พฤศจิกายน 2556

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
25
26
27
28
29
30
 
น้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็น
วิธีการทำน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็น
ข้อมูลจากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี




1. เริ่มแรกก็ต้องขูดมะพร้าว ขูดอย่าให้ถึงกะลา (จะได้น้ำมันสีสวยๆ ใส) การขูดต้องขูดเบาๆ เพื่อให้ได้เนื้อที่นิ่มๆ คั้นกะทิง่าย

2. น้ำคั้นกะทิใช้น้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส (ใช้มือจุ่มดูให้ร้อนที่สุดที่จุ่มมือลงไปแช่ได้สบายๆ) คั้นน้ำเดียว

3. ได้น้ำกะทิแล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง

4. ตวงน้ำกะทิใส่ถุงพลาสติก ใช้ยางมัดปากถุงให้แน่น (อย่ามัดให้ถุงโป่งตึง มัดแบบหย่อนๆ เผื่อให้น้ำภายในถุงขยายตัวได้) นำถุงน้ำกะทิทั้งหมดใส่ในภาชนะที่ทำให้ถุงตั้งตรงได้ ไม่เอียง ไม่ล้ม วางในที่ร่มและเย็น ไม่กระทบกระเทือนประมาณ 8 ชม. จนกะทิแยกตัวเป็น 2 ชั้น สมบูรณ์

5. นำถุงกะทิที่แยกตัวเป็น 2 ชั้นสมบูรณ์แล้ว แช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา แช่ไว้ประมาณ 10-12 ชม. เพื่อให้ไขชั้นบนจับตัวเป็นก้อนแข็ง

6. เอาออกมาจากตู้เย็นทั้งหมดเลย แกะปากถุงเอาไขแข็งออกมาใส่ภาชนะไว้

7. นำไขแข็งทั้งหมดวางบนผ้าขาวบาง (ซ้อนผ้าขาวบาง 2-4 ชั้น) รวบผ้าขาวบางเป็นถุง ผูก-มัดให้แน่น

8. แขวนถุงผ้าขาวบางไว้ปล่อยให้หยด แรกๆ ปล่อยให้น้ำหยดทิ้งไปสักครึ่งชั่วโมงเพราะช่วงแรกๆ ที่หยดลงมาจะเป็นน้ำเปรี้ยว ผ่านครึ่งชั่วโมงไปแล้ว ก็เปลี่ยนภาชนะรองเก็บน้ำมัน ปล่อยให้น้ำมัน(จะปนน้ำ และปนไขด้วย) หยดลงภาชนะรองประมาณ 24-36 ชม. อาจจะมีกลิ่นไม่ค่อยดีปนบ้างก็ไม่เป็นไร ชั้นบนที่เป็นน้ำมันใสๆ คือสิ่งที่เราต้องการ

9. ถ่ายน้ำมันปนน้ำ ปนไข ลงภาชนะอื่น ค่อยๆ รินพยายามให้ออกมาแต่น้ำมันใสๆ ผิวบน

10. กรองผ่านผ้าขาวบาง และค่อยๆ รินอีกครั้งหนึ่ง (ถ้าใช้ภาชนะใส ทรงสูง จะเทได้ง่ายกว่าภาชนะทรงแบนๆ)

11. ในน้ำมันที่ได้จะยังมีความชื้นปนอยู่ในเนื้อน้ำมันด้วย จากนั้นตั้งหม้อหรือกระทะ ที่มีขนาดใหญ่กว่าภาชนะที่ใส่น้ำมัน ใส่น้ำลงไปกะปริมาณว่าเมื่อวางภาชนะน้ำมันลงไปแล้ว ระดับน้ำจะพอดีแล้วตั้งไฟในลักษณะตุ๋น ต้มน้ำอุ่นให้น้ำมันร้อนถึง 60 องศาเซลเซียส รักษาอุณหภูมิของน้ำมันให้คงที่ประมาณ 2 ชม. ไม่ต้องคน ไม่ต้องเขย่า

12. ทิ้งไว้ให้เย็น การเก็บรักษาควรเก็บไว้ในภาชนะแก้ว ไม่โดนแสง ปิดฝาสนิท และเก็บในที่เย็น หรือจะเก็บไว้ในตู้เย็นยิ่งดี

Tip : สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าว
1. ช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของไขมันในร่างกายโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งและไขมันอุดตันรวมถึงโรคหัวใจ
2. ช่วย ตับ ไต ต่อมลูกหมาก ไทรอยด์ ให้ทำหน้าที่เป็นปกติ
3. ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง หัวใจ เบาหวาน
4. เพิ่มไขมันชนิดดี HDL และลดไขมันชนิดเลว HDL
5. มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
6. มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อที่ก่อโรค แต่ไม่ทำลายเชื้อที่ดีในลำไส้
7. ช่วยส่งเสริมให้เอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8. นำไปชโลมผิวพรรณให้ชุ่มชื้น
9. มีวิตามินอีสูง ช่วยป้องกันรักษาฝ้า และนำไปใช้เป็นยากันแดดได้ ฯลฯ

ที่มา : //www.kasetporpeang.com





Create Date : 24 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2556 6:13:34 น.
Counter : 2275 Pageviews.

1 comments
  
อยากทราบขเอมูล
โดย: จันทา ชูญาติ IP: 49.229.59.72 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:19:17:22 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

shinnemonman
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]