อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
30 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
เกษียร เตชะพีระ: ปรากฏการณ์ม็อบพันธมิตรฯ

เกษียร เตชะพีระ

ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ และจะเห็นด้วยหรือเห็นต่างก็ตาม การเคลื่อนไหวประท้วงของ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” รอบ 2 ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ศกนี้เป็นต้นมา นับเป็นปรากฏการณ์น่าสนใจชวนขบคิดวิเคราะห์

โดยที่ยังไม่อาจคิดเรียบเรียงเป็นระบบครบถ้วนกระบวนความ ผมขออนุญาตตั้งข้อสังเกตขั้นต้นบางอย่างเกี่ยวกับบุคลิกลักษณะและแนวโน้มของม็อบพันธมิตรฯ ในที่นี้: -

1) การชุมนุมมาราธอนของพันธมิตรฯ ที่ยืดเยื้อมาได้นานร่วม 100 วันเพราะได้แรงความชอบธรรมหรืออย่างน้อยก็อดกลั้นอดออมจากสาธารณชนที่ตระหนักเห็นความบกพร่องพิกลพิการของระบบการเมืองประชาธิปไตยรัฐสภาจากการเลือกตั้งดังที่เป็นอยู่

จะว่าไปแล้วตลอด 100 วันที่ผ่านมานั้น ตัวรัฐบาลสมัครและระบบรัฐสภาเองนั่นแหละที่ราวกับเปิดช่องชงเรื่องตั้งลูกจุดประเด็น – ไม่ว่าโดยจงใจหรือไร้เจตนา ไม่ว่าโดยแผนการหรือเป็นไปตามระบบ - ให้พันธมิตรฯ หยิบไปเปิดโปงตีกินขยายความปลุกระดมความไม่พอใจและไม่ไว้วางใจของสาธารณชนได้เรื่องแล้วเรื่องเล่าไม่หยุดหย่อน

ตั้งแต่กรณีผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างปิดแคบรีบร้อนรวบรัด, คำปราศรัยในอดีตของ รมว.จักรภพ, มรดกโลกเขาพระวิหาร, การปรับเปลี่ยนโยกย้ายข้าราชการที่ทำงานเกี่ยวข้องกับคดีความของ พ.ต.ท. ทักษิณและครอบครัว, แผนเมกะโปรเจกต์บางโครงการ, การแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับควบคุมตลาดหลักทรัพย์และธนาคารแห่งประเทศไทย, ไปจนถึงโครงการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ที่เบียดขับรุกรานเด็กนักเรียนและชาวบ้าน ฯ ลฯ

พูดอีกอย่างก็คือ โดยไม่ต้องเห็นด้วยกับเป้าหมายและวิธีการทั้งหมดทุกอย่างของพันธมิตรฯ แต่สาธารณชนก็รู้สึกได้ว่าระบบประชาธิปไตยรัฐสภายังแสดงอาการรวมศูนย์อำนาจและผูกขาดอธิปัตย์ (centralism & monism ในการวิเคราะห์ของอาจารย์เอนก เหล่าธรรมทัศน์) เรื้อรังออกมาไม่หยุดหย่อนเหมือนดังที่เคยเป็นมาและเป็นอยู่ จึงต้องการพลังอะไรสักอย่างไปคัดคานถ่วงดุลตรวจสอบมันไว้

หากศาลตุลาการและองค์กรอิสระเป็นพลังถ่วงดุลตรวจสอบภายในระบบ พันธมิตรฯ ก็ทำตัวเสมือนเป็นพลังถ่วงดุลตรวจสอบหนุนเสริมอยู่นอกระบบ – ในกรณีที่พลังภายในระบบทัดทานไม่ไหวหรือไม่ทันกาล

มองเฉพาะแง่มุมเดียวนี้ พันธมิตรฯ จึงดูเหมือนแสดงบทบาทหน้าที่จำเป็นบางอย่างสำหรับระบบการเมืองแบบนี้ (systemic function)

2) ม็อบมาราธอนของพันธมิตรฯ น่าจะเป็นการชุมนุมประท้วงครั้งแรกของโลกที่ถ่ายทอดสดทางทีวีดาวเทียม, วิทยุและอินเทอร์เน็ต 24/7 (วันละ 24 ชั่วโมง/สัปดาห์ละ 7 วัน) ต่อเนื่องกันนานนับ 100 วัน

ทำให้มันมีลักษณะผสมผสานอย่างพิสดารระหว่าง reality show กับการรณรงค์ต่อสู้ทางการเมือง

ซึ่งเปลี่ยนขยายปรากฏการณ์ audience democracy (ประชาธิปไตยของผู้ชมในตะวันตกช่วงหลังนี้ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นแค่ผู้ชมผู้ฟังบรรดานักการเมืองอาชีพเล่นบทบาทกันไปบนเวทีการเมืองแล้วก็ให้เรตติ้งคะแนนนิยมผ่านการสำรวจหยั่งเสียง) ออกไป

ให้สามารถมี virtual participants นอกสถานที่ชุมนุม (ผู้เสมือนเข้าร่วมจริง - ไปม็อบได้โดยไม่ต้องออกนอกบ้านหรือออฟฟิศ) มากมายเหลือคณานับกว่าที่พบเห็นในที่ชุมนุม โดยเสียบหูฟังวิทยุคลื่น FM 97.75 หรือเปิดโฮมเธียเตอร์ช่องเอเอสทีวีดังสนั่นลั่นห้อง ให้ความรู้สึกเหมือนร่วมรับฟัง/ รับเห็น/ รับรู้/ รู้สึกอยู่ในที่ชุมนุมตลอดเวลาไม่ว่ากำลังทำงาน ทานข้าวหรือเข้านอน

ทว่าผลด้านกลับของมันคือทำให้การชุมนุมของพันธมิตรฯ น่าจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายรายวันแพงที่สุดในโลกด้วย เพราะไม่เพียงค่าเช่าเวทีอุปกรณ์แสงเสียง ค่าน้ำมันปั่นเครื่องไฟ ค่าสวัสดิการอาหารของคณะทำงาน วิทยากรและศิลปิน ยังมีเงินเดือนและค่าดำเนินการถ่ายทอดสดจากที่ชุมนุมของทีมเอเอสทีวีอีกต่างหาก รวมแล้วตกถึงวันละ 5 แสน – 1 ล้านบาทแล้วแต่จำนวนผู้ชุมนุม ขณะเงินบริจาคและรายได้จากการขายเสื้อยืดสิ่งของเครื่องใช้เกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงเข้ามาประมาณวันละ 3 แสน – กว่า 1 ล้านบาท
ด้วยเงินงบประมาณรายวันขนาดนี้คงพอให้การชุมนุมประท้วงปกติธรรมดาของชาวบ้านหรือแม้แต่ของ นปก. ที่ย่อมเยากว่ายืนยาวไปได้นานเป็นสัปดาห์ทีเดียว

ปรากฏว่าใน 25 วันแรกของการชุมนุม พันธมิตรฯ มีรายได้ 26 ล้านบาท ใช้จ่ายไป 24 ล้านบาท (สุริยะใส กตะศิลา), ในการชุมนุมกว่า 3 เดือน พันธมิตรฯ ผลิตเสื้อ “ลูกจีนรักชาติ” ออกขาย 9 หมื่นตัว ได้เงินกว่า 25 ล้านบาท (ชัยอนันต์ สมุทวณิช), จนหลังบุกยึดทำเนียบ พันธมิตรฯ ก็ยังมีเงินเหลือในบัญชี 6.6 ล้านบาทและทองคำแท่งหนัก 80 บาท (จำลอง ศรีเมือง)

การชุมนุมแบบพันธมิตรฯ จึงมีภาระทางการเงินหนักเป็นพิเศษ ความข้อนี้บ่งชี้ลักษณะด้านฐานะเศรษฐกิจสังคมและวิถีชีวิตของฐานผู้สนับสนุนและเข้าร่วมได้พอสมควร

3) พูดอย่างรวบยอด การชุมนุมของพันธมิตรฯ คือพลังฝ่ายค้านทางการเมืองตัวจริงเสียงจริงในปัจจุบัน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแค่ตัวประกอบ (ใครยังจำได้ว่ามีพรรคฝ่ายค้านนี้อยู่บ้าง...?)

เพียงแต่ข้อต่างที่มีนัยสำคัญคือพันธมิตรฯ เป็นพลังฝ่ายค้านที่ต่อต้านทั้งระบบการเมือง (ในความหมาย a force of resistance to the whole political system) ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคฝ่ายค้านปกติธรรมดาในระบบการเมือง (ในความหมาย an opposition party in the political system)

พูดเพื่อเข้าใจง่ายๆ ได้ว่าพันธมิตรฯ คือ “พรรค” ราชาชาตินิยมฝ่ายค้านตัวจริงนอกระบบรัฐสภา ที่ไม่ลงเลือกตั้งเพราะถึงลงก็คงแพ้พรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลอื่นซึ่งทุนหนาและกุมเสียงส่วนใหญ่ในชนบทแน่นกว่า

ทางเดียวที่ “พรรค” พันธมิตรฯ จะชนะและยึดอำนาจรัฐได้จึงไม่ใช่ผ่านการเลือกตั้ง แต่ต้องโดยวิถีทางอื่น – ดังได้พิสูจน์ให้เห็นซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา - ไม่ว่าโดยการชุมนุมประท้วง, รัฐประหาร, หรือลุกขึ้นสู้ (general uprising – ปราโมทย์ นาครทรรพ) ในครั้งนี้ก็ตามที

การดำรงอยู่ของพันธมิตรฯ รวมทั้งพลังทางการเมืองและสังคมซึ่งมีพวกเขาเป็นตัวแทนในฐานะขั้วหนึ่งของคู่ขัดแย้งหลักทางการเมืองปัจจุบันจึงเป็นปัจจัยแห่งความไร้เสถียรภาพในระบอบการเมืองอยู่แล้วโดยตัวของมันเองเป็นธรรมดา

ยิ่งกว่านั้นการที่พันธมิตรฯ เข้าใจว่าตนเองเป็นเครื่องมือแบบการเมืองมวลชนเพื่อไปบรรลุสิ่งซึ่งตนเองเข้าใจว่าเป็นพระราชประสงค์ขององค์พระประมุข โดยก้าวข้ามช่องทางสถาบันการเมืองทางการทั้งหมด (คำปราศรัยบนเวทีก่อนเป่านกหวีดบุกยึดทำเนียบของสนธิ ลิ้มทองกุล, พิภพ ธงไชย เป็นต้น) จึงน่าวิตกว่าจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิอาจทำงานตามครรลองกลไกกระบวนการปกติของมันได้ เกิดอาการไฟช็อตลัดวงจร กระทั่งหมดสภาพลง

กรณีตัวอย่างที่พอยกมาเปรียบเทียบได้ในบางแง่มุมคือสถานการณ์ในเมืองจีนช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

4) ในสายตาผม แนวโน้มน่าห่วงที่สุดของม็อบพันธมิตรฯ คือท่าทีต่อปัญหาจริยธรรมว่าด้วยวิธีการ (the ethics of means)

เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมืองที่ตนเห็นว่าถูกต้องดีงาม พันธมิตรฯ ไม่เลือกวิธีการที่ใช้ จะใช้วิธีการอะไรก็ได้ จะชอบหรือไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์ทางศีลธรรมหรือหลักการทางการเมืองอย่างไรก็ได้ ขอแต่ให้บรรลุเป้าหมายได้เป็นพอ เข้าทำนอง The end justifies the means. หรือเป้าหมายให้ความชอบธรรมกับวิธีการ

เหตุผลที่พันธมิตรฯ อ้างมักมี 2 ประการด้วยกัน คือ

ก) ศัตรูที่เราสู้ด้วยเป็นคนสกปรกเลวทรามต่ำช้าถึงขนาด ฝ่ายมันเองก็ไม่เลือกวิธีการเวลาสู้กับเรา ฉะนั้น จัดการกับคนชั่วช้าแบบนี้ ก็ไม่ต้องเลือกหรือจำกัดรูปแบบวิธีการเหมือนกัน มิฉะนั้นจะตกเป็นเหยื่อมัน (ประพันธ์ คูณมี, และชุดคำอธิบายเหตุที่พยายามบุกยึดสถานี NBT ของผู้นำพันธมิตรฯ)

ข) สิ่งที่เรามุ่งพิทักษ์ปกป้องไว้นั้นสำคัญสูงสุดเสียจนกระทั่งกดลบกลบทับหลักเกณฑ์หลักการอื่น ๆ ทั้งหมด หลักเกณฑ์หลักการอื่นจึงชาชืดจืดจางลงสิ้นเมื่อนำมาเปรียบด้วย เพราะฉะนั้นเพื่อรักษาสิ่งสำคัญสุดยอดไว้ แม้จะต้องละเมิดหักรานหลักเกณฑ์หลักการอื่นไปบ้าง ก็ต้องทำ (สนธิ ลิ้มทองกุล)

พันธมิตรฯ จึงพร้อมหยิบฉวยประเด็นร้อนแรงแหลมคมต่างๆ ไม่ว่าข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ, ปลุกความคลั่งชาติเรื่องดินแดน ฯลฯ มาเป็นยุทธวิธีปลุกเร้าผู้คนให้ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลและทักษิณ

ผมไม่เห็นด้วยกับท่าทีเช่นนี้ ผมเห็นว่ามันสุ่มเสี่ยงอันตรายที่จะปลุกพลังรุนแรงที่อาจควบคุมไว้ไม่อยู่ขึ้นมาจนพลอยไปทำร้ายทำลายผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องหรืออย่างเกินกว่าเหตุ อีกทั้งยังเห็นมนุษย์คนอื่นเป็นเครื่องมือ เป็นเหยื่อและเป็นเครื่องบูชายัญสังเวยเป้าหมายความเชื่อของตนเอง

ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ว่า วิธีการคือหน่ออ่อนที่จะเติบใหญ่ขยายตัวกลายเป็นเป้าหมายในอนาคตข้างหน้า (Means is the end in the process of becoming.) ฉะนั้นหากเลือกวิธีการเลวร้ายตอนนี้แม้ในนามของเป้าหมายที่ดีงามในอนาคต แต่ในที่สุดแล้ววิธีการเลวร้ายที่เลือกก็รังแต่จะเติบใหญ่ขยายตัวลงเอยกลายเป็นเป้าหมายที่เลวร้ายในบั้นปลายนั่นเอง

ฐานคิดทางปรัชญาของปฏิบัติการไม่รุนแรงและอารยะขัดขืนที่แท้จึงได้แก่หลักความเป็นเอกภาพของคุณค่าทางศีลธรรมระหว่างเป้าหมายกับวิธีการ (moral unity of the end and the means) เป้าหมายดี ต้องเลือกใช้วิธีการดีด้วย, หากเลือกใช้วิธีการเลว เป้าหมายจะออกมาดีนั้นเป็นไปไม่ได้

5) ตอนนี้บ้านเมืองของเรากำลังอยู่ตรงริมเหวแห่งการลุกขึ้นสู้ทั่วไปของประชาชนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านรัฐบาล

เป็นจุดเดียวกับที่บ้านเมืองเราเคยเดินมาถึง ณ วันสุกดิบก่อน 14 ตุลาคม 2516 และ 17 พฤษภาคม 2535....และแล้วเราก็ถลำลึกลงไป

เราเดินมาถึงจุดนี้วันนี้ได้ก็เพราะความผิดพลาดใหญ่บ้างเล็กบ้างและที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจของคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย

จากจุดนี้ไปอีกนิดเดียว น่ากลัวว่าไฟจะลุกเผาบ้านเผาเมือง เลือดไทยจะนองถนนด้วยฝีมือไทยกันเองอีก

จะหยุดและหลีกพ้นหุบเหวนี้ได้

-ฝ่ายรัฐต้องถอนกำลังฝ่ายความมั่นคงหลีกห่างออกมาจากการเผชิญหน้ากับมวลชนพันธมิตรฯ ทุกที่ทุกแห่งอย่างเร่งด่วน

-ผู้นำพันธมิตรที่ถูกออกหมายจับทั้ง 9 คนต้องมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเพื่อเข้าสู่การต่อสู้ในกระบวนยุติธรรมตามกฎหมายทันที

จากนี้กระบวนการทางการเมืองและกฎหมายจะได้ดำเนินต่อไปตามกฎเกณฑ์กติกาของมัน แทนที่จะเดินหน้าสู่การทำร้ายทำลายกันที่ทุกฝ่ายล้วนพ่ายแพ้


Create Date : 30 สิงหาคม 2551
Last Update : 30 สิงหาคม 2551 3:01:09 น. 23 comments
Counter : 2434 Pageviews.

 
ทำไมตอนทหารปฎิวัติมันไม่ออกมาไล่บ้างน่ะ.พอเลือกตั้งเสร็จจึงออกมาไล่จริงๆแล้วทำไมมองไม่ออกว่าการเมืองของไทยเรานั้นมีแค่ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นกลุ่มอำนาจเก่าที่ครองอำนาจมาตั้ง50ปีกับกลุ่มอำนาจใหม่หรือทุนใหม่ซึ่งมามีอำนาจไม่ถึง10ปีไม่ว่าใครจะมีอำนาจคนที่รับไปเต็มยามมีปัญหาคนส่วนมากมักจะเป็นผู้ได้รับผลด้านลบมาเสมอเราต้องมองให้ออกว่าใครสร้างประโยชน์แก่เรามากที่สุดเท่าทีพวกเขามอบให้แต่ยังไงก็อย่ายังตกเป็นเครื่องมือของเขาอย่าเอาชีวิตเข้าแลกดีกว่า


โดย: toto IP: 124.120.58.113 วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:11:14:38 น.  

 
ยอมรับอีกอย่างว่า ช่วงนี้ มีนักวิชาการ มากมาย ออกมาให้ความเห็น ได้ความรู้เยอะดีครับ

ที่กลัวคือ อนาคตการเมืองเราไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล การเมืองเราจะไม่มีความสุขสงบอีกต่อไป เพราะใคร ๆ ก็ตั้งม๊อบได้

ไม่ชอบใจที่รัฐวิสาหกิจทำแบบนี้

ไม่ชอบใจที่หน่วยงานราชการ รัฐบาล ใช้ความรุนแรง

ไม่มีใครมีสิทธิใช้ความรุนแรง ไม่มีความชอบธรรมใด ๆ เลย

จะเจรจากันได้หรือไม่ เคารพกฏหมาย เสียงส่วนใหญ่ และ เสียงส่วนน้อยได้หรือไม่

ถ้าทำไม่ได้ คิดหรือว่า นี่คือประชาธิปไตย

เฮ้อ มืดมนจริง ๆ ประเทศเราเสียโอกาสไปมากจริง ๆ


โดย: :bo IP: 124.122.198.226 วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:11:36:07 น.  

 
แนวทางเสนอดีเลยครับ อ.เกษียร แต่เป็นไปได้ยากมากถึงมากที่สุด


โดย: คนคู (konku ) วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:20:51:50 น.  

 


ค่ะ ? Means to end

สู้กับผู้ไร้สำนึกมันก็นานหน่อย ระบบมันจะจัดเรียงกันเอง

มีเกิด มีดับ เท่านั้น

ตามวาระ ไม่นานค่ะ ...

ขอบคุณกับเสียงเงียบ คือพลัง..


โดย: Cheria (SwantiJareeCheri ) วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:21:03:59 น.  

 
ผมเบื่อที่ช่วงนี้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าพูดความจริง พยายามพูดอะไรต่างๆ ให้ดูดีแต่ไม่จริง เช่น เรายังสามารถคุยกันได้ การยึดทำเนียบเป็นสิทธิตามหลักประชาธิปไตย รัฐบาลน่าจะใช้้สันติวิธีกว่านี้ (แต่อีกฝ่ายไม่ต้อง) ประเทศเราจะอยู่กันด้วยความคิดจอมปลอมกันเหรอ ใครผิดใครถูกไม่มีใครกล้าพูด สำหรับผมนะไทยฆ่าไทยทำไมจะทำไม่ได้ถ้าคนๆ พวกนั้น ไม่เคารพกฏหมาย ถ้าคนนั้นไม่สนใจความหายนะของประเทศ อย่าหลอกตัวเองเลยครับคนไทย ว่าเราเป็นชาติศิวิไลซ์ที่สุดในโลก พูดจากันสันติรู้เรื่องในทุกเรื่อง เพราะยังไม่มีชาติไหนทำได้เลย ๓ ปีมานี่หลักฐานยังไม่พออีกเหรอว่าทำไม่ได้ จะยืนดูภาพอย่างนึงแล้วพูดอีกอย่างนึงตลอดไปเหรอ แล้วเมื่อไหร่จะสงบเหมือนคนอื่นเค๊าบ้าง อย่าหลอกตัวเองครับเพราะมันหลอกไม่ได้ และคนที่เสียหายคือเราเอง


โดย: pickyman วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:0:26:17 น.  

 
อยากให้บทสรุปนี้เกิดขึ้นจิง ถึงแม้จะยากก็ดีกว่า เพราะเชื้อความคิดด้านมืดแบบใหม่ให้เกิดขึ้นในระบอบการเมืองของเรา


โดย: อมรชัย IP: 119.42.70.187 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:22:46:27 น.  

 
ตอนนี้ สื่อ ลอยบีบอัดรอบข้างตัวเราไปหมด
ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรกันแล้ว
พันธมิตร มีถูกบ้างผิดบ้าง แต่นับว่าเป็น การเมืองภาคประชาชนที่ดีทีเดียว นี่แหละ ปชต.ที่ทันสมัย

แต่ก็มีเสียงข้างอื่น ไม่ว่ามากน้อยกว่ากัน นั่นก็คือประชาชนเช่นกัน

แต่สำหรับการถอนกำลังตำรวจหรือทหาร กำลังความมั่นคง
ออกจากกลุ่มพันธมิตร คงยาก
เพราะ ตอนนี้ มี กลุ่ม นปช. ด้วย

หาก ไม่มีผู้ดูแล ควบคุม กั้นเขตแดน ทั้งสองกลุ่มที่ขัดแย้งกัน
อาจเกิดการนองเลือดที่มิอาจควบคุมได้อย่างน่ากลัว

หนู คิดว่า นปช. ควรจะสลาย พธม. ก็ควรสลาย ทหารก็จะสลาย

แล้วฝ่านค้าน ก็ทำหน้าที่เข้มข้นขึ้นซะ ให้โปร่งใส
รัฐบาลควรรับฟัง และปรับปรุงตน จากนั้น เดินหน้าต่ออีกสักตั้งซิ

ให้รู้ไปว่า จะไร้ซึ่งสำนึกของการบริหารปท.ไทยให้ดีได้จริงหรือ...เพราะทางเลือกที่ดีหนูก็คิดได้แค่นี้แหละ
หรือจะเปลี่ยนผ่านระบอบการปกครองใหม่ ยังคิดอยู่ว่าจะยุ่งสักแค่ไหน

เอาแบบไหนดีล่ะ

โพลิตี้ คอมมิวนิส เผด็จการ ราชาธิปไตย คณา หรือ อนา
หรือ อภิชนา เอ๋...หรือ จะอยู่ใครอยู่มัน ไม่ต้องมี อะไร
ทั้งนั้น

เฮ้ออ.......น่าเศร้า ปวดหัวจิงๆ


โดย: เด็กศิลปากร IP: 125.27.208.72 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:11:57:39 น.  

 
แล้ว ใครล่ะ

จะมาบริหารปท.ได้ดีที่สุด ตอบทีเถอะ

อย่าบอกนะว่า..เด๋วก็มี..เด๋วก็เจอ มีคนดีๆเองแหละ

ตอนนี้ เราต้องคิดกันดีดี วิเคราะห์กันลึกๆซิ
ว่าทางออกทางไหนจะดีที่สุด

ทุกฝ่ายจะต้องทำยังไง

ต่างคนต่างไม่ยอม ต่างไม่ถอยกันคนละก้าว

อีกหน่อย ก็มี เหดกาน นองเลือดเดือนตุลาเร็วๆนี้แหละ

เฮ้อ


โดย: นศ.อยากรู้ IP: 125.27.208.72 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:12:05:48 น.  

 
เห็นว่าตอนนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างคนชั้นที่สูงกว่ารากหญ้าที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันรวมไปถึงนักวิชาการ เขาต่อสู้เพื่อกิเลศและความต้องการของชนชั้นเขา โดยกลุ่มรากหญ้ายากที่จะใช้สิทธิที่คนเหล่านี้อ้างว่าเป็นสิทธิที่เท่าเทียมกัน และภาคภูมิใจเสียเหลือเกินว่าเป็นการพัฒนาการเมืองภาคประชาชน ซึ่งถ้ายือเยื้อต่อไปก็จะกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศ และรากหญ้าที่ต้องหาเช้ากินค่ำ และชาวไร่ชาวหน้าก็จะได้รับผลกระทบตายก่อนเพื่อน ในขณะที่คนเหล่านี้แม้ได้รับผลกระทบก็ยังอยู่ได้เพราะฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า คิดดูนะครับถ้ารากหญ้าอยากจะใช้สิทธิบ้างทำได้จริงหรือ อดตายครับ เว้นแต่มีผู้ที่จ่ายเงินสนับ เช่นม็อบคนจนคราวที่แล้ว แต่ก็จะต้องถูกหาว่าถูกจ้างมา ผิดกับม็อบคนชั้นกลางแม้จะไม่มีการเลี้ยงอาหารฟู่ฟ่าแบบม็อบพันธมิตรในปัจจุบัน ก็อยู่ได้เป็นปีๆ สิทธิอันน้อยนิดที่รากหญ้าพอจะมีโอกาสใช้ได้ก็คือการใช้สิทธิในการเลือกตั้ง แต่ก็จะถูกคนชั้นกลางและนักวิชาการเห็นแก่ตัวที่มีกิเลศความต้องการไม่สิ้นสุดมาลบล้างโดยการประท้วงขับไล่ และภาคภูมิใจกับการประดิษฐ์ถ้อยคำที่สวยหรูฟังดูดีน่าเลื่อมใสว่าเป็นการเมืองภาคประชาชน หนักไปกว่านั้นจะมีนักวิชาการหลายท่านใช้ความได้เปรียบทั้งด้านการใช้สื่อ ความสามารถประดิษฐ์ถ้อยคำที่เสียดแทงหัวใจและความรู้สึกของคนรากหญ้าว่า “คนรากหญ้าเลือกนายก คนเมืองปลดนายก คนรากหญ้าไม่เสียภาษี คนเมืองเสียภาษี คนไม่เสียภาษีมีสิทธิเลือกนายได้อย่างไร ” หรือ “ ที่ด็อกเตอร์ที่หลงตัวเองว่าสูงส่งท่านหนึ่งกล่าวว่าหนึ่งเสียงของคนรากหญ้าจะเทียบเท่าหนึ่งเสียงของคนเมืองได้อย่างไร การศึกษามันต่างกัน” บางท่านก็ว่า “ รากหญ้าโง่ถ้าถามเรื่องหุ้นน่ะ รู้เรื่องไหม ” ฟังแล้วน่าคับแค้นใจไหม
ที่ผ่านมาคนเมืองได้เอาเปรียบคนรากหญ้ามานานมาก งบประมาณชาติได้ทุ่มไปที่คนเมืองมากี่สิบปีแล้ว ทำให้คนเมืองมีโอกาสที่จะทำมาหากินเติบโตทางทางเศรษฐกิจอย่างเทียบเคียงไม่ได้กับรากหญ้าเลยทั้งๆที่รากหญ้าเป็นคนส่วนใหญ่ที่มีความเป็นเจ้าของประเทศมากกว่าด้วยซ้ำ ทำไมไม่ทุ่มงบมาลงสู่รากหญ้าให้มากเท่าคนเมืองได้รับล่ะ แล้วรากหญ้าจะเสียภาษีเหมือนที่ตนเมืองจ่าย คนรากหญ้าจำเป็นมากไหมที่ต้องรู้เรื่องเรื่องหุ้น และถ้าถามไอ้ด็อกท่านนั้นกลับว่ารู้เรื่องข้าวเหมือนที่ชาวนารู้ไหม ไอ้ด็อกนั่นก็โง่เหมือนกันน่ะแหละ ที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อจะบอก ท่านทั้งหลาย ท่านกำลังทำอะไรกัน ท่านใช้สิทธิเอาเปรียบรากหญ้า ตั้งแต่ร่างรัฐธรรมที่มุ่งตอบสนองชนชั้นท่าน ที่พยายามสร้างภาพว่าดูเหมือนเป็นการให้สิทธิคนทั้งประเทศแต่จริงๆแล้วหมกเหม็ดเพราะรากหญ้าไม่มีโอกาสใช้สิทธิเหมือนพวกท่านได้เลย กรุณาอย่าปิดช่องทางการใช้สิทธิอันน้อยนิดผ่านทางการเลือกตั้งของเราเลย ได้โปรดให้รากหญ้าได้มีโอกาสต่อสู้กับท่านผ่านตัวแทนของเราบ้าง ท่านจึงควรใช้สิทธิของท่านผ่านช่องทางตัวแทนของท่านในระบบรัฐสภา โดยยึดถือกฎหมายเป็นกติกาเช่นกัน ถึงอย่างไรเราก็เสียเปรียบท่านในหลายเรื่องอยู่แล้ว ตั้งแต่ โอกาสการใช้สื่อ แกนนำที่มีศักยภาพ เงินทุน ความสามารถในการประดิษฐ์ร้อย เรียงถ้อยคำ รวมไปถึงพลังในการหยุดงานประท้วงตัดน้ำตัดไฟ เห็นใจผลกระทบต่อรากหญ้าที่เกิดจากการกระทำของท่านด้วยเทอญ ได้โปรดเคารพสิทธิที่มีอันน้อยนิดของเราด้วย


โดย: รากหญ้าที่เริ่มตื่น IP: 203.149.16.31 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:17:01:50 น.  

 
แล้วรากหญ้าเข้าใจหรือไม่ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ่น สิ่งที่ชนชั้นกลางพยายามทำคือไม่ให้รัฐบาลที่ถูกครอบงำด้วยอำนาจของคนที่รากหญ้าคิดว่าทำเพื่อรากหญ้า (หลอกใช้เสียงพวกคุณ) สามารถกลับมาโกงบ้านเมืองได้อีก เขาเหมือนพี่ชายที่พ่อแม่ไว้วางใจให้บริหารเงิน แต่เขากลับเอาเข้ากระเป๋าไปซะ 50% (หรือมากกว่านั้น) ที่เหลือก็เอาเงินพ่อแม่มาแจกน้องๆที่ยังเล็กๆเป็นเด็กๆ แล้วสิ่งที่หายไปก็คือ หายไปกับมอเตอร์ไซค์ มือถือ ใช้จ่ายตามใจ ไม่ได้ตามคุมว่า เงินที่ให้มาเอาไปใช้ เรียนพิเศษหาความรู้เพิ่มเติมจะได้ทำมาหากินเป็น จะได้ไม่โง่โดนไอ้พวกเห็นแก่ตัวหลอก...ลืมไปว่าเงินพ่อแม่ที่อุตส่าห์เก็บมาก็หมดได้ ในที่สุดประเทศก็จะล่มจม รากหญ้าก็จะอยู่ไม่ได้ แต่พี่ชายที่ไม่ได้รักครอบครัวก็สบาย...หนีไปอยู่ต่างประเทศ ด้วยเงินเต็มกระเป๋า....รากหญ้ารู้ตัวหรือไม่...คนชั้นกลางอยากให้คนที่มาใช้ภาษีที่พวกเขาจ่าย ได้นำเงินนั้นไปใช้พัฒนารากหญ้าให้มีความรู้ + ลิมตาอ้าปากได้และสามารถพึ่งตนเองได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่ส่งเสริมให้ฟุ่มเฟือย และ จนลงๆๆ เป็นหนี้มากขึ้น เข้าใจหรือยัง รากหญ้า


โดย: ลูกคนกลางที่ทำเพื่อครอบครัว IP: 203.149.46.70 วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:11:24:19 น.  

 
เรียนคุณลูกคนกลางที่ทำเพื่อครอบครัว

สิ่งที่ผมนำเสนอไม่ได้ตั้งใจจะให้ไปเกี่ยวข้องถึงประเด็นที่ขัดแย้งของคนชั้นกลาง 2 กลุ่มทั้งพันธมิตร นปก และรัฐบาลที่โยงจากกรณีทักษิณ ผมเพียงชี้ให้เห็นว่าที่คนชั้นกลางมีปัญหากันนั้นกระเทีอนถึงรากหญ้าที่เสียเปรียบกว่าท่านทั้งทางฐานะทางเศรษฐกิจ และด้อยโอกาสที่จะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างเท่าเทียมกับคนชั้นกลาง สังคมนี้ควรให้เกียรติและเคารพสิทธิอันน้อยนิดของรากหญ้าที่ได้ทำผ่านการเลือกตัวแทนของเขาในระบบรัฐสภา โดยมีกฎหมายบ้านเมืองและระบบศาลเป็นกติกา ไม่ว่าคนที่เขาเลือกจะเป็นฝ่ายทักษิณหรือไม่
แต่ถ้าคุณตั้งใจจะโยงเรื่องนี้ไปในประเด็นของทักษิณ ก็คงต้องถามคุณกลับเช่นกัน
1.หลายปีที่ผ่านมาที่ทุกรัฐบาลทุ่มงบประมาณเข้าใส่เมือง ไม่ได้เรียกว่า ประชานิยมคนชั้นกลางและชั้นสูงหรือ และ คนชั้นกลางบางส่วนไม่ได้เป็นแบบรากหญ้าบางส่วนที่คุณกล่าวถึงหรือ

2.รัฐบาลที่ผ่านมาของทุกพรรคไม่มีโกงเลยหรือ มันก็เน่ากันทุกพรรคน่ะแหละ โกหกก็เยอะ ขนาดอดีตนายกชวนที่มีภาพน่าเชื่อถือยังโกหกกลางสภาว่าไม่เคยพูดว่า “จำลองพาคนไปตาย”

3.ถามอย่างนี้ก็จะเข้าทาง จำลอง สนธิทันทีว่า นี่คือเหตุที่ต้องการการเมืองใหม่ 70 : 30 ที่โพธิรักษ์แห่งสันติโศกคิดขึ้นมา ก็ต้องถามคุณต่อว่า ตัวคุณเองและสังคมนี้รับได้กับ 70:30 จริงหรือ หรือเป็นวาระซ้อนเร้นที่ต้องการวิธีลัดในการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองของแกนนำที่รู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อถือและยอมรับที่จะเลือกเข้ามาเป็นตัวแทนของเขาผ่านระบบการเลือกตั้ง

4.และคุณแน่ใจจริงๆหรือว่าแกนนำพันธมิตรไม่มีความต้องการอื่นแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่หรือ คุณเองถ้าไม่โง่จนสุดๆก็น่าจะรู้แก่ใจดีว่า ข้อมูลที่แกนนำมาพูดมีไม่น้อยที่โกหกบิ ดเบือน นายสนธิมีประวัติเบื้องหลังอะไร เมื่อชนะแล้ว สันติอโศกของจำลองจะไม่ทำร้ายทำลายองค์กรพุทธปัจจุบัน และจะไม่เอางบประมาณชาติไปสนับสนุนมูลนิธิกองทัพธรรมของสันติอโศกอย่างมหาศาลเช่นที่รัฐบาลทักษิณเคยให้ และนี่จะไม่ใช่เวทีที่นำไปสู่วิธีลัดของท่านเหล่านายพลทั้งปัจุบันและเกษียรเข้าสู่การเมืองเช่นหลายท่านที่ผ่านมา คนเหล่านี้เชื่อถือได้จริงหรือ เห็นมีแต่ต้องการอำนาจทางการเมือง และชอบอ้าง อารยขัดขืน เช่นวีระบุรุษของโลก แต่ไม่ยอมอ้างมาทั้งหมด เราจึงได้มีโอกาสเห็น อารยะขัดขืนแบบที่เอาหัวซุกอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิงและแอบอยู่หลังเด็กและพระปลอม (สันติอโศกไม่ใช่พระ)

5.ความชอบความเกลียดและความเชื่อในกรณีทักษิณก็เป็นสิทธิของแต่ละท่าน ก็ต้องใช้กฎหมายและระบบศาลจัดการ ถ้าไม่รับก็ต้องลำบากหนีไปอยู่ที่อื่นกันเอง แล้วมีความสุขมั๊ยล่ะ ตอนนี้แกนนำก็ปฏิเสธกฎหมายเช่นทักษิณ ก็ควรหนีไปอยู่ที่อื่นเหมือนทักษิณบ้างซิ

6.คุณภาคภูมิใจมากนักใช่ไหมกับชัยชนะบนความเดือดร้อนของประชาชน ทุกถ้วนหน้า บนความเสียหายกับซากปรักหักพังของประเทศชาติ ผมโครตเซ็งจริงๆกับคำพูดของแกนนำที่ว่า “ก็ต้องมีบ้าง”

7.ระบบที่พวกพันธมิตรได้เข้าไปอยู่ใน สนช.โดยอิงอำนาจจาก คมช. เพื่อร่างรัฐธรรมนูญ นั้น ไม่มีการแทรกแซงเช่นที่ทักษิณเคยทำหรือ ทำไม คำนูญ สิทธฯถึงป็นสว.โควต้า นักวิชาการแทนที่จะเป็น โควต้าของสื่อ ทำไมคุณจรัล เป็นศาลรัฐธรรมนูญในโควต้าผู้เชี่ยวชาญ แทนที่จะเป็นโควต้าศาล คุณคงฉลาดพอที่จะหาคำตอบให้ตัวคุณเองได้
ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ไม้ได้บอกว่าทักษิณดีอย่างที่คุณพยายามจะเข้าใจ ผมกลับเชื่ อ 100% ไม่มีหรอก ไอ้ที่ดีเลิศประเสริฐหาที่ติไม่ได้แต่ละคนมันก็มีดีบ้างเน่าบ้าง ทุกคนจึงต้องใช้สิทธพิจารณาเลือกกันเอง ซึ่งก็จะเลือกและเชื่อแตกต่างกันแน่นอน เราควรเคารพสิทธิในการเลือกของแต่ละฝ่าย และใช้ระบบของกฎหมาย ระบบศาลที่มีอยู่เป็นกติกา และจะดีมากๆถ้าเป็นกติกาที่ทุกชนชั้นมีโอกาสใช้สิทธิได้อย่างเท่าเทียมกัน และเป็นสิทธิที่ไม่รบกวนหรือทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ปัจจุบันความเท่าเทียมกันเป็นเพียงแค่ตัวหนังสือ แต่จริงๆแล้วกลับให้ความได้เปรียบกับคนบางกลุ่มเท่านั้นที่มีสิทธิใช้ได้


โดย: รากหญ้าที่เริ่มตื่น IP: 203.149.16.34 วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:18:40:18 น.  

 
ผมช่วยส่งต่อข้อความข้างล่างให้ครับ

เรียกสติคืนมา



ไม่ได้นิยมชมชอบ สมัคร และก็เกลียดทักษิณมากด้วย แต่ก็เป็นแค่คนที่"เคย"นิยมพันธมิตรเหมือนกัน



เสียดายว่าพันธมิตร ไม่ฟังในหลวงที่อุตส่าห์ ส่งตุลาการมาเป็นตัวช่วยของชาติ

เสียดายว่าถ้าวันนี้ พันธมิตร มีสติสักนิด เดือนหน้า จะมีคดียุบพรรค แล้วก็รู้ๆกันอยู่ว่าผลจะเป็นอย่างไร

เสียดาย ที่คนนำขบวนเป็นคนที่เห็นชัยชนะของกลุ่ม สำคัญกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ

เสียดายว่า คนที่มาชุมนุม คิดแต่จะโค่นล้ม แต่ไม่คิดสร้างสรร



การโค่นล้ม มันไม่ได้ยากหรอก แต่การสร้างสรร ต่อจากนี้ล่ะ เคยคิดกันมั้ย ว่าหลังจากซากปรักหักพัง

ของชาติ คุณจะสร้างมันขึ้นมาใหม่อย่างไร ไม่เคย!! เพราะตอนนี้ทุกคนมีแต่อาวุธหนักและความคิดแบบก้อนหินเตรียมทุ่มใส่กัน

คุณจะสร้างตึกใมม่ยังไง ถ้าคุณเตรียมพร้อมแต่เรื่องการทุบตึกแต่ ไม่มีแบบแปลนของการสร้างตึกใหม่

คุณก็ต้องทุบและสร้างอย่างนี้ไม่มีทีสิ้นสุด



สหภาพการบินไทย สั่งหยุดงานประท้วง ทั้งที่ตัวเองขาดทุนร่วมหมื่นล้านบาท ถ้าหัวหน้าสหภาพหัวรุนแรง สั่งพนักงานลาหยุด ลูกค้าไม่พอใจ boycott คุณ วันหน้าคุณจะขาดทุนยิ่งกว่านี้ แล้วมันจะเหลืองานอะไรให้คุณทำอีก คุณควรจะทำตามหน้าที่หรือไม่?



ถ้าพันธมิตรไม่ฟังคำสั่งศาล โดยการอ้างอารยะขัดขืน คุณคิดว่าถ้ามีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนทักษิณจะไม่อ้างคำๆเดียวกันนี้หรือ แล้ววันนั้น คุณก็จะมีการชุมนุมไม่รู้จักจบสิ้นแล้วถ้าคุณเห็นการชุมนุมอย่างรุนแรงอย่างนี้ อังกฤษก็มีสิทธิ์ที่จะให้คำร้องขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองกับทักษิณได้ เพราะความไม่ปลอดภัยจริงไหม?



ถ้าไม่ฟังคำสั่งศาล คุณจะขอให้ศาลฟังคำขอร้องของคุณ ให้พาคนมาลงโทษได้อย่างไร?เพราะในความเป็นจริงคุณจะฟังและยอมรับแต่คำสั่งที่เอื้อประโยชน์ต่อคุณเท่านั้นไมได้



มหาตมะ คานธี ใช้เวลาเป็น 10 ปีกับคำว่าอารยะขัดขืน ภายใต้กฏหมาย กว่าจะปลดปล่อยอินเดียสำเร็จ

เนลสัน แมนเดลลา ติดคุกกี่ปีกัน กว่าจะมีวันนี้ วันที่เป็นรัฐบุรุษ

อ.ไชยยันต์ ไชยพร อ้างคำว่าอารยะขัดขืนฉีกบัตรเลือกตั้ง แต่ก็ยอมมอบตัวอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าพันธมิตรจะอ้างคำนี้ก็ควรจะอยู่ใต้กฎหมายไม่ต่างกัน



การชุมนุมเรียกร้องให้เกิดความถูกต้องเป็นเรื่องดีแต่อย่าสร้างเงื่อนไข ไม่ให้เกิดความรุนแรง นั่นคือเรื่องที่ดีที่สุดการพูดบนเวที ควรเป็นการพูดยั่วยุใช่หรือเปล่า?



ถ้าพันธมิตรเครียดเพราะบรรยากาศ ก็โปรดดรู้เถอะว่าตำรวจที่ต้องคุ้มครองท่านก็เครียดไม่ต่างกันท่านต้องจากบ้านมาชุมนุม ตำรวจทั้งหลายก็ต้องลาครอบครัวเขามาเพื่อควบคุมสถานการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกันและแน่นอนเชื่อว่าทุกคนทั้ง 2 ฝ่ายไม่ต้องการความรุนแรง เพื่อจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวและอยู่อย่างปรกติสุข



ผู้นำชุมนุมก็เช่นกัน อย่างที่รู้หนึ่งในนั้นเป็นทหารเก่าทหารมีคำพูดประกาศิตว่า "ไม่มีสิ่งใดแทนที่ชัยชนะได้"แต่นั่นคือกับศัตรู วันนี้ประเทศจะแพ้ พันธมิตรก็ไม่ชนะ

คนหัวเราะกับชัยชนะบนความล้มเหลวของไทยอยู่ห่างจากประเทศไทยไปหลายหมื่นกิโลเมตร โน่น ณ ลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้วกับเพื่อนๆพี่น้องร่วมแผ่นดินล่ะ ชัยชนะคือความสามัคคีของคนในชาติหรือเปล่า ลองตอบตัวเองดู?



ประเทศไทยตอนนี้ แบ่งออกเป็น 3 ก๊ก

พวกเอาทักษิณ

พวกไม่เอาทักษิณ

พวกไม่เอาใครเลย



ถ้าพันธมิตรประกาศชัยชนะ ก็คือการผลักอีก 2 กลุ่มที่เหลือเป็นฝ่ายแพ้ยังไงซะประเทศก็เป็นของคนทั้ง 3 กลุ่ม เมื่อชนะคุณต้องชนะด้วยกัน

คุณจะบอกว่าเราชนะ แล้วอีก 2 คนส่ายหัว เราไม่ยอมรับวืธีเล่นของคุณ ได้เหรอ?



ผมมีข้อเสนอสำหรับพันธมิตร ในการทำให้คุณได้ชัยชนะอย่างถาวร



1.ให้กระบวนการทางศาลทำหน้าที่ของเขาไป นักการเมือง โกงกินชาติ ต้องถูกกำจัดโดยกระบวนการภายใต้กฏหมายเท่านั้น



2.ประเทศไทยปัจจุบัน ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ และ วิกฤติต่างๆ เป็นจำนวนมาก พันธมิตรในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณ ควรจะมีบทบาทในการส่งคนไปเป็นแนวร่วมในการช่วยเหลือคนหรือสังคมเหล่านี้หรือ ไม่? เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับชุมชนและถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นการสร้างพื้นฐานจริยธรรมที่ดีให้แก่ประชาชนในระยะยาว ดีกว่าหรือไม่กับการเพียงแค่มานั่งฟังปราศรัย ประเทศยังมีคนที่เดือดร้อนและ ต้องการความรู้อีกเยอะ อย่างน้อยก็มากกว่าผู้ชุมนุม นาทีนี้หลายเท่า เราต้องการให้ท่านไปถ่ายทอดให้คนรู้ ไปช่วยเหลือฝู้อื่นด้วย



3.ยกเลิกกำลัง และนักรบต่างๆ การต่อสู้อย่างอหิงสา ไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง



4.อย่าใช้โวหาร หรือ ช่องว่างทางนิติศาสตร์ เพราะคนดีจริงไม่เคยอ้างกฎหมายเป็นเครื่องมือ แต่ใช้จริยธรรมและความรับผิดชอบเป็นเข็มทิศ อย่าลืมว่าหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การปกครองของมนุษย์ชาติ คือการใช้วิธี long march ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสามก๊กเองอาจเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม แต่อย่าลืมว่ากลยุทธสุดท้ายที่ดีที่สุดของเรื่องก็คือ การไม่พยายามเอาชนะขงเบ้ง ของสุมาอี้ถ้าวันนี้คุณชนะโดยใช้กฎหมู่ วันข้างหน้าประเทศไทยก็จะมีกฎหมู่ขึ้นมาใหม่ ท้าทายอำนาจรัฐไม่มีที่สิ้นสุด



ผลลัพธ์ที่ได้มาอย่างถูกต้อง ถ้าเป็นวิธีที่ผิด ก็ไม่สามารถนับเป็นการกระทำที่น่าชื่นชม หรือ ภาคภูมิใจได้เพราะมันไม่ยั่งยืน เหมือนกับ คุณทำเลขวิธีคิดผิดแต่กลับคำนวณถูก วันหน้าเปลี่ยนตัวเลข เปลี่ยนโจทย์มันก็จะผิด



สุดท้ายขอให้ทุกคน มี 3 สิ่ง

1.สติ

2.เหตุผล

3.ความดี



และสังคมจะสงบสุขแน่นอน







ปล.ถ้าจะรบกวนส่งต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเตือนสติสังคมไทยสักนิดจะขอบคุณมาก


โดย: รากหญ้าที่เริ่มตื่น IP: 203.149.16.35 วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:18:46:44 น.  

 
ขอขอบพระคุณสำหรับบทความที่ให้แง่คิดดีๆ ค่ะ


โดย: Franc วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:22:31:39 น.  

 
ถึงวันนี้แล้ว ผมอยากให้ สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ของ ประเทศไทย ไปจนครบวาระ ถ้า สมัคร สุนทรเวช ไม่อึดอัด จนตาย คาเก้าอี้ ไปซะก่อน สังคมไทย ขาดประสพการณ์ การเรียนรู้อย่าง " หลาบจำ " ถามทางฝ่าย พลังประชาชน สิบทั้งสิบคน เขาต่างพร้อมเพียงกันตอบว่า นักการเมือง มันก็โกงกันทั้งนั้น ฝ่ายพันธมิตรประชาชน ก็รู้ว่ามีการคอรับชั่น ไม่ว่าจะเป็นความคิด ที่ถูกล้างสมอง จากนักพูดบนเวที หรือ เงินจากใต้ถุนเวที และที่บนเวทีด้วย แต่จะอย่างไรก็ตาม ประสงค์จะให้ พันธมิตรประชาชน ต่อต้านระบอบทักษิณ ไปเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน สงครามกลางเมือง คงยังไม่เกิดในเร็ววันนี้ แน่นอน แต่จะเกิดแน่ๆ ในอนาคตอีกไม่นานนี้ ใคร ? ที่มีสตังค์เยอะ เขาจะใช้สตังค์หว่านระดม คนไทยที่ถูกกดขี่รีดไถ จากข้าราชการที่ขี้ฉ้อมานาน ก็ไม่รู้ว่า นักวิชาการเสื้อขาว กลัวอะไรกัน หนักหนา กับความ รุนแรง เท่าที่เห็นด้วยลูกตาตัวเอง เด็กช่างกลที่ตีกันบ่อยๆ น่ากลัวกว่าเยอะ อ้อ การเพิกเฉย ของ ข้าราชการตำรวจ ที่ปล่อยให้ผู้คน ทั้งสองฝ่าย ไล่ตีกัน แล้วยืนดู ก็ส่อให้เห็น อย่างชัดเจนแล้วว่า รัฐไทยมีสันดาน ความเป็นมา อย่างไร ปล่อยให้ สงครามกลางเมือง มันเกิดขึ้นเถอะ ทำใจใว้ได้เลย ไม่เห็น ความน่ากลัว แต่อย่างไรเลย


โดย: phusuphap@thaimail.com IP: 124.121.136.32 วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:10:09:24 น.  

 
ถึง ไอ้ลูกคนกลาง
อยากตกกระโหลกม฿งจริงๆหัวมิงกลวงจริงๆ มิงนี่ไม่รู้เรื่องเลยว่าการที่จะเกิดรายได้จริงๆมาจากการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งนั่นประชาธิปัตยืมันไม่ได้ได้ทำ มันปล่อยให้ประเทศเศรฐกิจโตไปเองของมันซึ่งมันไม่ได้ควบคุมอะไรเลย จึงเกิดเหตุการณื ต้มยำกุ้ง สิ่งที่ทักษิณทำน่ะสมควรแล้ว แต่ต้องรอบคอบกว่านี้ต้องหาเกณฑ์บังคับการปล่อยสินเชื่อ แก่ชาวบ้านซึ่งเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก ตรงนี้สำคัญ ไม่เช่นนั้นจะเป้นหนี้เสีย แต่ถ้าชาวบ้านที่ได้เงินทุนไปประกอบอาชีพแล้วนำเงินไปลงทุนจริงๆ จะเห็นได้จาก สินค้าโอท็อป รวมถึงตั้ง กรมส่งเสริมการส่งออก มิงคิดว่าไง เอาเงินมาให้ทำสินค้าหา คอนเซาท์ให้ หาตลาดให้ มันต่างกับที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ไม่เคยทำตรงนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นเจ้าของกิจการส่งสริมให้เป็นลุกจ้าง เป็นพนักงานบริษัท มิงคิดเอาเองละกันพนักงาน ป.ตรี ตอนนี้ได้เงินเดือนเท่าไหร่ ต่างกับคนจบ ป.4แต่มาขายข้าวแกงมั้ย นั่นละเป็นคำตอบของความต่างระหว่างกระเข้าถึงแหล่งเงินทุน แต่ฝ่ายค้านเอาตรงนี้มาเป้นประเด็นสังคม แล้วให้นักวิชาการสายตัวเอง รวมถึงสื่อทีวี และสื่อสิ่งพิมพ์ ออกข่าวทุกวันไซโคประชาชนทุกวัน มิงคิดดูดิ ถ้ามิงตามพรรค นี้มาตั้งแต่ปี 40 นะมิงจะรุ้เลยว่าพรรคนี้มันทำอะไรไว้มั่งแล้วแต่ละคนมันคนในพรรคนี้มันสืบเชื้อสายมาจากขุนนางทั้งนั้น มิงเห็นภาพมั้ยว่าไปยังไงต่อ มันปกครองประเทศนี้มา60ปี แต่มาวันหนึ่งมีใครไม่รุ้ขึ้นมาแทนแล้วมีแนวโน้มว่าจะอยู่นานด้วย เอาไงดีละ เลือกตั้งก้อแพ้ หาประตูไหนล่ะมาสู้ ก็งัดเอาวิชาที่ตัวเองถนัด ปล่อยข่าว ซะ ใช้คนของตัวเองซะ ใช้สื่อของตัวเองซะ 1.คอรัปชั่น 2.ไม่จงรักถักดี 3.โกงภาษีหุ้น (โอยแมร่งเอ้ยในตลาดหลักทรัพย์การขายหุ้นเค้าไม่เก็บภาษีกัน เค้าไปเก็บจากเงินปันผลเว้ย กฏมันมีมาเป็นสิบๆปีแล้วไอ้ แก้วสรรค์มันหลอกคนทั้งประเทศมิงยังไม่รุ้ตัวกันอีก ถ้ามิงไม่รุ้ไม่ทันเกมพวกมันนะมิงโดนมันต้มตลอด )ถ้ามิงตามการเมืองแค่1-2ปีที่ผ่านมานะมิงไม่ทันประชาธิปัตย์หรอก มิงดุนะ มิงคิดว่าใครสั่งแม่ทัพได้ สนธิมันสั่งไม่ได้ใครสั่ง มือที่มองไม่เห็นไง แล้วใครเล่นสื่อวิทยุ+สิ่งพิมพื คือ สนธิ แล้วใครเล่นการเมือง ประชาธิปัตย์ แล้วใครเล่นโทรทัศน์ คือ เนชั่น และในเครือพวกของไอ้หยุ่นไอ้หย่อง อ่อกรุลืมบอกใครลิ้งกับสนธิ คือไอ้ประสงค์ สุ่นศิริ+พัลลภ ที่นี้มิงเห็นตัวละครทั้งหมดยัง พอ คมช เข้ามาแล้วมันมีอาไรต่อรู้มั้ย มันตั้ง คตส+สตง+ปปช ทั้ง3 องค์กรนี้ไม่ได้รับการลงพระประรามาภิไท จากในหลวง หมายความว่าไงหมายความว่าองกรค์เถือน แล้วไงต่อ มาถึง สนช. คือใคร คือไอ้พวกประสงค์ไง เป็นไงมิงเห็นมั้ยมันทำเป้นขบวนการรึยัง ยังไม่พอมันปล่อยข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ของพวกมันอีก ว่าจะปลด ผอ.ช่วง9 นายวสัตน์ หลังจากเสนอข่าวเป็นกลางเจาะลึงลงไปไม่เสนอข่าวเหมือนสื่อของพวกมัน พอและไม่พูดและถ้ามิงจะไปว่าคนอื่นมิงต้องไปเช็กสมองและองค์ความรู้มิงอีกเยอะๆเลยไม่งั้นมิงจะต้องเป็น ทาสแล้วให้มันเป้นชนชั้นปกครองไปอีกนานแสนนาน เออ แล้ว 30-70 มิงไม่รุ้สึกอาไรมั่งเรอะว่ามันคืออาไร


โดย: มือที่มองเห็น IP: 124.120.162.53 วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:15:09:57 น.  

 
ไม่มีใครลุกขึ้นมาไล่ระบอบทักษิณ(ผเด็จการที่เอาประชาธิปไตยบังหน้า)
แล้วใครจะไล่มันออกไป


โดย: ผมก็ช่วยไล่มันออกไปแบบเงียบๆ IP: 58.8.116.216 วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:13:26:08 น.  

 
ไปเอาหูจิ่นเทาหรือจอร์จ ดับเบิลยูบุช มาเป็นนายกเมืองไทย ท่านว่าไปรอดไม๊


โดย: นิ้วที่มองไม่เห็น IP: 125.24.190.234 วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:16:55:04 น.  

 
เมื่อคืนนอนฝันไปว่า
เราได้นายกฯคนใหม่ที่มาจากผู้แทนตามรัฐธรรมนูญ มีบุคคลิกรักประชาชน(ทุกฝ่าย) ไม่มีภาพเป็นนอมินีของใคร มีวิสัยทัศน์เป็นนักการเมืองแท้มากกว่านักเลือกตั้ง ยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉิน ถอนกำลังกลับที่ตั้ง ประกาศคืนอำนาจใหม่ให้ประชาชน ให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 6 เดือน
ฟากพันธมิตรฯประกาศยกเลิกการชุมนุม 5 แกนนำมอบตัวสู่กระบวนการตามกฎหมาย แปรกำลังจัดตั้งเป็นกำลังภาคประชาชน ตรวจสอบการเลือกตั้งให้สุจริต จัดตั้งองค์กรภาคประชาชน ติดตามตรวจสอบการบริหารราชการของรัฐบาลชุดต่อไป เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร(ที่เที่ยงตรง)ให้ประชาชนตัดสินผลงานของรัฐบาล ขจัดนักการเมืองที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมอย่าให้ได้รับเลือกตั้งเข้ามาอีก
สื่อมวลชนเลิกเสนอข่าวเพื่มเรตติ้ง ข่าวคือข่าวไม่ใส่สีตีไข่ ไม่เลือกมุมกล้องเพื่อสร้างกระแส เจาะข่าวด้านลึกค้นหาหลักฐานการทุจริตมาแจ้งประชาชนแทนการนั่งเทียน สวมวิญญานสื่อสารมวลชนจริงๆดังกรณีวอชิงตันโพสต์ที่เปิดโปงคดีวอเตอร์เกตจน ประธานาธิบดีนิกสันต้องหลุดจากตำแหน่ง


โดย: นิ้วที่มองไม่เห็น IP: 124.120.89.85 วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:10:25:06 น.  

 
คุณรากหญ้าพูดได้ดีครับ
ทำไม่ทุกวันนี้คนกลัว พธม. กันไปหมดไม่มีคนกล้าแตะเพราะกลัวถูกด่า/ไม่ได้คะแนนจากชนชั้นกลาง แล้วไอ้ระบบ 70:30 นี้ถ้ามันมีคนอย่างทักษิณพยายามหาไอ้คน 70 เข้ามาบริหารประเทศมันก็อีหลอบเดิม โกงกันเหมือนดิม อย่านึกว่าระบบฝรั่งที่คิดว่ามันทำสำเร็จจะดี ดูอย่างบริษัทระดับโลกมีระบบจัดการชั้นเยียมเป็นต้นแบบให้องค์กรอื่นทำตามยังล้มละลายกันเป็นทิวแถว จะตามมากันอีกเยอะ ผมว่าทักษิณได้เงินไปนี้ก็เงินของสิงคโปร์ไม่ใช่หรือครับ คนที่น่าจะเดือดร้อนที่สุดนีน่าจะเป็นสิงคโปร์นะครับกลับเป็นคนไทยไปได้
จุดแห่งความแตกแยกที่รุ่นแรง อีกจุดหนึ่งก็คือสื่อครับ วิวัฒนาการของสื่อทุกวันนี้มันล้ำหน้าไปเยอะสามารถถ่ายทอดปลุกระดมกันได้ทั้งคืนทั้งวัน เสนอในมุมที่ขายได้ยิ่งเป็นเจ้าของสื่อยิ่งมันเสนอมันเฉพาะด้านเดียวผมไม่แปลกใจเลยทำไม่สนธิ/จำลอง ถึงได้มีอิทธิพล พธม.ทุกคนพร้อมจะเชื่อทุกเรื่องบ้างเรื่องถ้ามีเวลาคิดวิเคราะห์ก็จะเห็นจุดที่น่าสงสัย ( คนที่จมกับขัอมูลด้านเดียวมากว่า 100 วันไม่เชื่อก็ไมรู้จะว่ายังไง ) ถ้าเป็นสมัยก่อนที่เสพข่าวได้เฉพาะบางช่วงบางตอนมันคงไม่รุ่นแรงถึงขนาดนี้ (มันมีเวลาคิดวิเคราะห์ตอนเค้าพักเสนอละครแทนก่อน)
ตอนนี้ พธม.ก็มีปัญหากับสื่อเองเพราะสื่อไม่มีเรื่องอะไรเล่นแล้วหันมาเจาะทาง พธม. โดนมากๆก็ออกอาการให้มาถามบนเวทีเอ้อใครจะกล้า คนที่เค้าปลุกระดมมา 100 วันฟังทั้งนั้นไม่โดนก็ไม่รู้จะว่ายังไง ต้องยอมรับว่าเงินเยอะจริงๆพวก พธม.เนี่ย เงินบริจาคก็มีละครับแต่ที่สนับสนุนกันลับๆนี้มันปิดตัวอยู่ได้นานเหมือนกัน(หรือมีคนรู้แล้วแต่ผมยังไม่รู้อะครับ) ผมว่าเวลาเท่านั้นจะช่วยได้ปล่อยมันไปอย่งนี้และเดียว พธม.ก็ต้องหาอะไรที่รุ่นแรงขึ้นมาเล่นไม่งันเงินสนับสนุนคงไม่มาหวังว่ารัฐบาลใหม่จะไม่ไปสนใจหันมาเอาเวลาบรหารประเทศ กู้เศรษฐกิจ กู้ความเชื่อมั่นกลับมา กล่อมนักท่องเที่ยวเข้ามา เดียวมันก็หมดความชอบธรรมไปเรื่อยๆแหละครับ


โดย: เบื่อม็อบทุกม็อบ IP: 58.64.94.204 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:22:31:44 น.  

 
พรรคการเมืองทุกพรรคเป็นนอมินีให้กับผู้ลงทุน/ผู้บริจาค ทั้งนั้น จะไม่ให้นักการเมืองโกงต้องเพิ่มเงินเดือนให้เยอะๆครับ เพราะค่าใช่จ่ายมานเยอะคนธรรมดา มีแต่จริยธรรม มีความสื่อสัตย์อย่างเดียวเข้ามาเป็นอยากครับ เงินหมดก็กินตามน้ำต่อ เงินเดือนอย่างเดียวไม่พอหรอกครับมันเลต้องมีกลุ่มก๊วนค่อยรับเงินดือนพิเศษแล้วคอยเป็นเสียงสนับสนุนเมื่อต้องการต่อรอง เงินครับเรื่องของเงินทั้งนั้น หากมีการปรับเงินเดือนสูงๆให้อยู่ไดสบายๆ พวกมีจริยธรรม ความสื่อสัตย์สูงก็จะอยู่ได้โดยไม่ต้องโกงกินหรือเข้ากลุ่มก๊วนรับเงินเดือนเพิ่ม เห็นด้วยกันไหมครับ


โดย: เบื่อม็อบทุกม็อบ IP: 58.64.94.204 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:22:40:06 น.  

 
เมื่อใหร่ ไอ้หัวโจกพันธมิตรมันจะตายๆ ซะทีฟะ .. ตูจะได้ทำมาหากินได้อย่างปกติสุขสักที....เวรจิงๆ


โดย: a (myteerawat ) วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:12:24:34 น.  

 
Hello to every body, it's my first go to see of this website; this blog carries amazing and genuinely good information designed for readers.
Cheap Louis Vuitton sunglasses //www.trufill.co.uk/


โดย: Cheap Louis Vuitton sunglasses IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:6:36:10 น.  

 
I'm extremely impressed with your writing skills and also with the layout on your weblog. Is this a paid theme or did you modify it yourself? Anyway keep up the nice quality writing, it is rare to see a great blog like this one these days..
cheap snapback hats for sale //www.chrystalhorses.net/index2.html


โดย: cheap snapback hats for sale IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 สิงหาคม 2557 เวลา:11:48:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.