โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาเคี้ยวข้าวคำหนึ่งแล้วกลืนกิน พึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราได้กระทำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเป็นอันมากหนอ โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ชั่วเวลาหายใจออกแล้วหายใจเข้า หรือหายใจเข้าแล้วหายใจออก เราทั้งหลายจักไม่เป็นผู้ประมาทอยู่ จักเจริญมรณสติเพื่อความสิ้นอาสวะ
พุทธสุภาษิต: สัตบุรุษงดเว้นจากคำพูดส่อเสียด



พูด จาวาทกถ้วน .......... ควรระวัง
ดี ชั่วคิดก่อนยัง ............... หยุดได้
เป็นศรี สัจจ์พึงหวัง ........... สุคติ ... แลนา
แก่ปาก มากพึงใช้ ............ สติต้องตรองธรรม ๚ะ

สำ คัญคือให้หลีก .......... ลำเอียง
รวม จิตคิดเทียบเคียง ........ ก่อนพลั้ง
วา ทีก่อนเปล่งเสียง .......... สงวนศัพท์ ... ท่านเอย
จา รีตคำกล่าวรั้ง .............. รัดผู้เผยคำ ... แลนา ๚ะ๛


--------------------------------------------


             สัตบุรุษในโลกนี้ เป็นผู้งดเว้นจากการพูดเท็จ งดเว้นจากคำพูดส่อเสียด
             งดเว้นจากคำหยาบ งดเว้นจากการเจรจาเพ้อเจ้อ
             (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ หน้าที่ ๙๖)
             --------------------------------------------

             เมื่อความวิวาทกันเกิด เกิดพร้อม บังเกิด บังเกิดเฉพาะ ปรากฏแล้ว
             ชนทั้งหลายย่อมนำคำส่อเสียดเข้าไป คือ ฟังจากข้างนี้แล้วไปบอกข้างโน้น
             เพื่อทำลายคนหมู่นี้ หรือฟังจากข้างโน้นแล้วมาบอกข้างนี้ เพื่อทำลายคนหมู่โน้น
             เป็นผู้ทำลายคนที่พร้อมเพรียงกันบ้าง สนับสนุนคนที่แตกกันแล้วบ้าง
             ชอบผู้ที่เป็นก๊กกันบ้าง ยินดีผู้ที่เป็นก๊กกัน เพลินคนที่เป็นก๊กกัน
             เป็นผู้กล่าววาจาที่ทำให้เป็นก๊กกัน นี้เรียกว่า ความพูดส่อเสียด
             (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ หน้าที่ ๒๔๑)
             --------------------------------------------


             ปูติมุขเปตวัตถุที่ ๓

             ท่านพระนารทะถามเปรตตนหนึ่งว่า
             [๘๘] ท่านมีผิวพรรณงามดังทิพย์ ยืนอยู่ในอากาศ แต่ปากของท่านมีกลิ่นเหม็น
                          หมู่หนอนพากันมาไชชอนอยู่ เมื่อก่อนท่านทำกรรมอะไรไว้?

             เปรตนั้นตอบว่า
             เมื่อก่อนข้าพเจ้าเป็นสมณะลามก มีวาจาชั่ว สำรวมกายเป็นปกติ ไม่สำรวมปาก
             ผิวพรรณดังทองข้าพเจ้าได้แล้ว เพราะพรหมจรรย์นั้น แต่ปากของข้าพเจ้า
             เหม็นเน่าเพราะกล่าววาจาส่อเสียด ข้าแต่ท่านพระนารทะ รูปของข้าพเจ้านี้
             ท่านเห็นเองแล้ว ท่านผู้ฉลาดอนุเคราะห์กล่าวไว้ว่า ท่านอย่าพูดส่อเสียดและ
             อย่าพูดมุสา ถ้าท่านละคำส่อเสียดและคำมุสาแล้ว สำรวมด้วยวาจา ท่านจักเป็น
             เทพเจ้าผู้สมบูรณ์ด้วยสิ่งที่น่าใคร่.

             (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ หน้าที่ ๑๒๓)
             --------------------------------------------


             สัตบุรุษ [สัดบุหฺรุด] น. คนที่เป็นสัมมาทิฐิ, คนดีน่านับถือ มีคุณธรรม
             ประพฤติอยู่ในศีลในธรรม. (ส. สตฺปุรุษ; ป. สปฺปุริส).
             (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ //rirs3.royin.go.th/ )




Create Date : 19 มีนาคม 2553
Last Update : 19 มีนาคม 2553 12:14:53 น. 2 comments
Counter : 1101 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ คุณพี่

สถาปัตยกรรมอันงดงามของไทยงดงาม
โอ่อ่า อลังการ ที่สุดค่ะ



มีความสุขมาก ๆ นะคะ คุณพี่


โดย: ploythana วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:20:07:57 น.  

 
- ploythana ...

ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ ชอบมากเลยครับ


โดย: ศาลายา วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:10:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ศาลายา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




๏ ศาลายาชื่อนี้.....เป็นนาม
ที่อยู่ตำบลตาม.............แต่งตั้ง
คนหนุ่มเงียบเงียบงาม....มรรยาท
ลิขิตบล็อกก่อนพลั้ง......พลาดพ้นยุคสมัย ๚

Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ศาลายา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.