พระสงฆ์และชาวพม่า: โอกาสชนะหรือการนองเลือด??? แม้ว่าผมจะเอาใจช่วยชาวพม่าและพระสงฆ์พม่าเต็มที่ แต่ต้องบอกว่า....ยากครับ ภาพทางการเมืองของไทยกับพม่าในช่วงรัฐบาลภายใต้ร่มเงาเผด็จการทหารมีความคล้ายคลึงกันค่อนข้างมาก พม่ายังอยู่ในเงามืดของรัฐบาลทหารสุดชั้วในขณะที่เรารอดพ้นเป็นตัวเป็นตนมาจนถึงทุกวันนี้ (ย้ำว่ารอดแล้ว ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน คนละประเด็น กรุณาอย่าวกเข้า) เพราะประเทศไทยมีสถาบันหลักซึ่งเป็นสถาบันกลางที่จะประสานทุกฝ่ายเข้าหากัน นั้นคือสถาบันพระมหากษัตริย์.....แต่พม่าไม่มี เหตุการณ์ 8888 นั้นมันกำลังจะฉายซ้ำอีกครั้ง ถ้าประชาชนชาวพม่าสู้ไม่สำเร็จ ตัวแปรสำคัญตอนนี้น่าจะเป็นพระสงฆ์ซึ่งเป็นสถาบันที่ชาวพม่าให้การเคารพบูชาและมีบทบาทนำแทนนิสิตนักศึกษาในยุคก่อน ถ้า ทั้งสถาบันสงฆ์และประชาชนประสานกำลังให้เข็มแข็งได้อย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็ต้องบอกว่า...."พอมีหวัง" แต่ที่ต้องหวังมากกว่านั้นคือแรงกดดันจากภายนอก....ไม่ใช่อาเซียน อาเซียนไม่มีน้ำยาพอที่จะกดดันพม่า เพราะนโยบายไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในชองชาติสมาชิคค้ำคออยู่ (แค่ออกมาประนามแบบนี้ผมก็ดีใจตายแล้ว)....UN หรือ EU หรือ US เหรอ พม่าไม่ฟังหรอกครับ เพราะองค์กรเหล่านี้ไม่มีอิทธิพลใด ๆ เลยต่อรัฐบาลทหารพม่า ก็การที่พม่าหักหน้านักการฑูตทั่วโลกด้วยการปราบปรามประชาชนนี่แหละเป็นเครื่องยืนยัน พูดก็พูดไป องค์กรเหล่านี้ต่างหากที่เลือกจะทำลายอิทธิพลของตนเองในพม่าลง จีนเท่านั้นครับ จีนจะเป็นกลจักรสำคัญให้พระและประชาชนชาวพม่าชนะ.....ถ้าเพียงแต่จีนจะใช้มาตราการแข็งกร้าวต่อพม่า แต่ก็ยาก เพราะนอกจากนโยบายที่จีนประกาศว่าเรื่องภายในไม่ยุ่ง ขอมุ่งขายของ (อาวุธ) อย่างเดียว พม่ายังมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์กับจีนอย่างมาก บางทีจะมากเกินกว่าที่จะมาหยุดรัฐบาลทหารให้ฆ่าประชาชนด้วยซ้ำ UN, EU, US, ASEAN ไม่ต้องเสียเวลากดดันพม่าให้ลำบากครับ พูดให้ตายเขาก็ไม่ฟัง พวกคุณควรกดดันจีนเพิ่มขึ้นดีกว่า ให้จีนแสดงจุดยืนอย่างแข้งขันว่าประชาคมโลกไม่อาจยอมรับการกระทำของรัฐบาททหารพม่าในครั้งนี้ได้.........ถ้าปราศจากจีน เราก็ต้องมานั่งคิดชื่อเหตุการณ์นี้ใหม่ว่าจะเรียกว่าอะไรดี..... Bloody September ดีไหม? แต่เราก็ต้องมานั่งคิดกันว่า พม่าในยุคประชาธิปไตย จะเหลือดินแดนอยู่เท่าไหร่ เพราะมอญ ไทยใหญ่ กะเหรี่ยง ย่อมเรียกร้องสิทธิในการแยกตัวเป็นเอกราชตามสนธิสัญญาปางหลวงเมื่อครั้งได้รับเอกราชจากอังกฤษอยู่แล้ว.....สนธิสัญญาที่พม่าไม่อาจจะปฏิบัติตาม และรัฐบาลทหารนี่เองที่ยึดโยงให้พม่ายังเป็นประเทศเดียวมาจนถึงทุกวันนี้....... "พม่า พระสงฆ์ ทหาร: หรือการนองเลือดจะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม " //www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=26-09-2007&group=7&gblog=5   Create Date : 29 กันยายน 2550 6 comments Last Update : 29 กันยายน 2550 17:19:21 น. Counter : 1102 Pageviews. Share Tweet

๙ ๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙๙ ๙๙๙๙๙ ๙๙๙๙๙๙ ๙๙๙๙๙๙๙ ๙๙๙๙๙๙๙๙ ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เจิมค่ะ   โดย: wa (yoja ) 29 กันยายน 2550 17:42:13 น.

โดย: kampanon 29 กันยายน 2550 21:00:32 น.

ชอบประเทศจีน แต่เกลียดการกระทำแบบนี้ เขาไม่คิดถึงสมัยก่อนที่เขาจะปิดประเทศว่าเขาเจออะไรบ้าง บาปกรรมมีจริงคอยดูสิ ...   โดย: justkitty (justkitty ) 29 กันยายน 2550 22:25:12 น.

ไม่ชอบข่าวการรบราฆ่าฟัน สะเทือนใจ   โดย: นางน่อยน้อย 30 กันยายน 2550 9:59:51 น.

เห็นแล้วก็เศร้าใจกับการประท้วง แต่ึคิดคล้าย ๆ คุณ ยากที่ประชาชนพม่าจะเรียกร้องได้สำ้เร็จ   โดย: ostojska 30 กันยายน 2550 15:21:27 น.

ผมไม่มีความรู้เรื่องทหาร แต่ได้อ่านบทความหลายๆบทความแล้วทำให้รู้อะไรขึ้นอีกเยอะเลยครับ บางบทความก้จะมีกรณีสมมุติขึ้นมาแล้ววิเคราะห์กัน ผมเลยอยากจะรู้ว่า สมมุติว่า1ในประเทศมหาอำนาจพร้อมพันธมิตร มีกรณีพิพาทกับประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นพันธมิตรกับขั้วตะวันตก)และ ต่างฝ่ายต่างก็อยู่ในสภาวะพร้อมรบ อยากผมทราบว่าจากความรู้ที่สั่งสมมา เริ่มแรกมหาอำนาจพร้อมพันธมิตรจะ ดำเนินการในรูปแบบใด (first shot) แล้วสงครามจะลุกลามแค่ไหน และเหตุการณ์สุดท้ายจะลงเอยแบบใด (ยังไม่พูดถึงกรณี อาวุธมหาปะลัย แต่ ICBM อาจจะเอาใช้ได้ก็ได้ครับ ถ้าสมควร) ปล. ผมพึ่งเป็นสมาชิก ไม่นาน เลยโพสท์กระทู้ใหม่ไม่เป็นเลยรบกวน กระทู้นี้หน่อยนะครับ   โดย: fdX3S 4 ตุลาคม 2550 15:22:57 น.