BlogGang.com : : Karakgnut : ไว้ลาย สอบส่วนกลางม.๔ ICSE (จบ ม.๔)

ฮัดช่า! หกปีที่อินเดีย(นะนายจ๋า)

ตุลาคม 2552

				1	2	3
4	5	6	7	8	9	10
11	12	13	14	15	16	17
18	19	20	21	22	23	24
25	26	27	28	29	30	31

20 ตุลาคม 2552

ไว้ลาย สอบส่วนกลางม.๔ ICSE (จบ ม.๔)

ไว้ลาย สอบส่วนกลางม.๔ ICSE (จบ ม.๔)

ICSE

มาเข้าเรื่องเรียนกันบ้าง อย่างที่เคยเกริ่นไว้ตอนก่อน หลังจากการสอบปลายภาคตอนม.๔แล้ว นักเรียนทุกคนจะต้องเข้าสอบการสอบส่วนกลางเรียกกันว่า ICSE ผลการสอบส่วนกลางนี้สำคัญมาก ถ้าหากตกจะไม่สามารถเลื่อนชั้นไปม.๕ได้ ถึงแม้ว่าจะได้คะแนนรวมเต็ม ๑๐๐ ทุกวิชาในตอนสอบม.๔ และเราสามารถใช้ผลสอบนี้ไปเทียบกับม.๖เพื่อเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาที่รับรองการเรียนระบบของอังกฤษในประเทศอื่น (มหิดลอินเตอร์) โดยการสอบ ICSE จะมีในช่วงเดือน April (ถ้าจำไม่ผิด) หลังจากปิดเทอมใหญ่ และการสอบ ICSE นี้จะมีพร้อมๆกับการสอบ ICS ซึ่งเป็นการสอบส่วนกลางในช่วงม.๖

โดยปรกติแล้วนักเรียนม.๔ และม.๖ ที่จะต้องเข้าสอบส่วนกลางนั้นจะมามอบตัวเข้าหอก่อนโรงเรียนเปิดประมาณ ๑ เดือนเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบที่โรงเรียนเพราะว่าตอนนั้นบรรยากาศในโรงเรียนจะเงียบสงบ เหมาะที่จะอ่านหนังสือมากๆ โดยทางโรงเรียนจะให้ทางครัวจัดเตรียมอาหารไว้ให้ทุกมื้อ และจัดน้ำร้อนไว้ให้อาบด้วย เพราะว่าตอนหน้าหนาวนั้นเมืองซิมล่าจะหนาวมากๆ (มีหิมะตกด้วย!) แต่ว่าในช่วงก่อนปิดเทอม นักเรียนที่มามอบตัวก่อนสามารถไปเที่ยวในเมืองได้ตามใจชอบ ทางโรงเรียนจะไม่ควบคุมเพราะถือว่ายังไม่เปิดเรียน

ชิวิตประจำวันไม่มีอะไรมานอกจาก ตื่นนอน, อ่านหนังสือ, ทานข้าวเช้า, อ่านหนังสือ, ทานอาหารกลางวัน, อ่านหนังสือ, ทานอาหารเย็น, อ่านหนังสือ... เท่าที่จำได้เราตื่นกันช่วงตีห้า นอนกันตีหนึ่งตีสองเกือบทุกวัน เรียกว่าอ่านหนังสือกันจนแทบประสาทกินเลยทีเดียว ไม่ว่ามองไปทางไหน ก็จะเห็นนักเรียนอ่านหนังสือกันอย่างหนัก ขนาดเดินไปไหนยังอ่านหนังสือไปด้วย ที่ต้องอ่านกันอย่างเคร่งเครียดแบบสุดกู่เพราะว่าที่อินเดียนั้นไม่มีการสอบแบบกากบาทเลือกคำตอบที่ถูกต้อง ทุกวิชาจะสอบแบบข้อเขียนกันหมด ดังนั้นพวกเราต้องจำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด เพราะการพลาดคำถามใหญ่หนึ่งข้อหมายถึง ๑๕-๒๕ คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้คาดว่าทุกๆท่านคงจะเข้าใจดีอยู่แล้ว

แต่ว่าไม่ใช่นักเรียนทุกคนจะตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง จะมีบางกลุ่มที่จับกลุ่มไปเที่ยวอย่างอิสระเสรีไม่แคร์ใครและไม่แคร์สื่อ โดยมากพวกนี้จะซิ่ว (ไม่น่าแปลกใจ) ซึ่งมีให้เห็นอยู่กันทุกปี พวกผมก็ไม่ได้อ่านหนังสือกันทุกวันนะครับ บางทีเราก็ต้องพักผ่อนกันบ้าง ไปเที่ยวในเมือง ดูหนัง, กินข้าว, จิบเบียร์, เหล่สาว เพียงแต่ไม่ได้ทำกันบ่อยๆ (มาก) ด้วยความที่มีอิสระแบบสุดๆทำให้ช่วงเตรียมสอบนั้นสนุกที่สุด และเครียดที่สุด

เมื่อเปิดเทอมนักเรียนที่ต้องเข้าสอบ ICSE และ ISC ไม่จำเป็นที่จะต้องทำกิจกรรมของนักเรียนอื่นเช่น เล่นกีฬาช่วงเช้า และช่วงบ่าย (แน่นอนว่าไม่ต้องเข้าเรียน) เพราะจะได้อ่านหนังสือกันอย่างเต็มที่

คราวนี้มาฟังเรื่องวีรกรรมของพวกเราตอนสอบกันบ้าง

การสอบ ICSE นี่จะเข้มงวดเป็นพิเศษ โดยอาจารย์ที่คุมสอบนั้นจะเป็นอาจารย์จากโรงเรียนอื่น เพราะว่าจะได้ป้องกันการช่วยเหลือจากกลุ่มครูโรงเรียนเดียวกัน เพราะว่าผลการสอบ ICSE และ ICS ของนักเรียนนั้นคือตัววัด performance ของอาจารย์แต่ละวิชาที่สอน ม.๔ และ ม.๖ เลยทีเดียว โดยนักเรียนทั้งชั้นรุ่นจะสอบห้องเดียวกันหมด และจะมีครูคุมสอบเดินไปมาอยู่สี่ห้าคนซึ่งทำให้การเอากระดาษที่จดคำตอบมาดู หรือพูดคุยนั้นเป็นไปได้ยากมาก พร้อมทั้งโต๊ะที่ใช้ในการสอบจะถูกปูด้วยกระดาษโปสเตอร์สีขาวจั๊วะ ป้องกันนักเรียนหัวใสใช้ดินสอเขียนคำตอบลงบนโต๊ะ (มองทะแยงใช้แสงสะท้อนดูลายดินสอที่เขียนได้ ผมทำอยู่บ่อยๆตอนม.๒) ดั้งนั้นการโกงสอบในการสอบ ICSE ถือว่าเป็นการเสี่ยงมากๆ หากโดนจับว่าโกงสอบจะโดนปรับตกทันทีทุกวิชา และโดนแบนจากการสอบเป็นเวลาสองปี พูดง่ายๆคือซ้ำชั้นอัตโนมัตสามรอบ ท่านผู้อ่านคงจะเห็นด้วยกับผมแล้วว่าการโกงสอบ ICSE และ ICS เป็นการเสี่ยงที่ไม่คุ้มเอามากๆ คนที่ตั้งใจโกงสอบครั้งนี้ "โง่" อย่างเดียวไม่พอ แต่ต้อง "บ้า" ด้วย

อย่างไรก็ตาม วันแรกของการสอบก็มาถึง แม้ว่าพวกเราจะอ่านหนังสือกันเอาเป็นเอาตาย เรียกได้ว่าพยายามจะท่องจำกันให้ได้ทุกหน้า แต่ว่าพวกเราส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าความตั้งใจและความพยายามที่พวกเราทุ่มเทลงไปนั้นจะพอหรือไม่ ดังนั้นพวกเราจึงต้องมี "แผนสอง" ไว้กันเหนียว

จำที่ผมบอกว่าผมเลิกโกงสอบตั้งแต่ตอนม.๓ได้มั๊ย? ผมโกหก (ฮ่าฮ่าฮ่า) เพราะว่าตอนสอบ ICSE ผมจำเป็นที่จะต้องเอาวิชาชีพเก่ามาใช้เพื่อความอยู่รอด คราวนี้ก็ยังใช้มุขเดิมๆอยู่คือเอาคำตอบที่เขียนไว้เข้าไปในห้องสอบ แต่คราวนี้ผมไม่ได้จดใส่กระดาษเล็กๆแล้วนะผมจดใส่กระดาษเป็นเล่มเลย! ท่านผู้อ่านคงคิดว่าผมคงทั้งบ้า ทั้งโง่บรมโง่ ด้วยแน่ๆ ที่เอากระดาษที่จดคำตอบใหญ่ๆเข้าไปโกง แหม่อย่าเพิ่งด่วนสรุปครับ มันมีเหตุผลอยู่แล้วที่ทำแบบนั้น เพราะว่ากระดาษแผ่นใหญ่เป็นเล่มที่ผมจดคำตอบแล้วเอาเข้าไปน่ะมันเป็นกระดาษคำตอบ/สมุดที่ใช้ในการสอบจริงครับ พวกเรารู้ที่เก็บยกระดาษคำตอบที่ใช้ในการสอบ ICSE และ ISC และสามารถโขมยมาได้ ปึกเบ่อเริ่ม และแจกจ่ายกันถ้วนหน้า ดังนั้นการโกงสอบก็เป็นไปได้โดยง่าย เพราะว่าโดยปกติแล้ว นักเรียนจะนิยมเขียนคำตอบกันหูดับตับไหม้ ใช้สมุดคำตอบเป็นเล่มๆ รวมๆแล้วเราจะเขียนกันประมาณ ๑๕ - ๒๐ หน้า หรืออย่างน้อยๆ ก็เล่มครึ่ง ฉะนั้นเราก็แค่รอให้เวลาผ่านไปสักครึงช.ม. ถึง ๔๕นาทีแล้วเริ่มขอกระดาษคำตอบเพิ่ม ขอมาทีละเยอะๆ เวลาครูเผลอก็เอากระดาษคำตอบที่เราเตรียม (ซ่อน) ไว้ออกมาปนๆบนโต๊ะแล้วก็ลอก ดูๆไปก็เหมือนกับเรากางหน้าที่ตอบไว้แล้วเฉยๆ

แต่ว่าบางทีข้อสอบก็ไม่ได้ออกตามที่เราเก็งไว้ทำให้คำตอบที่เตรียมไว้นั้นไรค่า แต่ว่าพวกเราก็เตรียมแผนการรองรับไว้แล้ว ในห้องน้ำทุกๆห้องจะมีหนังสือเรียนวิชาที่สอบแอบซุกไว้อยู่เพื่อที่ว่าเราจะได้แอบออกมาดูคำตอบได้เวลาขอมาเข้าห้องน้ำ ทางฝ่ายครูก็กะว่านักเรียนจะใช้มุกตื้นๆนี้จึงให้ครูที่คุมสอบออกมากับนักเรียนด้วย แต่ว่าพวกเราก็หาทางป้องกันไม่ให้ครูเข้ามาในห้องน้ำด้วยวิธีง่ายๆ....นั่นก็คือ "ขี้" ใช่แล้วครับพวกเราจะเลือกห้องน้ำที่สกปรก ถ้าจะให้ดีก็ที่มีคนอึไว้แล้วไม่ราด มันจะเหม็นอย่างหนักหน่วงและน่าขยะแขยงที่สุด รับรองได้ว่าพวกครูที่ตามมาด้วยพอเจอกลิ่นนี้แต่ไกลก็แทบอ้วกแล้ว จะให้ตามมาตรวจห้องน้ำด้วยคงใจไม่แข็งพอ ส่วนใหญ่ก็จะตามมาตรวจแค่วันสอบแรกๆแหละ พอเจอกลิ่นอเวจีนี่เข้าไปก็ให้เดินเข้าห้องน้ำกันเอง ไม่มาคุมอีกต่อไป

ยังครับ ยังไม่หมด จำตอนต้นที่ผมบอกว่าโต๊ะที่สอบจะถูกปูไปด้วยกระดาษโปสเตอร์สีขาวเพื่อป้องกันเด็กใช้ดินสอเขียนบนโต๊ะได้ใช่มั้ยครับ? มันกลับกลายเป็นว่าการที่เขาปูโต๊ะด้วยกระดาษเนี่ยเป็นการทำให้ผมโกงสอบได้ง่ายขึ้นเอาซะนี่ อย่างไรนะหรือ? ก็แค่เอาปากกาลูกลื่นที่เขียนไม่ออกมาเขียนบนกระดาษให้เป็นรอยนะสิ พอส่องๆกับแสงแดดหรือแสงไฟก็อ่านออกแล้ว เพียงแค่อย่าเพ่งให้มันเกินงามจนมันดูพิรุจเท่านั้น ก่อนที่เราจะส่งกระดาษคำตอบให้ครูตอนสอบเสร็จก็ทำให้กระดาษปูโต๊ะนั้นขาด เขาจะได้เปลี่ยนแผ่น เวลาเราเขียนคำตอบของวิชาต่อไปจะได้ไม่ไปทับรอยเก่าให้มันงง

ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่าทำไมพวกเราถึงเข้าไปเขียนคำตอบบนโต๊ะรอได้ง่ายๆ? โรงเรียนไม่ได้ล๊อกห้องหรือ? คำตอบคือโรงเรียนล๊อกห้องครับ แต่ว่าด้วยคุณงามความดีที่เราทำไว้กับยามและภารโรงเกือบทั้งปี (แอบซื้อเหล้าซื้อเบียร์มาให้) ทำให้เราสามารถขอร้องให้เขาเปิดห้องสอบเพื่อที่เราจะได้ไปเอาของที่ทำตกไว้ (อ้างชัดๆ) แล้วไปปลดล๊อกประตูอีกบานที่ต่อกับหอ เท่านี้เราก็สามารถย่องไปในห้องสอบเพื่อเตรียมการต่อไปได้

วิธีโกงแบบสุดท้าย (จะใช้ต่อเมื่อทุกวิธีที่กล่าวมาข้างต้นล้มเหลวอย่างหมดท่า) นั่นก็คือ "ลอกกันหน้าด้านๆ" ใช่ครับ ลอกกันหน้าด้านๆแบบส่งกระดาษคำตอบให้ลอกเลย คนที่ให้ลอกจะเสี่ยงแบบฟรีๆ แต่พวกที่ขอลอกจะออกแนวเห็นแก่ตัวมากๆ ทำนองว่าเอาเพื่อนไปเสี่ยงกับตัวเองด้วยฟรีๆ แต่ว่าจะลอกกันแบบที่น่าเกลียดอย่างนี้มีปัจจัยหลักคือ "ครูคุมสอบ"

ถ้าหากเจอครูคุมสอบที่ไม่ค่อยเข้มเท่าไหร่ ชิวๆ ชิลส์ๆ อย่างนี้เสี่ยงได้ ตอนสอบวิชาบัญชีของ ICSE ผมก็ให้เพื่อนลอกแบบนี้มาแล้ว พอดีอ้ายตูดเป็ดที่นั่งอยู่ข้างหลังผมมันคงจะตกเป็นอย่างแน่แท้ เพราะว่าการสอบบัญชีมันไม่ใช่แค่ท่องจำนี่ ถ้าไม่เข้าใจก็จบข่าว ตอนที่มันขอผมลอก ครูที่คุมสอบก็ยืนอยู่ข้างๆผมเนี่ยแหละ แต่ว่าเวลามันจะใกล้หมดแล้ว มันเลยเอาเท้ามาถีบเก้าอี้ผมมาจากข้างหลัง ครูเขาก็เห็นนะแต่ก็แค่ยิ้มๆ ผมก็ยังไม่กล้าที่จะอาจหาญส่งคำตอบให้ลอกต่อหน้าครู แต่ว่าไอ้ที่อยู่ข้างหลังมันถีบเก้าอี้เสียหน้าผมจะคว่ำให้ได้อยู่แล้ว โดนถีบหนักๆหลายๆทีผมก็โมโห เลยส่งกระดาษคำตอบให้แล้วบอกให้มันหยุดถีบได้แล้ว ครูที่อยู่ข้างๆก็จ้องผมอยู่แบบงงๆ แล้วเขาก็โน้มตัวกระซิบบอกผมข้างๆหูว่า "แอบๆหน่อยดิ"

สุดท้ายสอบผ่าน โกงมั่ง ไม่โกงมั่ง คละๆกันไป

จบม.๔ ปี๔

Create Date : 20 ตุลาคม 2552

Last Update : 20 ตุลาคม 2552 22:34:28 น.

3 comments

Counter : 1092 Pageviews.