พื้นที่ของผู้ชายคนสุดท้าย...Where Knowledge, Nonsense, and Simplicity Converge
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
29 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
สอบ GRE เอิ๊กๆ

เพิ่งสอบ GRE เสร็จครับ เหอๆ เลยขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์บ้าง แต่ผมขอเน้นไปที่ Verbal เท่านั้น นะครับ แต่บอกก่อนนะครับ คะแนนไม่ได้ดีจนเวอร์ แต่ผมพอใจครับ

ก่อนอื่นต้องบอกว่ามันเป็นอะไรที่แย่มากๆ ครับ เพราะว่าหลงทางหาศูนย์สอบไม่เจอ สอบ 16.15 น. แต่ไปถึง 16.10 น. แบบว่าวิ่งๆ --เป็นการเริ่มต้นที่ชั่วมากๆ ยังไม่ทันทำข้อสอบก็เครียดสะแล้ว กลัวไปไม่ทัน -_-"

เอาหละครับ มาถึงคำแนะนำของผม

เริ่มต้นที่หนังสือ ... **Highly Recommended**
1. เล่มนี้ขาดไม่ได้ ฮ่าๆๆ "The Ultimate Guide for Thai Students" **Highly Recommended**
2. Princeton Review: GRE **Highly Recommended**
3. Princeton Review: Verbal
4. Barron's **Highly Recommended**
5. Kaplan: GRE 2007
6. ETS ข้อสอบ 10 ปี **Highly Recommended**
7. Powerprep **Highly Recommended**
8. อื่นๆ ที่เอาไว้ทำข้อสอบอย่างเดียว -- GRE Dummies, Acro (พวกนี้ไม่ได้ซื้อนะครับ หาจากห้องสมุด)

หนังสือแต่ละเล่มมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปครับ
ถ้าอยากได้เทคนิคการทำข้อสอบ verbal โดยรวมๆ เน้นเล่ม 1 2 3
ถ้าอยากได้แบบฝึกหัดที่ระดับความยากเท่าของจริง เน้นเล่ม 4 6 7 (Princeton's + Kaplan ไม่ได้ขี้ฝุ่นครับ ชิวๆ มาก)
ถ้าอยากได้ตัวอย่างการเขียนที่ดีๆ -- และเหมาะสมกับคะแนน 6/6 (ยังไม่ได้คะแนนสอบนะครับ เหอๆ เลยไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี): เล่ม 6 และ 7 (ตัวอย่างใน Princeton + Kaplan เป็น cliche มากๆ (ถ้าไม่รู้คำนี้ต้องรีบเปิดหาความหมายนะครับ เหอๆ) เทียบกับ essay ตัวอย่างของ ETS คนละเรื่องเลยครับ ไม่ขอวิเคราะห์ตรงนี้แล้วกันครับ)
ถ้าอยากได้ศัพท์ ไม่พ้นเล่ม 4 เท่านั้นครับ

เวบไซท์
1. Princeton (ซื้อหนังสือ แล้วจะมีแบบฝึกหัดบทเวปให้ทำครับ)
2. Kaplan (ซื้อหนังสือ แล้วจะมีแบบฝึกหัดบทเวปให้ทำครับ)

ศัพท์มันเยอะ แล้วจะท่องไปหมดเหรอนั่นหนะ?
คำแนะนำ - ท่องหมดได้ ท่องไปเลยครับศัพท์ใน barron's ... แต่ผมเองท่องไม่หมดนะ เหอๆ การท่องศัพท์ของผมค่อนข้างกระจัดกระจาย
-เริ่มจาก 330 คำ barron's --ท่องหมด
-ต่อด้วย Princeton's hit parade --ท่องหมด
-และไปหนังสือศัพท์ของ SAT (ข้อสอบสอบเข้าป. ตรีที่อเมริกา) --อันนี้ท่องไม่หมดมันตั้ง 800 กว่าคำ เหอๆ
-ศัพท์บางชุดจาก barron's --จำได้บ้างไม่ได้บ้าง
-และศัพท์ที่ได้มาจากการทำข้อสอบต่างๆ จากหนังสือข้างบน --จำได้บ้างไม่ได้บ้าง

ผมว่าแค่นี้ก็เหลือหลายแล้วครับ เพราะว่าข้อสอบจริงที่ไปสอบวันนี้ศัพท์ไม่ได้ยากเย็นมากมาย เป็นศัพท์ที่เห็นบ่อยๆ ถ้าทำข้อสอบในหนังสือที่กล่าวมาเยอะๆ ครับ อ๋ออีกอย่างท่องศัพท์ที่มี secondary meaning ด้วยนะครับ


ห้องสอบ
เพราะว่าผมไปเกือบไม่ทัน ขาดสมาธิไป เลยใช้เวลา tutorial นั่งจิ้มๆ ไปเพื่อนั่งพัก และตั้งสมาธิ คือไม่ได้อ่าน แค่ขอเวลาทำใจว่างั้น ... ขอย้ำว่าสมาธิสำคัญมากๆ ถึงมากที่สุดครับ ต้องเตรียมพร้อม อย่ากังวล

ตัวข้อสอบ
เริ่มจาก AWA Issue
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ 1 ใน 2 ข้อที่ผมเลือกได้เป็นข้อที่เคยสุ่มๆ เขียนดู--แต่เขียนได้ไม่ดี--แต่ผมก็เลือกข้อนี้แล้วกัน เพราะว่าอย่างน้อยก็ไม่ต้องคิดเหตุผลใหม่ทั้งหมด บอกตรงๆ ว่าผมมึนมากไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เพราะว่าเป็นคนหัวช้ามากๆ อ่ะ ก็เลยพิมพ์ๆ ไปเลยไม่สน ไม่ได้ outline ก่อน เพราะว่านึกไม่ออกจริงๆ (มัวแต่เสียเวลา outline กลัวหมดเวลา) ปรากฎว่าเขียนไปได้ 1/2 รู้สึกว่าห่วยมาก ไม่ได้ตรงกับ intro เลย แถมยังจะตอบไม่ตรงคำถามสักเท่าไหร่ เลย "cut" และ "paste" ไปหลายรอบ "delete" ทั้งย่อหน้าก็มีหง่ะ สุดท้ายต้องเอาย่อหน้า 4 ที่คิดว่าจะเป็น "stand alone paragraph" ทำให้ตอนนี้เหลือ 3 ย่อหน้า และตอนแรกจะเอาย่อหน้า 3 เป็น conclusion ก็ต้องเปลียนแผน เอามันเป็นย่อหน้า 4 แล้วสร้าง conclusion ที่ห่วยๆ ขึ้นมาแทน -*- จริงๆอ่านย่อหน้านึงแล้วรู้สึกมันไม่ "complete" อยากกลับไปเติม ไปเล่นกับ "syntactical pattern" ของประโยคสุดท้ายเพื่อให้มัน "รู้สึก" complete แต่ว่าไม่ทันแล้ว เลยไม่เสี่ยงครับ ............ บทเรียน: มีสติ และเขียน outline ไว้ครับ

พอเสร็จแล้วต่อด้วย AWA Argument
พอได้โจทย์ขาดสติ "ทำไมมันต้องเป็นตัวเลข แล้วก็เรื่องการเงินด้วยว่ะ ให้ตายเหอะ" นั่งอ่านโจทย์ไป 5 นาที ยังเขียนยังหา "claim" ไม่ได้เลยครับ เพราะมัวแต่คิดว่าตัวเลขๆๆๆ การเงินๆๆๆ ทั้งนั้นเว้ย สุดท้ายทำแบบเดิม "เอาว่ะ เขียนแมร่งไปเถอะ อย่างน้อยให้มันมีอะไรไว้ก่อน" จาก 1 ย่อหน้า กลายเป็น 2 และกลายเป็น 3 และกลายเป็น 2 อีกแล้ว (เพราะว่าผมตัดแปะ เพื่อผสมผสานย่อหน้ากัน) สุดท้ายได้ 4 ย่อหน้า เวลาเหลือ 5 นาที กลับไปตรวจทาน รู้สึกว่ามัน "weak" มากลับไปเพิ่มอีกย่อหน้าแล้วกัน (ตอนนี้เหลือ 2 นาทีเท่านั้น) พิมพ์คำว่า "measure the factors" ซึ่งเป็น 3 คำสุดท้ายที่อยากเขียนยังไม่จบ หมดเวลา เลยได้ไปแค่ "merasre fac" เหอๆๆ ............ บทเรียน: มีสติ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำแนะนำ ฝึกเขียน essay อย่างน้อยสัก 10 essay ครับ จับเวลาด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ได้พัก 10 นาที ไม่ไหวครับต้องพัก ------- ห้ามทำเก่ง ทำข้อสอบต่อไปเลยเด็ดขาด!!!

กลับมานั่งที่ "ขอเถอะ เพิ่งพักมา มีสติดีขึ้นหน่อย ขอเป็น verbal ก่อนนะคร้าบบบบ เพราะว่าทำ verbal ตอนมีสติดีๆ"

บนหน้าจอ ................. "Quatative" 28 questions, 45 mins ................................

ชั่วๆ จริง เอาว่ะ

---------------------- ข้ามไปนะครับ ---------------------------

เอาหละต่อไปเป็น verbal

สูดหายใจเต็มปอด สู้

ข้อแรก antonym เออพอได้
ข้อสอง ยังไงหว่า
ทำไปเรื่อยๆ "เห้ย ทำไมไม่มี reading เลยว่ะ" ตายแน่ๆ แสดงว่ากรูทำผิดเยอะแน่เลย reading ถึงไม่มาสักที ซวยจริงๆ
และแล้ว reading ที่น่ารักของผมก็โผล่มาข้อ 12 ................ ขนาดความยาว 100 บรรทัด เรื่องประวัติศาสตร์ --แหมเยี่ยม (ประชด) จริงๆ ผมอ่านไม่จบไม่ค่อยรู้เรื่องอะนะครับ ผ่านๆ ไป แล้วก็ทำข้อสอบแบบย้อนกลับไปมา
พอหมด reading ก็เจอ analogy, sentence completion อีกหน่อย สัก 4-5 ข้อ
และแล้ว reading (วรรณคดี) มันมาอีกแล้ว! ทีนี้ 100 บรรทัดอีกแล้ว อยากจะดีดกะโหลกมันจริงๆ ... จำได้ผมกุมขมับเลย
อ่านและทำข้อสอบ reading ชุดนี้ไป
มี antonym โผล่มา 1 ข้อ
แล้ว reading มันมาอีกแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมนึกใจ "ตายโหงงงงง" กะเอากันตายไปคนละข้างหรือไงว่ะ ทีนี้เรื่องวิทย์ ดาวพลูโตไรเนี่ยแหละ เวลาก็จะหมด เหลือ 8 นาที แต่ผมเพิ่งทำถึงข้อ 20 ผมเลยตัดสินใจอ่านๆ 1 รอบแล้วทำตามบุญตามกรรม
จากนั้นเหลือ 6 นาทีสำหรับ 20 ข้อหลัง ซึ่งง่ายหน่อย ผมเลยทำแบบเร็วๆ ได้เห้อ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำแนะนำ
antonym - ศัพท์ๆๆๆๆๆ ท่องเข้าไปครับ เมือไหร่ที่เราคิดว่าจะตอบแล้ว ให้กลับมาคิดอีกทีว่าใช่จริงหรือเปล่า ไม่ใช่ว่า เจอแล้วตอบปุ๊บ
analogy - ตัดชอยส์ที่ไม่มีคู่สัมพันธ์กันออกไปให้ได้ครับ เช่น KEYBOARD : MEDICINE
reading - อ่าน passage ให้หมด อย่าอ่านแค่บรรทัดแรกหรือบรรทัด 2 ของแต่ละย่อหน้า
sentence completion - หา clue ให้เจอ (สำคัญมากๆ) จากนั้นเมื่อได้คำตอบแล้ว อ่านประโยคทั้งประโยคอีกครั้งพร้อมคำตอบ ดูว่ามัน make sense ไหม

*****อย่ากลัวที่จะมั่ว ถ้าจำเป็นมั่วเลยครับ เพื่อไปข้อต่อไป*****
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เอาหละครับ มีแค่นี้แลลล โชคดีคับทุกท่าน...GOODBYE GRE



Create Date : 29 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2550 4:02:02 น. 4 comments
Counter : 1219 Pageviews.

 
เข้ามารับฟังประสบการณ์ค่ะ

พี่เคยสอบเมื่อ 5 ปีที่แล้ว รู้สึกข้อสอบมันไม่ยากขนาดนี้นะ
ไม่มีข้อเขียน

reading จำไม่ได้ว่ามีรึเปล่า แต่ถึงมีก็ไม่ยาวขนาด 100 บรรทัดหรอกมั้ง เอ...หรือว่าพี่ทำข้อสอบแย่มากจน reading มันไม่โผล่ ฮี่ฮี่

แล้วได้คะแนนเท่าไหร่ล่ะจ๊ะ จะสมัคร U ไหนเอ่ย


โดย: Life is wonderful วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:00:19 น.  

 
ขอให้สอบได้คะแนนเยอะๆนะคะ


โดย: ลูกแม่ดอกบัว วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:03:45 น.  

 
ขอให้ได้คะแนนเยอะๆค่ะ ไม่ได้มาบล๊อกนี้ซะนานเลยเรา หวังว่าจขบ.คงจะสบายดีนะคะ


โดย: รักบังใบ วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:10:38 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่ทำให้รู้ว่า GRE คืออะไร
คำตอบที่ได้นั่นก็คือ เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก
ไม่อยากสอบแล้วง่ะ ยากเกิ๊น


โดย: แมวน้ำตาหวาน วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:7:36:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง
Location :
Citizen of the World---who lives in the United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.