|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ผลงาน 6 เดือนคมช.
อยากจะรู้เหมือนกันว่า วันที่ 20 มีนาคมนี้ ที่ "พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน" ประธาน คมช. มีคิวจะแถลงผลงานของ คมช.ในรอบ 6 เดือนของการรัฐประหาร
อะไรคือ "ผลงาน" ที่ภูมิใจขอเสนอ
ในเมื่อจนป่านนี้ 4 ข้ออ้างที่นำไปสู่เหตุผลในการรัฐประหารแทบไม่มีอะไรคืบ
แม้ประธาน คมช.จะอ้างว่า 2 ใน 4 ข้อ ทำ "สำเร็จ" แล้ว คือ องค์กรอิสระที่อ้างว่าถูก "ระบอบทักษิณ" แทรกแซงจนพากันเดี้ยงไปหมด ก็ปรับเปลี่ยนตั้งใหม่แล้ว ส่วนความแตกแยกภายในชาติ รัฐบาลก็ได้กำหนดให้การสร้างความสมานฉันท์เป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว เหลือเพียงข้อกล่าวหา "หมิ่นเบื้องสูง" และ "ทุจริตคอร์รัปชั่น" ที่ยอมรับว่าเอาผิดได้ลำบาก
ฟังดูยังไงก็ขัดแย้ง เพราะประเด็นแทรกแซงองค์กรอิสระไม่ได้อยู่ที่ตามรื้อล้างชุดเดิมแล้วตั้งใหม่ แต่อยู่ที่กระบวนการจัดตั้งใหม่ดังกล่าว
ไม่ว่า กกต. ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ รวมไปถึง คตส. สนช. และ ส.ส.ร. นอกจากมีที่มาจากอำนาจอันไม่ชอบธรรมแล้ว คนทั่วไปก็รับรู้ได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ถึง "ธง" ที่ตั้งไว้ รวมทั้งการพยายามแทรกแซงชี้นำ เช่นที่กำลังเกิดขึ้นกับสาระของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งที่เคยประกาศว่าจะไม่เข้ามายุ่ง โดยจะให้อิสระ ส.ส.ร.ในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่
ส่วนการสร้างสมานฉันท์ในชาตินั้น ประเด็นคงไม่ได้อยู่ที่การชูเป็น "วาระแห่งชาติ" แต่อยู่ที่ผลของการปฏิบัติ ที่ไปๆ มาๆ ทั้ง คมช.และคนในรัฐบาลกลับเป็นผู้สร้างเงื่อนไขทำลายความสมานฉันท์ในชาติเสียเอง ไม่เว้นแม้แต่ความสมานฉันท์ระหว่างรัฐบาลกับ คมช. และในครม.
ขณะที่ข้อกล่าวหาหลักที่หวังใช้เป็นชนักทิ่มแทงให้อดีตนายกฯ"ทักษิณ ชินวัตร" ถึงขั้นต้องติดคุกติดตะรางคือ หมิ่นเบื้องสูง และทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งน่าจะมีน้ำหนักพอที่จะรุกคืบให้ได้เห็นมรรคผลในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา กลับยอมรับเอาดื้อๆ ว่า "ลำบาก"
นอกเหนือไปจาก 4 ข้อที่พันคอและนับวันยิ่งกดดันให้ คมช.อยู่ไม่เป็นสุขแล้ว
บอกตรงๆ ว่า นึกไม่ออกว่าอะไรคือผลงานของ คมช.และรัฐบาลนี้ ที่ถูกทิศทางและประชาชนจับต้องได้
คงเป็นเรื่องตลก หากจะไปเสกสรรค์ปั้นแต่งสิ่งที่ไม่มี และยิ่งตลกร้ายหนักเข้าไปอีกเมื่อมองไปทางไหนก็มีแต่ผลงานในมุมกลับที่นับวันจะเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งให้บังเอิญมาซ้ำเติมกันในช่วงเวลานี้
เฉพาะปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ ล่าสุดพฤติกรรมโหดที่กลุ่มก่อการร้ายจ่อยิงหัวผู้โดยสารบนรถตู้สายเบตง-หาดใหญ่ทีละคน ตายถึง 9 ศพ เป็นข่าวไปทั่วโลก น่าจะเลวร้ายกว่าที่เกิดในตะวันออกกลาง และส่อแนวโน้มจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความหวาดผวาและสิ้นหวังครอบคลุมไปทั้งประเทศ ขณะที่คนพื้นที่ที่กลัวจนชินยังต้องเสี่ยงดิ้นรนดำเนินชีวิตต่อไปโดยไม่รู้จะหวังพึ่งอะไรจากรัฐที่จนทุกวันนี้ก็ยังไร้ทิศทางในการแก้ปัญหา
ส่วนปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นพื้นฐานนั้น ดูจากจีดีพีปี 2549 ที่มีตัวเลขล่าสุดว่าเติบโตในอัตรา 5% ปรากฏว่าเป็นผลจากการส่งออกถึง 4.6%
ขณะที่อัตราการสต๊อคของสินค้าคงคลังติดลบถึง 2.7% สะท้อนว่ามีแต่การเร่งระบายสินค้าและผลผลิตโดยแทบไม่มีการลงทุนใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะไม่เชื่อมั่นในสถานการณ์และไม่มีแรงจูงใจ ขณะที่การส่งออกที่เป็นหลักกำลังถูกกระทบหนักจากค่าบาทที่แข็งจนหลุด 35 บาทต่อดอลลาร์ไปแล้ว เพราะมาตรการกันสำรอง 30% ของแบงก์ชาติที่หวังยื้อค่าบาทไม่มีผล แต่แบงก์ชาติก็ยังยืนกรานไม่เลิกและไม่ลดดอกเบี้ยตามแรงกดดันรอบทิศ จนมีแนวโน้มว่าสถานะแบงก์ชาติเองอาจเข้าขั้นวิกฤตจนทำให้สูญเสียทั้งความเชื่อมั่นและระบบคานอำนาจ
ภาวะเช่นนี้แม้ทีมขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุดใหม่จะเห็นปัญหาและเริ่มชัดเจนในทิศทางแก้ไข แต่ผู้รู้ทั้งหลายก็ถอดใจว่าคงสายเกินที่จะไปสกัดผลเสียหายต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่จะตามมาเป็นระลอกในอนาคตอันไปนานจากนี้
ส่วนวิกฤตการเมืองนั้น หลังจากรัฐประหารครั้งล่าสุดดึงประเทศถอยหลังไปไกล การพยายามจะเปิดช่องในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ "คนนอก" มาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ด้วยข้ออ้างว่า "ไม่ควรปิดกั้นหากเกิดทางตันในอนาคต" และ "จะได้ปิดช่องทางการเกิดปฏิวัติ" ยิ่งทำให้เห็นชัดว่ากลุ่มอำนาจใหม่ไม่เคยเข้าใจและให้ความสำคัญกับสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐานของประชาชน และพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตย หากแต่ตั้งใจจะดึงประเทศถอยหลังกลับไปไกลยิ่งกว่า จนส่อเค้าว่าจะเป็นประเด็นนำไปสู่การขัดแย้งต่อต้านและเผชิญหน้าลึกซึ้งยิ่งกว่าช่วงพฤษภา 2535
โดยเฉพาะถ้า "ธง" ยุบพรรคไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเดียวหรือทั้ง 2 พรรค
หาก คมช.และรัฐบาลยังเชื่อว่ากระแสต่อต้านที่หนักหน่วงขึ้นทุกทีเป็นเพราะมีขบวนการจ้องท้าทายอำนาจ คมช. จ้องล้มรัฐธรรมนูญ และยังมุ่งเด็ดหัวเด็ดหางบางคนบางกลุ่มโดยไม่เหลียวดูความเป็นจริงรอบตัว ไม่ยอมรับรู้ถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นรอบด้านก็มีสิทธิที่ "พฤษภาทมิฬ" รอบใหม่จะหวนกลับมาอีกครั้ง
และนั่นคือผลงานของ คมช.ล้วนๆ
ที่มา: คอลัมน์ เดินหน้าชน โดย จุฬาลักษณ์ ภู่เกิด หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 17 มีนาคม 2550
Create Date : 19 มีนาคม 2550 |
|
1 comments |
Last Update : 19 มีนาคม 2550 22:17:59 น. |
Counter : 649 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: bomberman IP: 222.123.216.204 17 มิถุนายน 2550 7:09:56 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เพียงแค่คุณมีอินเตอร์เน็ตและเวลาว่างหลังเลิกเรียนและงานประจำ
สมัครทำงานกับ thaismaster บริษัทไทยทำงานโฆษณาสินค้าต่างๆรายได้ต่างๆมาจากการโฆษณาสินค้าง่ายๆขั้นตอนไม่ยุ่งยาก จ่ายเงินโดยโอนเข้าบัญชีทุกสัปดาห์
สมัครทำงานนี้ได้ที่เว็บข้างล่าง
รายละเอียดต่างๆศึกษาได้ที่นี่ทั้งหมด
//www.thaismarter.com/aa813.htm
นี่เมลล์เราสอบถามได้
bomberman_bb@hotmail.com
หรือโทรมาที่เบอร์นี่ได้ 081-2045822
=============================================================