Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
หน้ากระจ่างใสภาคต่อ ตอน สารพิษใน "เครื่องประทินโฉม"‏


สารพิษใน "เครื่องประทินโฉม" กำลังทำร้ายคุณอยู่หรือเปล่า ?!? : ตอนที่ 1

โดย สิงห์สีชมพู


*วันนี้ "สิงห์สีชมพู" จะพาไปดูผลงานการศึกษาที่ใกล้ตัวผู้หญิงทุกคน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเครื่องสำอางและเครื่องประทินโฉม ที่เราใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จากหนังสือเล่มล่าสุดของ "ดอว์น เมลโลว์ชิป" นักข่าวแนวสืบสวนชื่อดังของอังกฤษ ที่ชื่อว่า "Toxic Beauty"

"เมลโลว์ชิป" ได้ทำการศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย เกี่ยวกับ "สารเคมี" ที่มีอยู่ในของใช้ประจำวัน เช่น สบู่ แชมพูสระผม น้ำยาทาเล็บ หรือแม้กระทั้งยาสีฟัน ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของเราในด้านต่างๆ

เริ่มจากสารที่ชื่อว่า "โซเดียม ลอรัล ซัลเฟต" (Sodium lauryl sulphate) หรือที่เรียกย่อๆ ว่า "SLS" ซึ่งเป็นสารทำความสะอาด มักถูกนำไปใช้ในสินค้าประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นแชมพู สบู่ หรือยาสีฟัน สารชนิดนี้สามารถแทรกซึมลงไปในชั้นผิวได้ถึง 5 - 6 ม.ม. ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการแพ้ และเป็นการเพิ่มโอกาสให้สารอื่นๆ เช่น สารพิษ สามารถแทรกซึมเข้าไปได้ง่ายมากขึ้น

หนังสือระบุต่อว่า การแช่ตัวในอ่างอาบน้ำเป็นการเปิดโอกาสให้ "สารชำระล้าง" สัมผัสกับส่วนที่อ่อนโยนได้ง่ายมากชึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ โดยเฉพาะในเด็กและทารก ทั้งนี้ ในสหรัฐสินค้าพวกโฟมอาบน้ำสำหรับเด็กจะมีการติดสลากเตือนพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน



สารตัวร้ายชนิดที่ 2 คือ สารฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งมักถูกนำไปเป็นส่วนผสมของน้ำยาทาเล็บ สบู่และเครื่องสำอางทั่วไป นอกจากนี้ ยังพบในน้ำยาเคลือบเงาเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย สารชนิดกำลังถูกสงสัยว่าเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง และมักทำให้ผิวหนังหรือดวงตาเกิดอาการแพ้

แม้ว่าสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ จะไม่ห้ามใช้ "ฟอร์มัลดีไฮด์" ในเครื่องสำอาง แต่สินค้าที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าวมากกว่า 0.05 % จะต้องระบุไว้ในฉลากอย่างชัดเจน พร้อมกับข้อความเตือนระบุว่า "contains formaldehyde" จึงจะสามารถวางขายให้สหภาพยุโรปได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง

และสารตัวร้ายชนิดสุดท้าย (สำหรับสัปดาห์นี้) ก็คือ "Mineral talc" ซึ่งแป้งฝุ่นทาลคัม (Talcum) มักมีส่วนผสมชนิดนี้มากกว่า 90 % และมักถูกนำไปใช้ผลิตเครื่องสำอางหลายชนิด เช่น อายแชโดว์ แป้งเด็กและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะมีคุณสมบัติเด่น ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ติดอยู่กับผิวหนังและมีความโปร่งแสง

สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐเห็นว่าเครื่องสำอางที่ถูกผลิตจาก "Mineral talc" มีความปลอดภัย แต่เมื่อปี 1993 หน่วยงานพิษวิทยาแห่งชาติของอังกฤษพบว่า หนูที่สัมผัสกับเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Mineral talc โดยการสูดดม กลายเป็นโรคปอด มะเร็งปอด และมะเร็งต่อมหมวกไตชนิดหายาก นอกจากนี้ จากการศึกษาเรื่องนี้พบว่า จะเป็นเพิ่มโอกาสเกิดโรคมะเร็งรังไข่ 30 - 60 % ในกลุ่มของผู้หญิงที่ใช้แป้งฝุ่นทาตัวที่ผสม Mineral talc เป็นประจำ

สารพิษในเครื่องสำอางยังไม่หมดเพียงเท่านี้ รอติดตามต่อในสัปดาห์หน้านะคะ ^____^


ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนออนไลน์ วันที่ 07 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552




สารพิษใน "เครื่องประทินโฉม" กำลังทำร้ายคุณอยู่หรือเปล่า ?!? : ตอนที่ 2

โดย สิงห์สีชมพู


*จากสัปดาห์ที่แล้ว "สิงห์สีชมพู" ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสารพิษ 3 ประเภทในเครื่องสำอางและของใช้ประจำวัน ที่ควรระวังเป็นพิเศษ จากหนังสือดีๆ อย่าง "Toxic Beauty" ผลงานการเขียนและรวบรวมข้อมูลโดย "ดอว์น เมลโลว์ชิป" นักข่าวแนวสืบสวนชื่อดังของอังกฤษ

สัปดาห์นี้เราจะมาดูกันต่อว่ายังมีอะไรอีกที่เราควรรู้ไว้ เริ่มจากสารที่ชื่อว่า "Paraphenylenediamine" หรือที่เรียกย่อๆ ว่า "สารพีพีดี" มักมีอยู่ในน้ำยาย้อมสีผม สารดังกล่าวมีส่วนเชื่อมโยงกับโรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคผิวหนังเรื้อรังตามมา น้ำยายอมผมที่มีสารพีพีดียังคงถูกใช้อย่างแพร่หลายในอังกฤษและสหรัฐ แต่ถูกห้ามใช้ในประเทศเยอรมัน ฝรั่งเศสและสวีเดนมาหลายปีแล้ว เพราะ "สารพีพีดี" ไม่ควรสัมผัสกับผิวหนัง ไม่ว่าส่วนใด ขณะที่การย้อมผมต้อง เราต้องชโลมน้ำยาสัมผัสกับหนังศรีษะโดยตรง

แต่หากเรายังต้องการเปลี่ยนสีผม ก็ยังมีหนทางที่สามารถหลีกเลี่ยงสารชนิดนี้ได้ โดยหันไปใช้น้ำยายอมผมจากธรรมชาติ โดยเฉพาะประเภทที่ผลิตจาก "พืชผัก" น้ำยายอมผมที่ผลิตจากผัก จะสกัดสีต่างๆ มาจากผัก เช่น หญ้าฝรั่น คาโมไมล์ ใบเมอเทิลสีดำ หรือวอลนัทสีเขียว ส่วนน้ำยายอมผมประเภท "เฮนน่า "ก็ผลิตมาจากธรรมชาติ แต่สามารถให้สีที่คงทนกล่าว แถมยังพบคนที่มีอาการแพ้ต่อน้ำยาประเภทนี้ได้น้อยอีกด้วย



สารพิษตัวที่ 2 ของสัปดาห์นี้ ได้แก่ "พาราเบน" (paraben) ที่มันถูกใช้เป็นส่วนผสมในวัตถุกันเสียสำหรับอาหารและเครื่องสำอาง ถูกพบมากใน "ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายและเหงื่อ" เราจึงควรเลี่ยง "ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายและเหงื่อ" ที่มีส่วนผสมของสารชนิดนี้และ "อะลูมิเนียม" เพราะสารพิษทั้งคู่นี้ได้ถูกตรวจสอบมากหลายปีแล้ว เหตุจากมันสามารถแสดงคุณสมบัติได้คล้ายคลึงกับฮอร์โมน Oestrogen ในเพศหญิงจากการทดลองในสัตว์ และเป็นที่รับรู้กันดีว่า ฮอร์โมน Oestrogen มีส่วนสำคัญในก่อและทำให้โรคมะเร็งลุกลาม

เมื่อปี 2004 อาจารย์ด้านเนื้องอกวิทยา แห่งมหาวิทยาลับรีดดิ้ง ประเทศอังกฤษ ได้ทำการศึกษาพบ "พาราเบน" ในเนื้อเยื่อเต้านมของคน จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมนี้ต่อเนื่องเวลานาน

เมื่อเรารู้ถึงพิษภัยและอันตรายของสารพวกนี้ ก็ย่อมมองหาเครื่องสำอางและของใช้ที่ปลอดภัย แต่กลับต้องงงงวยหรือหลงกลคำศัพท์สวยหรู ที่ระบุไว้ในฉลากสินค้าจำนวนมาก เช่น คำว่า "ไฮโป - อัลเลอร์เจนิก" (HYPOALLERGENIC) ที่สื่อความหมายว่า "ทำให้เกิดการแพ้ได้น้อย" หรือ คำว่า "ได้รับการตรวจสอบจากแพทย์แล้ว" (DERMATOLOGIST TESTED)

แต่ในความเป็นจริง 2 คำนี้แทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่เลยด้วยซ้ำไป เพราะสินค้าแทบทุกประเภทสามารถระบุว่าเป็น HYPOALLERGENIC โดยเมื่อปี 2007 นายเดวิด กาวกรอดเจอร์ อาจารย์แพทย์ แห่งมหาวิทยาลัยเชฟฟิล เปิดเผยว่า "การใช้คำว่า HYPOALLERGENIC ไม่มีกฎหมายควบคุมแต่อย่างใด ผมเห็นสินค้ามากมายไปหมดที่ทำให้เราเกิดอาการแพ้ได้ แต่กลับระบุว่า HYPOALLERGENIC"

ขณะที่ทำคำว่า DERMATOLOGIST TESTED ก็แทบจะไร้ความหมายเช่นกัน เพราะมันสามารถถูกอ้างได้จากคนเพียงไม่กี่คน ที่ระบุว่าใช้สินค้าดังกล่าวแล้วไม่เกิดอาการใดๆ ตามมา

"การทดสอบในกรณีนี้อาจไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์เท่าไหร่ และไม่มีอะไรที่สามารถการันตีได้ว่า สินค้านี้จะไม่ทำให้คนอื่นๆ แพ้ เพราะการจะแพ้หรือไม่แพ้ มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคล"


ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนออนไลน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552


สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์


H O M E




Create Date : 12 ธันวาคม 2552
Last Update : 12 ธันวาคม 2552 12:37:07 น. 1 comments
Counter : 969 Pageviews.

 
ขอบคุงที่ให้ความรู้นะคะ

จากใจจริงและจิงใจ

จากเด็กสระแก้ว


โดย: น้ำค้างสีฟ้า IP: 125.27.133.67 วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:15:24:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.