Group Blog All Blog
|
น้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็น วิธีการทำน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็น ข้อมูลจากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี 1. เริ่มแรกก็ต้องขูดมะพร้าว ขูดอย่าให้ถึงกะลา (จะได้น้ำมันสีสวยๆ ใส) การขูดต้องขูดเบาๆ เพื่อให้ได้เนื้อที่นิ่มๆ คั้นกะทิง่าย 2. น้ำคั้นกะทิใช้น้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส (ใช้มือจุ่มดูให้ร้อนที่สุดที่จุ่มมือลงไปแช่ได้สบายๆ) คั้นน้ำเดียว 3. ได้น้ำกะทิแล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง 4. ตวงน้ำกะทิใส่ถุงพลาสติก ใช้ยางมัดปากถุงให้แน่น (อย่ามัดให้ถุงโป่งตึง มัดแบบหย่อนๆ เผื่อให้น้ำภายในถุงขยายตัวได้) นำถุงน้ำกะทิทั้งหมดใส่ในภาชนะที่ทำให้ถุงตั้งตรงได้ ไม่เอียง ไม่ล้ม วางในที่ร่มและเย็น ไม่กระทบกระเทือนประมาณ 8 ชม. จนกะทิแยกตัวเป็น 2 ชั้น สมบูรณ์ 5. นำถุงกะทิที่แยกตัวเป็น 2 ชั้นสมบูรณ์แล้ว แช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา แช่ไว้ประมาณ 10-12 ชม. เพื่อให้ไขชั้นบนจับตัวเป็นก้อนแข็ง 6. เอาออกมาจากตู้เย็นทั้งหมดเลย แกะปากถุงเอาไขแข็งออกมาใส่ภาชนะไว้ 7. นำไขแข็งทั้งหมดวางบนผ้าขาวบาง (ซ้อนผ้าขาวบาง 2-4 ชั้น) รวบผ้าขาวบางเป็นถุง ผูก-มัดให้แน่น 8. แขวนถุงผ้าขาวบางไว้ปล่อยให้หยด แรกๆ ปล่อยให้น้ำหยดทิ้งไปสักครึ่งชั่วโมงเพราะช่วงแรกๆ ที่หยดลงมาจะเป็นน้ำเปรี้ยว ผ่านครึ่งชั่วโมงไปแล้ว ก็เปลี่ยนภาชนะรองเก็บน้ำมัน ปล่อยให้น้ำมัน(จะปนน้ำ และปนไขด้วย) หยดลงภาชนะรองประมาณ 24-36 ชม. อาจจะมีกลิ่นไม่ค่อยดีปนบ้างก็ไม่เป็นไร ชั้นบนที่เป็นน้ำมันใสๆ คือสิ่งที่เราต้องการ 9. ถ่ายน้ำมันปนน้ำ ปนไข ลงภาชนะอื่น ค่อยๆ รินพยายามให้ออกมาแต่น้ำมันใสๆ ผิวบน 10. กรองผ่านผ้าขาวบาง และค่อยๆ รินอีกครั้งหนึ่ง (ถ้าใช้ภาชนะใส ทรงสูง จะเทได้ง่ายกว่าภาชนะทรงแบนๆ) 11. ในน้ำมันที่ได้จะยังมีความชื้นปนอยู่ในเนื้อน้ำมันด้วย จากนั้นตั้งหม้อหรือกระทะ ที่มีขนาดใหญ่กว่าภาชนะที่ใส่น้ำมัน ใส่น้ำลงไปกะปริมาณว่าเมื่อวางภาชนะน้ำมันลงไปแล้ว ระดับน้ำจะพอดีแล้วตั้งไฟในลักษณะตุ๋น ต้มน้ำอุ่นให้น้ำมันร้อนถึง 60 องศาเซลเซียส รักษาอุณหภูมิของน้ำมันให้คงที่ประมาณ 2 ชม. ไม่ต้องคน ไม่ต้องเขย่า 12. ทิ้งไว้ให้เย็น การเก็บรักษาควรเก็บไว้ในภาชนะแก้ว ไม่โดนแสง ปิดฝาสนิท และเก็บในที่เย็น หรือจะเก็บไว้ในตู้เย็นยิ่งดี Tip : สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าว 1. ช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของไขมันในร่างกายโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งและไขมันอุดตันรวมถึงโรคหัวใจ 2. ช่วย ตับ ไต ต่อมลูกหมาก ไทรอยด์ ให้ทำหน้าที่เป็นปกติ 3. ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง หัวใจ เบาหวาน 4. เพิ่มไขมันชนิดดี HDL และลดไขมันชนิดเลว HDL 5. มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ 6. มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อที่ก่อโรค แต่ไม่ทำลายเชื้อที่ดีในลำไส้ 7. ช่วยส่งเสริมให้เอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 8. นำไปชโลมผิวพรรณให้ชุ่มชื้น 9. มีวิตามินอีสูง ช่วยป้องกันรักษาฝ้า และนำไปใช้เป็นยากันแดดได้ ฯลฯ ที่มา : //www.kasetporpeang.com อยากทราบขเอมูล
โดย: จันทา ชูญาติ IP: 49.229.59.72 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:19:17:22 น.
|
shinnemonman
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?] Link |