"Look deep,deep into nature,and then you will understand everything better" ...Albert Einstein
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
20 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

มหัศจรรย์สังคมเกาหลีในปักกิ่งและอิทธิพลที่มีต่อข้าพเจ้า

ขึ้นหัวข้อบล๊อกมาอย่างวิชาการ(?)
แต่อันที่จริงมันก็แค่ อารมณ์อยากเล่าปนบ่นๆๆของจขบ.เท่านั้นแหละค่ะ หะหะหะ


เนื่องด้วยว่า เมื่อวานนี้
เพื่อนๆร่วมชั้นชาวเกาหลีเขามาชวนไปสังสรรค์ด้วยกัน(อีกแล้ว)ค่ะ
ไอ้เราก็กะจะทำชิ่ง(อีกแล้ว) เหอๆๆ


ไม่ใช่ว่าเราไม่รักเพื่อนน๊าา
แต่แบบ..ไอ้พวกนี้ฉลองกันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ มันก็ถี่เกินไปสำหรับเด็กวัยเรียนไงคะ
ไม่ดี๊ ไม่ดีเนอะ โฮะๆๆ
(สาเหตุจริงๆ --- รู้มั้ยว่ามันเปลืองเงินนะเฟ้ยยย ชิ..บ้านรวยกันนักรึไงฟะ)



ทว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น จขบ.ชิ่งหนีมาก็หลายทีแล้ว
แม้คราวก่อนจะไป แต่ก็แอบชิ่งกลับก่อนกลางคัน..

คราวนี้..เพื่อนมันอ้างว่า"ฉลองสอบเสร็จ" ไปสังสรรค์กันเต๊อะ
จะปฏิเสธอีกก็....แหม..นิดนึง
แล้วหลังจากผ่านการต่อสู้ภายในจิตใจตัวเองอย่างดุเดือด สุดท้ายก็...ไปจนได้ค่ะ


อย่าเพิ่งคิดว่า แหม กะอีแค่ไปสังสรรค์แค่นี้้ อะไรนักหนา
จขบ.เรื่องมากซะจริง

เชิญลองฟังต่อก่อนเถอะค่ะ


สำหรับเด็กไทยเรา การสังสรรค์มันก็จะประมาณว่า...

อ่ะ..นัดเวลากัน หกโมง ทุ่มนึง พอดีกับอาหารมื้อเย็น
พอไปถึงร้าน(ของไทยก็ต้องหมูกะทะสินะ)

เราก้อ..กินๆๆ คุยๆๆๆ ดื่มๆๆๆ เฮๆฮาๆ พอถึงเวลาสมควรสี่ซ้าห้าทุ่มละก็แยกย้ายกลับ
สบายๆ ไม่มีอะไรมากมาย เนอะ คนไทย



แต่การสังสรรค์ในแบบ"เกาหลี" มันม่ายช่ายยังงี้ไงคะ


คือ เมื่อวานนี้ นัดกันสองทุ่ม
เพื่อนมันก็ทยอยๆโผล่มากันตอน..สองทุ่มครึ่ง
คนสุดท้ายตามมาถึงร้านตอนสี่ทุ่ม
โอ้ว...มหัศจรรย์คนเกาหลี#1


พอไปถึงร้านอาหาร(ที่มีแต่คนเกาหลียั่วเยี้ยไปหมด)
เมนู..ก็ดันภาษาเกาหลีซะอีก
(ตกลงกรุอยู่ประเทศอะไรกันแน่วะเนี่ย งง)
สาวไทย..เพียงหนึ่งเดียวก็เลยได้แต่นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อไปอย่างนั้น

ซักพัก เหล้ามาี รินเบียร์ กับแกล้มพร้อม
การสังสรรค์แบบเกาหลีๆ ก็เริ่มขึ้น..

แต่ก่อนอื่น เรามาดูวัฒนธรรมการสังสรรค์ของคนเกาหลีกันค่ะ
อันดับแรก เรื่องตำแหน่งที่นั่ง
ต้องจัดที่นั่งให้ชายหญิงบาล๊านส์กัน

แบบว่า..ไม่ใช่ทั้งโต๊ะสี่ที่นั่งมีแต่ผู้หญิงหมด ผู้ชายก็ไปรวมกลุ่มกันอยู่คนละฟาก แบ่งแยกกันไปเลย
ยังงี้คนเกาหลีไม่ยอมครับ
อย่างน้อยๆ ผู้ชายทุกคนจะต้องได้นั่งติดผู้หญิง
และถ้าจำนวนคนเพียงพอ นั่งสลับฟันปลา ช ญ ไปเลยดีที่สุด

สาเหตุน่ะเหรอคะ เพราะ ญ ต้องคอยรินเหล้ารินเบียร์ให้ ช ไง
เหอๆ มหัศจรรย์คนเกาหลี#2



อันดับต่อมา การเล่มเกมค่ะ เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ในวงสุรา
จะกี่เกม กติกาก็เหมือนกัน ถ้าคุณแพ้...เก๊าะ โดนปรับดื่ม
ทั้งนี้ตามอัตราความแรงของเหล้าและของเกมนะคะ


ยิ่งเล่น ก็ยิ่งเมา ยิ่งเมา ก็ยิ่งมันส์ อา...ใครมันช่างคิดกันนะวิธีนี้

แน่นอนค่ะ สาวไทยใสซื่อ เกิดมาแทบไม่เคยแตะแอลกอฮอล์

เกมอะไรเนี่ยก็ไม่เคยเล่น ฉะนี้แล้ว..ข้าเจ้าจะเอาที่ไหนไปชนะล่ะ(วะ)

เมื่อคืนเลย..นะ แพ้รวด แพ้ราบ ซดเรียบอยู่คนเดียว..แทบตาย




ห้าทุ่มกว่าๆ โอ้วว ในที่สุดก็ได้ออกจากร้าน เย้ๆ กลับหอๆๆนอนๆๆ
อา เตียงแสนอบอุ่น ผ้านวมหนาๆ แค่คิดก็สุขจายย กรี๊ดๆๆ


ได้แค่คิดจริงๆค่ะ...เพราะว่า..สหายเอ๋ยราตรีนี้ยังอีกยาวไกล

"ไปต่อคาราโอเกะกันเต๊อะ"



โอ๊ยยยย เกะพ่อเมิงเซ่ หนาวจะตายห่าแล้ว ง่วงก็ง่วง
กูจากลาบบบบบบบบบบ แงๆๆๆๆๆๆ
อันนี้...ก็ได้แค่คิดค่ะ


สองชั่วโมงเต็มๆหลังจากนั้น รูหูและกระดูกค้อนทั่งโกลนก็สั่นสะเทือนได้ที่กับเพลงเกาหลี
พระเจ้า...ร้องกันได้ร้องกันดี ไม่มีเจ็บคอเลยรึไงวะ
(มารู้เอาตอนนั้นเองว่า ที่เกาหลี คนเค้าเริ่มเข้าห้องเกะกันตั้งแต่อยู่ประถม....มิน่า)







โอเค..ราวตีหนึ่งกว่าๆ พวกมันก็อิ่มอกอิ่มใจกับการซัลโวเพลงชุด
ยอมวางไมค์แล้วเดินออกจากร้านจนได้...เฮ้อ ในที่สุด ก็จะได้กลับซะที

แต่..
เอ๊ะ
เอ๊ะ
เอ๊ะ

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


มันเลี้ยวค่ะคุณผู้ชม
เดินเลี้ยวออกจากร้านเกะแล้วก็เลี้ยววนเข้าไปในผับข้างๆกันซะงั้น


โอ๊ยยยยยย พ่อจ๋าแม่จ๋า..ช่วยหนูด้วย




สาวโสมหนึ่งในนั้นหันมามองละคงเห็นว่าจขบ.ทำหน้าอึ้งกิมกี่ชนิดบอกบุญไม่รับเอามากๆ
เลยสนองตอบปัญหาคาใจมาให้
ชีบอกว่า "อ๋อ...เนี่ย..เรื่องปกติ ที่เกาหลีก็ทำกันยังงี้แหละ
อย่างน้อยๆ ในคืนนึงต้องเปลี่ยนที่เที่ยวสามที่ เป็นแพทเทอร์น
เหล้า เกะ แดนซ์ไง"



เยี่ยม...มหัศจรรย์คนเกาหลี#3





คืนนั้น กลับถึงหอในสภาพสโลสเลตอนตีสามนิดๆ
ก่อนแยกย้าย ชีคนเดิมก็มาพูดด้วยความหวังดี คงกะจะเสริมให้อีกเป็นเกร็ดความรู้
"...แหม...ปกติเราจะโต้รุ่งกันไปเลยนะเนี่ย"


!!!!!!!!!!!











จบละดีกว่า
ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อย
นี่คราวหน้าถ้าถูกชวนจะหาข้ออ้างปฏิเสธยังไงดีละเนี๊ยยย
ใครมีคำแนะนำบอกทีค่าาา




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2550
16 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2550 17:48:01 น.
Counter : 463 Pageviews.

 

ตอบไปคำเดียว โลดดด -> ม่ายมีตางงงก์.....

 

โดย: I^^ 20 ตุลาคม 2550 17:58:35 น.  

 

แชมป์ว่าชวนเค้าไปแทน ชวนจนพวกเค้าเลิกคิดจะชวนไป แบบว่าอีกแล้วหรอวะไอ่นี่ -*-

 

โดย: สุดหล่อ IP: 124.121.101.179 20 ตุลาคม 2550 22:30:02 น.  

 

เหตุผล
"ป่วยกะทันหัน กระเป๋าตังค์หาย แม่โทรเรียกให้กลับไทยด่วน"

โว๊ โฮะๆ ปล่อยให้มันงง แล้วแกก้อชิ่งด่วน!!!!

 

โดย: *O_o* IP: 222.28.81.180 20 ตุลาคม 2550 22:33:36 น.  

 

เอ่อ..จะดีเรอะแก ถ้ามันบ้าจี้ไปทุกครั้งที่ชวนละยะ
บรรลัยกันทีเดียว

 

โดย: N'SinE 20 ตุลาคม 2550 22:38:01 น.  

 

ขอบคุณครับที่ไปเยี่ยมblogผม ผมคิดว่าพฤติกรรมของชาวเกาหลีนี้ มันน่าจะเกิดจากสภาพสังคมปกติเขาถูดกดดัน ทั้งจากวิถีการใช้ชีวิต การทำงาน และประวัติศาสตร์ของเขา ดั้งนั้นการแสดงออกเพื่อผ่อนคลายเลยเติมที่กับชีวิตไปเลย

ยังไงๆผมก็ขอขอบคุณประสบการณ์ที่มาถ่ายทอดให้นะครับ ดีมากทีเดียวทั้งเนื้อหา แง่คิด และวิธีการเล่าเรื่อง เป็นกันเองดีครับ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ
เออพอดีเพื่อนผมเคยไปทำงานกับคนเกาหลี และได้ฟังกิติศัพท์มาพอสมควร อาจเป็นการเหมารวมไปนะอย่าคิดมาก(เพราะขอภาวนาให้เป็นบางคน เท่าที่เห็นก็พอ) แต่คนเกาหลีไม่ไหวจริงๆ เคยมีคนบอกเจองูกับเกาหลี ตีอะไรก่อน ซัดโสมก่อนเลย จริงอยู่เขาเป็นคนกระตือรือร้นในการพัฒนาประเทศ แต่ประสบการณ์ที่คนไทยโดนคือการถูกเอาเปรียบครับ เพื่อผมคนนี้เลยเลิกทำงานรับใช้เกาหลี มารับใช้แรงงานไทยและคนไทยที่ทำงานกับเกาหลีที่ถูกกดขี่โดยเฉพาะแรงงานไทยในเกาหลี ตามอุดมการณ์และประสมการณ์ของเธอ อนิจาโอกาสที่เธอจะได้สานอุดมการณ์นี้ช่างเป็นไปได้ยากแล้ว (ขอโทษที่เอาเรื่องส่วนตัวมาพูด)
ผมเชื่อว่าทุกสังคมมีทั้งคนดีคนไม่ดีครับ

เอาใจช่วยครับ ปรากฏการณ์ที่คุณเจออธิบายทางสังคมวิทยาได้ว่าความช็อคทางวัฒนธรรม(Culture Shock) ซึ่งเขาอธิบายว่า เป็นภาวะทางจิตใจที่มีอารมณ์รู้สึกวิตกกังวลไม่สบายใจ เมื่อต้องไปอยู่ในสถานที่ ๆ ที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม จากแต่เดิมที่เคยอยู่มา แบ่งเป็น 4 ระยะ

ระยะที่หนึ่งเขาเรียกว่า Honeymoon phase: หรือระยะตื่นตะลึง คือระยะที่มักอุทาน โอ้ จ้าวจ๊อตตตต อะไรก็ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจไปหมด

ระยะที่สอง Negotiation phase:คือ ระยะกูละเบื่อ กูอยากกลับ" (negotiation ที่แปลว่าเจรจาต่อรองนั่นแหละครับ) เขาอธิบายว่าใน ในระยะนี้จะมีอาการแสดงอย่างเห็นได้ชัดคือ ไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมใหม่ ๆ มักจะเอาไปเปรียบเทียบกับของเดิม มอง negative คือลบๆ ในเกือบ ๆ ทุกเรื่อง คุณอาจกำลังอยู่ในระยะนี้ คาบเกี่ยวกับระยะแรกปล่าว ไม่รู้นะ ผมเดามั่วอย่าเชื่อผมเลย

3. Everything is OK phase: ถ้าแปลตรงๆตัว เขาว่าเป็น ระยะฉันเลยโอเค ตลกดีแฮะ เป็นระยะที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมใหม่ได้แล้ว ไม่มองอะไรตื่นตาตืนใจ (+) หรือหดหู่ คิดถึงบ้าน (-) เป็นระยะที่อยู่นานที่สุด ทุกๆ อย่างดูโอเคไปหมดระยะเวลานี่ก็แล้วแต่เวลาที่อยู่นะครับ

4. Reverse culture shock: เขาว่าเป็นระยะไม่อยากกลับบ้าน ระยะสุดท้ายเกิดเมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนจากวัฒนธรรมอันใหม่ที่คุ้นชินมานาน จนรู้สึกว่ามันไม่ใช่วัฒนธรรมใหม่สำหรับเราอีกต่อไป


ยังไงก็รู้เขารู้เรานะครับ จะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ใช่เราต้องปรับ อธิบายให้เขาเข้าใจ ถ้าหากเขาใจแคบ(เท่าที่เคยฟังโสมมักเป็นเช่นนั้น(อย่าเชื่อนะให้คิดเอง)) ก็ลำบากหน่อยนะครับ เพราะหากคุณต้องอยุ่กับเขาคุณอาจต้องไหลไประยะที่ 3 ก็ได้ ที่พิมพ์มามันเป็นการเล่นสนุกๆนะครับอย่าคิดมาก รักษาสุขภาพด้วยนะครับ เห็นบอกว่าหนาว


 

โดย: Darksingha 21 ตุลาคม 2550 12:15:13 น.  

 

I agree with Khun. Darksingha ka. Now I'm in your number 3. 5555
Anyway, I experienced alot about Korean drinking norm. I dunno did they ask you to drink Bomb-shot or not, it's too terrible for me...hohoho!!!

 

โดย: Princess in the Blue 21 ตุลาคม 2550 12:47:29 น.  

 

 

โดย: My life in Japan. 22 ตุลาคม 2550 11:14:38 น.  

 

น่าหนุกดีออกแก

555

แต่มันเปลืองจิงๆ อ่ะแหละ

มีวิธี แกก้อบอกไปว่า

เราอ่ะ อยากไปนะ แต่ไม่มีตัง

เลี้ยงเราได้ไหมอ่ะ แล้วเราจะรีบไป

5555


วิธีอะไร .... วิธีประหยัดตังค์ตัวเองไง

55555555555


ดูแลตัวเองดี ๆ นะแก

 

โดย: HarameE IP: 124.121.97.117 22 ตุลาคม 2550 19:55:40 น.  

 

ตอบคุณ Darksingha ค่ะ

แหม...ถ้าลักษณะอาการมันวนเวียนสลับกันระหว่างสองกับสามล่ะคะ

คือ...ไม่ทุกข์...ก็เรียบเฉย...ไม่เรียบเฉย..เก๊าะทุกข์..
แบบเนี้ย...ความสุขกายไปจากวงจรค่ะ

 

โดย: N'SinE 22 ตุลาคม 2550 21:05:08 น.  

 

อาหารเกาหลีสีแดง
แต่ไม่เผ็ด จบ

 

โดย: ชัช (กู่ฉิน ) 22 ตุลาคม 2550 21:37:24 น.  

 

รู้จักอุกเงียวของท่านให้มากขึ้น กับ บทสัมภาษณ์สด อุกเงียว ใน UDclick ชุมชนออนไลน์ ชาวอุดรธานี

ตอนโอลิมปิก ผมจะเปิดโทรทัศน์ดูนะครับ เผื่อเห็น

 

โดย: อุกเงียว 25 ตุลาคม 2550 15:16:03 น.  

 

ถ้าตอบแบบสมนโคดมก็คง บอกว่า ความสงบคือความสุขที่แท้จริง แล้วก็ยิ้ม

เราว่าเราต้องนิยามคำว่าทุกข์ สุข และเรียบเฉย กันให้ชัดเจน ว่าจริงๆมันคืออะไรกันแน่ คือก่อนจะแก้ปัญหาเราควรรู้ปัญหาและเหตุของมันให้ชัดก่อนละมัง

ที่คุณบอก ไม่ทุกข์...ก็เรียบเฉย...ไม่เรียบเฉย..เก๊าะทุกข์

สมการข้างต้น ระหว่าง ก็เรียบเฉยกับทุกข์ คุณว่าอันไหนสุขกว่าอันไหนทุกข์กว่า ครับ

 

โดย: Darksingha 26 ตุลาคม 2550 17:04:12 น.  

 

งืม..คือมันไม่สุข..ทั้งคู่น่ะค่ะ
แค่ช่วงนึง มีทุกข์ กับอีกช่วงนึงไม่มีทุกข์
เท่านั้น
อันไหนสุขกว่า?..ถ้าจะตอบ..ก็คงตอบว่า
ช่วงเรียบเฉย..ทุกข์น้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้สุขอยู่ดี

 

โดย: N'sinE IP: 210.75.123.194 27 ตุลาคม 2550 21:20:50 น.  

 

 

โดย: Darksingha 30 ตุลาคม 2550 16:30:33 น.  

 

อยากกินเนื้อย่างเกาหลีเลยอ่ะ

 

โดย: A Princess 21 พฤศจิกายน 2550 10:21:35 น.  

 

ชวนไปคาราโอเกะแล้วร้องไม่ได้นี่เหมือนชวนไปหรม.มากกว่านะครับ ฮ่าๆ ใครร้องมากคุ้ม
แบบนี้ต้องบอกว่าเลี้ยงสิ แล้วจะไป

 

โดย: แป๊กก 25 พฤศจิกายน 2550 6:49:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


N'SinE
Location :
ฺปักกิ่ง China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




---- สวัสดีชาวโลก (-/|\-) ----
document.body.style.color="black"
Friends' blogs
[Add N'SinE's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.