โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาเคี้ยวข้าวคำหนึ่งแล้วกลืนกิน พึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเป็นอันมากหนอ โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาหายใจออกแล้วหายใจเข้า หรือหายใจเข้าแล้วหายใจออก เราทั้งหลายจักไม่เป็นผู้ประมาทอยู่ จักเจริญมรณสติเพื่อความสิ้นอาสวะ
มือโคลงในงานวันนักกลอน

เมื่อวานนี้ (๑๐ ธ.ค.) ไปงานวันนักกลอน ที่จัดโดยสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ที่หอประชุมคุรุสภา

ตื่นเต้นครับ เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปร่วมงานนี้ จึงยังมึนๆ งงๆ เดินสะเปะสะเปะชนนักเขียน นักกกลอน นักกวีใหญ่หลายท่านโดยไม่รู้จัก (ฮา)

เห็นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมหนวดเคราสีเทางาม หลายคนยกมือไหว้ ผมสะกิดถามคนข้าง ๆ ว่าเขาคือใคร ได้รับคำตอบว่า "อ้าว นั่นคือคุณสถาพร ศรีสัจจัง นักกลอนดีเด่นของสมาคมนักกลอนฯ ปีนี้ ไม่รู้จักหรือ?" ไม่รู้จักนะสิแหะๆ ด้วยความเขินเลยรีบไปที่แผงหนังสือหลังห้องประชุม คว้าบทกวีเล่มหนึ่งของ "พนม นันทพฤกษ์" ซึ่งเป็นนามปากกาของคุณสถาพร พร้อมถามคนขายว่าใช่พี่คนนั้นเขียนหรือเปล่าเพื่อความมั่นใจ แล้วทำเนียนเข้าไปทักทายด้วยการขอลายเซ็นท่านซะเลย 555+

ระหว่างที่คุณสถาพร ศรีสัจจัง ขึ้นปาฐกถา ไม่ค่อยได้ฟังเพราะมัวแต่คุยกับท่าน "จอมยุทธเมรัย" และท่าน "นายทิวา" แต่ก็ยังจำได้ติดหูสองประเด็นคือ กลอนสมัยเราต้องให้เหมาะสมกับสมัยเราไม่ต้องใช้คำแขกก็กระทบใจได้ และหัวใจของกวีนิพนธ์คือทักษะ ซึ่งต้องหมั่นฝึกฝน สั่งสมประสบการณ์ ไม่มีทางลัดสำหรับนักกลอน นักกวี ...จำได้แค่นี้แหละ แหะๆ

อ้อ...ขอบคุณท่าน "xers" ที่เข้ามาทักทายพร้อมกล้องตัวเบ้อเร่อ มาดเซอร์จริงๆ ครับ ตอนแรกยังนึกว่าเป็นนักข่าว เห็นตัวจริงแล้วหล่อกว่าในรูปเยอะครับ

ในงานมีการประชันกลอนสดของนักเรียนมัธยมทั่วประเทศ โดยแต่ละภาคประลองกันคัดเลือกตัวแทนภาคละโรงเรียน มาแข่งขันใหญ่ในวันนักกลอน ๖ โรงเรียน ด้วยการแต่งสด ๘ นาที ตามหัวข้อที่กรรมการตั้งให้ โดยแต่ง ๓ รอบ คือ กลอนดอกสร้อย กลอนสักวา และกลอนสุภาพ หลังจากส่งให้กรรมการแล้ว กรรมการให้ตัวแทนแต่ละทีมมาอ่าน โรงเรียนแรกออกมาอ่านทำนองเสนาะแบบขับเสภา ไพเราะมาก ได้รับเสียงปรบมือกึกก้องห้องประชุม แต่กรรมการก็มาเบรกว่าไม่ต้องอ่านทำนองเสนาะก็ได้ เพราะไม่มีผลต่อคะแนน ทีมที่เหลือเลยอ่านธรรมดา คนดูอดฟังการอ่านทำนองเสนาะของโรงเรียนอื่นเลย - -" ทึ่งน้อง ๆ ขาสั้น-คอซอง มาก แต่งได้ดีทุกโรงเรียนเลยครับ

รางวัลชนะเลิศตกเป็นของโรงเรียนตัวแทนจากจังหวัดนครศรีธรรมราชครับ

จากนั้นก็เป็นการมอบรางวัลประชันกลอนสด รางวัลประกวดร้อยกรองออนไลน์ รางวัลนักกลอนดีเด่น และรางวัลประกวดกลอนสุภาพ "ผมจะเป็นคนดี" ใครอยากรู้รายละเอียดก็เข้าไปดูในเว็บสมาคมนักกลอนฯ ครับ

ที่ตื่นเต้นและต้องนำเรื่องนี้มาบอกเล่า ก็เนื่องจากการประกวดร้อยกรองออนไลน์ ประเภทบุคคลทั่วไป เป็นการประกวดโคลงสี่สุภาพครับ

และเป็นที่น่ายินดีที่มือโคลงจากอาศรมชาวโคลง กวาดไปสองจากสามรางวัล คือรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศอันดับ ๒ (รายละเอียดดู ประกาศผลประกวดร้อยกรองออนไลน์ )

เลยขออนุญาตก๊อปมาอวดครับ

ผลการประกวดร้อยกรองออนไลน์ พ.ศ.๒๕๕๓

รางวัลชนะเลิศ คือผลงาน ปรากฏการณ์ ของ มังกรสมุทร

๏ ครืนครืนไหลรวดพื้น                ภูผา
น้ำหลากผืนพสุธา  ท่วมท้น
เมืองลุ่มล่มลงบา-  ดาลด่ำ
ทุกทิศทุกข์ไทล้น  หลั่งน้ำตาไหล ๚ะ
 
๏ ไทยครวญฝนห้าสิบ-  ปีหลง
ภูกร่อนขาดพฤกษ์พง  แผ่วน้ำ
เมืองขวางหว่างไหลลง  ทะเลหลาก
ถมท่วมประชาช้ำ-  ชอกไร้เดียงสา ๚ะ
 
๏ ปรากฏการณ์โลกร้อน  รานมนุษย์
หนาวหนักถึงสูงสุด  ศักดิ์ร้อน
ผันผวนโศกทรามทรุด  ทรวงหม่น
ผลเหตุเลศยอกย้อน  ย่อมน้ำมือนรา ๚ะ
 
๏ เผาป่าตัดป่าป้อน  แปลงพิษ
ปลดปล่อยก๊าซวิปริต  ปกฟ้า
รังสีอบระบบปิด  แปรอุ่น
อุทกอวลทั่วหล้า  ทั่วหล้าปรวนแปร ๚ะ
 
๏ กระแสทุกข์ถะถั่งห้อม  ห่มไทย
เกินรัฐจักช่วยไข  ขัดข้อง
กลับเกิดกระแสใจ  เจริดจรัส ไทยเอย
ทุกหมู่มาช่วยคล้อง  คลื่นน้ำใจสมาน ๚ะ
 
๏ ธารน้ำใจเฟื่องฟุ้ง  ฟองหน
ไหลหลากเกื้อหนุนชน  ชุ่มหล้า
ธรรมชาติผลักผลิผล  ผาสุก
ในวิกฤตโอกาสกล้า  ก่อฟื้นคืนศานติ์ ๚ะ
 
๏ ภัยพาลรานฟ้าดื่น  ดินปวง
เกิดแต่คนเพลินตวง  ตักใช้
โปรดละโลภมาหวง  โลกห่วง โลกแล
จักผ่อนฟ้าดินให้  เหือดร้ายคลายราน ๚ะ
 
๏ ปรากฏการณ์คลื่นน้ำ-  ใจฝัน
พิชิตคลื่นอุทกพลัน  เพริศแท้
หากไทยสมานฉันท์  ทุกเมื่อ
ย่อมอยู่อย่างไร้แพ้  พิชิตแม้นภัยมหันต์ ๚ะ๛


รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ คือผลงาน เมืองเนรมิต ของ ปัญจาลนคร

๏ กรุงเทพ เนรมิตแม้น                เมืองสวรรค์
ระยับวับแววสุวรรณ  สว่างหล้า
ลายจำหลักสลักพัน  พาดเกี่ยว กันแล
กำเนิดเกิดเมืองฟ้า  เฟื่องฟุ้งกรุงสยาม
 
๏ ยอดปราสาทยั่วเย้ย  คคนางค์
บ้างชัดบ้างอำพราง  แทรกซ้อน
กระจกเกรียบกรุกลาง  กระหนกแบบ แนบนา
กระแหนะรักเร่าร้อน  รดน้ำประจำลาย
 
๏ อารามอร่ามสร้าง  สง่าเผย
ลดหลั่นหลังคาเกย  หลากขั้น
ระกาล่วงหลงเลย  เรียงตับ
รอรับขับเชิงชั้น  ช่อฟ้าหางหงส์
 
๏ องค์พระคละใหญ่น้อย  รายแถว
มวยเกศโมลีแวว  หล่อไว้
ทรงเครื่องกษัตริย์แพรว  ผุดผ่อง สุพรรณเอย
เป็นมิ่งขวัญเมืองไซร้  แซ่ซ้องศาสนา
 
๏ ลำคลองลองขุดข้าม  แผ่นดิน
ลมเอื่อยโชยโรยริน  ฝั่งน้ำ
นาวาล่องเลียบสินธุ์  รอท่า เทียบแฮ
เด็กกระโจนจ้วงจ้ำ  จากแจ้งจนสาย
 
๏ แม่ค้าคว้ากระด้ง  กระจาดเรียง
พืชผักมัดพันเคียง  เพื่อค้า
กระเฉดกระถินเนียง  เถาหน่อ ไม้แล
ล้วนระรื่นลอยหน้า  เรียกร้องตะโกนขาย
 
๏ ครั้นสุรีย์ลับฟ้า  เฟือนแรง
ริบหรี่ลำพูแสง  หิ่งห้อย
สะท้อนพร่างพราวแสดง  ดุจดั่ง ดาวเอย
แลรากไทรไหวย้อย  เรี่ยน้ำเคียงดิน
 
๏ เพ็ญวันอันแจ่มจ้า  จันทร์ฉาย
กระทบยอดเจดีย์ราย  เหลื่อมล้ำ
สุกปลั่งเปล่งประกาย  ปรากฏ อยู่นา
วาบวับจับแผ่นน้ำ  ระลอกพลิ้วพรายสลาย
 
๏ โอ้กรุงเทพ เทพสร้าง  แสนวิจิตร
แม้นหมู่มารหมายคิด  อวดอ้าง
เผาผลาญเพื่อพิชิต  ชิงพระ นครเฮย
จักปลาตชีพร้าง  สุขสิ้นโศกนาน


รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ คือผลงาน ทอรักถักรุ้ง ของ วฤก

๏ ฉลุลักษณ์สลักช้อย                ช้อนวง
สรวงเสกสรรบรรจง  จับเส้น
ลายสือระบือทรง  ระบายสื่อ สารเอย
นาฏสระพยัญชนะเต้น  แต่งถ้อยร้อยเสียง ๚
 
๏ รายเรียงเรียกพาทย์ซ้อง  สาสน์ประโคม
ผสานสรรพศัพท์โถม  ถั่งถ้อย
ร้อยกรองกึกก้องโพยม  พยนต์เสก ขึ้นแล
ทรวงสุขหรือเศร้าสร้อย  สั่งได้โดยประพันธ์ ๚
 
๏ แรบรรณราวเบิกรุ้ง  รุ่งฉาย
รงค์ฉาบอัมพรลาย  เลื่อมแพร้ว
โคลงฉันท์กาพย์กลอนระบาย  ระบิลเฉิด- ฉันนอ
กวีถักรวงรุ้งแก้ว  ก่องถ้อยกถา ๚
 
๏ พรรณนานาทศัพท์ฟ้อง  สิ่งฝัน
สลวยสลักลายลักษณ์บรรณ  บ่งชี้
รักเรขเสกลักษณ์อัน  เลออัก- ขระพ่อ
ศิลปะประพนธ์นี้  ประหนึ่งรุ้งแรสี ๚
 
๏ เหมือนมณีน้ำหนึ่งสร้าง  สังวาล
เก็จแต่ละเม็ดผสาน  ผูกสร้อย
ปรุงประดิดประดอยกานท์  ประดุงกิจ กวีนา
บทแต่ละบทร้อย  เรียกคล้ายคลึงกล ๚
 
๏ เชิญชนผู้ชื่นแล้ว  เชลงศิลป์
ร่วมประดับประดาดิน  ประดิษฐ์ด้วย
ทอรักถักรุ้งระบิล  ระบายแผ่น หล้าเทอญ
ทำประภาษประพันธ์ท้วย  เทิดล้ำคำสยาม ๚ะ๛


ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านครับ

มังกรสมุทร เป็นนามปากกาของ ศาลายา เองครับ


Create Date : 11 ธันวาคม 2553
Last Update : 11 ธันวาคม 2553 10:43:56 น. 12 comments
Counter : 726 Pageviews.

 
นามเราแต่ก่อนนั้น.........เสือกะบาก
สมเสนาะไพเราะมาก......ซิบอกให้
แต่นามเจือกซ้ำซาก........คนอื่น
จึงเปลี่ยนหันมาใช้..........เสกเพี้ยงคาถา

มนต์คาถาร่ายร้อง.........มั่วไป
หลงหนุ่ยดังอยู่ไง.........ก่อนนั้น
เสกเป่าจตุคามใส.........มนต์ส่อง
ความคิดดันดุนดั้น........แว่บเสี้ยวในสมอง

เสกคาถาส่งจิ้ม............เอาเลย
พิมพ์ส่งพันทิปเฉย........ผ่านได้
เพราะนึกไม่ออกเหวย.....ซัดส่ง เดชนอ
จึงเสกคาถาใช้.............แต่นั้นเรื่อยมา

.......................................................


ส่วนใหญ่นามปากกาจะมีที่ไปที่มา
กระผมก็มีครับ เสกคาถา มีชื่อนี้เพราะนึกชื่ออื่นไม่ออกครับ แหะๆ กะว่าจะใช้ เสือกะบาก แต่ดันซ้ำคนอื่น
ดูข่าวในทีวีเห็นหลงหนุ่ยกะลังเสกจตุคาม
เลยเอาชื่อเสกคาถานี่ละว๊ะ แหะๆ
ทั้งที่กระผมท่องอิติปิโสยังไม่จบเลย เหอๆ แต่ดันชื่อ เสกคาถา


เข้ามาเยี่ยมบล็อกท่านศาลายา แต่ดันคุยเรื่องของตัวเองซะงั้น กำ!!!!

ยินดีด้วยครับท่านศาลายาที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ประทับตราผลงานคุณภาพอย่างแท้จริงครับ


โดย: เสกคาถา วันที่: 11 ธันวาคม 2553 เวลา:11:38:34 น.  

 
... ...


โดย: ploythana วันที่: 11 ธันวาคม 2553 เวลา:12:43:36 น.  

 
ขขอแสดงความยินดี ด้วยครับ

เยี่ยมมาก


โดย: ลำน้ำ C วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:0:41:11 น.  

 
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ





… “...น้องเคยขออ้อนฮัก ... ขอฮักอ้าย

ไม่มากมาย ... แค่ยาวนาน ... กว่าล้านมื่อ...”

"สะบายดี ... " อีกครั้ง ... หวังความคือ

ถ้อยน้องสื่อภาษา ... สัญญาใจ ...


... มาตามนัด ... ดินแดนแคว้นสายน้ำ

“โขง” ผู้ค้ำชีวินถิ่นอาศัย

ที่ราบลุ่ม ... พรรณพฤกษ์ ... และภูไพร

แล “ลาวใต้” .... จำปาสัก ... เมืองปักเซ …
.
.
.


โดย: ploythana วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:11:05:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ ... มีความสุขสดใสวันอาทิตย์นะคะ




… กลางทิวทุ่ง ... รุ่งทิวา ... เจิดจ้าพ้อง

แสงสีทอง...จากดวงวันอันสดใส

แรเปลวแดด...แวดล้อม...ย้อมอุ่นไอ

เริ่มวันใหม่...แสงเมลือง ... ทุ่งเรืองรอง ...


... ร่ายลำนำธรรมชาติพิลาสแท้

รับขวัญแด่ ... ความพิสุทธิ์งามผุดผ่อง

ดวงดอกเจ้า "ทานตะวัน" ร่วมครรลอง

อย่างสอดคล้อง ... ผองสกล ... จนเบ่งบาน ...
.
.
.


โดย: ploythana วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:11:33:49 น.  

 
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ


"เลาะล่อง" ท่องแดนฝัน
.......................................





... “มิตรภาพ” เชื่อมแผ่นฟ้าชลาสินธุ์

เพื่อนต่างถิ่น....เตรียมเฮือนชาน...การฮับต้อน

เรายังคงมุ่งหน้า ... ทัศนาจร

เยือนนครตอนใต้ในฝั่งลาว ...


... แดนน้ำตก ... ดึงดูดใจให้ค้นหา

ดุจน้ำฟ้าทะยานร่วงจากห้วงหาว

สู่หลักแหล่งชะแง่งหินไหลรินราว

เส้นทางยาวกว้างไกล ... ชุ่มใสเย็น ...
.
.
.


โดย: ploythana วันที่: 24 ธันวาคม 2553 เวลา:0:09:49 น.  

 
สุริยา สาดส่อง ผ่องไสว
ส่งดอกไม้ ทายทัก ฝากคิดถึง
ปีใหม่ใกล้ เยือนเยี่ยม เปี่ยมคำนึง
ขอพรซึ้ง จากสรวง ฝากห่วงใย

ให้ประสบ สิ่งหวัง ทางชีวิต
สิ่งใดคิด ให้สม ภิรมย์สมัย
ร่ำรวยทรัพย์ รับโชค พ้นโรคภัย
สุขสดใส ตลอดกาล นิรนดร์เทอญ...


สวัสดี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับ ปีใหม่ค่ะ

Flower Pictures Upload Photos View Photos


"สุนันยา"


โดย: สุนันยา วันที่: 28 ธันวาคม 2553 เวลา:9:57:37 น.  

 
คุณเสกคาถา - ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียน พร้อมเกร็ดที่มาแห่งล็อกอิน ขอบคุณครับ

ผมเองก็มีปัญหาในการตั้งชื่อล็อกอินเหมือนกัน ตอนไปอยู่ ศาลาย นครปฐม ก็เลยตั้งชื่อ "ศาลายา" ปรากฎว่าผ่าน ก็เลยใช้ชื่อนั้นเรื่อยมา แต่ตอนนี้ย้ายที่อยู่แล้ว มาอยู่สมุทรปราการ ก็เลยตั้งนามปากกาให้เหมาะกับที่อยู่ มังกรสมุทร ก็มีที่มาประการะฉะนี้แล แหะๆ


โดย: ศาลายา วันที่: 30 ธันวาคม 2553 เวลา:9:12:17 น.  

 
คุณลำน้ำ C - ขอบคุณครับ


โดย: ศาลายา วันที่: 30 ธันวาคม 2553 เวลา:9:13:24 น.  

 
คุณสุนันยา - ขอบคุณสำหรับพรปีใหม่ ขอให้พรดีๆ ได้กลับไปสู่คุณสุนันยาเช่นกันครับ


โดย: ศาลายา วันที่: 30 ธันวาคม 2553 เวลา:9:13:44 น.  

 
น้องพลอย- ขอบคุณสำหรับคำอวยพร กลอนและภาพงามๆ ครับ


โดย: ศาลายา วันที่: 30 ธันวาคม 2553 เวลา:9:14:17 น.  

 
แวะมาอ่านจร้าขออนุญาตฝากเว็บไว้ในอ้อมกอดน้อยๆด้วยนะครับ|เข้าชมเว็บ บิ๊กอายขอบคุณครับ


โดย: bigeye (tewtor ) วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:6:29:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ศาลายา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




๏ ศาลายาชื่อนี้.....เป็นนาม
ที่อยู่ตำบลตาม.............แต่งตั้ง
คนหนุ่มเงียบเงียบงาม....มรรยาท
ลิขิตบล็อกก่อนพลั้ง......พลาดพ้นยุคสมัย ๚

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
11 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ศาลายา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.