Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
บทพิสูจน์10ปี'วิกิพีเดีย' ชาวโลกคือผู้เขียนประวัติศาสตร์! !


*จุดกำเนิดของเว็บไซต์สารานุกรมเสรีออนไลน์หมายเลข 1 ของโลก "วิกิพีเดีย" นั้น พอมองย้อนกลับไปดูที่มาเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้

ใครจะไปเชื่อว่า เริ่มต้นด้วยประโยคเชิญชวนแค่ 4 ประโยคบนหน้าเว็บวิกิพีเดีย เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2554 ที่เขียนโดยสองหนุ่มอเมริกัน "จิมมี่ เวลส์" กับ "ลาร์รี่ แซงเจอร์" ผู้ก่อตั้ง นั่นคือ

"สวัสดีชาวโลก.

"ทำให้ผมมีความสุขหน่อยสิครับ.

"เข้ามาตรงนี้แล้วก็เขียนบทความ.

"ใช้เวลาไม่นานหรอกอย่างมากก็แค่ 5 หรือ 10 นาทีเท่านั้นเอง."


หลังจากนั้น 10 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก วิกิพีเดีย กลายเป็นเว็บเปลี่ยนโลก ที่มีอัตราผู้เข้าชมและใช้งานสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก มีสถิติผู้ใช้งานเป็นประจำเดือนละ 450 ล้านคน

ทำหน้าที่เป็น "คลังความรู้" รวบรวมข่าวสารบทความต่างๆ กว่า 17 ล้านบทความใน 270 ภาษา ในจำนวนนี้เป็นภาษาอังกฤษ 3.5 ล้านบทความ และภาษาไทยเกือบ 1 แสนบทความ

ประสิทธิภาพของวิกิพีเดียนั้น ได้รับการรับประกันจากการศึกษาโดยกองบ.ก.นิตยสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำอย่าง "เนเจอร์" ว่า มีคุณสมบัติเทียบเท่า "บริทานิกา" สารานุกรมที่ดีที่สุดในโลก

ต่างกันตรงที่วิกิฯ นั้นเป็นของฟรีร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนบริทานิกาต้องเสียเงินซื้อหาความรู้มาประดับสมองกันเอง

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของวิกิฯ จะมีเฉพาะชื่อเสียงทางบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดเด่นในการ "เปิดกว้าง" ให้ "ใครก็ได้ในโลกนี้" เข้าไปเขียน-ปรับปรุง-แก้ไขบทความในเว็บ เพื่อสร้างสังคมภูมิปัญญาออนไลน์ร่วมกัน

เพราะเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึง "จุดอ่อน" ของวิกิฯ ก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะแนวคิด "เปิดกว้าง" มากเกินไปจนบางครั้งมีพวก "ประสงค์ร้าย-เพี้ยน" เข้าไปฉวยโอกาสนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือเต็มไปด้วยอคติ ขาดรูปแบบ "การอ้างอิง" ตามหลักวิชาการ

บ่อยครั้งเราอาจได้ยินว่า วิกิพีเดีย ทำให้นักเรียน-นักศึกษาเกิดความ "ขี้เกียจ" เข้ามาคอยลอกข้อมูลไปส่งอาจารย์เป็นประจำ ฯลฯ

ขณะเดียวกัน ตัวนายลาร์รี่ แซงเจอร์ แม้จะเป็น 1 ในผู้ก่อตั้ง ก็ต้องระเห็จตัวเองออกไปจากโปรเจ็กต์วิกิพีเดีย ภายหลังจากเกิดอาการ "ของขึ้น" เนื่องจากไม่ค่อยพอใจที่นายเวลส์แสดงบทบาทในฐานะ "ผู้ให้กำเนิดวิกิพีเดีย" มากจนเกินไป

*แต่ในภาพรวม ต้องยอมรับว่า 10 ปีที่ผ่านมานี้ วิกิพีเดียได้สร้างคุณูปการสูงยิ่งสำหรับสังคมโลก โดยเข้ามาเป็น "สื่อกลาง" ช่วยเผยแพร่องค์ความรู้ของมนุษยชาติ ทั้งที่ปรากฏอยู่ในรูปแบบของข่าวสาร และตำราประวัติ ศาสตร์ให้กว้างไกลออกไปทั่วทุกพรมแดนที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึง

ทุกวันนี้เรามีอาสาสมัครถึง 100,000 รายที่คอยทำงานให้วิกีพีเดียฟรีๆ เป็นประจำ คุณคิดว่ามันน่าอัศจรรย์ไหมล่ะคะ?" ซู การ์ดเนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของวิกิพีเดีย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์

การ์ดเนอร์ ยืนยันด้วยว่า อนาคตต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าจะอีก 10 ปี หรือกี่ปีต่อจากนี้ วิกิพีเดียจะยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ดั้งเดิม คือ...

เป็นสารานุกรมออนไลน์ฟรีร้อยเปอร์เซ็นต์

แม้จะมีฐานสมาชิกมากเพียงใดก็ไม่คิดจะนำมาใช้เพื่อสร้างรายได้เข้าองค์กรโดยเด็ดขาด

แต่แน่นอนว่า ของฟรีย่อมไม่มีในโลก การ์ดเนอร์เผยด้วยว่า ในการ "รัน" หรือดูแลเว็บวิกิพีเดียนั้น ต้องใช้งบประมาณถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 600 ล้านบาทต่อปี

ปัจจุบัน ที่มาของรายได้มาจาก "เงินบริจาค" ล้วนๆ และผู้บริหารวิกิฯ ได้กำหนดแผนสำ หรับปีนี้แล้วว่า จะขยายฐานผู้ใช้งานเข้าไปในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสูงๆ ได้แก่ "อินเดีย" กับ "บราซิล"

ส่วน "ประเทศจีน" ยังตอบไม่ได้ว่า วิกิฯ จะสามารถย้าย "เซิร์ฟเวอร์" ฐานข้อมูลเข้าไปในจีนได้เมื่อไหร่

เพราะทุกวันนี้ทั้งฝ่ายรัฐบาลจีนและวิกิฯ ยังหา "ทางออก" ร่วมกันไม่ได้ว่า จะดูแล-จำกัด "เนื้อหา" ที่นำเสนอในเว็บอย่างไร ไม่ให้กระทบความมั่นคงของรัฐบาลจีน

นายจิมมี่ เวลส์ วัย 44 ปี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิวิกิมีเดีย ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส เนื่องในโอกาสครบ 10 ปีวิกิพีเดีย ว่า จะพยายามผลักดันให้ยอดผู้ใช้งานวิกิฯ เพิ่มขึ้นถึงระดับ 1 พันล้านคนต่อเดือนให้ได้ภายในปีพ.ศ.2558

"การสร้างสารานุกรมฟรีสำหรับคนทุกคนบนพื้นโลก และเป็นสารานุกรมที่เขียนในภาษาของพวกเขาเอง คือ อุดมการณ์ของเราตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นวิกิพีเดีย และจะยังเป็นเช่นนั้นตลอดไป"

*เวลส์ กล่าวด้วยว่า ในการระดมเงินบริจาคครั้งล่าสุดเมื่อเดือนก่อน 480 ล้านบาทนั้น จะนำไปใช้ปรับปรุงระบบการเข้าถึงข้อมูลของเว็บวิกิฯ ให้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ไม่ชอบรออะไรนานๆ รวมถึงออกแบบวิกิฯ ให้สอดคล้องกับกระแสนิยมใช้งานอินเตอร์เน็ตบน "สมาร์ทโฟน" และ "แท็บเล็ตพีซี"

เวลส์ ยอมรับว่า ล่าสุดวิกิฯ มีปัญหาตรงที่เริ่มออกอาการ "ตื้อ" หลังจากสถิติอาสาสมัครเขียนบทความภาษาอังกฤษแบบ "ฝีมือดีๆ" ในวิกิฯ ดูจะหยุดนิ่งไป ไม่คึกคักเหมือนช่วงก่อตั้งปีแรกๆ

ด้าน "แอนดรูว์ ลินห์" ผู้ทุ่มเทเกาะติดความก้าวหน้าของวิกีพีเดีย และเขียนออกมาเป็นหนังสือเล่มดัง "เดอะ วิกิพีเดีย เรฟโวลูชั่น" (วิกิพีเดียปฏิวัติ) บอกกับเว็บไซต์ข่าวไอที "ซีเน็ต" ว่า พัฒนาการ 10 ปีจากนี้ของวิกีฯ สิ่งที่จะช่วยให้วิกิฯ กระฉับกระเฉง-ประสบความเร็จมากขึ้น คือ การประสานนำเอาข้อมูลใหม่ๆ จากภาครัฐ ห้องสมุด หอสมุด พิพิธภัณฑ์ มานำเสนอในเว็บ

นอกจากนี้ ในอนาคตข้อมูลประเภท "ตัวอักษร" อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แต่ต้องปรับนำข้อมูลประเภท "ไฟล์มัลติมีเดีย" มานำเสนอได้ด้วย ซึ่งก็ต้องอาศัยการออกแบบ "โปรแกรม" ที่เปิดให้คนทั่วทุกมุมโลกเข้ามาร่วมกันตัดต่อ-ปรับปรุงไฟล์นั้นๆ ได้ด้วย

"ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม 10 ปีที่ผ่านมาผมถือว่าวิกิพีเดียได้สร้างแบบแผนภูมิปัญญาเอาไว้อย่างชัดเจน มีคำพูดคำอมตะที่บอกว่า 'ผู้ชนะคือผู้เขียนประวัติศาสตร์' แต่นั่นมันไม่จริงอีกต่อไปแล้ว เพราะบัดนี้ประชาชนต่างหากที่ลุกขึ้นมาเขียนตำราประวัติศาสตร์ร่วมกัน" ลินห์ กล่าว

เปิดปูม'วิกิพีเดีย'

"วิกิพีเดีย" (Wikipedia) คือ สารานุกรมออนไลน์หลายภาษาที่แจกจ่ายในลักษณะเนื้อหาเสรี บริหารงานโดยมูลนิธิวิกิมีเดีย

คำว่า "วิกิพีเดีย" มีที่มาของชื่อการผสมคำของคำว่า "วิกิ" (wiki) ซึ่งเป็นลักษณะของการสร้างเว็บไซต์ที่ร่วมกันปรับปรุง และคำว่า "เอ็นไซโคลพีเดีย" (encyclopedia) ที่แปลว่าสารานุกรม

เว็บไซต์ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2544 โดย จิมมี่ เวลส์ และ ลาร์รี่ แซงเจอร์ โดยในปัจจุบันวิกิพีเดียเป็นเว็บไซต์ สารานุกรมออนไลน์ที่ใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในโลก

ปัจจุบัน วิกิพีเดียมีเนื้อหากว่า 9 ล้านบทความ ใน 686 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย ประกอบด้วย ข้อความกว่า 17,400 ล้านคำ เฉพาะในวิกิพีเดียภาษาอังกฤษ มีเนื้อหามากกว่า 3,000,000 เรื่อง เนื้อหาในวิกิพีเดียเกิดขึ้นโดยการร่วมเขียนจากอาสาสมัครจากทั่วโลก โดยเว็บไซต์เปิดให้ทุกคนสามารถร่วมแก้ไขได้อย่างอิสระ ซึ่งในปัจจุบันวิกิพีเดียได้รับความนิยมเป็น 1 ใน 10 เว็บที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก

วิกิพีเดีย ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความน่าเชื่อถือและความถูกต้องอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นชุมชนอินเตอร์เน็ตที่เปิดโอกาสให้ทุกคนแก้ไขข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องล็อกอิน ซึ่งส่งผลให้วิกิพีเดียถูกก่อกวนได้ตลอดเวลา ไม่ว่าการใส่คำหยาบสอดแทรก การใส่ข้อความที่คลาดเคลื่อน การลบข้อมูลสำคัญออกไป รวมถึงการใส่ความเห็นลงในตัวบทความ

อคติและความโอนเอียงในระบบของวิกิพีเดีย เป็นอีกหัวข้อหนึ่งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าเรื่องราวบางเรื่องมีข้อมูลลงลึกมากกว่าเรื่องอื่นๆ ซึ่งข้อวิพากษ์วิจารณ์นี้ แม้กระทั่งผู้เสนอโครงการวิกิพีเดียเองก็ยอมรับและจะเป็นประเด็นที่ต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไป

นอกเหนือจากการเป็นข้อมูลอ้างอิงในด้านสารานุกรมแล้ว วิกิพีเดียได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน เมื่อปี 2549 นิตยสารไทม์ได้มีการกล่าวถึง "บุคคลสำคัญประจำปี" ซึ่งกล่าวออกมาว่าคือ "ตัวคุณเอง" (You) โดยอ้างถึงเว็บไซต์วิกิพีเดีย ยูทูบ และมายสเปซ ในลักษณะของการสร้าง "เว็บ 2.0" ซึ่งสำเร็จขึ้นได้จากการร่วมมือของบุคคลหลายล้านคนทั่วโลก

วิกิพีเดียทำงานด้วยซอฟต์แวร์ชื่อ "มีเดียวิกิ" และจัดเก็บในเซิร์ฟ เวอร์สามแห่งทั่วโลก โดยมีเซิร์ฟเวอร์ใหญ่อยู่ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และเซิร์ฟเวอร์ย่อยตั้งอยู่ที่อัมสเตอร์ ดัมในเนเธอร์แลนด์ และโซลในเกาหลีใต้ ในขณะที่มูลนิธิสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย

Credit : ข่าวสดรายวัน 18 มกราคม 2554 หน้า 21

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 28 มกราคม 2554
Last Update : 28 มกราคม 2554 13:38:34 น. 0 comments
Counter : 999 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.