แต่งและเขียนเรื่องโดย เซบาสเตียน 9 เมษายน 2550 เรื่องนี้เป็นจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากชื่อบุคคล สถานที่หรือเหตุการณ์ตรงกับใคร ทางผู้จัดทำขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย -------------------------------------------------------------- ตอนที่ 10 เรื่องวิชามารการตลาด1 (ของถูก)
ทำเลดี ไม่แพง เปิดวันนี้ โทร 0-2xxx-xxxx
น้องหน้าตาบ็องแบ้วมองป้ายโฆษณาขณะนั่งรถเมล์ เธอเป็นนักศึกษาคณะบริหารของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คนช่างฝันอ่านป้ายได้ความคิดว่าอยากทำฝันให้เป็นจริงและอยากเริ่มความฝันตอนนี้
ความฝันของเรไรคืออยากเปิดร้านขายโคมไฟเพราะแถวบ้านเธอเป็นแหล่งทำโคมไฟ ทำให้เธอชอบสีสันและการออกแบบ เรไรคิดว่าโคมไฟเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ เพียงนำหลอดไฟมาติดแล้วตกแต่งให้ดูสวยงาม เพียงเท่านี้โคมไฟแต่ล่ะอันมีราคาแตกต่างราวฟ้ากับดิน
"สวัสดีค่ะ ติดต่อสอบถามค่ะ" นักศึกษาถามพนักงานในสำนักงานแห่งหนึ่ง
"ติดต่อเรื่องอะไรคะ"
"คือหนูอ่านป้ายโฆษณาเกี่ยวกับเช่าร้านขายของค่ะ อยากทราบรายละเอียดเรื่องการเช่าที่ค่ะ"
"เรามีหลายราคาแล้วแต่น้องสนใจจุดไหน ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นค่ะ เลยสิ้นเดือนนีจะเป็นอีกราคาหนึ่ง น้องอยากขายอะไรคะ" พนักงานขายถามเรไร
"โคมไฟค่ะ พอดีหนูมีทุนอยากลองทำค่ะ" เรไรยิ้มแย้มด้วยตาโตกลมใสพูดพร้อมพลิกดูรายละเอียดของราคาค่าเช่า 'เป็นราคาที่ไม่แพง น่าสงสัยจัง' น้องนักศึกษาไม่มั่นใจราคาที่เห็นเป็นราคาจริงหรือไม่ "พี่คะ โปรโมชั่นนี้ถูกมากเลยค่ะ ถูกกว่าที่อื่นที่หนูเคยสอบถามมา"
"แน่นอนค่ะน้อง เพราะเราลองตลาดใหม่แต่รับรองฝ่ายการตลาดดูแล้วต้องดี อยากให้น้องดูนะค่ะ ทำเลตรงหัวมุมสี่แยก"
'ใช่....อย่างที่พี่บอกดูทำเลแล้วดีจริง อยู่ตรงมุมสี่แยก มีที่จอดรถ ที่สำคัญอยู่ในตัวเมืองแถมรถพลุกพล่าน มันน่าสงสัยนะ ราคาทำไมไม่แพง' พนักงานขายมองเห็นเรไรยังลังเล ด้วยประสบการณ์มีมากกว่า 10 ปี "น้องค่ะ เราขายจำกัดของที่ขายด้วยค่ะ อย่างโคมไฟเราให้สี่ร้าน ถ้าน้องสนใจเป็นร้านที่สาม เมื่อไรครบสี่ร้าน เราไม่รับเพิ่มนะค่ะ"
"แต่หนูว่าราคาถูกไปค่ะ สงสัยมาก"
"เรื่องนั้นทุกคนถามค่ะ เราเปิดใหม่ย่อมมีความเสี่ยง ตอนแรกอาจยังขายไม่ค่อยดีเพราะยังไม่ติดตลาด ฉะนั้นจึงทำสัญญาแบบปีต่อปี เราทำงานไม่เอาเปรียบลูกค้าเพราะชื่อเสียงไม่ได้สร้างขึ้นมาอย่างง่ายๆ"พนักงานพูดให้เธอมั่นใจในบริษัท
เรไรดูเหมือนยังลังเล บ้านของสาวตาโตไม่ได้ฐานะร่ำรวย ด้วยความอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบ เงินของเธออาจดูเล็กน้อยในสายตามหาเศรษฐี แต่สำหรับทรัพย์ก้อนนี้เป็นดั่งขุมทรัพย์ที่เธอต้องใช้อย่างระมัดระวัง "ขอกลับไปคิดก่อนนะพี่แล้วหนูจะโทรมาบอก นะค่ะ"
"พี่อยากช่วยเธอเห็นคนรุ่นใหม่มีความตั้งใจแบบนี้พี่สนับสนุน น้องอย่าบอกใครล่ะกัน หัวหน้าให้โควตาพี่ไว้"
คำพูดอันดูน่าเชื่อถือประกอบการแต่งกายและการพูดจาของผู้มีประสบการณ์ขายมายาวนาน รู้จักเว้นวรรคไว้ให้เด็กอย่างเรไรสงสัยและซักถามต่อได้ "โควตาอะไร พี่"
"สัญญากับพี่ก่อน ถ้าพี่บอกน้องห้ามไปบอกร้านอื่นนะ"
"ค่ะ" เรไรพยักหน้า
"หัวหน้าไว้ใจพี่ให้โควตาค่าน้ำ ค่าไฟ สำหรับร้านที่พี่คิดว่าให้ได้ ตอนแรกพี่จะเก็บไว้ให้เพื่อนพี่ แต่เพื่อนสิ ไม่เห็นเหมือนน้องเลย เอาแต่เดี๋ยวก่อนๆ วันทั้งวันไม่รู้จักทำมาหากิน เด็กอย่างหนูพี่เห็นแล้วชื่นใจ เด็กสมัยนี้ขี้เกียจไม่เหมือนน้องน่ะ รู้จักทำมาหากิน ถ้าน้องทำสัญญาพี่ให้ค่าน้ำไฟฟรี 3 เดือนเลย แต่ห้ามบอกใครน่ะ ร้านอื่นรู้เข้าโกรธพี่แย่"
เรไรเองพอรู้ว่าเป็นวิธีการขายอย่างหนึ่ง ถึงอย่างไรเงินมันไม่ใช่น้อยสำหรับเธอ เธออยากกลับไปคิดก่อน เนื่องจากพนักงานขายถูกได้อบรมมาดี รู้จักพูดและกล่อม จนกระทั่งเด็กสาวตกลงรับเซ็นต์สัญญา
.... วันต่อมา .....
'ไม่ใช่ฝัน' เรไรหยิกแก้มตัวเอง วันนี้ความฝันเป็นจริงแล้ว 'เย้' การทำงานของนักศึกษาผู้นี้ ช่วงเช้าออกไปเรียนหนังสือ ช่วงเวลาว่างรับของมาขายที่ร้านตอนเย็น จ้างคนงานช่วยเฝ้าและปิดร้านตอนดึก ตอนแรกมีขลุกขลักอยู่บ้าง แต่เธอนำวิชาที่ได้จากการเรียนหนังสือมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เธอยังฝันต่อไปว่าไว้อะไรลงตัวหรือเมื่อไรเรียนจบ เธอจะออกแบบโคมไฟมาขายเอง
.... ผ่านไปหนึ่งปี ....
สิ่งหนึ่งสำหรับการค้าขายในช่วงแรกคือสินค้ายังไม่เป็นที่รู้จักและยังไม่ค่อยติดตลาดเท่าไร หลังจากผู้คนหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เรไรเริ่มเห็นกำไรมากขึ้น แน่นอนเธอมีลูกค้าประจำมารับของไปขายต่อ "ทุกอย่างทำเองหมดค่ะ สนใจสอบถามได้นะคะ ราคาตามป้ายไม่มีราคาเผื่อต่อ สนใจขายส่งคุยด้านในได้นะค่ะ" สินค้าในร้านขายดีเพราะไม่ได้ขายราคาเกินจริงเมื่อเทียบกับคุณภาพและค่าครองชีพของคนทำงานทั่วไป
ความสุขของเธอกำลังเป็นเพียงชั่วคราวเพราะเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีการประกาศจากสำนักงานขายว่าขอเพิ่มราคาค่าเช่าใหม่ เรไรดูราคาค่าเช่าต้องตกใจ 'ทำไมแพงเพิ่มถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์'
"พี่ค่ะ แบบนี้ไม่ไหวขึ้นราคาแบบนี้คนขายก็แย่สิค่ะ" เธอบ่นกับผู้จัดการ
"อย่างตอนแรกเราช่วยผู้เช่าไงครับ ตอนนี้เป็นราคาที่ฝ่ายการตลาดคิดไว้แล้วอย่างมีเหตุผล ไม่พอใจก็ออกไป" ผู้จัดการพูดตัดบท
"พี่ทำแบบนี้ได้ไง ตอนแรกพูดอย่างดิบดีอยากให้ขาย ตอนนี้กลับมาพูดแบบนี้"
"ผมไม่ว่างมาคุยกับทุกคนหรอก งานผมยุ่ง วันๆมีแต่คนคุยเรื่องนี้" ผู้จัดการพูดอย่างเสียอารมร์เพราะต้องรองรับอารมณ์กับเจ้าของร้านเช่าทุกวัน
การต่อสู้เรื่องค่าเช่ากับเจ้าของพื้นที่กำลังดำเนินต่อไป ผู้เช่ารวมตัวกันไม่จ่ายค่าเช่าในส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น ส่วนเจ้าของพื้นที่แก้ไขปัญหาด้วยการประกาศปิดพื้น นำกำแพงปูนมากันทางไว้ ความเดือดร้อนของคนหาเช้ากินค่ำชักทนไม่ไหว รายได้หดหายไปเยอะจนต้องร้องต่อสื่อ
ร้านค้าร้องต่อผู้ว่า เจ้าของบีบราคาเกินจริง หนังสือพิมพ์ลงข่าวและมีรายการสัมภาษณ์เรื่องความเดือดร้อนของผู้เช่า
ด้วยกลัวชื่อเสียงบริษัทเสียหาย ทางสำนักงานจึงยอมลดค่าเช่าให้อยู่ราคาเดิม
ผู้เช่าทุกรายรวมทั้งเรไรต่างแสดงความยินดีกันใหญ่ ถ้าเราร่วมพลังต้องชนะพ่อค้าหน้าเลือดได้แน่ สงครามเรื่องราคายังไม่จบ เรไรและผู้เช่ารายอื่นดีใจได้ไม่นาน วันดีคืนดีร้านขายโคมไฟของเรไรมีร้านอื่นขายเหมือนกันแต่ราคาถูกกว่า
ตอนแรกเรไรไม่เชื่อเพราะราคาที่เพื่อนบอกเป็นราคาขายส่ง จะเอามาขายปลีกได้อย่างไร เพื่อนทุกคนยืนยันว่าเป็นราคาจริงแน่นอน
ไม่รู้ทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี คงต้องขายไปสักระยะก่อนเผื่อทุกอย่างจะดีขี้น เรื่องขายของทุกคนอยากได้ของถูกกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกใจเหตุใดลูกค้าประจำของเธอถึงได้ตีจากไปหาร้านอื่นที่ถูกกว่า
ศึกครั้งนี้เรไรคิดหลายรอบไม่อาจลดราคาตามคู่แข่งได้ ไหนต้องเสียค่าเช่า ค่าลูกจ้าง หากปรับราคาให้เท่ากันขายขาดทุนแน่นอน ต่อมาไม่นานเธอเริ่มขาดทุนและขาดทุนสะสมเรื่อยๆ จนเธอต้องปิดร้านไป
'เหนื่อยจัง ทำไมทำงานอาชีพสุจริตถึงยากขนาดนี้' น้องเรไรพ้อออกมาอย่างน้อยใจ
----------------- บทสรุป -----------------------
ผมจะเปิดวิชามารให้ครับ ตอนแรกที่นี่ให้ราคาถูกเพราะต้องการให้ผู้อื่นเป็นหนูทดลองก่อน ส่วนราคาที่เพิ่มขึ้นเกินราคาจริงนั้น แท้จริงแล้วเจ้าของพื้นที่ไม่ต้องการให้ผู้เช่าเช่าต่อเท่านั้นเอง
ทำแบบนั้นจะมีคนขายของด้วยรึ? - อันนี้ขอบอกอย่างหนึ่งครับ ปกติคนขายมักจะพูดว่าทำเองๆ แต่จริงๆแล้วเกือบทุกร้านก็รับต่อมาอีกที จึงมีพ่อค้าหัวใสอยากรู้สินค้าว่าคุณได้มาจากไหน คนพวกนี้คอยแอบติดตามคุณเพื่อหาแหล่งที่มา
- มีบางคนทำยิ่งกว่านี้ เอาคนของตัวเองเข้าไปเป็นลูกจ้าง แทรกตัวเขาไปเพื่อให้คุณไว้ใจแล้วหลอกถามเคล็ดลับ สูตรต่างๆเพื่อทำเอง
ที่กล่าวมานั้นบางอย่างไม่น่าเกลียดแต่บางอย่างผู้เขียนขอเรียกอุบาทว์ ตัวอย่างที่ผู้เขียนยกขึ้นมาคือเล่นบีบบังคับแบบน่าเกลียด ถ้าไม่ยอมจ่ายค่าเช่าก็ใช้ทุนหนากว่าให้พวกคุณอยู่ไม่ได้เพื่อไล่ออกไปแล้วตัวเองทำต่อเอง
ฉะนั้นพวกคุณจ่ายไม่จ่ายคนพวกนี้ไม่สนใจหรอก พวกนี้คิดไว้แล้วว่าสิ่งที่เขาทำต้องคุ้มกว่า หากตลาดที่พวกเขาสร้างไว้ไม่ติดตลาด พ่อค้าพวกนี้ไม่ทำแบบนี้แน่นอน "เรื่องแบบนี้ในตำราไม่มี"
แนะนำและแก้ไข น้องเรไรถึงเป็นนักศึกษาก็ไม่ควรใช้คำว่าหนูเหมือนเด็ก ควรใช้ดิฉันและคุณเพราะว่าเรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องธุรกิจ ไม่ต้องเกรงใจว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ให้พูดในลักษณะผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ ถามให้หมดไม่ต้องเกรงใจว่าคนที่เราถามจะรำคาญ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปากท้อง เราพูดสุภาพได้แต่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ (เฉพาะสถานการณ์นี้)
น้องเรไรต้องพัฒนาสินค้าตลอดเวลาและต้องระวังเรื่องวัตถุดิบหรือแหล่งที่มาบ้างอย่าง บอกหมดไม่ได้และไว้ใจลูกน้องมากก็ไม่ดี (แต่อย่าจับผิดลูกน้องมากจนเกินเหตุนะครับ) ------------------------------------------------------------------------- ผมอยากได้เงินเพื่อมาต่อยอดผลงานอื่นต่อ เคยเขียนบทความนี้มานาน 10 ปี ผมไม่เคยเปิดบัญชีดูว่ามีใครโอนเงินมาให้หรือใหม่ ตอนนี้จะทำใหม่และเขียนเพิ่มเติมอีกครั้ง เลขบัญชีนี้เป็นเลขบัญชีใหม่ครับ หากผู้อ่านสนับสนุนผลงาน ผมยินดีมากหรืออยากอ่านฟรี ผมยินดีเช่นกันครับ แก้ไขเลขที่บัญชีใหม่ ธนาคารกสิรกรไทย / Kasikorn Bank (KBank) สาขา จักรวรรดิ / Jaggrawud Branch เลขที่บัญชี / Account Number : 051-250-1842 ชื่อไทย นายนบณัฐพงศ์ สุริยาโรจน์ / MR.NOBNUTPONG SURIYAROJ
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2560 15:15:50 น. |
|
0 comments
|
Counter : 290 Pageviews. |
|
|