อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
19 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
แนวทางศึกษา และแก้ปัญหาการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ประกาศอย่างมั่นใจว่าสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ "ดีขึ้น" หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าจะดีขึ้นได้อย่างไร? เมื่อ "การฆ่ารายวัน" ยังมีอย่างต่อเนื่อง

แม้จะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อครั้งยังเป็น "นักศึกษา" ที่เคยศึกษา "การก่อสงครามกองโจร" มาบ้างและได้สัมผัสปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฐานะ "คนทำข่าว" และบริหาร "รายการร่วมด้วยช่วยกัน" ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้ "กล้าฟันธง" ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ "ปล้นปืน" ว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นเพราะ "ขัดผลประโยชน์" ที่ขัดกันของทหาร ตำรวจและข้าราชการฝ่ายปกครอง และตำรวจจะรุกคืบเข้า "ควบคุม" พื้นที่โดยไม่คำนึงถึงวิธีการใดๆ เพราะ "เป็นต่อ" ที่ "นายกรัฐมนตรี" ซึ่งเป็น "ตำรวจ" ด้วยกันเปิดไฟเขียวให้ "การฆ่า" และ "อุ้ม" เป็น "มาตรการหลัก" ในการปราบ "ผู้คิดแบ่งแยกดินแดน" และเข้าควบคุม "ผลประโยชน์" ไปพร้อมๆ กัน

ด้วย "มาตรการ" ดังกล่าว "สายข่าว" ของฝ่ายทหารที่วางไว้ในกลุ่มผลประโยชน์ และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ถูกตำรวจ "เก็บเรียบ" และลุกลามไปที่ "ผู้บริสุทธิ์" อีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ "ไฟที่คุ" อยู่ในกองขี้เถ้าเหมือนถูก "ราดน้ำมัน" ลงไป ประกายไฟที่ลุกโชนขึ้นด้วย "แรงแค้น" และ "ความขมขื่น" ที่ถูกปลุกขึ้นอีกรอบ หรือจะสรุปง่ายๆ ว่า "เงื่อนไขสงเคราะห์" ที่อำนาจรัฐพยายามไม่ให้ขยายขึ้น ดูแลมาด้วยความเอาใจใส่ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงภายใต้ "รัฐบาลทักษิณ" และ "ตำรวจ" ในยุคนั้น

วันนี้ "สถานการณ์ปฏิวัติ" ขยายไปเกือบทุกพื้นที่ความหนักเบาต่างกัน แต่เป็นที่ยืนยันแน่ชัดว่า "พื้นที่สีแดง" นั้นมีมากกว่า "250 หมู่บ้าน"

ฝ่ายตรงข้ามสามารถ "ปฏิบัติการทางทหาร" เพื่อ "สร้างขวัญ" แก่ "องค์กร" และ "แนวร่วม" พร้อมทั้งข่มขวัญ "เจ้าหน้าที่" และ "มวลชน" ให้สูญเสียกำลังใจลงทุกขณะ

เพราะอะไร? สถานการณ์ของฝ่าย "อำนาจรัฐ" จึงอยู่ในฐานะ "ตั้งรับ"

ในยุค "รัฐบาลทักษิณ" รัฐบาลขาด "ความเข้าใจ" และ "ลุแก่อำนาจ" จึงทำให้นโยบายหลงทิศผิดทางผลจึงเป็นดังปรากฏ

ในยุค คมช.และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ แนวนโยบาย "การเมืองนำการทหาร" ถูกนำมาประกาศใช้ แต่วันนี้ปัญหายังดูเหมือนว่ายังไม่มีทีท่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น!

โดยหลักการเมื่อ "นโยบายถูกต้อง" โอกาสในการแก้ปัญหาย่อมมีมาก แต่ปัญหาหลักที่ยังเป็นอุปสรรคอยู่น่าจะมาจากเหตุผล 2 ประการ

1.ความไม่เป็นเอกภาพระหว่าง คมช.และรัฐบาล เพราะปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้แหล่งข่าวระดับสูงยืนยันว่า คมช.ขออำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากรัฐบาลไปดำเนินการเอง ดังนั้น การตั้ง ศอ.บต.ขึ้น จึงดูว่าจะขาดๆ เกินๆ ในการขับเคลื่อนนโยบาย

2.เจ้าหน้าที่รัฐทั้งระดับนโยบายและระดับปฏิบัติขาดความเข้าใจต่อ "สงครามนอกรูปแบบ" และ "สงครามกองโจร" โดยเฉพาะยิ่งมีลักษณะพิเศษและลักษณะเฉพาะ ดังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
"นโยบายการเมืองนำการทหาร" ไม่ใช่นโยบายที่ไม่มีการ "ปฏิบัติการทางทหาร" แต่การปฏิบัติการทางทหารจะต้องอยู่ภายใต้ "การชี้นำทางการเมือง" ที่ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ละเว้นการคุกคาม กดขี่ เข่นฆ่า ประชาชน ผู้บริสุทธิ์ อดทนต่อการยั่วยุ ไม่ตกเป็นรองในการโฆษณาชวนเชื่อ ดังนั้น จึงใคร่ขอเสนอแนวทางศึกษาอีกด้านหนึ่งที่สังคมยังไม่เคยรับรู้ให้ได้พิจารณา

ยุทธศาสตร์

1.ฝ่ายตรงข้ามต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงเพื่อให้สังคมไทยและสังคมโลก "เชื่อว่า" อำนาจรัฐ "ไม่สามารถควบคุม" ได้ และต้องให้ "องค์กรสากล" เข้ามาเป็นคนกลาง

ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ต้องกำหนดเช่นนี้เพราะฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าไม่สามารถแบ่งแยกดินแดนหรือสถาปนาอำนาจรัฐขึ้นได้ด้วยกำลังและการปฏิบัติการทางทหาร (ดูแผนผังที่ 1)

ยุทธวิธี

1.การปฏิบัติทางการทหาร

2.การปฏิบัติการสงครามข่าวสาร

3.ขยายการจัดตั้ง

4.การข่าว

การปฏิบัติการทางทหาร

1.เป็นการใช้กำลังขนาดเล็ก ภายใต้ "การจัดตั้ง" ที่แน่นอน ระดมกำลังเฉพาะกิจ เข้าตีเร็วถอยเร็ว

การรบในรูปแบบนี้ กำลังหน่วยรบ "ไม่ได้มีการจัดตั้ง ฐานที่มั่น" กำลังรบอยู่ตามบ้านในหมู่บ้านเมื่อจัดตั้งสืบสภาพก่อนตี หาข่าวหลังตีประสานแนวร่วมสนับสนุนเรียบร้อยแล้ว ก็จะ "กำหนดแผนการเข้าตี" จากนั้นจัดตั้งก็จะเรียก "ระดมพล" (ดูแผนผังที่ 2)

แนวทางการต่อสู้

1.ส่งกำลังทหารทั้งประจำการ และอาสาสมัครทหารพรานซึ่งต้องมีคนพื้นที่เข้าไปตั้งอยู่ในหมู่บ้านพื้นที่สีแดงทั้งหมด สำรวจทะเบียนราษฎร์และสำรวจคนอยู่จริง เพื่อกดดันไม่ให้ "กำลังรบ" ซึ่งเป็นทหารบ้านสามารถรวมตัวกันได้เมื่อจัดตั้งเรียกระดมพล และหากสามารถรวมตัวกันเข้าตีจุดหนึ่งจุดใดได้ ก็ต้องเป็นพื้นที่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน เพราะการเคลื่อนกำลังไกลเกินไปจะถูกตรวจพบได้ก่อนและเมื่อเกิดการเข้าตีเป้าหมายของฝ่ายตรงข้าม กองกำลังทหารที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบริเวณนั้นก็ต้องเข้าตรวจสภาพพื้นที่ เพื่อดูว่ามีใครหายออกไปจากบ้านบ้าง ก็จะทำให้ "กำลังรบ" นั้น "แดง" หรือเผยตัวขึ้น ซึ่งจะเป็นการกดดันให้ผู้ที่เผยตัวหลบหนีออกจากพื้นที่ หรือไม่ก็สามารถควบคุมตัวได้ ต้องตระหนักว่ากำลังทหารที่เข้าไปอยู่ในหมู่บ้านต้องใช้การเมืองนำการทหารต่อมวลชน แม้จะเป็นมวลชนที่เป็นแนวร่วมก็ตาม

2.ประกาศเคอร์ฟิวในหมู่บ้านพื้นที่สีแดงทั้งหมดเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหว

ภายใต้แนวทางนี้จะทำให้สามารถ "จำกัดการเคลื่อนย้ายของกำลังรบ และพื้นที่กำลังรบ" ให้เป็นไปตามที่อำนาจรัฐเป็นผู้กำหนด

3.มีหน่วยปฏิบัติการขนาดเล็กไล่ล่าเพื่อกดดัน "กำลังรบ" ที่เข้าปฏิบัติการทุกครั้ง เพื่อให้รู้ว่า "อำนาจรัฐ" มีกำลังเหนือกว่า ไม่ให้กำลังรบฮึกเหิม

การปฏิบัติการสงครามข่าวสาร

ฝ่ายก่อการร้ายแทบไม่ต้องทำอะไรเลย "สื่อ" ก็เป็นผู้แพร่ข่าวด้านกลับให้ทุกครั้งที่ปฏิบัติการ เพราะทันทีที่ข่าวออกไปทำให้ฝ่ายก่อการร้ายบรรลุยุทธศาสตร์ที่ต้องการให้เกิด "ความเชื่อว่า" มีความรุนแรงเกิดขึ้นจนเกินอำนาจรัฐจะควบคุม นอกจากนั้น "มวลชนในพื้นที่" ก็จะหวาดกลัว หันมาเป็นแนวร่วมหรือให้ความร่วมมือกับฝ่ายก่อการร้ายมากขึ้น หรือแนวร่วมที่เห็นดีเห็นงามอยู่แล้วก็จะฮึกเหิมขึ้น ยิ่งอำนาจรัฐรุกด้วยแนวทางการเมืองมากเท่าใด "การปฏิบัติการ" เพื่อให้เกิด "ข่าวสาร" ก็จะยิ่งมากขึ้น

แนวทางการต่อสู้

อำนาจรัฐจะต้อง "บริหารข่าวสาร" การสู้รบและการปฏิบัติการในพื้นที่ "ทุกวันและตลอดเวลา" ภายใต้หลักการที่ว่า "เสนอข่าวสารที่ต้องการ" และ "หยุดข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตรงข้าม"


โดยมีวิธีการดังนี้


1.การบริหารข่าวสาร ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ

1.1 ข่าวสารต่อประชาชนทั่วไป และต่างประเทศ
1.2 ข่าวสารต่อประชาชนในพื้นที่

2.ทำให้อำนาจรัฐมี "ศูนย์กลางการเผยแพร่ข่าวสาร" เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

เพื่อควบคุมการไหลของข่าวสารให้เป็นไปตามต้องการ "ห้าม" เจ้าหน้าที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องให้ข่าวอย่างเด็ดขาด ใครให้ข่าวจะถือว่าผิดวินัย แนวทางนี้จะทำให้ "สื่อมวลชน" จะค่อยๆ หันมาให้ความสำคัญกับ "ศูนย์ฯ"

3.ประสานงานทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนในทุกระดับ

3.1 ผู้สื่อข่าวพื้นที่
3.2 ผู้สื่อข่าวสายการเมือง สายทหาร
3.3 บก.ข่าวการเมือง สายทหาร
3.4 หน.กอง บก.บรรณาธิการบริหาร
3.5 เจ้าของกิจการ

ในเรื่องข้อเท็จจริง และยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ของฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้สื่อมวลชนกลายเป็นแนวร่วมเชิงรุกและไม่เป็นแนวร่วมด้านกลับ

4.จัดตั้งหรือใช้สื่อที่มีอยู่ในพื้นที่ "สื่อสารกับคนพื้นที่" โดยเฉพาะ เพื่อทำการบริหารข่าวสารในเชิงรุกทุกวันและทุกเวลา

4.1 ใช้เครื่องมือวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งทำเป็นภาษามลายูอยู่แล้ว ขยายผลในเชิงปฏิบัติการคือตอบสนองมวลชน ทันทีที่มีการร้องขอความช่วยเหลือเข้ามา โดยตั้งเป้าหมายเฉพาะกิจมีความคล่องตัวทำได้ทันที

4.2 จัดทำโทรทัศน์ภาษามลายู มีทั้งสาระ บันเทิง เพื่อเข้าถึงคนในพื้นที่โดยให้เอกชนทำแต่บริหารข่าวสารให้เป็นไปตามที่ต้องการ

การจัดตั้ง

การทำสงครามปฏิบัติการก่อการร้าย หรือการทำสงครามกองโจร การจัดตั้งจะเป็นหัวใจสำคัญสุดในการขับเคลื่อนองค์การทั้งหมด (ดังแผนผังที่ 1) ให้ไปในทิศทางที่ต้องการ (ดูแผนผังที่ 3)

องค์การจะขยายงานโดย "การปิดลับ" ในรูปแบบของหน่วยจัดตั้ง "กองกำลัง" หรือ "ผู้ปฏิบัติงาน" จะรู้จักบุคคลเฉพาะในหน่วยเท่านั้น เพื่อป้องกันการ "เสียลับ" ซึ่งหากถูกจับกุมหรือมีปัญหาก็จะมีปัญหาเฉพาะในหน่วยย่อยเท่านั้น ในแต่ละหน่วยจะมี "แกนจัดตั้ง" หนึ่งคน ซึ่งจะไปรวมกับระดับชั้นบนขึ้นไปอีกเป็นอีกหน่วยหนึ่งและในหน่วยนั้นก็จะมีแกนจัดตั้งอีกหนึ่งคนเป็นชั้นบนเป็นดังนี้ไปเรื่อยๆ

"การจัดตั้ง" ทำให้สงครามก่อการร้ายหรือสงครามปฏิวัติมีศักยภาพที่แท้จริง

แนวทางการต่อสู้

1.ควบคุมพื้นที่และการสื่อสารไม่ให้จัดตั้งแต่ละหน่วยติดต่อกันได้

2.ทำลายการจัดตั้งให้ขาดต่อกันไม่ติด เพื่อลดประสิทธิภาพขององค์กรลงโดยการแทรกซึมปะปน

การข่าว งานการข่าวของผู้ปฏิบัตินั้นจะอาศัยแนวร่วมและมวลชนเป็นหลัก ดังนั้นหากอำนาจรัฐอ่อนไม่น่าเชื่อถือหรืออำนาจรัฐกดขี่ข่มเหงรังแกประชาชน ก็จะทำให้งานการข่าวของฝ่ายปฏิวัติมีประสิทธิภาพ เพราะมวลชนและแนวร่วมยินดีให้ความร่วมมือ

แนวทางการต่อสู้

แทรกซึมปะปน จัดตั้งมวลชนทั้งลับและเปิดเผยลงในพื้นที่ที่ได้มีการแบ่งแยกในความหนักเบาของอำนาจฝ่ายปฏิบัติมีอยู่ในระดับไหน

ในการนำเสนอดังกล่าวนี้เป็นแนวทางการต่อสู้กับ "ขบวนการแบ่งแยกดินแดน" ที่มี "องค์กรจัดตั้ง" ส่วนในภาคประชาชนโดยรวมนั้นยังจะต้องใช้แนว "พระราชดำริ" ที่ว่า "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" อย่างต่อเนื่องนั้นคือ "เข้าใจ" ต่อ "ศาสนา" ที่ประชาชนนับถือ "เข้าถึง" ต่อ "วัฒนธรรม" วิถีชีวิตและความเป็นไปที่แตกต่าง "พัฒนา" ชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนให้พ้นจากความยากจน





Create Date : 19 เมษายน 2550
Last Update : 21 เมษายน 2550 19:09:44 น. 4 comments
Counter : 655 Pageviews.

 

มนุษย์โลกตัดสินชัยชนะกันที่คุณภาพของคนครับ*
ถ้าคนเรารู้จักคิดเป็นเหตุ เป็นผลได้เมื่อไรโดยไม่มี
ใครต้องชี้นำเสี่ยมสอน หรือโดนบ่มเพาะล้างสมอง

รู้รับผิดชอบชั่วดี มีคุณธรรมประจำใจเยี่ยงสุจริตชน
แนวทางพึ่งตนเอง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชทานไว้ เรื่องความเพียร ความพอเพียง
ความเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา คือการเรียนรู้ตลอดชีวิต

เริ่มต้นที่ตัวเราก่อน อย่าอ้างคนอื่นเพื่อจะเห็นแก่ตัว
แล้วขยายไปยังสังคมส่วนรวมระดับประเทศ..สู่โลก

ดับไฟแค้นเกลียดชังที่เผาไหม้ใจทุกข์ระทมภายใน
สุดท้ายสันติภาพเท่านั้น ยืนอยู่บนซากของสงคราม
องคุลิมานขุนโจรใจบาป ในที่สุดท่านได้บรรลุธรรม


โดย: ดับไฟใน ก่อนดับไฟนอก IP: 58.8.118.194 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:8:45:39 น.  

 
ขอบอกเลยนะว่าได้เงินจริง ง่ายๆทั้งหมดเลยไม่มีอะไรยุ่งยาก รายได้งามๆ และที่สำคัญไม่เสียหายไม่เดือดร้อนแน่นอนไม่งั้นเราและเพื่อนคนอื่นๆอีกมากมายคงจะไม่ทำอยู่ตอนนี้หรอก.......อย่ายอมให้โอกาสดีๆหลุดลอยไป!!!!
เพียงแค่คุณมีอินเตอร์เน็ตและเวลาว่างหลังเลิกเรียนและงานประจำ
สมัครทำงานกับ thaismaster บริษัทไทยทำงานโฆษณาสินค้าต่างๆรายได้ต่างๆมาจากการโฆษณาสินค้าง่ายๆขั้นตอนไม่ยุ่งยาก จ่ายเงินโดยโอนเข้าบัญชีทุกสัปดาห์
สมัครทำงานนี้ได้ที่เว็บข้างล่าง
รายละเอียดต่างๆศึกษาได้ที่นี่ทั้งหมด

//www.thaismarter.com/aa813.htm


นี่เมลล์เราสอบถามได้
bomberman_bb@hotmail.com
หรือโทรมาที่เบอร์นี่ได้ 081-2045822
=============================================================


โดย: bomberman IP: 222.123.216.204 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:7:08:37 น.  

 
มาถึงขั้นนี้ใช้วิธีนุ่มนวลไม่ได้แล้วครับ เราพยายามแล้วไม่ได้ผล ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดประกาศเคอร์ฟิวส์ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถ้าสืบรู้ใครเป็นตัวการใหญ่(จริงๆอย่าให้ผิดตัว)อย่าเอามันไว้ ตั้งหน่วยราชการลับโดยมีคนในพื้นที่(ที่ไว้ใจได้)ร่วมมือเพื่อล้วงข้อมูลของพวกมัน


โดย: คนไทยรักสงบรบไม่ขลาด IP: 101.51.107.106 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:23:20:40 น.  

 
มาถึงขั้นนี้ใช้วิธีนุ่มนวลไม่ได้แล้วครับ เราพยายามแล้วไม่ได้ผล ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดประกาศเคอร์ฟิวส์ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถ้าสืบรู้ใครเป็นตัวการใหญ่(จริงๆอย่าให้ผิดตัว)อย่าเอามันไว้ ตั้งหน่วยราชการลับโดยมีคนในพื้นที่(ที่ไว้ใจได้)ร่วมมือเพื่อล้วงข้อมูลของพวกมัน


โดย: คนไทยรักสงบรบไม่ขลาด IP: 101.51.107.106 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:23:22:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.