ทริปกินบวกเที่ยวทึ่ตลาดร้อยปีสามชุกค่ะ…

ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาพอดีว่ารุ้งต้องไปส่งแม่ที่บ้านญาติที่สุพรรณพอดีค่ะ ไปมาทุกปีแต่ไม่เคยแวะเที่ยวไหนเลยนอกจากหอคอยบรรหาร
คราวนี้ไปส่งแม่ที่บ้านญาติแถวบางปลาม้าแล้ว เรากับแฟนก็เลยออกมาสามชุกกันค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณหญิง (peachgirl_pp) ที่กรุณาส่งแผนที่จาก google map มาให้ทำให้เราตัดสินใจเดินทางไปง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ จากบางปลาม้าไปสามชุกก็ไม่ไกลนะคะ ขับรถแปปเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
พอใกล้จะเข้าสามชุกรถเยอะมากๆเลยค่ะ แต่คนสุพรรณใจดีมากๆ เค้าโบกรถให้เราจอดหน้าบ้านเค้า พอเราจอดเสร็จถามราคา พี่เค้าบอกว่าไม่เป็นไรจอดฟรีแถมยังอธิบายทางไปตลาดด้วยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
อันนี้จากที่ที่เราจอดค่ะ เดินข้ามไปเป็นตลาด สังเกตว่ารถเยอะมากๆ ฝั่งตรงข้ามนั่นรถติดนะคะไม่ใช่รถจอด



เข้าตลาดจากทางซอย 4 ค่ะ ข้างหน้าเป็น bank กรุงเทพ ภาพนี้ถ่ายก่อนเข้าตลาดละค่ะ



เดินเข้าไปจะพบจุดให้ชั่งน้ำหนักเป็นระยะ



จริงๆ ความรู้สึกส่วนตัวของรุ้งนะคะ ควรเดินไปพิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์ ที่อยู่ตรงซอย 2 ก่อนค่ะ เพราะจะมีน้องมัคคุเทศก์คอยอธิบายเกี่ยวกับตลาดสามชุก มีโมเดลแผนผังตลาดแล้วก็โบชัวร์ด้วยค่ะ เราจะได้รู้ว่าควรเดินไปจุดไหนที่สำคัญบ้าง
แต่ตอนแรกรุ้งยังเดินกันเรื่อยๆก่อนค่ะ แวะหาอะไรทานก่อน เพราะไม่งั้นซื้อของกระจายแน่ แวะร้านนี้ค่ะก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นยักษ์



คนแน่นร้านมากๆค่ะ เราสองคนเลยยืนรอข้างนอกสักพัก พอโต๊ะว่างก็ค่อยเดินเข้าไป เมนูมาแล้วค่ะ



เราสั่งชามนี้ค่ะ (ชามละ 90 บาท) รสชาติน้ำซุปเหมือนก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นแชมป์แถวบ้านค่ะ ก็อร่อยดี ส่วนลูกชิ้นยักษ์เราสองคนลงมติกันว่ารสชาติคล้ายหมูยอค่ะ ลูกชิ้นยักษ์ถ้าทานไม่หมดขอถุงเค้าได้นะคะ



อันนี้ของแฟนค่ะ เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง ใส่กุ้งแห้งด้วย จานนี้เราไม่ได้ชิมค่ะ แต่แฟนก็บอกอร่อยใช้ได้



น้ำดื่มของสามชุก ขวดสวยดีค่ะ ทานเสร็จเก็บขวดกับบ้านด้วย ชอบ



แต่เนื่องด้วยอากาศร้อนมากๆค่ะ ก็เลยสั่งน้ำอัดลมมาทาน นี่เป็นเครื่องกดของเค้าค่ะ(แบบขวดไม่มี) ได้อารมณ์เหมือนตอนเรียนประถมเลยค่ะ แบบน้ำอัดลมอัดแก๊สชอบค่ะ หวานดี



ทานเสร็จอิ่มพอประมาณ 555+ ก็เดินออกมาต่อค่ะ มุ่งหน้าไปป้ายทางเข้าสามชุก เจอร้านนี้ น่ากินจังค่ะ



อันนี้ก็น่าทานดูพ.ศ. สิค่ะ ตั้งแต่เรายังไม่เกิด



มาถึงแล้วค่ะป้ายสามชุก หน้าตลาด ต้องถ่ายมุมเสยค่ะ อารมณ์เดียวกับ primo เลย แต่พอนึกถึงตอนไป primo ที่นั่นจิ๊บๆ เลยค่ะ ที่นี่วันที่เราไปคนเยอะมากๆ แต่ถ้าไปวันธรรมดาคนคงโล่งกว่านี้เยอะละค่ะ



ตรงนี้มีที่นั่งรอด้วยค่ะ คนนั่งรอกันเพียบ แถมมีไปรษณีย์ด้วยนะคะ ส่งโปสการ์ดได้ที่นี่เลย



ไปรษณีย์อยู่ตรงปลายสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนค่ะ



แฟนเดินขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพาน ส่วนเราก็นั่งเขียนโปสการ์ดอยู่ รู้สึกเค้าจะมีบริการเรือชมแม่น้ำท่าจีนด้วยนะคะ



ตอนเที่ยงมีน้องๆมาเล่นดนตรีไทยริมน้ำให้ฟังด้วยค่ะ



เดินไปเจอพิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์เลยแวะเข้าไปค่ะ น้องเสื้อชมพู(น่ารักมากๆ) เป็นมักคุเทศก์ คอยแนะนำเกี๋ยวกับสามชุกค่ะ แนะนำพาเราเดินชมบ้าน แล้วยังถ่ายรูปคู่ให้เราอีก ก่อนเราออกก็ยังพูดขอบคุณไม่รู้กี่รอบน่ารักค่ะ



อันนี้เป็นตู้เย็นเก่า 80 ปี ค่ะ



เดินถัดไปหน่อยก็เป็นบ้านโค๊กค่ะ ที่นี่เก็บค่าเข้าคนละ 5 บาท มีสองชั้นนะคะ เค้าจำกัดจำนวนคนเข้าแต่ละครั้งด้วยค่ะ



เข้าไปในบ้านโค๊กแต่ดันอยากกินเป๊ปซี่ซะงั้นเรา 555+



มีของที่ระลึกขายด้วยค่ะ อันนี้ที่เราซื้อมา



บ้านเถ้าแก่เซ็งค่ะ ตรงนี้เป็นที่ที่ขายของที่ระลึกของตลาดราคาไม่แพงเลยค่ะ อย่างเสื้อยีดและโปโลก็ตัวละแค่ 150 บาทเท่านั้นเอง ที่สำคัญมีไซส์ใหญ่มากๆด้วย แฟนเราเลยซื้อมา 2 ตัวค่ะ



โรงแรมอุดมโชคค่ะ เป็นโรงแรมเก่าแห่งแรกของที่นี่ ตอนนี้ข้างล่างเป็นร้านกาแฟส่วนข้างบนจะเป็นโรงหนังที่ฉายหนังเก่าค่ะ ตอนนี้ปิดปรับปรุงข้างบนอยู่ค่ะ



ผ่านร้านนี้ค่ะเป็นร้านขายของเล่นแบบเก่าๆ ค่ะ เค้าจะให้หยิบตะกร้าแล้วก็เอาของเล่นใส่ตะกร้าได้เลยค่ะราคาไม่แพงแต่ไม่ได้ซื้ออะไรมาค่ะ



ผ่านร้านนี้ค่ะ ร้านศิลป์ธรรมชาติ เป็นร้านที่ถ่ายรูปโบราณย้อนยุคค่ะ แฟนถามอยากถ่ายหรือเปล่าแต่พอดูคนรอในร้านแล้วไม่เอาดีกว่าค่ะ ภาพนี้แฟนพยายามจะใส่ลายน้ำ ใส่ยังไงก็ใส่ไม่ได้ค่ะ เลยตัดสินใจไม่ใส่ดีกว่าทั้งที่ภาพอื่นก็ใส่ได้ไม่มีปัญหาทั้งหมดค่ะ .



ผ่านร้านนี้แวะทานซะหน่อยค่ะ เป็นน้ำอัดลมโบราณ มีหลายรสหลายกลิ่นให้เลือก



เราสั่งน้ำลิ้นจี่ กับน้ำเบียร์หวานค่ะ อร่อยดี เบียร์หวานนี่กลิ่นเหมือนเบียร์เลยค่ะรสชาติก็คล้ายๆแต่ออกแนวหวาน ถามน้องคนขายเค้าบอกว่าใส่กลิ่นเบียร์ค่ะ แต่ไม่มีแอลกอฮอร์นะคะ อร่อยดีค่ะ อยากทานอีก



ปิดท้ายก่อนกลับด้วยภาพนี้กันซะหน่อยค่ะ คนที่ตลาดเยอะจริงๆค่ะ ถ้าไปอีกครั้งคงไปในวันอื่นๆละค่ะ



ส่วนมาสามชุกเราไม่พลาดนี่แน่ค่ะ ข้าวห่อใบบัว จริงๆเจ้ายอดฮิตน่าจะเป็นตรงลงแม่น้ำท่าจีนมาใช่เปล่า แต่เราซื้อตรงซอย 4 ค่ะ ซื้อกลับมาที่บ้านไม่ค่อยร้อนแล้ว แต่ก็โอเคนะคะ รสชาติเหมือนข้าวผัด



ส่วนอันนี้ของแฟนค่ะ ไม่ได้ชิม ข้าวหลามแตกมัน



จบแล้วค่ะทริปสุพรรณ สามชุกของเรา คงมีโอกาสได้ไปอีกแน่นอนค่ะ เพราะไม่ไกลเท่าไหร่และจะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมญาติๆที่ต่างจังหวัดด้วย ภาพเยอะหน่อยนะคะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมค่ะ

Create Date : 07 มกราคม 2553 Last Update : 8 มกราคม 2553 15:09:22 น. Counter : 4779 Pageviews.		44 comments
Share Tweet