

“อืม อาจารย์ที่ท่านพูดมาก็มีเหตุผลนะ ทำให้นึกถึงก่อนหน้านี้ข้าโดนนางโกรธเรื่องแม่นางแชยุน เรื่องของเรื่องคือนางบอกให้ข้าไปส่งแม่นางแชยุนที่เรือนรับรองแทนจิลซิล ในตอนนั้นข้าไปตามคำบอกของนางแล้วพอกลับมา นางก็งอนพาลไล่ข้ามานอนนอกห้องเฉยเลยตอนนั้นข้าได้งงว่าทำอะไรให้นางไม่พอใจ”

“ฮ่า!! ฮ่า!! ฮ่า!!เจ้านี้เป็นคนซื่อตรงหรือซื่อบื้อกันแน่ ต่อไปหากเจ้าไม่แน่ใจอะไรหรือไม่เข้าใจเจ้าก็ถามนางตรงๆสิแล้วก็บอกว่าเจ้านั้นไม่เข้าใจ ผู้หญิงมักพูดอะไรที่ไม่ค่อยตรงกับใจของตัวเองนักหรอกก็เพราะไม่อยากถูกมองว่า งี่เง่า เอาแต่ใจไงล่ะ”

“ขอรับต่อไปข้าจะจำเอาไว้ อาจารย์ร้านนั้นน่าสนใจมาก น่าจะเหมาะกับการซื้อของฝากนะครับ”

ยุนบกมองเห็นร้านขายของขนาดใหญ่จึงชี้ให้ซุกควอนดู ชายวัยกลางคนมองไปยังร้านที่ยุนบกเอ่ยถึง

“ไหนๆ อืม ร้านใหญ่และท่าทางจะมีของหลากหลายชนิด งั้นก็ดีเจ้าจะได้กลับบ้านพักไวๆอยากที่ต้องการด้วย”

“สวัสดีขอรับ เชิญด้านในเลยขอรับนายท่านและคุณชาย เชิญพวกท่านเลือกชมของได้ตามสบายขอรับ หากต้องการอะไรบอกแก่ข้าได้เลยนะขอรับ”

“ข้าของบำรุงร่างกายของคนป่วยที่เพิ่งหายป่วยที่อยู่ในระหว่างการพักฟื้นไข้ ร้านของเจ้าขายหรือไหม และที่นี้มีของที่จะใช้ในการจัดงานเลี้ยงบ้างไหม”

“มีขอรับ ถ้าเป็นของที่บำรุงร่างกาย เรามีโสมอย่างดีสำหรับบำรุงร่างกาย เครื่องสมุนไพรสำหรับทำซุปไก่ตุ๋นยาจีน ฯลฯ ส่วนของสำหรับจัดงานเลี้ยงนั้นทางเรามีทุกอย่างที่ท่านต้องการครับ ตอนนี้มีสุราที่ทำจากผลไม้และเนื้อแห้งอย่างดีรวมทั้งพ่อครัวแม่ครัวและคนงานด้วยนะขอรับ หรือหากท่านต้องการของจำนวนมากทางร้านเราจะไปส่งให้ถึงที่โดยไม่คิดเงินค่าส่งขอรับ”

“ร้านของท่านมีพืชสมุนไพรและตำราแพทย์ของใช้ของหมอรวมทั้งเครื่องประดับล่ะมีขายด้วยไหมครับ”

“สำหรับพืชสมุนไพร ตราแพทย์และอุปกรณ์สำหรับร้านของเราก็มีขายขอรับแต่อยู่ฝั่งโน้นขอรับ เราจะแยกโซนขายขอรับ ขอเพียงท่านมีใบรายการสมุนไพรจากหมอมาเราก็สามารถขายให้ท่านได้ครับ หากท่านต้องการเครื่องประดับเป็นเชิญด้านนี้เลยขอรับ”

“ร้านเรามีเครื่องประดับมาจากทางกลุ่มตะวันตกด้วยนะขอรับ”

ซุกควอนนั้นเมื่อเห็นว่ายุนบกสนใจเครื่องประดับและหยุดมองเครื่องประดับเหล่านั้น ชายวัยกลางคนจึงถามผู้ดูแลร้านว่า

“ที่ร้านท่านมีของมากมายจริงๆแบบนี้หากข้าอยากได้ผ้าไหมเนื้อดีหรืออาวุธล่ะ”

“ผ้าไหมนั้นจะอยู่ด้านทางซ้ายมือ อาวุธมีอยู่ที่ด้านในสุดของร้านขอรับหากท่านต้องการดูข้าจะพาไป

ขอเชิญคุณชายตามสะดวกนะขอรับ ข้าขอพานายท่านไปชมด้านในก่อน ประเดี๋ยวข้าจะให้คนอื่นมาดูแลท่านแทนข้านะขอรับ”

ยุนบกมองเครื่องประดับมากมายอยู่ที่เรียงกันเป็นระเบียบอยู่ตรงหน้า จนสายตาไปสะดุดอยู่ที่ปิ่นปักผมที่ทำเงินประดับหยกขาวลายผีเสื้อชายหนุ่มยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงจองฮยาง ยุนบกยื่นมือไปหยิบปิ่นเงินมาก่อนที่สายตาจะไปสะดุดอยู่กับเชือกถักลายมงคลประดับหยกสามสีพร้อมหยิบขึ้นมา ในระหว่างนั้นซุกควอนที่เลือกของเสร็จแล้วก็เดินออกพร้อมกับผู้ดูแลร้าน“คุณชายตาถึงจริงๆ ปิ่นปักผมเงินประดับหยกขาว หยกขาวมีความหมายถึงเป็นสิ่งที่เป็นความโชคดี เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง นำมาสู่ความอายุยืนอีกด้วย ส่วนเชือกลายมงคลประดับหยกสามสี หยกสามสีมีความหมายเป็นสัญลักษณ์ของโชควาสานา อายุมั่นขวัญยืนนะขอรับ เหมาะที่จะเป็นของฝากและของกำนัลมากเลยขอรับ ไม่ทราบว่าคุณชายสนใจชิ้นไหนขอรับ”

“ข้าต้องการทั้งสองแบบ ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่”

“ 80 ตำลึงเงินขอรับ”

“ตกลง นี้คือตั๋วเงินมูลค่า 80ตำลึง”

ยุนบกจ่ายเงินเสร็จและเก็บของทั้งสองชิ้นเข้าไปในอกเสื้อก่อนจะเดินออกจากร้านไปพร้อมกับซุกควอนทั้งสองจึงรีบตรงกลับบ้านพักของยุนบกและเรือนรับรอง




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2562
23 comments
Last Update : 19 ธันวาคม 2562 11:16:56 น.
Counter : 3815 Pageviews.

 

จะมาลงให้จนจบนะครับ หลังจากหายไป 6 ปี ขอบคุณหลายๆท่านที่ยังติดตามครับ

 

โดย: เกษตรศิลป์ IP: 171.5.221.136 19 ธันวาคม 2562 18:20:51 น.  

 

กลับมาระลึกฟามหลัง^_^

 

โดย: แสนนาน 4 กุมภาพันธ์ 2563 21:26:49 น.  

 

อยากอ่านต่อแล้ว ได้โปรดลงให้จบ

 

โดย: ต้น IP: 182.232.185.173 6 พฤษภาคม 2563 0:41:31 น.  

 

รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ

 

โดย: Mong Mong IP: 49.48.227.14 6 พฤษภาคม 2563 13:31:17 น.  

 

รออ่านต่ออยู่น้ะ😊

 

โดย: แอมป์ IP: 182.232.172.25 7 พฤษภาคม 2563 22:38:32 น.  

 

รอแล้วรอเล่าเมื่อจะมาลงให้จบน้ะ😊

 

โดย: T IP: 182.232.161.144 13 พฤษภาคม 2563 0:45:25 น.  

 

กรุณาและได้โปรดลงให้จบด้วยเถอะอย่าทรมานโดยการให้รอนานอีกเลย

 

โดย: รอคอย IP: 61.7.186.6 12 กันยายน 2563 15:00:32 น.  

 

ยังรออ่านเสมอขอบคุณที่มาแต่งต่อให้เราอ่านคะ

 

โดย: ซัน IP: 182.232.6.203 14 กันยายน 2563 23:22:19 น.  

 

จะจบรึป่าวน้า..

 

โดย: กิ่งเพชร IP: 182.232.150.197 4 ตุลาคม 2563 16:09:26 น.  

 

รอตอนจบค่า อย่าปล่อยให้คนอ่านค้างคา

 

โดย: ... IP: 1.46.35.114 24 พฤศจิกายน 2563 20:15:22 น.  

 

พึ่งได้มาอ่านอ่านจนติดแล้ว กลับมาต่อให้จบหน่อยนะคะ 🥺

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 1170216 19 กุมภาพันธ์ 2564 3:58:41 น.  

 

มาตามตอนจบ อีกหนึ่งนะฮะ

 

โดย: ๋๋JJ IP: 171.4.241.58 9 เมษายน 2564 20:49:49 น.  

 

กลับมาอ่านอีกรอบ รอตอนต่อไปอยู่น๊าาา...ทรมานใจคนรอจัง...พลีสกลับมาลงตอนต่อไปเถอะ,🥺🥺😭😭

 

โดย: Lek IP: 1.47.4.62 25 กรกฎาคม 2564 23:47:44 น.  

 

กลับมาอ่านอีกรอบ รอตอนต่อไปอยู่น๊าาา...ทรมานใจคนรอจัง...พลีสกลับมาลงตอนต่อไปเถอะ,🥺🥺😭😭

 

โดย: Lek IP: 1.47.4.62 25 กรกฎาคม 2564 23:47:51 น.  

 

รอๆ

 

โดย: กิ่งเพชร IP: 49.230.141.173 1 สิงหาคม 2564 21:53:25 น.  

 

รออยู่นะคะ หลายปีแล้ว ยังรอคอย อยากให้ลงให้จบ ใจจะขาดแล้ว

 

โดย: บิ๋ม IP: 101.51.41.112 22 ธันวาคม 2564 17:00:02 น.  

 

เพิ่งได้มาตามอ่าน แล้วติดหนักมาก ติดงอมแงมเลยค่ะ อยากให้ลงจนจบเลยนะคะ ขอร้องนะคะ ได้โปรดเถอะ🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏 มาลงให้จนจบด้วยนะคะ จะติดตามรอค่ะ

 

โดย: PK (สมาชิกหมายเลข 6833648 ) 17 มกราคม 2565 23:31:46 น.  

 

ช่วยกลับมาลงให้จนจบด้วยนะคะ please 🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏

 

โดย: PK (สมาชิกหมายเลข 6833648 ) 18 มกราคม 2565 19:38:20 น.  

 

ขอความกรุณมาอัพต่อให้จบด้วยเถอะคับ

 

โดย: คนผ่านทาง IP: 27.55.89.202 16 เมษายน 2565 10:27:37 น.  

 

จะจบไหมรอแบบมาราธอน

 

โดย: โคล่า IP: 1.47.11.242 10 ตุลาคม 2565 23:18:40 น.  

 

จะจบไหมรอแบบมาราธอน

 

โดย: โคล่า IP: 1.47.11.242 10 ตุลาคม 2565 23:18:51 น.  

 

จะจบไหมรอแบบมาราธอน

 

โดย: โคล่า IP: 1.47.11.242 10 ตุลาคม 2565 23:19:47 น.  

 

ปีใหม่ปีนี้ยังรอมาอัพอยู่นะคะ😭🫶🏻

 

โดย: tshnl IP: 184.22.69.216 1 มกราคม 2567 8:30:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


albatross11
Location :
สุรินทร์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




รักกันเพียงใดก็ต้องพลัดพราก หวงไว้เพียงใดก็ต้องจำจาก ข้ามาคนเดียวข้าไปคนเดียว ไม่มีใครเป็นอะไรของใคร ต่างคนมาต่างคนไป ยิ่งยึดยิ่งทุกข์ ปล่อยวางได้จึงเบาสบาย... เมื่อปัญญาแจ่มแจ้งจะสลัดคืน เมื่อมาจากดิน ท้ายที่สุดก็สลายกลายเป็นดิน ยึดเอาไว้ก็ได้แต่ทุกข์ตอบแทน อยากโง่ก็ยึดต่อไป คิดได้ก็วางเสีย พุทธทาสภิกขุ............ .............................. .............................. ความทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจนั้น เป็นเรื่องทรมานยิ่ง และเรื่องที่จะบังคับมิให้พลัดพรากก็เป็นสิ่งสุดวิสัย... ทุกคนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ที่พอใจ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง...พุทธโอวาท --------------------------- พระราชดำรัส ในรัชกาลที่ 7 เมื่อทรงสละพระราชสมบัติ เพื่อประชาชน ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรทั่วไป ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจโดยสิทธิ์ขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร
New Comments
Friends' blogs
[Add albatross11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.