ตอนที่4/1 เรื่องเล่าจากจตุรัสเทียนอันเหมิน "เสาปี่เซี้ยะเทพนำโชค"
ตามตำนานสัตว์ในเทพนิยายของจีน จะพบว่ามีสัตว์มงคลตามความเชื่ออยู่ 5 ชนิด ประกอบด้วย สิงโต กิเลน เต่า มังกร คางคก (ฉานฉู) และ ผีซิ่ว (ปี่เซียะ) ซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นตัวเอก และมีชื่อเรียกหลายชื่อ กวางสวรรค์ตัวนี้มีชื่อว่า เทียนลก แต่ไม่ค่อยมีใครเรียก คนส่วนใหญ่รู้จักกันในสำเนียงจีนกลางว่า ปี่เซียะ คนแต้จิ๋วเรียก ผีซิ่ว กวางตุ้งเรียก เพเย้า ชื่ออื่นที่ปรากฏคือ เถาปก , ผูปอ
เสาปี่เซี้ยะ ยืนตั้งตะหง่านอยู่หน้าจตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง
ปี่เซียะ เป็นสัตว์มงคลประเภทเรียกทรัพย์ นำโชคลาภมาให้กับผู้บูชาในเมืองจีน ฮ่องกงไต้หวันที่ดำเนินงานด้านธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง อาทิ ธุรกิจซื้อขายเงินตราต่างประเทศ , ตลาดหลักทรัพย์ , การเงิน , การธนาคาร , บ่อนพนัน , นิยมสร้างไว้ทางประตูเข้า เพราะเชื่อกันว่า การเงินจะหลั่งไหลเข้าธุรกิจตน นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า ปี่เซียะ สามารถปกป้องคุ้มภัย ขจัดสิ่งอัปมงคล เมื่อได้ทรัพย์สินเงินทองมาแล้ว การใช้จ่ายจะรั่วไหลออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
บรรยากาศหน้าพระราชวังต้องห้าม......
ชื่อเดิม เทียนลก ชื่อทั่วไป ปี่เซียะ , ผี่ซิ่ว , เพเย้า , เถาปก , ผูปอ เป็นสัตว์ผสมระหว่าง ตัวกวาง หางแมว เล็บสิงตัว ปีกนก เขากิเลน นิสัย ห้าวหาญ เปิดเผย ตรงไปตรงมา จงรักภักดี ซื่อสัตย์กับเจ้าของ ให้คุณกับผู้บูชาทุกอาชีพถ้วนหน้า ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ปล.ขอขอบคุณข้อมูลจากเนตผ่านกู้เกิ้ล
รูปปั้นสัตว์พันธุ์ผสม ตามตำนาน"ปี่เซี้ยะ"ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าอาคาร พระราชวังต้องห้าม โซนเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง
ในวันเดินไปท่องเที่ยวกรุงปักกิ่ง ไปเยือนจตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อวันที่6/12/2561 ผู้นำเที่ยวได้เล่าถึงประวัติ"ปี่เซี้ยะ" จึงมีเรื่องให้ชวนติดตาม ในศาสตร์แห่งความเชื่อศรัทธา
บรรยากาศหน้าพระราชวังต้องห้าม......
ประวัติของ ปีเซียะ ความเป็นมาการก่อกำเนิด (ลูกมังกรตัวที่เก้าของพญามังกร) จะกินเฉพาะเงินกับทองเป็นอาหารเท่านั้น ในประวัติศาสจีน มีมา 5000 ปี ปีเซียะคือนักรบที่กล้าหาร มีความเก่งกล้า จะรบได้ชนะตลอด จะอยู่คู่กับกษัตริย์ จะมีเก็บไว้ ในราชวัง สังเกตได้ว่าตราประแผ่นดินของจีน จะใช้เป็น ปี่เซียะในรูปแบบสี่เหลี่ยมและมีชื่อสลัก ของฮ่องเต้
นอกจากนี้แล้ว ปี่เซียะยังเป็นสัญลักษณ์ของการพิทักษ์และคุ้มครองทรัพย์สมบัติอีกด้วย อันเนื่องจากการที่เป็นสัตว์ที่กินอย่างเดียวไม่มีการขับถ่าย
เชื่อว่า ปี่เซียะ มีรูปร่างและเขาคล้ายกวาง แต่มีหน้า, หัว, ขาคล้ายสิงโต, มีปีกคล้ายนก, หลังคล้ายปลา และมีส่วนหางคล้ายแมวปนไปด้วยท้องและบางส่วนของหัวคล้ายมังกร เป็นสัตว์สี่ขา และเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ช่วยป้องกัน
บรรยากาศหน้าพระราชวังต้องห้าม......
นอกจากนี้แล้วยังมีชื่อเรียกอื่นอีก เช่น เทียนลู่ (天祿) หรือ เทียนลก (樂祿) ตามแต่ละพื้นที่อีกด้วย ซึ่งความหมายของชื่อเหล่านี้ แปลได้ว่า กวางสวรรค์หรือ ขจัดปัดเป่าเชื่อกันว่า ปี่เซียะ เป็นลูกตัวที่ 9 ของมังกร เป็นสัตว์ที่กินเก่งและไม่มีรูทวาร จึงไม่มีการขับถ่าย โดยรวมในอดีตสันนิษฐานว่า ปีเซียะให้ความหมายในทางความกล้าหาญ การปกป้องคุ้มภัย และการต่อสู้เพื่อจะให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
ปัจจุบัน มีการบูชาปี่เซียะ โดยมักทำเป็นรูปเคารพของสัตว์ที่มีลักษณะดังกล่าวในลักษณะหมอบ และมักทำเป็นคู่กัน โดยจะตั้งวางให้สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยด้วย อีกทั้งยังเป็นที่บูชาของนักพนัน ผู้ที่นิยมเสี่ยงโชคในลักษณะวัตถุมงคล จากการที่เป็นสัตว์ที่กินอย่างเดียวไม่มีถ่าย จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเก็บทรัพย์
สำนักงาน ตำนานปี่เซี้ยะ หลักฮวงจุ้ย(ที่ทำการของอาจาร์ของไกค์นำเที่ยวพาไปเยี่ยมชม)ตั้งอยู่ในยานหนึ่งของกรุงปักกิ่ง
นอกจากนี้แล้ว ปี่เซียะยังเป็นสัญลักษณ์ของการพิทักษ์และคุ้มครองทรัพย์สมบัติอีกด้วย อันเนื่องจากการที่เป็นสัตว์ที่กินอย่างเดียว
พระราชวัง พระนางซูสีไทเฮา อวี้เหอหยวน
ตามประวัติบอกว่าพระราชวังแห่งนี้ สร้างขึ้นมานานกว่า 800 ปี ใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งรวมถึง พระนางซูสีไทเฮาด้วย ถือเป็นอุทยานที่ใหญ่และงดงามที่สุดของประเทศจีนรอบทะเลสาบมีระเบียงยาวรูปโค้ง เลียบไปตามทะเลสาบสำหรับเดินชมความงดงาม เรียกว่า ระเบียงกตัญญู ยาวถึง 777 เมตร เป็นระเบียงที่ยาวที่สุดในโลก บนหลังคามีภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับเทพนิยายของจีนหลายเรื่อง ที่มีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และวรรณคดี
ระเบียงกตัญญู ยาวถึง 777 เมตร
จากนั้นคณะกรุ๊ปทัวร์ ก็พาไปชมสถานที่ ก่อสร้าง"ปีเซี้ยะ"ไม่สดวกให้บันทึกขบวนการผลิต......
ก่อนเดินทางออกจากสถานที่ท่องเที่ยวในโซน จตุรัสเทียนและบริเวณสถานที่สำคัญ ทางประวัติศาสตร์ กรุงปักกิ่งประเทศจีน.... ขอขอบคุณข้อมูลเรื่องฯลฯต่างๆ .... ปี่เซี้ยะ จาก...วิกิพีเดีย...ผ่านกู้เกิ้ล นสพ.ไทยรัฐพาเที่ยวฉบับพิมพ์ 1พย.2557 https://www.thairath.co.th/content/460437 ขอขอบคุณไกค์นำเที่ยวจีนพูดไทย
@@@@@@@@@@@@@@@@.....
Create Date : 24 มกราคม 2562 |
|
6 comments |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2562 23:18:18 น. |
Counter : 3189 Pageviews. |
|
|