เมษายน 2558

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
 
 
2 : คำขอร้อง
เมฆร้อยกล ฝนซ่อนเล่ห์

2

คำขอร้อง

เมฆมงคลก้าวลงจากรถเบ็นซ์ซึ่งจอดเทียบประตูทางเข้าคอนโดมิเนียมเขาเดินอ้อมรถไปยังฝั่งคนขับซึ่งเลื่อนกระจกรถรออยู่แล้ว

“ขอบใจมากเพื่อนที่มาส่ง ว่างๆอย่าลืมไปเที่ยวนาข้าวฉันนะ” เมฆมงคลบอกยิ้มๆ

“เอาจริงดิ?แกไม่ได้พูดเล่นเหรอวะ?” มหรรณพเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ

“วะ! แกเห็นฉันพูดเล่นหรือไงเนี่ยสี่ห้าปีที่หายไปก็ไปเป็นชาวนามาเว้ย...ถ้าอยากรู้ว่าจริงหรือเปล่าแกก็ไปหาฉันที่บ้านพิสูจน์กับตาเลย เดี๋ยวจะหาว่าฉันโม้!”เขาท้าทาย

“เออๆ เดี๋ยวว่างๆจะไปดูเป็นบุญตาสักวัน” มหรรณพว่าพลางพยักหน้าก่อนยกมือโบกลาและพารถเคลื่อนออกไป

เมฆมงคลมองส่งจนรถเพื่อนลับหายไปจากสายตารอยยิ้มยังเจือบนเรียวปาก ดวงตายังเปล่งประกายวาววามเพียงแต่ไม่ใช่ด้วยความสนุกสนานเหมือนก่อนหน้านั้นสีหน้าของชายหนุ่มตอนนี้เต็มไปด้วยแววเยาะหยัน รอยยิ้มก็เต็มไปด้วยแววเย้าเย้ยเขาหมุนตัวเดินเข้าไปในคอนโด เรียกลิฟต์และกดชั้นที่ต้องการ

เมื่อถึงห้องแล้วชายหนุ่มก็แกะผ้าขาวม้าออกจากเอวคลี่อย่างถนอมวางพาดบนพนักเก้าอี้ก่อนถอดเสื้อม่อฮ่อม...ถอดกางเกง...

อะแฮ่ม!...คนอ่านอย่าเพิ่งจินตนาการ...กลับมาก่อน...เอาล่ะ...

เมฆมงคลหยิบผ้าขาวม้ามาพันนุ่งแทนกางเกงชายหนุ่มเดินไปยังห้องน้ำ เปิดน้ำวักล้างหน้าเพื่อคลายเมื่อยล้าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เขาต้องใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้าหนักกว่าทุกวันหลังจากใช้ผ้าขนหนูซับหยดน้ำที่หลงเหลือตามผิวหน้าและเรียวหนวดชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเงาสะท้อนในกระจกภวังค์คิดกลับนึกย้อนไปยังเหตุการณ์หลังจากที่เขาประกาศก้องถึงอาชีพของตัวเอง

‘จริงเหรอ? ชาวนาเนี่ยนะ?’

‘อย่ามาโม้ สะโอดสะองลูกคุณหนูอย่างนายนี่นะ จะทำงานคลุกดินคลุกโคลนได้?’มหรรณพเอ่ยอย่างไม่เชื่อ

‘ใช่ๆ ใครจะเชื่อ อดีตดาวคณะหล่อสาวแห่กรี๊ดแถมเรียนจบมีหน้าที่การงานดีถึงขั้นเปิดบริษัทเป็นของตัวเองเนี่ยนะจะผันตัวไปเป็นชาวนา?’ อีกเสียงสนับสนุน

‘เรียนมาตั้งสูงไปทำนา คิดยังไงกัน ทำนาไม่เห็นจะรวยเลยแถมลำบากมากๆ ด้วย’

‘ร้อยไม่เชื่อ พันไม่เชื่อ...ล้านก็ไม่เชื่อ

ฯลฯ

สรุปโดยสายตาร้อยเปอร์เซ็นต์ของคนในงานล้วนไม่เชื่อคำพูดเขา!คิดมาถึงตรงนี้เมฆมงคลก็อดหัวเราะไม่ได้...ความคิดของคนนี่มันหลากหลายดีจริงๆชายหนุ่มมองเงาสะท้อนในกระจกอีกครั้ง หนวดเครารุงรังบดบังหน้าตาไปเสียครึ่งเขาใช้เวลาในการปล่อยหนวดให้ยาวโดยไม่ใส่ใจพักใหญ่ เพื่อดูปฏิกิริยาของคนรอบข้างและมีจุดประสงค์หลักคือการปรากฏตัวในงานคืนนี้โดยเฉพาะสายตาของคนในงานที่มองมายังรูปลักษณ์ภายนอกของเขาประสบความสำเร็จสำหรับเขาเป็นที่สุดคิดพลางส่งยิ้มให้เงาในกระจกก่อนจะหยิบอุปกรณ์สำหรับการโกนหนวดออกมาจัดการกำจัด ‘เปลือก’ บนใบหน้าออก

หลังจากโกนหนวด อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนชุดเตรียมเข้านอน เมฆมงคลหยิบโทรศัพท์มือถือซึ่งเขาไม่ได้พกติดตัวไปงานด้วยความตั้งใจคือปิดโทรศัพท์ก่อนนอนแต่ข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดกลับทำให้เขาผุดลุกขึ้นนั่งก่อนเหลือบดูเวลาเทียบระหว่างตอนส่งกับเวลาปัจจุบันแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงเนื่องจากช่วงเวลาห่างกันหลายชั่วโมงชายหนุ่มกดเข้าไปดูข้อความในโปรแกรมยอดส่งข้อความยอดนิยม

‘เมฆ ถ้าว่างโทรหาลุงด้วยนะ ลุงมีธุระสำคัญมากอยากให้เมฆช่วย’

นาฬิกาบอกเวลาสองนาฬิกาของวันใหม่แล้วเมฆมงคลได้แต่ถอนหายใจ ให้ถึงเวลาปกติของการใช้ชีวิตแล้วเขาจะโทรศัพท์ไปหาคนส่งข้อความแน่นอนชายหนุ่มให้คำมั่นกับตัวเอง ออกจากโปรแกรมได้เขาก็กดเข้าโปรแกรมเฟสบุ้คก่อนหน้านั้นเพจรวมรุ่นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นกับการตกลงมาร่วมงานเลี้ยงรุ่นของเขาเมื่องานจบไปแล้วทั้งหน้าเพจก็ยังคงอุดมไปด้วยเรื่องราวของเขาแถมยังมีรูประกอบด้วย...เพียงแต่ว่าความตื่นเต้นเปลี่ยนเรื่อง

เมฆมงคลได้แต่ยิ้มหยันกับข้อความเหล่านั้นแม้เขาไม่ใช่คนละเอียดอ่อนนักแต่ก็จับใจความในคำพิมพ์เหล่านั้นได้ว่าเจือไปด้วยแววดูแคลนชายหนุ่มกดปิดโทรศัพท์มือถือวางไว้บนหัวเตียงอย่างไม่ใส่ใจปิดไฟและหลับตา...มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ แรกเริ่มล้วนมองที่เปลือก แล้วเวลาจะเป็นตัวเลือกว่าใครจะข้ามเปลือกมาพบเนื้อแท้...เขาเองก็เคยเป็นหัวเราะเบาๆ ก่อนก้าวสู่ห้วงนิทรา

ชายหนุ่มที่กำลังนั่งจิบกาแฟก่อนใช้นิ้วจิ้มหน้าจอมแทบเล็ตอยู่นั้นหากมีคนในงานเลี้ยงรุ่นเมื่อคืนนี้มาพบเข้าก็คงจำไม่ได้ไม่ใช่เพียงแค่หนวดเคราที่หายไปแล้วทำให้หน้ามหาโจรเปลี่ยนเป็นผู้เป็นคนขึ้นเท่านั้นผมยาวกระเซอะกระเซิงเหมือนไม่ได้สระถูกจับมัดลวกๆ เมื่อคืนแม้ตอนนี้จะมัดแบบขอไปทีแต่ผ่านการสระสะอาดและผ่านหวีบ้างแล้วชุดคอสเพลย์ชาวนาเมื่อคืนถูกถอดพับเก็บลงกระเป๋าเดินทางเขาเลือกหยิบเอาชุดที่ใส่ประจำออกมาสวมใส่ เสื้อยืดสีเข้ม กางเกงยีนส์เก่าซีดรองเท้าผ้าใบพร้อมลุยงานเป็นสไตล์ที่เมฆมงคลพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่าไม่เคยตกยุค

หลังจากตื่นนอนเมื่อเช้า เมฆมงคลจึงโทรศัพท์ไปหาคนที่ส่งข้อความมาหาเขาเมื่อคืนครั้นคนปลายสายรู้ว่าเขาอยู่เมืองหลวงอยู่แล้วก็แสดงความยินดีและนัดแนะเพื่อพบปะพูดคุยธุระสำคัญร้านกาแฟร้านเล็กๆหัวมุมถนนที่ทั้งเขาและคนนัดรู้จักดีจึงเป็นจุดนัดพบของเขาวันนี้ชายหนุ่มเลือกตะติดกระจกที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพนอกร้านซึ่งทางร้านจัดสวนหย่อมเล็กๆพอให้ลูกค้าสบายตายามจิบกาแฟ

เมฆมงคลมาก่อนเวลานัดพอสมควร เขาสั่งกาแฟและขนมปังปิ้งมารับประทานระหว่างรอไม่ลืมหยิบแท็บเล็ตมาดูความเคลื่อนไหวของแปลงนาซึ่งจะมีรายงานสถานการณ์ที่น่าสนใจจากคนงานส่งผ่านทั้งโปรแกรมสนทนาและเฟสบุ้คเป็นระยะเทคโนโลยีทันสมัยในปัจจุบันเขาไม่ลืมนำมันมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดสำหรับงานเขา

แม้นานๆ ครั้งเขาจะเงยหน้าจากจอแท็บเล็ตแต่ก็พอจับสังเกตได้ว่า มีสายตาหญิงสาวทั้งในร้านและที่เดินผ่านไปมองเขาอย่างสนใจชายหนุ่มอมยิ้มกับจอแท็บเล็ต...อย่างน้อยก็รู้สึกพอใจกับเสน่ห์ที่หลงเหลือของตัวเองเขาคิดขำๆ

“แทบจำไม่ได้แน่ะเมฆ!”เสียงทักทายกลั้วยิ้มฉุดเมฆมงคลจากภวังค์คิดเขาเงยหน้าจากจอแท็บเล็ตพร้อมผุดลุกขึ้นยกมือไหว้ทันทีที่เห็นว่าเป็นใคร

ผู้มาใหม่คือชายสูงวัยร่างท้วมดูภูมิฐานใบหน้าเกลื่อนยิ้มดั่งคนอารมณ์ดีเป็นนิจเสื้อเชิ้ตลายดอกสีสดใสเข้ากับบรรยากาศฤดูร้อนของประเทศไทยเป็นอย่างดี

“เป็นไงบ้างหลานชาย” ผู้สูงวัยเอ่ยถามหลักยกมือรับไหว้ชายหนุ่มตบไหล่หนาเบาๆ พลางชี้เชิญกันให้นั่ง

“สบายดีตามอัตภาพครับ คุณลุงล่ะครับไม่ได้เจอกันนานแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ?” เมฆมงคลถามกลับก่อนเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่มที่เขาจำได้ว่าผู้สูงวัยชื่นชอบ

“สบายดีตามสภาพคนแก่แหละเมฆเอ๊ย” ไทรทองเอ่ยยิ้มๆเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจเบาๆ เมฆมงคลมองใบหน้าของผู้มีพระคุณคนที่เปิดดวงตามองโลกความจริง มอบโอกาสดีๆ ให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เขาไม่ลังเลใจเลยที่จะบอกว่า เขาสามารถเรียกชายตรงหน้าว่า ‘พ่อ’ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

“พักนี้ผมไม่ค่อยได้โทรไปหาคุณลุงเลย ต้องขอโทษด้วยนะครับ”เขาบอกเสียงเกรงใจ

“ไม่เป็นไรๆลุงเข้าใจว่าเมฆกำลังยุ่งกับการขยายพื้นที่ทำนา ลุงก็โทรไปคุยกับพ่อของเมฆบ่อยๆรายนั้นก็บ่นว่าเมฆไม่ค่อยกลับบ้านกลับช่อง ขลุกอยู่แต่ปลายนา”

“มันสะดวกกับการทำงานมากกว่าครับคุณลุง พ่อเองแค่ยุ่งวุ่นวายเรื่องนายสองตัวนั่นก็ปวดหัวพอแล้วเกิดผมเอาความเหนื่อยไปทับถมอีกจะพาลแย่กันไปหมด”เมฆมงคลหมายความถึงน้องชายต่างมารดาอีกสองคนซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียนกำลังคึกคะนองขยันหาเรื่องชวนปวดหัวมาให้เมืองผู้เป็นพ่อเสมอ

“ก็จริงของเมฆนะ แต่พักหลังมานี่ดูเขาชื่นชมเมฆมากนะเวลาเข้าวงสนทนากันนี่คุยเรื่องเมฆทับถมลูกชาวบ้านเรื่อยเลย”ไทรทองว่ากลั้วหัวเราะ

“ทีตอนผมบอกว่าจะทำนาค้านผมหัวชนฝาเลย” เมฆมงคลเอ่ยยิ้มๆแม้ไม่บอกแต่ผู้สูงวัยก็ดูออกว่าชายหนุ่มเองก็ภูมิใจอยู่ไม่น้อยที่รู้ว่าตัวเองถูกหยิบยกเรื่องดีขึ้นมาเอ่ยอ้าง

“เมฆก็ต้องเข้าใจพ่อเขา เขาเคยเป็นชาวนาเคยทำนาลำบากมาก่อนสมัยพ่อของเมฆทำนาน่ะเครื่องไม้เครื่องมือเทคโนโลยีมันก็ไม่ทันสมัยเหมือนยุคนี้เขากลัวเมฆลำบากเหมือนเขาไง” ไทรทองให้เหตุผล “พ่อของเมฆก็เป็นแบบนี้แหละหัวดื้อมาตั้งแต่หนุ่มยันแก่ฝังใจเชื่อเรื่องอะไรแล้วไม่ค่อยจะเปลี่ยนความคิดง่ายๆต้องทำให้ดูเหมือนที่เมฆเองก็ดื้อพิสูจน์ด้วยการลงมือทำจนพ่อเขาเห็น”เมฆมงคลไม่เอ่ยคำใดคล้ายยอมรับคำกล่าวนั้นอยู่ในที

ความคิดของเมฆมงคลวิ่งย้อนกลับไปวันที่เขาท้อแท้เพราะทุกปัญหารอบด้านรุมเร้าตัวเขาเองหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ได้แต่หมกตัวอยู่ในห้องคอนโดกระทั่งไทรทองผู้เป็นเพื่อนสนิทร่วมหัวจมท้ายมากับเมืองถูกไหว้วานให้แวะมาดูแลถามไถ่เหตุเพราะเมืองต้องไปดูแลลูกอีกคนซึ่งประสบอุบัติเหตุอยู่ต่างประเทศหลังจากเปิดอกพูดคุยกันอยู่หลายวัน ข้อคิดจากผู้สูงวัยก็เริ่มกระตุ้นให้เขาตื่นขึ้นมาพบกับความหวังของชีวิตครั้งใหม่มุมมองต่อการดำเนินชีวิตจากความพลั้งผิดในอดีตก็เปลี่ยนไปไทรทองชี้ให้เขาเห็นความสุขที่ซ่อนอยู่ในความทุกข์ เมื่อฉุกคิดเมฆมงคลจึงเดินทางกลับบ้านเกิดไปทบทวน และมองอนาคต

บ้านเกิดของเมฆมงคลอยู่จังหวัดในภาคกลางไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก บ้านของเขาอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร อากาศดีอาชีพหลักของคนในจังหวัดส่วนใหญ่คือทำการเกษตร บ้างทำสวน บ้างทำไร่แต่ส่วนใหญ่ทำนา ช่วงเวลาที่เมฆมงคลไปอยู่บ้านนั้นคือช่วงแห่งการไถ หว่าน ปักดำเขาค้นพบว่ากลิ่นดินโคลน กลิ่นน้ำ กลิ่นใบข้าวกล้า

เสียงพูดคุยของชาวบ้านยามกลับจากนาเสียงเครื่องยนต์ของรถไถนา...ทำให้เขารู้สึกสงบได้อย่างประหลาดภาพความเปลี่ยนแปลงของแปลงนารอบบ้านที่เริ่มจากผืนดินปริ่มน้ำสีโคลนกระดำกระด่างก่อนมีต้นข้าวบ้างถูกปักดำ บ้างถูกหว่านน้ำตมเริ่มขึ้นต้นเขียว ทุ่งนาสีดินโคลนเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนสุดลูกหูลูกตาเมฆมงคลพบว่ามันคือความสงบสุขที่จะช่วยเติมเต็มและหล่อเลี้ยงชีวิตเขาต่อไป

ความรู้สึกวัยเด็กหวนกลับมาสู่เมฆมงคลอีกครั้งเขาจำได้ว่าในตอนนั้นเมืองผู้เป็นพ่อเปลี่ยนจากคนทำนามาเป็น ‘นายทุน’ เลิกลงมือทำเอง แต่ใช้วิธีจ้างคนงานมีทั้งแบบประจำและชั่วคราวที่นาหลายสิบไร่ที่พ่อเขามีเป็นทุนเดิมเมื่อรวมกับที่นาของแม่ก็ร่วมร้อยไร่เท่านั้นยังไม่พอเมืองยังเก็บหอมรอมริบซื้อที่จากเพื่อนบ้านที่ย้ายไปตั้งรกรากที่อื่นท้ายสุดพ่อเขาก็กลายเป็นเจ้าของที่นาผืนใหญ่ที่สุดในตำบล

เมืองเป็นนายทุนในการทำนาไม่นานเขาก็เริ่มปล่อยที่นาให้เช่านั่นเพราะเขาค้นพบธุรกิจใหม่คือการทำฟาร์มวัวนมในตอนแรกเขาตั้งใจเปลี่ยนที่นาบางส่วนเป็นฟาร์มแต่แล้วก็เกิดเปลี่ยนใจหอบเงินไปลงทุนที่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งนั่นทำให้เมืองต้องเดินทางไปกลับระหว่างฟาร์มและบ้านจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่แตกร้าวของเมืองกับนภาแม่ของเมฆมงคลก็เริ่มขึ้นทั้งคู่เริ่มระหองระแหงเพราะความระแวง เมืองเริ่มไม่กลับบ้านนภาเริ่มตรอมใจจนโรครุมเร้าและจากเมฆมงคลไปเมื่อเขามีอายุเพียงสิบขวบปีต่อมาเมืองก็แต่งงานใหม่โดยอ้างว่าเพื่อหาคนดูแลลูก

มิ่งขวัญคือแม่ใหม่ของเมฆมงคลเป็นลูกสาวเจ้าของฟาร์มวัวนมใกล้กับฟาร์มของเมือง สองปีต่อมาเมฆมงคลก็ได้น้องชายก่อนหน้านั้นแม่เลี้ยงของเขาดูแลค่อนข้างดีเมฆมงคลจึงไม่ได้ออกฤทธิ์ออกเดชอะไรมากนักแต่เมื่อมีน้องเขาก็ถูกละเลยความสนใจกอปรกับเขาเริ่มย่างเข้าสู่วัยรุ่นจึงก่อเรื่องเพื่อเรียกร้องความสนใจเป็นระยะเมืองจึงตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการส่งเขาไปอยู่โรงเรียนประจำ

เมื่อจบมัธยมต้นเมฆมงคลจึงได้เอ่ยปากขอเมืองเข้ามาเรียนเมืองหลวงซึ่งได้รับการอนุมัติโดยดีเพราะช่วงนั้นน้องชายคนที่สองของเขาเพิ่งลืมตาดูโลก...ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อจึงค่อนข้างห่างเหินเมื่อมีปัญหาเขาเลือกที่จะเก็บไว้กับตัวเองมากกว่าเล่าให้ใครฟังไทรทองก้าวเข้ามาในช่วงเวลาที่เขาต้องการใครสักคนแถมดูแลห่วงใยชนิดที่เขาไม่ค่อยได้รับจากพ่อแท้ๆเขาจึงไว้เนื้อเชื่อใจและให้ความเคารพนับถือสุดชีวิต

“แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ หลังจากขยายพื้นที่ทำนาแล้ว?” คำถามของไทรทองดึงภวังค์คิดของเมฆมงคลกลับมาสู่ปัจจุบัน

“ผมจะทดลองทำนาข้าวต้นเดียวครับ ตอนนี้ปรุงดินอยู่พอดีไปอ่านเจอในอินเตอร์เน็ตน่าสนใจดีผมเลยว่าจะลองครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ “ส่วนที่ทำไว้กลับไปนี่สักสองอาทิตย์ก็เกี่ยวได้แล้วครับคงได้เงินคืนคุณลุงอีกก้อน”

“ลุงบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องรีบคืนเก็บไว้ทำทุนแล้วค่อยคืนทีเดียวก็ได้” ไทรทองบอกพลางถอนหายใจ

“ไม่ได้หรอกครับคุณลุง เดี๋ยวผมจะผิดวินับตัวเองครับ”เมฆมงคลบอกจริงจังผู้สูงวัยกว่าได้แต่ถอนหายใจพลางส่ายหน้าอย่างระอากับความรั้นของเขากระนั้นก็มีรอยพึงใจเจือในสีหน้า

“ไอ้เรามันก็ดื้อรั้นอย่างนี้ละน้า”คำพูดนั้นเต็มไปด้วยรอยเอื้อเอ็นดู

“ยอมผมเรื่องนี้เถอะครับคุณลุงแค่คุณลุงยอมให้ผมกู้เงินมาลงทุนยอมโดนพ่อผมงอนเพราะโดนหักหน้าจนเกือบเสียเพื่อนที่คบกันมาหลายสิบปีเพราะผมนี่ก็เป็นพระคุณที่สุดแล้วครับ”เมฆมงคลเอ่ยเท้าความ

แรกเริ่มที่เขาตัดสินใจเป็นมั่นเหมาะว่าจะเริ่มต้นงานใหม่คือการทำนาเมืองผู้เป็นพ่อคัดค้านชนิดหัวชนฝาโดยอ้างเหตุผลถึงความลำบาก ไทรทองอยู่ร่วมเหตุการณ์ปะทะครั้งนั้นจึงกลายเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยรอบแรกเมฆมงคลพ่ายแพ้ย่อยยับ แต่เขาก็ไม่ย่อท้อตั้งหน้าตั้งตาตื้อเรื่อยไปหลายวันเข้าเขาก็ยกเรื่องแม่ขึ้นมาอ้าง พูดตัดพ้อจนผู้เป็นพ่อรู้สึกผิดกับการจากไปของภรรยาเก่ากอปรกับมีไทรทองคอยเป็นคนสนับสนุนเขาจึงได้ที่นาส่วนของแม่เป็นที่ทำทุน

แต่ก็ได้เพียงเท่านั้นเพราะเมืองที่ทุ่มเทเงินทองแม้เขาจะไม่ขอมาโดยตลอดกลับไม่ยอมให้กู้เงินเพื่อทำทุนครั้งนี้หัวเด็ดตีนขาดเมืองก็ไม่ยอม ไทรทองจึงช่วยตัดไฟโทสะซึ่งเริ่มเห็นรางๆจากเมฆมงคลด้วยการเอ่ยให้กู้ยืมเงินก้อนใหญ่ เขาจึงได้เริ่มทำนาจริงจังล้มลุกคลุกคลานกับการเป็นมือใหม่อยู่หลายปีกว่าจะเริ่มมีเงินก้อนมาคืนไทรทองได้ คนให้ยืมนอกจากจะไม่ทวงแถมยังไม่ยอมทำสัญญากู้ยืมนั่นยิ่งทำให้ความนับถือและความเกรงใจเพิ่มพูนทบทวี

“เอาเถอะๆ จะอย่างไรก็ตามใจแต่เหลือเงินติดก้นถุงไว้เยอะหน่อยก็ดีนะ...ลุงขอเตือน” ท้ายประโยคไทรทองเอ่ยกลั้วยิ้ม

“ผมตัวคนเดียว ยังไม่มีธุระจำเป็นต้องใช้อะไรหรอกครับแนวโน้มเรื่องต้นทุนก็คำนวณไว้แล้วกันส่วนทุนสำรองไว้แล้ว...ห่วงผมก็มีแค่นี้เองครับ” เมฆมงคลบอกยิ้มๆ

“เออ...พูดถึงห่างก็ดีแล้ว...ไม่คิดจะแต่งการแต่งงานบ้างหรือไงเราน่ะมองๆ ใครไว้บ้างไหม?” ไทรทองเอ่ยถามสีหน้ารอคอยคำตอบจริงจังจนเมฆมงคลอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้

“ผมไม่เหมาะกับการมีครอบครัวหรอกครับ”ชายหนุ่มตอบเสียงหนัก ประกายตายามเอ่ยถึงเรื่องการมีครอบครัวเจ็บปวดลึกล้ำ

“บางครั้งเรื่องแบบนี้มันก็ไม่ได้ขึ้นกับความเหมาะไม่เหมาะหรอกนะเมฆ...อาจจำเป็นต้องมีเพราะความจำเป็นภาวะจำยอม หรือเพื่อหน้าตาในสังคมก็ได้” ไทรทองจริงจังทั้งน้ำเสียงและสีหน้ากิริยานั้นทำให้เมฆมงคลเอะใจหรี่ตามองคนพูดอย่างจับสังเกต “คนเป็นพ่อเป็นแม่แม้ปากจะบอกว่าไม่สนใจแต่ก็ไม่สามารถทำอย่างที่พูดได้หรอกได้รักได้เลี้ยงดูแลมาแต่เล็กแต่น้อย ต่อให้ลูกทำผิดมากแค่ไหนโกรธแค่ไหนก็ตัดทิ้งไม่ได้ ยิ่งเห็นลูกหลานโดเดี่ยวไร้คนดูแล...ยิ่งเห็นลูกมีปัญหาเป็นทุกข์พ่ออย่างลุงก็ทนไม่ได้” ท้ายประโยคเสียงอ่อนใจ สีหน้าพลันสลดวูบลงจนเมฆมงคลอดไม่ได้

“คุณลุง...มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ...บอกผมได้นะครับถ้าช่วยได้ผมยินดี”ไทรทองเงยหน้ามองคนพูดทันทีที่ฟังจบ แววตาเปี่ยมหวังแม้สีหน้ายังดูหมอง

“ลุงเคยเล่าให้เมฆฟังว่ามีลูกสาวอยู่คนเดียวแม่ตายตั้งแต่ยังเล็กจำได้ไหม?” ผู้สูงวัยเกริ่นนำ เมฆมงคลพยักหน้ารับ

“จำได้ครับ คุณลุงเคยให้ดูรูปที่พกติดกระเป๋าสตางค์รู้สึกจะเป็นรูปสมัยมัธยมต้นมั้งครับ คุณลุงยังเปรยๆว่าอยากพามาขอคำแนะนำจากผมตอนน้องจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่ก็ไม่ได้เจอกันเพราะผมยุ่งกับธุรกิจ”

“นั่นแหละๆ ยัยตัวแสบยัยตัวยุ่งของลุงนั่นแหละ...ตอนเด็กๆลุงก็เห็นว่าขาดแม่ เป็นห่วงความรู้สึกลูกก็เลยไม่แต่งงานใหม่กลัวลูกขาดความอบอุ่นก็เลยรักเลยโอ๋มากไปหน่อย...ลูกสาวลุงเลยโตมาแบบ...เอาแต่ใจยิ่งโตยิ่งหนักข้อ...จนลุงอ่อนใจ...แล้ว...เอ่อ...ล่าสุดนี่...ก็...” ไทรทองตะกุกตะกักเหลือบตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างกระอักกระอ่วน เมฆมงคลจึงเอ่ยอย่างจริงใจ

“คุณลุงมีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยก็บอกมาเถอะครับ ผมยินดี”

“จริงๆ นะเมฆ...ลุงมองไม่เห็นใครที่พอจะไว้ใจได้อีกแล้ว จึงแบกหน้าเอาความอายมาขายเมฆนี่แหละ”ไทรทองเอ่ยเสียงหม่น “ถ้าเมฆไม่ช่วย...ลุงก็ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว”เสียงสั่นเครือในประโยคลงท้ายทำให้เมฆมงคลขยับตัวนั่งหลังตรง เอ่ยคำรับรองหนักแน่นที่สุดเท่าที่เขาเคยเอ่ยมา...และเป็นคำที่หนักหนาสาหัสที่สุดในชีวิตของเขา

“ผมช่วยเต็มที่ครับลุงไทร บอกมาเลยครับผมยินดี” แววลิงโลดยินดี ฉาบทาทั้งสีหน้าแววตาของผู้สูงวัย มือยื่นมากุมไหล่หนาของชายหนุ่มคล้ายดั่งรอคำนี้มานานหนักหนา

“ขอบใจมากเมฆ...ขอบใจที่รับปาก!” เมฆมงคลพยักหน้าพลางยิ้มรับ...ก่อนรอยยิ้มของเขาจะชะงักค้างเมื่อได้ยินคำขอร้อง

“ช่วยแต่งงานกับลูกสาวลุงหน่อยนะเมฆ!”

จบตอน คำขอร้อง

หลังฉาก #2

เมฆ : ป้า เอ๊ย พี่! ทำไมทำกับผมอย่างเน้!

รัมย์ : เป็นพระเอกพี่ต้องอดทนน้อง

เมฆ : ต้นตอนนึกดีใจว่าพอมีมาดพระเอกแล้วเชียว!

รัมย์ : เป็นพระเอกพี่ต้องอดทนน้อง

เมฆ : มีสาวหันมองด้วยอย่างชอบ!

รัมย์ : เป็นพระเอกพี่ต้องอดทนน้อง

เมฆ : แล้วดูประวัติชีวิตผมเด้! ทำไมมันรันทดอย่างน้านนนนน !!

รัมย์ : เป็นพระเอกพี่ต้องอดทนน้อง

เมฆ : แถมยังจบได้หดหู่คนโสดอย่างผมมาก...ผมขอยกเลิกการเป็นพระเอกพี่ได้มะ?ไปอัญเชิญไอ้หรรมาเลย ผมยินดีหลีกทาง!!

รัมย์ : เป็นพระเอกพี่ต้องอดทนน้อง...ได้หลวมตัวมาแล้วออกยากจนกว่าจะจบแหละ...หยุด! ห้ามมีปัญหา! ก้มหน้าก้มตาท่องบทตอนต่อไปไป๊!!!!

เมฆ : ..........

.....

รัมย์ : คุณคนอ่าน...เค้ามาช้า...เค้าขอโทษ...งุงิงุงิ>< เค้าขอตัวไปแต่งตัวก่อนนะ ฉากหน้าต้องออกแระเฟี้ยววววววววววว




Create Date : 29 เมษายน 2558
Last Update : 29 เมษายน 2558 23:49:09 น.
Counter : 2743 Pageviews.

2 comments
  
ขอเรียน: เรามีทุกประเภทของเงินให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยที่ 3% กรุณา
ส่งอีเมลถึงเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้วันนี้ถ้าสนใจ เรามีเงินให้สินเชื่อ
ผู้ประกันตนได้ดีสำหรับการรักษาความปลอดภัยสูงสุดที่มีความสำคัญและ 100% ถูกต้องตามกฎหมายของเรา
และเรามีการลงทะเบียนกันอีเมล์: raphealjefferyfinance@gmail.com
ชื่อ:
ที่อยู่:
ประเทศ:
หมายเลขโทรศัพท์:
จํานวนเงินที่จำเป็น:
ระยะเวลา:
อายุ:
เพศ:
ซีอีโอ / อีเมล์: raphealjefferyfinance@gmail.com
ขอแสดงความนับถือ
คุณชาย Rapheal
โดย: Mr.Rapheal IP: 192.99.14.34 วันที่: 4 สิงหาคม 2558 เวลา:7:23:58 น.
  
Are you an individual businessman or a business organisation that wishes to expand in business ??, we offer financial instrument such as BGs, SBLCs,MTNs, LCs, CDs and others on lease and sales at a rate of 4%+2% of the face value and reasonable condition from a genuine provider. You are at liberty to engage our leased facilities into trade programs as well as in signatory project(s) such as Aviation, Agriculture, Petroleum, Telecommunication and any other project(s) etc.

Contact : Mr. Richard Chadwich
Contact Email: ribellodasilver01.finance@gmail.com
Whatsapp # : +380 50 591 6795


With our financial/bank instrument you can establish line of credit with your bank and/or secure loan for your projects in which our bank instrument will serve collateral in your bank to fund your project.

We deliver with time and precision as set forth in the agreement. Our terms and Conditions are reasonable and we work directly with issuing bank lease providers, this instrument can be monetized on your behalf for upto 100% funding. Intermediaries/Consultants/Brokers are welcome to bring their clients and are 100% protected. In complete confidence, we will work together for the benefits of all parties involved.

All relevant business information will be provided upon request.

BROKERS ARE WELCOME & 100% PROTECTED!!!

If Interested kindly contact me via

Email:~ ribellodasilver01.finance@gmail.com

serious enquiry only.
โดย: Richcrad Chadwick IP: 51.210.176.129 วันที่: 29 เมษายน 2567 เวลา:15:32:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

RUM_XIAH
Location :
มหาสารคาม  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



หมูรัมย์ตัวนี้...น่ารัก หลังไมค์ถึงรัมย์