ผู้กำกับ : แอนดรูว์ เลา , อลัน มัก  ผู้แสดง : เหลียงเฉาเหว่ย, ทาเคชิ คาเนชิโร่, สวี่จิ้งเหล่ย, ซูฉี

    ความสนใจเดียวที่เลือกไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะ มันเป็นผลงานของผู้กำกับเรื่อง Infernal Affairs ที่เลื่องชื่อ จนฮอลลีวู้ด เอาไปรีเมคใหม่ที่น่าหมั่นไส้คือ จนถึงวันประกาศผลออสก้าร์ สื่อบางสื่อยังออกข่าวว่าThe Departed เดิมเป็นหนังญี่ปุ่น(มันไม่ให้ความสำคัญกับเจ้าของเดิมเล้ย....)แถมหนังรีเมคเรื่องนี้ยังได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (อย่างไม่เห็นจะน่าภูมิใจเลยเพราะมันไม่เห็นจะต่างจากต้นฉบับตรงไหน)  แต่เอาเหอะถ้าคิดในแง่ดี แสดงว่าเรื่องและบทInfernal Affairs  ของเอเชียเรามันดีจนฮอลลีวู้ด ต้องยกย่องให้ก็แล้วกัน

     หนังเปิดเรื่องย้อนไป 3 ปีที่แล้ว ในคืนวันคริสมาสต์  กับฮ่องกงเมืองแห่งแสงสี ศิวิไลย์  สองคู่หูตำรวจฝ่ายสืบสวน หลิวเจิ้งสี่ (เหลียงเฉาเหวย) และ  บ็อง(ทาเคชิ คาเนชิโร่) ลูกน้องคนสนิท  กำลังพูดคุยกันระหว่างรอการปฏิบัติงาน บ็องกำลังมีปัญหากับมิเชลแฟนสาว โดยที่เค้ารำพึงรำพันถึงปัญหาที่คิดไม่ตก เค้าไม่เคยทะเลาะกับแฟนเลย แต่เหมือนเค้าทำอะไรไม่ถูกใจมิเชลเลยซักอย่าง หลิวเจิ้งสี่ หรือ หัวหน้าไห่ ก็ให้คำแนะนำไปอย่างเพื่อนร่วมงานที่ดี โดยยกตัวอย่างแบบตำรวจว่า "เหมือนเวลาเราตามจับฆาตกร เราต้องหาวิธีหลายวิธีเพื่อตามจับ" นายก็น่าลองเอามาใช้กับผู้หญิงดูสิ........ หลังจากนั้นคู่หูและทีมตำรวจก็ไปช่วยกันจับคนร้าย

    รุ่งขึ้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น มิเชลแฟนสาวของบ็องฆ่าตัวตาย!  ก่อนหน้านั้นเธอแท้งลูก โดยที่บ็องไม่รู้เรื่องลูกเลย  เค้าคิดว่าเค้าเป็นต้นเหตุให้แฟนสาวต้องตายจนทำให้ตัวเค้าต้องจบชีวิตตำรวจลง แล้วมาเป็นนักสืบเอกชนขี้เหล้าอยู่ตามท้องถนน ทั้งที่แต่ก่อนเค้าไม่ใช่นักดื่ม  และเค้าก็กลายเป็นชายผู้ไร้หลักและจุดยืนในชีวิต เค้าไม่พูดกับใครซะนานประโยคที่เค้าพูดหลังจากนั้นคือ "เมื่อจู่ๆ คนที่คุณรักจากไป โดยไม่ได้ร่ำลา มันเจ็บปวดและร้ายกาจที่สุด"

     ปัจจุบัน (ปี2006)  บ็องลาออกจากการเป็นตำรวจแต่ยังคอยมาช่วยสืบค้นคดีให้หลิวเจิ้งสี่ อยู่เสมอ  ส่วนหลิวเจิ้งสี่ เองก็มีชีวิตและหน้าที่การงานที่ดีขึ้น เค้าได้แต่งงานกับซูซาน (สวี่จิ้งเหล่ย)อดีตนักข่าว ลูกสาวมหาเศรษฐี คิมหลิวเจิ้งสี่ มักนัดเจอกับบ็องอยู่เสมอ  บ็องมักจะไปนั่งดื่มที่บาร์(ซึ่งเป็นบาร์ที่มิเชล มานั่งดื่มก่อนฆ่าตัวตาย) หลิวเจิ้งสี่ เล่าให้ซูซานฟังว่า บ็องคงพยายามสืบถึงสาเหตุที่มิเชลฆ่าตัวตาย  และที่บาร์นี้เองบ็องได้เจอสาวเชียร์เบีย อาเฟิง(ซูฉี)ที่คอยเป็นเพื่อนให้บ็อง  ดูชีวิตของหลิวเจิ้งสี่ ไม่น่าจะมีอะไรจนเมื่อ พ่อตาของเค้า ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมในบ้านพัก จากหลักฐานและรูปคดี ดูเหมือนเป็นคดีฆาตกรรมที่ไม่มีอะไรซับซ้อน มันก็เหมือนการฆ่าชิงทรัพย์ปกติ เพราะไม่นานก็รู้ตัวคนร้ายซึ่งมีด้วยกัน 2 คน แต่คนร้ายไม่ได้อยู่ให้ตำรวจได้ไต่สวนแล้วนะสิ สาเหตุคือทั้งคู่ฆ่ากันตายเพราะขัดผลประโยชน์กันเอง  ตำรวจจึงปิดคดีนี้โดยง่าย

       แต่ซูซาน  กลับไม่คิดอย่างนั้น เธอสงสัยกับข้อมูลบางอย่าง เช่นปกติ พ่อและคนสนิท จะเป็นคนที่ไม่ชอบเปิดประตูให้คนแปลกหน้าเข้าบ้านง่ายๆ แสดงว่าหนึ่งในฆาตกรต้องเป็นคนรู้จักกับพ่อเธอดีขนาดสมัยก่อนเพื่อนของเธอมาที่บ้าน เค้ายังต้องตรวจสอบก่อน ถึงจะให้เข้าบ้านจนเป็นเหตุให้ทะเลาะกันเป็นประจำ ทำให้เธอหนีออกจากบ้านตอนอายุ 18 และเธอเองก็อยากรู้ว่าพ่อเธอเป็นคนยังไง เพราะเธอไม่เคยปรับความเข้าใจกับพ่อเลยจึงไปขอร้องให้ บ็องมาช่วย หลิวเจิ้งสี่  สามีเธอสืบคดีอีกครั้งหนึ่ง  บ็องบอกเธอไปว่าคดีปิดแล้วและมันไม่ใช่งานที่นักสืบจะไปยุ่งได้ แต่พอซูซานขอร้องและพูดกับเค้าว่า "ชั้นก็เหมือนคุณที่มานั่งที่บาร์แห่งนี้เพราะอะไร" ( การที่คนรักจากไปโดยไม่ร่ำลา มันช่างปวดร้าวดีจริงๆ)
         
       หลิวเจิ้งสี่ นัดเจอกับ บ็อง และสอบถามเรื่องที่บ็องเข้ามาช่วยสืบคดี บ็องพูดถึงข้องมูลที่ซูซานสงสัย นั้นหมายความว่าคนร้ายอาจจะมี 3 คน  และบ็องก็สงสัยถึงพฤติกรรมระแวดระวัง คนของพ่อซูซาน ว่าอาจเป็นสาเหตุของการฆาตกรรมอำพรางก็ได้หลิวเจิ้งสี่ ให้ข้อมูลกับบ็องว่า เค้าก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะ พ่อของซูซานมีสมบัติเยอะ บ็องเลยแซวเค้าว่า "งั้นก็เป็นฝีมือคุณนะสิ" หลิวเจิ้งสี่ ตอบแบบติดตลกว่า "ฆาตกรไม่ได้จับกันง่ายๆ" พร้อมทั้งขอร้องให้บ็องกล่อมภรรยาเค้าให้ทานยาระงับประสาทที่หมอสั่งเพราะเธอไม่ยอมทานยา เพราะระแวงเค้า และช่วงนี้เธอหลอนว่ามีคนสะกดรอยตามเธอ ยังไม่ทันไร ทั้งซูซานและบ็องก็โดนคนร้ายเล่นงานโดยสาดน้ำมันเข้าไปในห้องที่ทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่และจุดไฟเผา

     หลิวเจิ้งสี่และบ็องเข้าไปดูสถานที่เกิด เหตุด้วยกันพร้อมจำลองเหตุการณ์ ฆาตกรรม(ประมาณโคนันตอนสืบสวนคดี ซีนนี้ในหนังภาพสวยดี)การสืบคดีของบ็องค่อยๆใกล้ความจริงขึ้นทุกขณะในขณะที่คนร้ายเองก็ค่อยๆเก็บและกำจัดหลักฐานของคดีอย่างช้าๆ เช่นกัน  และแน่นอนตอนนี้คนร้ายไม่ได้มีแค่ 3 คนเท่านั้นแต่มีถึง 4 คน  เหตุการณืเลวร้ายขึ้นเมื่อ ซูซาน ที่วันๆเอาแต่นอนและสลึมสลือกับฤทธิ์ยาที่ หลิวเจิ้งสี่ ให้เธอทาน ถูกทำร้ายหมายชีวิต จนทำให้ หลิวเจิ้งสี่ ต้องไปเฝ้าอาการที่โรงพยาบาล
      ส่วนบ็อง ก็ได้ทราบสาเหตุของการตายของมิเชลแฟนสาวของเค้า จากเฟิง ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยปลดแอกความทุกข์ให้แก่เค้า  ผิดกลับหลิวเจิ้งสี่ ที่กลับเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมนและนรกในใจ  เพราะหญิงที่เค้ารัก และเหมือนญาติคนเดียวในชีวิตของเค้ากำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตายที่เค้าเองก็มีส่วน.....
       หลังจากนั้นไม่นาน บ็องมีโอกาสพบกุญแจดอกสำคัญ(ที่เผยไว้แต่ต้นเรื่อง)ของคดีฆาตกรรมนี้ มันเป็นสิ่งเดียวที่พาให้เค้าไปพบเรื่องราวที่แสนปวดร้าวของฆาตกร ... ที่ถึงแม้ชำระความแค้นไปแล้วความทุกข์ทรมานในใจก็ไม่ได้หมดไป .....

       ตอนแรกเห็นชื่อและเรื่องย่อ Confession of Pain  “คู่เดือด เฉือนคม” ใจก็ฟุ้งไปไกลว่า หนังต้องมันส์ระห่ำหักเหลี่ยมเฉือนคมกันอย่างหนังฮ่องกงที่เคยเห็นแต่ในใจก็เผื่อไว้นิดนึงกับสไตล์การเล่าเรื่องของผู้กำกับที่มักจะใส่มุมมองความเป็นดราม่าเข้าไป จนเป็นสไตล์เฉพาะตัว อย่าง Infernal Affairs ทั้ง3 ภาคมี แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ  ความมันส์ ฉากบู๊มีน้อยกว่าที่คิดไว้มาก จนคิดว่านี่น่าจะหนังชีวิตที่เกี่ยวกับการล้างแค้นมากกว่าหักเหลี่ยมเฉือนคมอย่างชื่อภาษาไทยที่ตั้งซะมันส์หยดว่า“คู่เดือด เฉือนคม”  สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้คงเป็น เรื่องของภาพ และเพลง ส่วนภาพรวมของหนัง โดยส่วนตัวก็ให้ความบันเทิงในระดับธรรมดา (แหม...ก็พี่แกเล่นเฉลยตัวคนร้ายตั้งแต่แรกไม่ให้เราได้ลุ้นเลย) แต่อย่างว่ามันคงเป็นวัตุประสงค์ของผู้กำกับที่ เน้นเนื้อหาแบบหนังชีวิตอย่างที่ชื่อเรื่องบอกไว้Confession of Pain  “การสารภาพบาปของความเจ็บปวด” 

Create Date : 12 เมษายน 2550
Last Update : 15 เมษายน 2550 22:10:16 น.		5 comments
Counter : 2633 Pageviews.
Share Tweet