ดูตน เพ่งตน ให้เห็น
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
24 มิถุนายน 2550

ฝากลูกไว้กับพระ



ฝากลูกไว้กับพระ

แก้ว ลายทอง เพื่อนที่คบหากันมานานกว่ายี่สิบปี ได้ร้องเพลงอยู่เพลงหนึ่ง ชื่อเพลง ฝากใจไว้กับนก แม้ว่าผมค่อนข้างจะชื่นชอบเพลงที่เขาร้อง แต่หากคิดดูให้ดีแล้ว ผมคงไม่ชอบใจเท่าไรที่จะฝากใจไว้กับนกอย่างที่เขาร้องในบทเพลง

บทเพลงคือจินตนาการอย่างหนึ่ง ให้ความรู้สึกอ่อนโยน โหยเศร้า ในเวลาฟัง ยิ่งเวลาฟังนั้น เรามีความทุกข์หม่นหมอง หรือแก้ปัญหาที่รุมเร้าไม่ค่อยได้ มองไม่เห็นทางออก

การฝากอารมณ์และหัวใจไปกับนกหรือที่ตรงปีกนกนั่นแหละ เราคงจะโบยบินไปได้ทั่วทุกแห่งหน ตามแต่ใจปรารถนา ไม่ว่าเพื่อหนีปัญหาหรือเพื่อสิ่งใดก็ตาม

แต่จะเป็นอย่างที่ผู้ถ่ายทอดบทเพลงจินตนาการไว้หรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะความจริงแล้ว ถึงนกจะบินไปไหนมาไหนบนผืนฟ้ากว้างได้โดยเสรี แต่ใช่ว่านกจะมีอิสระหรือเสรีอย่างที่มนุษย์จินตนาการ นกยังมีขีดจำกีดของการบิน เพดานบินไม่ได้กว้างไกลอย่างที่เราคิดฝัน และอันตรายที่เกิดแก่นกที่บินอยู่บนท้องฟ้าก็ใช่ว่าจะไม่มี

มีเพียงนกหนึ่งเดียวที่ก้าวผ่านขีดจำกัดของการบินอย่างนกทั้งหลาย นั่นคือนกที่ชื่อโจนาทาน ซึ่งปรากฏในนิยายของริชาร์ด บาก เท่านั้น

หนุ่มสาวหลายคนคงเคยฝันใฝ่อยากโบกบินไปอย่างไร้ขีดจำกัดอย่างนกที่ชื่อโจนาทาน แต่มีสักกี่คนที่บินถึงฝั่งความฝัน ส่วนมากแล้วมักทดท้อและซมซานกลับมาสู่ความจริงของชีวิต คือ ตกสู่ดิน และเดินย่ำอยู่กับที่ ฉีกละลายความฝันของตนป่นปี้ไปวันๆ บางคราวถึงกับอดสูกับความจริงที่เกิดในชีวิตตนเอง

ผมเคยเดินย่ำไปตามความฝันมาหลายฤดูฝน แน่นอนว่า มันมีทั้งเหน็บหนาว เปียกปอน และประสบความพ่ายแพ้เสียมากกว่าความสมหวัง

ความพ่ายแพ้แต่ละอย่างได้สอนให้ผมตระหนักรู้ว่า แม้แต่ความพ่ายแพ้ก็ไม่ได้มีอยู่จริง

มันเป็นสมมุติอย่างหนึ่งที่เรากำหนดขึ้น เพื่อรองรับอารมณ์บางอย่างเท่านั้น

แต่มนุษย์จะกำหนดรู้ถึงความพ่ายแพ้และสมหวังกันมาตั้งแต่เมื่อไร มันอยู่นอกเหนือการรับรู้ของผมในช่วงเวลานี้ และผมก็ไม่อยากรู้ถึงขนาดนั้น

ผมพอใจที่ตัวเองรู้ถึงความพ่ายแพ้ รู้ถึงความอ่อนแอที่ตนเองมี และรู้ถึงความล้มเหลวทั้งหลายที่ประเดประดังเข้าสู่ชีวิต

หลายหนผมจึงรู้สึกสนุกที่ได้นั่งลงพูดคุยกับความพ่ายแพ้และทุกข์ทรมานนั้น

และเราก็เป็นเพื่อนกันได้ ผมรู้สึกอย่างนั้น

เวลานี้ ผมรู้สึกถึงพรมแดนบางด้านของจิตใจ เมื่อผมได้ผ่านการฝึกฝนตนเองให้รู้จักและสนิทสนมกันดีกับความพ่ายแพ้ ผมไม่ได้หวาดกลัวหรือขวัญหายต่อการมาทักทายของมัน เพื่อนกันแท้ๆ จะมาหวั่นเกรงอยู่ทำไม มันบอกผมอย่างนี้ทุกครั้งที่พบกัน

ผมรู้สึกมั่งคั่งและมั่นคงขึ้น แม้ว่าในกระเป๋าไม่มีสตังค์เหลืออยู่เลย เมื่อผมได้เข้าสู่แดนพระศาสนาอย่างจริงจัง หลังเดินย่ำผ่านไปผ่านมาอย่างเก้ๆ กังๆ และอิดเอื้อนเมื่อมีใครชักชวนให้ผมก้าวผ่านประตูบ้านเข้าสู่แดนพุทธศาสน์

ผมได้รับรู้ความเป็นไปอย่างนั้น เมื่อผมรู้ว่าใครคนหนึ่งกำลังจะมาอยู่ร่วมกับผม เขาเป็นใครกันหรือ?

ผมคิดถึงช่วงเวลาแห่งความสับสนและท้อแท้อย่างสุดๆ เมื่อผมกับภรรยาได้เดินทางไปกราบไหว้พระสัมมาปฏิบัติท่านหนึ่ง ที่สำนักสงห์ซึ่งอยู่ลึกในป่าแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ ริมแม่น้ำโขง
.
ผมคิดว่าท่านคงปรารถนาความสงบ สั่งสอนคนที่เดินทางไปหาท่านเท่านั้น ผมจึงไม่เอ่ยนามของท่านในข้อเขียนนี้

ผมบอกตนเองอย่างไม่ลังเล เมื่อผมได้กราบท่าน

พระอย่างนี้ ผมยังไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต

การได้ฟังข้อธรรมจากท่าน ได้ชักนำผมสู่เขตแดนของความสงบ ผมเริ่มปล่อยและวางอะไร...อะไร... และอะไร ไปจำนวนมาก ซึ่งผมคิดว่ามันคือของของผมมาตลอด

ขณะที่ผมเริ่มวาง ผมกลับได้สิ่งหนึ่งมาอย่างไม่รู้ตัว

นั่นคือการมาอยู่ร่วมของใครคนหนึ่ง

ผมได้ลูกชายคนหนึ่ง อย่างไม่คิดมาก่อนว่าจะมีใครมาเกิดด้วย เพราะผมกับภรรยาเริ่มแก่

แต่เขาพอใจที่จะมาเกิดเป็นลูกของเรา

ผมรู้สึกเหมือนกับ ตลอดเวลาที่ผมรีๆ รอๆ อยู่ ก็เพื่อรอการมาเกิดของเขานั่นเอง

หลังเขาเกิดเพียงหนึ่งเดือน ผมได้พาเขาไปกราบหลวงพ่อท่านนั้น และยังขอมอบถวายเขาแก่ท่านด้วย ท่านเองก็มีเมตตาต่อเขาเช่นกัน

ไม่เพียงแต่ท่านเท่านั้นที่เมตตาต่อเขา

พระทุกรูปที่ผมพาเขาไปกราบ ท่านจะมีเมตตาต่อเขาเป็นพิเศษ

ครั้งหนึ่ง ผมพาเขาไปที่วัดสังฆทาน นนทบุรี หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดสังฆทานเดินเข้ามาทักทายเขา และพูดคุยกับเด็กน้อยวัยไม่กี่เดือนอย่างมีเมตตา

ผมจึงมั่นใจว่า การที่ผมฝากลูกไว้กับพระ จึงเป็นทางเลือกที่ผมพอใจอย่างยิ่ง เพราะทางเดินที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชี้บอก คือทางอันประเสริฐ เป็นทางเดินไปเพื่อพ้นทุกข์อย่างจริงแท้

รักษ์ มนัญญา








Create Date : 24 มิถุนายน 2550
Last Update : 24 มิถุนายน 2550 21:56:57 น. 27 comments
Counter : 1094 Pageviews.  

 
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย จัดสัมมนานักเขียนสี่ภูมิภาค ครั้งที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ในวันที่ 30 มิถินายน 2550 งานเริ่มตั้งแต่ 8 โมงเช้า
งานนี้นายกสมาคมนักเขียน คุณชมัยพร แสงกระจ่าง ได้ระดมเทียบเชิญวิทยากรสุดยอดของนักเขียน และระดมทีมงานนักเขียนมืออาชีพ มาให้ความรู้กันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลย

ขอยกรายชื่อนักเขียน วิทยากร มาเป็นกระสายก็แล้วกัน คือ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (ศิลปินแห่งชาติ) อัศศิริ ธรรมโชติ (ศิลปินแห่งชาติ) วัฒน์ วรรลยางกูร (รางวัลศรีบูรพา) โชคชัย บัณฑิต (กวีซีไรต์) กิ่งฉัตร (นักเขียนสตรียอดนิยมแห่งสมัย) และอื่นๆ

สนใจเข้าร่วมงาน โปรดติดต่อที่สมาคมนักเขียนด่วน หมายเลขโทร. 0-29109565 ด่วน

งานนี้ฟรีครับ เพราะสำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม เป็นเจ้าภาพด้านทุนรอน

งานนี้ ผมก็จะไปร่วมงานด้วยครับ


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:22:55:44 น.  

 
เรื่องการเมืองยังร้อนระอุ เซียนการเมืองยังคาดเดาไม่ออก เผลอหลับตาแค่เดี๋ยวเดียว อาจตกขบวนรถไฟการเมืองเลยก็ได้

จั่วหัวไว้อย่างนั้นแหละ

แต่จริงๆ อยากจะบอกว่า

ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ถึง ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๐ รัฐสภาได้จัดกิจกรรมค่ายวรรณกรรมการเมืองเพื่อประชาธิปไตย ที่โรงแรมตรัง ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ กรุงเทพฯ

มีหัวข้อของการสัมมนาและเสวนาที่น่าสนใจหลายเรื่อง รวมทั้งการบรรยาพิเศษของคุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี ด้วย

วิทยากรท่านอื่นๆ ประกอบด้วย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ชมัยพร แสงกระจ่าง สุรชัย จันทิมาธร รศ ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ บุญเลิศ คชายุทธเดช นิเวศน์ กันไทยราษฎร์ วัฒน์ วรรลยางกูร ฐนธัฐ กองทอง และรักษ์มนัญญา สมเทพ

ไม่ทราบว่าเวลานี้ ปิดรับสมัครผู้ประสงค์เข้าร่วมกิจกรรมแล้วหรือยัง ลองติดต่อที่สำนักประชาสัมพันธ์ กลุ่มเผยแพร่ประชาธิปไตย รัฐสภา ๐๒๒๔๔๒๕๑๖-๗


โดย: big onion วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:16:21:03 น.  

 
งานวรรณกรรมการเมืองนี่ เขารับเฉพาะ ผู้ที่เคยส่งผลงานประกวด วรรกรรมพานแว่นฟ้าครับ

และคงมีคนครบ ๑๐๐ คน ตามที่เขาตั้งไว้แต่ทีแรกแล้ว


โดย: big onion วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:15:04:02 น.  

 
สวัสดีครับรักษ์


ยินดีด้วยจริงๆที่เพื่อนได้พบธรรมะ
ไม่ว่าจะมาจากทางใดก็ตาม

ผมมีความเชื่อว่าถ้าเรามีธรรมะ
อยู่ที่ไหนก็ไม่กลัวทุกข์

ผมเชื่อว่าธรรมะนั้นเป็นดั่งแก้วสารพัดนึก
ถ้ารู้จักนำมาใช้ ไม่ว่าเรื่องเล็กๆ เรื่องกลางๆ เรื่องใหญ่ๆ ได้ทั้งนั้น

ไม่พูดดีกว่า พูดมาก เดี๋ยวจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน
เดี๋ยวจะกลายมาเป็นสอนหนังสือสังฆราช หรือมาสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ หรือหาภาษิตคมๆอะไรสักอย่างก็เลือกเอาที่มีความหมายในทำนองนี้


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:11:21:03 น.  

 
หูยยย
เพิ่งรู้ว่าพี่ รักษ์ มีบล็อก อิอิ


โดย: สายลมอิสระ IP: 58.9.199.45 วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:21:52:41 น.  

 
โอ...พบทางธรรม ได้อ่านเรื่องราวแบบนี้บ้างก็ดี
หลังจากเห็นพระออกมาเดินขบวนอยู่บนถนนขอให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
แล้วหน่ายจรืง ๆ

เออ...ข่าวว่ารักษ์ กับเพื่อน สร้างจตุคามรามเทพด้วยเหรอ อยากได้อ่านบทความหรือประสบการณ์เกี่ยวกับการสร้างจตุคามด้วย (ใครบอกเราไม่รู้ ใช่ไหม)


โดย: แพรจารุ วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:0:36:05 น.  

 
สวัสดีครับ โดม

อธรรมะอยู่รอบๆ ตัวเรา แต่เรามองไม่เห็น เรามีแต่ตานอก ไม่มีตาใน หัวใจเราจึงเต็มด้วยความมืด

นั่นคือตัวผม ก็พยายามขุด ขุด เปลือกทั้งหลายออกอยู่

ขอบคุณนะครับ โดม ที่แวะมาให้กำลังใจ ทั้งในด้านแง่คิด และการปรับปรุงบล็อก

กราบพระรัตนตรัย ที่มอบให้โดมกลายมาเป็นกัลยาณมิตรของผมครับ

โดมครับ ขออย่าได้เหนื่อยหน่ายที่จะพูดหรือเขียนข้อธรรมะให้ผมได้อ่านเลยนะครับ

ผมเปิดใจรับทุกถ้อยคำที่โดมพูดและเขียนเสมอ

ขอบคุณอีกครั้ง



โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:23:53:00 น.  

 
สวัสดีครับ สายลมอิสระ

ผมเป็นมือใหม่หัดเขียนบล็อกนะ ขอให้สายลมพัดผ่านมาอีกครั้งละกัน ชักชวนเพื่อนแวะมาทักทายกันบ้าง


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:23:56:25 น.  

 
สวัสดีครับ ยาย

เราเพิ่งหัดตนเองเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมครับ ถือว่ายังอ่อนด้อยอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับพ่อพเยีย

คือเพิ่งเริ่มเมื่อประมาณ 2 ปี โยการเริ่มต้นด้วยลดโน่นนี่ที่มันทำให้ใจเราไม่ดี เลิกเหล้า เลิกเข้าสมาคมที่จะชักนำไปสู่การกินเหล้า ใหม่ๆ ก็ลำบาก พอใจเราเข้มแข็งแล้ว เราจึงกล้าเดินเข้าสู่พื้นที่ที่เพื่อนๆ เขากินเหล้า โดยที่เราไม่ได้กิน และไม่ได้รังเกียจเพื่อนที่ยังกิน แต่ถ้าเพื่อนคนใดจะเลิก เราก็จะขออนุโมทนาด้วยความจริงใจ

จากนั้นก็เริ่มรักษาศีลแปด ในวันพระ ก็ปฏิบัติต่อเนื่องมา จนกลายเป็นปกติ ของการรับรู้ ว่าวันนี้วันพระนะ ลูกๆ ก็เข้าใจ และตอนนี้ ภรรยาของเราก็เริ่มรักษาศีลแปดในวันพระด้วย

ทุกคืน ก่อนนอน จะสวดมนต์ พยายามฝึกตนเอง ในแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ทั้งภรรยาและลูกเราก็ทำอย่างเดียวกัน

จากนั้นก็ต่อด้วยการนั่งสมาธิ มากบ้าง น้อยบ้าง แต่ก็พยายามทำให้เป็นนิสัย

ผลที่ได้ คือ ไม่สะดุ้งกลัว ไม่หวาดวิตก และรับรู้อารมณ์ที่มากระทบจิตเร็วขึ้น

เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ มีนักเขียนคนหนึ่งที่เราพิมพ์หนังสือให้ ให้ทนายความยื่นโนติสมาถึง ว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์ และโกงยอด ประมาณนั้นแหละ และเรียกให้ไปตกลง พร้อมกับเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

ขอบอก 5 ล้านบาทนะครับ ไม่ใข่ 5 บาท หรือ 5 ร้อยบาท...
เราและภรรยา ยิ้มรับมันด้วยความมีสติ อะไรจะเกิดก็จงเกิด เราจะพึงแก้ในส่วนที่แก้ได้

แต่ส่วนหนึ่งของจิต คือ เราไม่รู้สึกโกรธ ไม่ตกใจ ทุกครั้งที่สวดมนต์จะแผ่เมตตาให้เขา ขอให้เขาลดละความพยาบาท และความละโมบในใจ

ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า เขาจะฟ้องเราเมื่อไร

เห็นไหมล่ะยาย หากคิดว่านี่มันเป็นความทุกข์ มันจะกองเท่าภูเขาที่สูงใหญ่สักเท่าไร ถ้าเราไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ยายคิดดูนะ เรากับภรรยาจะรับมือสถานการณ์อย่างนี้ได้ไหม

เขียนซะยาว

ขอบคุณนะครับ ที่อ่าน


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:0:29:29 น.  

 
สวัสดี ยาย (อีกที)

เรื่องจตุคามนะ เราไม่มีปัญญาสร้างหรอก แต่บังเอิญให้ได้เข้าไปรับรู้และร่วมอะไรบ้าง นิดหน่อย กับแก้ว ลายทอง

เอาไว้จะเขียนความเป็นไปให้อ่านใบล็อกละกัน


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:0:47:52 น.  

 
สวัสดีครับ พี่รักษ์...

ติดตามงานพี่ตลอดครับ...

ทราบข่าวจากพี่โดมครับ ว่าพี่มีบล็อคด้วย ก็เลยแวะมาทักทายและแอดเอาไว้แล้วครับ

วันก่อน ผมกลับบ้านเชียงดาว ไปแวะเยี่ยมสารทุกข์สุกดิบของ สองนักเขียน มหรรณพฯ กับ รวิวาร ครอบครัวนี้กำลังปั่นงานทำบ้านให้แล้วเสร็จ คงใกล้แล้วมั้งครับ

ว่างๆ เชิญไปเยี่ยมบล็อคของผมได้นะครับ


โดย: pu_chiangdao วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:14:56:11 น.  

 
อยากรู้จังเลยนะว่านักเขียนคนไหนที่ช่างฟ้องได้ลงคอ

เพราะนานๆจะได้ยินเรื่องแบบนี้สักที

ก็ขอให้มีกำลังใจมั่นคง มีสติอยู่กับตัว


และผมคิดว่าคดีนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นถึงขั้นฟ้องร้องจริงๆได้




โดย: พ่อพเยีย วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:20:19:40 น.  

 
ใช้เวลาพักนึงกว่าจะกลับมาบ้านนี้อีกที

แบบจำทางมาไม่ได้ค่ะ เลยต้องใส่ชื่อไว้ในลิสท์ซะเลย อิอิอิ

โจนาทาน นกอิสระ กว่าจะหลุดจากขีดจำกัด
ผ่านอะไรมาบ้าง ไม่แปลกที่จะมีนกแบบโจนาทานไม่มากนัก

อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน .... เกี่ยวกันไหมคะ





โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:14:41:02 น.  

 
สวัสดีครับ pu_chiangdao

ฝากข่าวไปยังมหรรณพกับรวิวารด้วยนะครับ ขอให้สร้างบ้านเสร็จเร็ววัน

pu_chiangdao ก็แวะกลับมาทักทายกันอีกนะครับ


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:58:19 น.  

 
สวัสดีครับ พ่อพเยีย

มันเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจบางประการมากกว่า

นักเขียนคนนั้น คงจะยังไม่เข้าใจว่า สำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือแต่ละเล่ม กว่าจะขายหมดใช้เวลากันนานสักแค่ไหน

ตอนนี้เขาไปพิมพ์กับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง คงทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว

ผมพยายามแผ่เมตตาให้เขาเข้าใจและใจสว่างอยู่เสมอ

ขอบคุณที่เป็นห่วง


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:02:05 น.  

 
สวัสดี หนอนบ้านนอก

ดีใจจัง ที่คุณกลับมาบ้านนี้อีก แม้จะหลงทางไปบ้าง เป็นธรรมดา ที่บ้านที่มาปลูกสร้างใหม่ คนเขาย่อมแลเห็นเป็นคนแปลกหน้าอยู่ กว่าจะเป็นเพื่อนบ้านกัน คงใช้เวลาดูกันนานสักหน่อยจริงไหม

ผมเองก็ขอลิสต์ บล็อก หนอนบ้านนอกไว้ เป็นเพื่อนบ้านเช่นกัน จะได้รู้ว่ายังมีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้กัน

เห็นชื่อหนอนบ้านนอก ตามไปให้กำลังใจแก่หนูหอมหัวใหญ่ ในโลกของหนูหอม ต้องขอขอบคุณไว้ด้วย หอมหัวใหญ่ จะได้มีกำลังใจ เขียนหนังสือต่อไป


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:07:09 น.  

 
อะไรจะขนาดนั้น นักเขียนที่ไหนฟ้องบรรณาธิการตั้งห้าล้าน แต่ยินดีที่คุณผ่านไปได้ด้วยดี แค่คิดให้อภัยคนที่หวังร้ายก็ถือว่าพิเศษสุดแล้ว

"ยินดีที่เห็นเธอเป็นสุข...
จำได้ว่ามีเพลง เพลงหนึ่งที่ขึ้นต้นเช่นนี้ จำได้แค่นี้แหละ
แล้วจะเขียนมาคุยใหม่ คิดถึงจ๊ะ


โดย: แพรจารุ วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:16:30 น.  

 
สวัสดีครับรักษ์


รักษ์จำ ปะการัง ได้ไหม ?

เขียนบทกวีรุ่นราวคราวเดียวกัน

คิดว่าต้องจำได้ เพราะไล่เรียงชื่อมาตอนนั้น
ก็จะมีแก้ว ลายทอง สมพงษ์ ทวี รักษ์ มนัญญา ปะการัง ฯลฯ

เมื่อไม่นานมานี้เขาเจอบล็อกผมโดยบังเอิญ

ตอนนี้เขาอยู่อเมริกา 10 กว่าปีแล้ว

ไม่มีอะไรหรอก มาเล่าให้ฟังเฉยๆครับ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:03:20 น.  

 
หวัดดีครับยาย

มันก็เป็นเช่นนั้นแหละ

เราบอกได้เพียงเท่านี้

ความต้องการของคน ไม่มีวันสิ้นสุด

เมื่อหยุดความอยากได้ ใจจึงจะเบา

เราก็หวังเพียงว่า เรื่องมันจะผ่านไป

แต่จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่

ไม่รู้...


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:56:04 น.  

 
หวัดดีครับ พ่อพเยีย

ปะการังหรือครับ ผมยังจำชื่อของเขาได้ และจำใบหน้าเขาได้บ้าง ดูเหมือนจะใส่แว่นตาโตๆ ปะการัง ค่อนข้างขาว แม้ว่าเขาจะเป็นคนใต้ (ถ้าจำไม่ผิด)

เคยพบเขาที่ชมรมภาษาไทยหนหรือสองหน ประมาณปี 2523 จากนั้นก็ได้แต่ฟังเพลงและอ่านงานเขียนของเขาครับ

ดีใจที่คุณได้คุยกับเขา ฝากบอกด้วยนะครับ คิดถึงเสมอ



โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:59:30 น.  

 
สวัสดีครับ รักษ์

มาตามคำบอกเล่าของโดม

ใช่แล้วครับ ผมเป็นคนใต้ ภูเก็ตครับ ผิวเลยค่อนข้างขาวไปทางหาดทราย ส่วนแว่นตาเล็กลงมาหน่อยแล้ว หรือใบหน้าใหญ่ขึ้นก็ไม่รู้ได้..

อ้าว เราเจอกันที่ชมรมภาษาไทยหรอกหรือ ผมนึกว่าที่บ้านสำรวม ศุกร์-- เราจะเจอกันทุกวันเสาร์ มีแก้ว ลายทอง, สมพงษ์ ทวี ที่เป็นขาประจำ-- เอ๊ะ หรือว่า ใช่.. เราอาจจะเจอกันที่ชมรมก่อน แล้วถึงย้ายไปที่บ้านสำรวม ศุกร์

รักษ์ยังเจอแก้ว ลายทองบ่อยหรือ ฝากความคิดถึงไปด้วยล่ะกัน

ลูกชายน่ารักจัง.. แล้วจะแวะมาใหม่นะครับ


โดย: ปะการัง IP: 72.207.21.67 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:24:55 น.  

 
สวัสดีครับ ปะการัง

ดีใจจัง ที่มีโอกาสได้คุยกับคุณอีก ความเป็นไปของโลกยุคนี้ ทำให้สถานที่ ไม่ใช่อุปสรรคต่อการพบปะกันเลย จริงไหม

เราคงเจอกันทั้งสองที่แหละครับ เพราะครั้งแรกที่ผมเจอแก้ว ลายทอง ก็ที่ชมรมภาษาไทย และดูเหมือนจะเจอปะการัง ที่นั้นด้วย ต่อจากนั้นเราค่อยขยับขยายไปเรื่อยๆ เป็นต้นว่า ไปทำหนังสือมุมกลับ ไปรวมกลุ่นกันแถวบ้านสำรวม ศุกร์

ในความทรงจำของพวกเรา อาจมีบางคนเลอะเลือนไปบ้าง แต่พอนึกถึง ก็ยังเจอเยื่อใยสายสัมพันธ์อยู่

ตอนหนึ่ง ที่ผมทำงานที่สำนักพิมพ์ดอกหญ้า ผมยังตามข่าวของคุณอยู่ นวนิยายของคุณพิมพ์ที่ดอกหญ้ารึเปล่า ข้อนี้ผมไม่ค่อยแน่ใจนัก

ตอนนี้ ผมกับแก้ว ลายทอง พบกันเกือบทุกวัน เพราะว่า ผมได้มาช่วยแก้ว ลายทอง ทำพระจตุคามรามเทพ ไม่ทราบว่าที่อเมริกา ติดตามข่าวเรื่องจตุคามรามเทพหรือไม่

แก้ว ลายทอง เขาหันมาสนใจเรื่องพระ ชอบสร้างพระ และอยากหาทุนไปทำบุญ สรา้งโบสถ์และิ่งปลุกสร้างอื่นๆ ให้วัด เขากับเพือ่นๆ ที่ไม่ใช่นักเขียน เลยสร้างพระจตุคาม บังเอิญว่า ผมอยู่ในช่วงเวลาที่อยากพัก ไม่อยากทำสำนักพิมพ์ เลยถือโอกาสช่วยแก้ว ทางด้านการประชาสัมพันธ์เป็นส่วนใหญ่

ผมว่าจะเขียนเกี่ยวกับแก่ว ลายทอง ในบล็อกนี้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ อาจเป็นภายในเร็ววันนี้ ปะการัง แวะมาดูซิ แล้วผมจะเอารูปแก้ว ลายทอง มาให้ดู

คุณอยู่ที่อเมริกา คงสบายกีนะครับ


โดย: รักษ์ IP: 58.8.171.242 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:02:37 น.  

 
ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าจุลสารโรเนียวเล็กๆอย่างมุมกลับ จะทำให้พวกเรายังจำกันได้และระลึกวันเก่าๆนั้น- -

ถ้าไม่ใช่เพราะแก้ว ลายทอง กับ สมพงษ์ ทวี ไปทิ้งโน้ตไว้ที่หน้าบ้านพักผม นัดให้ไปหาพวกเขาที่ชมรมภาษาไทย ผมคงไม่รู้จักใครต่อใครหลายคน และคงไม่มีวันนี้ที่มานั่งรำลึกความหลังกับรักษ์.. เพราะหลังจากนั้น ผมไปทำงานเต็มตัวที่แพรว ก็ห่างหายไป ไม่ได้พบปะอีกเลย

ใช่ครับ งานกวีเล่มแรกสุดในชีวิตพิมพ์ที่ดอกหญ้า และก่อนที่จะมาอเมริกา ก็มีงานให้ดอกหญ้าพิมพ์ ส่วนนวนิยายที่ผมเขียนที่อเมริกา (ตอนมาใหม่ๆสองสามปีแรก) ลงพิมพ์ที่ ดิฉัน ก่อน แล้วรวมเล่มกับดอกหญ้า แต่เปลี่ยนเป็นชื่อ ดับเบิลนาย ถ้าจำไม่ผิด

ดูเหมือนจะคุ้นๆว่าคุณอยู่ที่ดอกหญ้า แต่จำได้ไม่ชัดเจน..คุณรักษ์ทำกับดอกหญ้า ช่วงไหนหรือครับ? แล้วตอนนี้ทำที่ไหนครับ

แรกๆผมก็ไม่รู้จักจตุคามรามเทพอะไรนี่หรอก แต่ผมอ่านเว็บผู้จัดการ เลยพอจะทราบข่าวบ้าง เห็นว่ามีลิขสิทธิ์ด้วยมิใช่หรือ ฟังดูก็แปลกดี

แก้ว เลิกเขียนหนังสือแล้วหรือ? แล้วยังแต่งเพลง ร้องเพลงอยู่หรือเปล่า--?

ผมอยู่ที่นี่สบายดี(แบบพอเพียง)ครับ


โดย: ปะการัง IP: 72.207.21.67 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:00:05 น.  

 
สวัสดีครับ ปะการัง

ตอนนี้เป็นเวลาเมี่ยงคืน สิบเก้านาที ที่เมืองไทย ผมกำลังนั่งทำงานเกี่ยวกับข้อมูล เพื่อจะส่งนักข่าวพร่งนี้ อ้อ เกี่ยวกับจตุคามรามเทพน่ะ

พอล้าๆ เลยมาเปิดบล็อก อ้าว...ปะการังแวบมาคุยด้วยอีกแล้ว สุดจะดีใจเลยนะครับ ที่ปะการังกลับมาคุยกันอีกหน อย่างนี้เห็นทีต้องแวะไปขอบคุณโดม ที่เปิดประตูให้พวกเราได้หวนกลับมาทักทายกัน สนุกไปอีกแบบน่ะ

ผมเข้าไปทำงานที่ดอกหญ้าเมื่อปี 2536 แล้วทำต่อเนื่องมาจนถึงยุคฟองสบู่ ดอกหญ้าค่อยๆ เอนลง ตามแรงกระหน่ำของพิษลมพายุเศรษฐกิจ

พอถูกปรับเปลี่ยนเป็นดับเลนายน์ ผมก็ตามไปทำอีก ทำอยู่จนถึง ปี 2545 จึงออก จากนั้นก็หมุนวนไปทำที่นั่นบ้าง ที่นี่บ้าง

สุดท้าย ในวันนี้ ผมไม่ได้ทำสำนักพิมพ์แบบเต็มตัว จะมีก็เพื่อนฝูง เอางานบก.เฉพาะกิจมาให้ทำ

และที่ดึงเวลาไปมากในช่วงเวลานี้ ก็เป็นเรื่องช่วยแก้ว ลายทอง ประชาสัมพันธ์ จตุคามรามเทพ ครับ

เออ...คนในวัยประมาณเรานี่ ต้องมานั่งรำพึงถึงความหลังกันแล้ว กาลเวลาผ่านไปรวดเร็วจริงนะครับ

แก้ว ลายทอง เขียนเพลงธรรมะ ล่าสุดเขากำลังจะออกแผ่นซีดี เพลงธรรมะ ชุด พุทธมนตรา คาดว่าจะวางขายในไม่กี่วันข้างหน้านี้ครับ

ส่วนสมพงษ์ ทวี ยึดงานขายพระเครื่องและการแสดงเป็นหลัก เขาก็มีความสุขกับชีวิตอีกแบบ

ผมเองก็ยังเขียนหนังสืออยู่ เพียงแต่ไม่ได้เน้นไปที่วรรณกรรมอย่างแต่ก่อน ส่วนหนึ่งจะเป็นงานความคิด ครอบครัว และธรรมะ และใช้ชีวิตอยู่ตามกำลัง ไม่ดิ้นรนเกินแรง อาจเหนื่อยบ้าง แต่ก็รู้จักพัก...

กำลังจะเขียนเรื่องแกว ลายทอง ที่บล็อก รออ่านนะครับ


โดย: รักษ์ IP: 202.57.168.202 วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:23:58 น.  

 
รักษ์ครับ

วันนี้ที่อเมริกาเป็นวันหยุด ตอนที่เขียนนี้ เป็นช่วงเริ่มจะเย็นของ 4 The Fourth of July-Independence Day เลยเข้ามาตอบได้เร็วหน่อย ในขณะที่คุณยังคงหลับอยู่กระมัง อ้อ เช้าแล้วนี่นา..

เพลงในบล็อกนี่ เป็นของแก้ว ลายทองหรือครับ?

คุณว่า "สมพงษ์ ทวี ยึดงานขายพระเครื่องและการแสดงเป็นหลัก" การแสดง? เขาเป็นนักแสดงแล้วหรือครับ?

มีชีวิตเรียบง่าย ไม่ดิ้นรนเกินแรง ไม่เร่งรัด ไม่ร้อนรน นี่เป็นสุดยอดของความสุขที่แท้ แต่ เอ.. ถ้าเราคุยเรื่องนี้เมื่อสักยี่สิบปีก่อน ในหมู่พวกเรา คงไม่มีใครเข้าใจ

ฤาเป็นเพราะเราโรยราไปเอง??

แล้วจะเข้ามาอ่านเรื่องของแก้ว ลายทองนะครับ



โดย: ปะการัง IP: 72.207.12.141 วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:00:51 น.  

 
สวัสดีครับ ปะการัง

ผมเขียนเรื่องแก้ว ลายทองแล้วครับ ลองอ่านดูนะครัล

เรื่องอื่นๆ ค่อยคุยกันต่อนะครับ


โดย: รักษ์ IP: 58.8.171.234 วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:06:20 น.  

 
น้องมะตูมเป็นเด็กน่ารักแต่ดื้อบ้างบางทีถูกแล้วล่ะค่ะที่จะไปฝากไว้กับพระ (บ้านจะได้เงีบบลงน่ะค่ะ ฮิฮิ )


โดย: ลูกหอม(จอมยุ่ง) (big onion ) วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:11:06:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

big onion
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบเขียน อ่าน เดินผ่านถนนคนเขียนหนังสือมาประมาณสามสิบฝน แต่ยังเขียนไม่ได้ดี หันมาสนใจต่อการเพ่งดูตนเอง มากกว่าเพ่งโลกภายนอก รู้ว่าตนเองแก่เอามากๆ สบายใจดี


เดินรอบตัวเอง
[Add big onion's blog to your web]