แบตเตอรี่ Bigbike กับหลักการเลือกซื้อแบตเตอรี่มอเตอร์ไบค์
แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเจ้า Bigbike คู่ใจคันโปรดของเรา หากไม่เลือกซื้อแบตเตอรี่ที่ดี ก็จะเป็นปัญหาภายหลังอย่างแน่นอน เช่น เก็บไฟไม่อยู่ ไฟน้อยเกินไปทำให้สตาร์ทติดยาก หรือไม่ก็ไม่มีแรงพอที่จะขับเคลื่อนมอเตอร์สตาร์ทได้เลย หลาย ๆ คนคงมองภาพออกน่ะอาการแบบนี้ บิดสวิทซ์แล้วปรากฎว่ามีเสียง แชะ ๆ ๆ ประมาณนั้น ทำให้หมดอารมณ์หรือที่เรียกว่า เซ็งเป็ด
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจ ทำความรู้จักกันก่อนว่า แบตเตอรี่มีกี่แบบ
1. แบตเตอรี่ชนิดพื้นฐาน เป็นแบตเตอรี่แบบตะกั่ว กรด ข้อดีก็คือ ราคาถูก แต่ต้องหมั่นดูแลบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพดีสม่ำเสมอ
2. แบตเตอรี่ชนิดที่ไม่ต้องดูแลรักษา (Maintenance Free) คุณสมบัติก็ตรงตามชื่อนั้นเลย แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องราคาก็จะแพงขึ้นมาอีก
3. แบตเตอรี่ชนิดที่ไม่ต้องดูแลรักษา Dry Charge เป็นแบตเตอรี่ที่ว่าไม่มีน้ำกรด เราต้องมาเติมเองก่อนใช้ และอาจจะต้องมีการกระตุ้นชารจ์ก่อนใช้งาน มันจึงไม่สะดวกเท่าที่ควร คนจึงไม่นิยมใช้กัน
4. แบตเตอรี่ชนิดเจล (Gel) เป็นเตอรี่แบบปิดผนึก ถือเป็นแบตเตอรี่ที่เรานิยมเรียกว่าแบตแห้ง ใช้ผงซิลิกา ทำปฏิกิริยากับกรด ซึ่งจะดูดซับน้ำกรดเอาไว้และก่อตัวจนมีลักษณะคล้ายกับเจล ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่นหรือน้ำกรดอีก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีอายุการใช้งานมากขึ้น เก็บไว้ได้นานขึ้น แต่มีข้อเสียเมื่อเจออากาศร้อนมันจะละลาย
5. แบตเตอรี่ชนิด AGM เป็นแบตแห้งอีกชนิดหนึ่ง AGM ย่อมาจาก Absorbed Glass Mat คือแผ่นซิลิกาไฟเบอร์ แผ่นนี้จะเป็นตัวดูดซึมกรด โดยจะดูดซึมกรดได้ประมาณ 95 % ดังนั้น หากแบตเตอรี่เกิดการแตกหักเสียหายก็อาจจะมีน้ำกรดรั่วออกมาได้บ้าง แต่ก็ไม่มาก เหมือนกับแบบ Gel
6. แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LifePO4) อยู่ในประเภทแบตลิเธียมไลออน เป็นแบตที่มีราคาแพงที่สุด แต่ข้อดีก็คือมีน้ำหนักเบา ให้พลังงานที่เสถียรสุด ๆ มีความปลอดภัย ไม่ต้องดูแลรักษา อายุการใช้งานก็นานมาก ไม่มีสารพิษ เป็นแบตที่ชาว Bigbike นิยมใช้กันมากที่สุดในขณะนี้