Bloggang.com : pinestand : ทุ่งทานตะวัน หน่อยๆ เขื่อนป่าสักนิดๆ พระปรางค์สามยอดเยอะๆ

ทุ่งทานตะวัน หน่อยๆ เขื่อนป่าสักนิดๆ พระปรางค์สามยอดเยอะๆ

สวัสดีครับ แฮะๆๆๆๆ

หลังจากหายหน้าหายตาไปซักพัก ผมได้มีโอกาศไปเที่ยวมาครับ น้องๆที่ทำงานเค้าจะไปเที่ยวกัน ผมก็เลยขอแจมเค้าไปด้วย

โปรแกรมที่เค้าบอกว่าจะไปกันก็ประมาณ ทุ่งทานตะวัน - เขื่อนป่าสัก - แล้วก็งานอะไรซักอย่างที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นๆที่ โลตัสลพบุรี ครับ

ผมก็เลยถือโอกาศไปด้วย

"ออย จะไปเที่ยวไหนบ้าง" ผมถามน้องเค้า

"เอ่องานอะไรญึ่ปุ่นๆ หนะพี่ ว่าแต่พี่มีที่เที่ยวระหว่างทางจะแนะมั้ย หนูไม่รู้อะไรเลยว่าจะไปทางไหน แล้วแวะที่ไหนบ้าง " น้องเค้าตอบมา

"พี่สนใจไปกับพวกหนูป่าว ไปเถอะนะพี่แล้วก็จะได้พาพวกหนูเที่ยวด้วย"น้องสำทับกลับมาอีกที

"กำ จะไปเที่ยวแล้วยังไม่มีข้อมูลเหรอเนี่ย"

ผมคิดในใจ

ก่อนที่จะตอบตกลงน้องเค้าไป "ไปซิๆ "

"ดีเลยพี่ พาเที่ยวที่อื่นด้วยระหว่างทางนะพี่นะ "น้องเค้าย้ำกลับมาอีกครั้งนึง

สรุปก็เลยต้องเป็นมัคคุเทศน์กลายๆพาทะโมน ทั้งหมดรวามทั้งผมด้วย 13 ชีวิตไปเที่ยวครับ

โปรกแกรมที่ผมเซตไว้ก็คือ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย - ทุ่งทานตะวัน - เขื่อนป่าสัก - แล้วก็งานญี่ปุ่นฟันแฟร์ครับ

เอาหละครับเดินทางกันเลยดีกว่า

ผมกับน้องๆออกเดินทางจากหอพักบริษัทประมาณตี 4 นิดๆ เพื่อที่จะไปถึงแถวๆมวกเหล็กประมาณ 7 โมงครับ

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

ผมไปถึงประมาณ เกือบๆเจ็ดโมงเช้าครับ

จุดแรกที่ไปแวะหยุดก็คือน้ำตกดงพระยาเย็น คณะผมไปถึงประมาณ เกือบๆเจ็ดโมงเช้าครับ อากาศยังเย็นๆอยู่เลย หายใจออกมายังมีไอน้ำออกมาให้เห็นอยู่ครับ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

ตัวน้ำตกอยู่ริมทางครับสังเกตง่ายๆ

เสียดายไม่ไปช่วงเช้าอากาศยังเย็นๆอยู่ถ้าไปช่วงบ่ายร้อนๆ คงได้ลงไปเล่นน้ำ

หลังจากไปอุ่นเครื่องกล้องซะหน่อยก็ขับรถย้อนกลับมาทางน้ำตกเจ็ดสาวน้อยครับ

สภาพอากาศตอนเช้าแสงแดดอ่อนๆ ที่ลาดจอดรถน้ำตกเจ็ดสาวน้อย

ปล.ไม่มีรูปน้ำตกเยอะนะครับส่วนมากถ่ายรูปคนมากกว่า(น้องๆเค้าบอกว่า"พี่ถ่ายเยอะๆเลยนะพวกหนูพร้อมเป็น Presenter ตลอดเวลาค่า....

")

เอาหละครับ ๆไปเที่ยวกันต่อดีกว่า น้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็ไม่มีอะไรมากเหมือนน้ำตกดงพระยาเย็นนั่นหละครับ ลักษณะคือลำธารไหลผ่านแก่งหินครับ

ผมเดินทางกลับมาทางเดิมเพื่อย้อนกลับไปทางอำเภอวังม่วงเพื่อไปเที่ยวทุ่งทานตะวัน กับเขื่อนป่าสักฯครับ

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

ระหว่างทางก็แวะอุโมงค์ต้นไม่หน่อยนึง แต่รูปถ่ายไว้ไม่สวยครับ ช่วงนี้ต้นกระถินค่อนข้างแห้ง เลยไม่ได้ถ่ายมากครับ แต่ถ้าใครสนใจจะแวะก็ได้นะครับ อยู่บนเส้นทางจาก น้ำตกเจ็ดสาวน้อยไปทางเขื่อนป่าสักนั่นหละครับ

เอาครับ ทานตะวันเท่าที่ถ่ายแบบสวยๆมา (ถ่ายรูปคนเยอะครับ เลยไม่ได้เอามาลง)

อันนี้เกสรของทานตะวัน

อันนี้เม็ดครับที่เอาไปคั่วกินนั่นแหละ

พอออกจากทุ่งทานตะวัน ก็มุ่งหน้าไปเขื่อนป่าสักครับ แต่ขับรถผ่านไปได้เรื่อยๆ ก็เจอะกับทุ่งทานตะวันอีกเพียบ

ผมก็เลยถามน้องๆ "แวะถ่ายรูปอีกป่าว ???"

"ไม่เอาแล้วไม่จอด รีบๆไปเขื่อนดีกว่า" เสียงตอบกลับมา

ซักพักผมก็ถามอีก "แวะถ่ายรูปป่าว แปลงนี้ดอกใหญ่นะแล้วก็เยอะด้วย "

"จอดๆๆๆๆๆ ด่วนเลยดอกใหญ่ๆมากๆ จอดๆ แปลงตะกี๋ไม่เห็นใหญ่ขนาดนี้เลย " เสียงตะกันมาจากท้ายรถตู้

สุดท้ายก็ต้องแวะแปลงทานตะวันอีกจนได้ครับ คราวนี้ เนี่ยแวะกันนากว่าเดิมอีก สถานที่ก็ประมาณว่า ทำ stage ไว้กลางแปลงทานตะวันแล้วก็ให้คนขึ้นไปถ่ายรูปกัน น้องๆที่ไปด้วยบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่า"พี่ รู้งี้มาที่นี่ตั้งแต่แรกดีกว่าไม่น่าแวะแปลงนู้นเล๊ย "

แฮะๆๆๆ สำหรับใครที่จะไปเที่ยวทุ่งทานตะวันนะครับ ลองตระเวนดูเลยครับ มีเยอะมากเลย หาแปลงที่เค้าทำ stage ไว้ถ่ายรูปโดยเฉพาะเลยนะครับ

ปล.เส้นสีน้ำเงิน ถ.มิตรภาพ - น้ำตกเจ็ดสาวน้อย/น้ำตกดงพระญาเย็น

ปล.เส้นสีแดง น้ำตกเจ็ดสาวน้อย - อุโมงค์ต้นไม้ - ทุ่งทานตะวัน 1 ทุ่งทานตะวัน 2 - เขื่อนป่าสัก ฯ

บทสนทนาที่ผมแอบได้ยินใครบางคนคุยกันแถวๆทางเข้าหน้าแปลงทานตะวัน

"ป้าๆ น้ำผึ้งที่เอามาขายนี่ เลี้ยงผึ้งไว้ในแปลงทานตะวันหรือเปล่าครับ" ใครบางคนถาม

"จ้าๆๆ ใช่ๆ จ้า เนี่ยถ้าเข้าเดินๆดูจะเห็นตู้ที่ผึ้งทำรังอยู่นะ" ป้าตอบ

"ป้าๆ ไส้กรอกนี่ ใช้น้ำมันดอกทานตะวันทอดป่าวครับ ????" ป้าคนขายไส้กรอกหัวเราะหุหุ

"ป้าๆ ไม้เสียบไส้กรอกนี้ทำมาจากก้านดอกทางตะวันหรือเปล่าครับ ????" ป้าแกเงียบ

คำถามสุดท้าย

"ป้าครับป้า ไก่ย่างที่เอามาขายนี่เลี้ยงด้วยเม็ดทานตะวันหรือเปล่าครับ ???" เสียงถามอยากรู้อยากเห็น

"แหม ถามมาได้

" ป้าแกตอบ

เอาหละครับ หมดมุขที่แปลงทานตะวันแล้วก็ กลับเดินทางต่อครับ ไปที่เขื่อนป่าสัก

ไปถึงเขื่อนปุ๊บก็หาที่จอดครับ คนโครตเยอะเลยไม่รู้มาจากไหนกัน สุดๆ เลยครับ น้องๆเค้าก็ถามผม "เอาไงดีพี่ หาอะไรกินกันก่อนดีกว่ามั้ย"

ก็ดีๆ เอาเลย(แต่จริงๆผมล่อไส้กรอกที่แปลงทุ่งทานตะวัน 3 ไม้พร้อมทั้งน้ำองุ่นสดเรียบร้อย)

ซักพักตอนกำลังหาที่กินข้าว เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่สำนักงานเขื่อนประกาศออกมาว่า หากใครสนใจไปเที่ยว ตัวอ่างเก็บน้ำกับรถไฟ สามารถซื้อตั๋วสำหรับไปเที่ยวได้

ผมก็เลยถามน้องๆ ว่าสนใจไปมั้ย "ไปพี่ไป ไหนๆก็มาแล้ว ค่าตั๋วแค่ 60 บาทเอง " น้องๆตอบมา

งั้นก็ไปกันเลยครับ อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักฯที่ รถไฟวิ่งผ่าน

คณะของผมไปนั่งรอรถไฟที่สถานีเขื่อนป่าสักฯ รอรถขบวนพิเศษที่จะวิ่งมาจากกรุงเทพครับ วันปกติธรรมดาไม่มี มีแต่เสาร์ - อาทิตย์ แล้วก็วัน นักขตฤกษ์ครับผม

เมื่อรถไฟมาก็จะพาเราไปที่อ่างเก็บน้ำครับ พอไปถึงก็จะจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายครับ

แต่หลายๆรูปที่ผมถ่ายก็ถ่ายตอนรถวิ่งนี่แหละ

รถจอดให้ลงไปถ่ายรูปครับ

นี่ที่หัวขบวนครับ ใครอยากถ่ายรูปแบบที่กว้างๆโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขบวนรถก็เดินไปที่โบกี้หน้านะครับ แล้วพอรถจอดก็รีบๆเดินลงไปเลยครับ

เสร็จพอได้เวลารถออก รถไฟก็จะวิ่งไปจอดที่สถานีถัดไปเพื่อเปลี่ยนทิศทางการลากโบกี้ แล้วก็ลากกลับที่ตัวเขื่อนครับ

สถานีที่เปลี่ยนขบวนรถลากครับ

เสร็จแล้วคณะผมก็กลับไปกินข้าวเที่ยงที่เขื่อนอีกที่ครับ(ปล.คนที่มากับรถไฟจากกทม.ก็ลงมากินข้าวเที่ยวพร้อมกับผมครับ มันก็เลยกลายเป็นตลาดนัดในบัดดลครับ คนเยอะโครตๆ ฝุ่นก็เยอะ ร้อนก็ร้อน น้องๆที่มาด้วยกันบ่นกันอุบเลย ผมบอกว่าทำใจเถอะ ไปเที่ยววันหยุดยาวๆก็งี้แหละ ทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากทำใจหรือไม่ก็ไม่เที่ยววันหยุดยาวแบบนี้)

กินข้าวเสร็จก็เตรียมมุ่งหน้าไปงาน ญี่ปุ่นฟันแฟร์ที่ตัวอำเภอเมืองลพบุรี ครับ

ปล.ระหว่างทางจากเขื่อนป่าสัก ไปลพบุรี สองข้างทางจะเจอทุ่งทานตะวันเยอะมากครับ ลองดูเลย เลือกให้เหมาะแล้วก็ลองแวะดูครับ(เส้นสีม่วงครับ)

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

พอถึงจุดหมายปลายทางก็นัดแนะกันครับ ว่าจะเที่ยวอะไรยังไง ส่วนผม อิอิอิ ขอตัวไปเที่ยวพระปรางค์สามยอดครับ ส่วนน้องๆที่ไปด้วยกันเค้าไปเที่ยว งานญี่ปุ่นฟันแฟร์กันครับ

ไปครับไปเที่ยวพระปรางค์สามยอดกันขึ้นรถสองแถวหน้า Lotus ลพบุรี เข้าเมืองไปกัน

ยินดีต้อนรับสู่พระปรางค์สามยอดครับผม

เมื่อไปถึงพระปรางค์ฯก็เสียค่าเข้าชม 10 บาทครับ (ผมเองคิดว่าเป็นค่าทำความสะอาดพื้นที่/อาหารลิง/ค่าถ่ายรูปครับ เลยไม่คิดมากจ่ายๆไปเลยดีกว่าแล้วเอาเวลาไปเดินหามุมถ่ายรูปดีกว่า)

อันนี้ด้านข้างจ้า ถ้าเราเดินผ่านประตูที่เจ้าหน้าที่เก็บค่าธรรมเนียมก็จะเจอมุมนี้ก้อนครับ

ส่วนนี้ก็เป็นอีกมุมนึงครับ

ปล.ลิงที่นี่เยอะครับ แล้วก็ซนอีกต่างหาก ผมกำลังก้มๆเงยๆ ถ่ายรูป ดันกระโดดขึ้นมาบนหัวผมซะงั้น แล้วยังไม่ยอมลงอีก

เอาหละครับ รูปส่วนที่เหลือก็เป็นลูกหลานหนุมานหละครับไม่บรรยายนะครับ ดูเอาเองแล้วก็คิดเอาแล้วกันครับว่าอารมไหนยังไง

แฮะๆ เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ กว่าจะถ่ายได้ จริงๆผมถ่ายมาเยอะครับ แต่ว่า ส่วนมากนิสัยไม่ดีครับ ชอบใช้ความไวชัตเตอร์ต่ำๆ แล้วภาพมันออกมาไม่ชัดบ้าง หรือไม่ก็ Focus หลุดบ้าง

เบื้องหน้าพระเอกของเราครับ

เบื้องหลังพระเอกของเราครับ

เสร็จจากพระปรางค์สามยอดผมลองเดินเข้าไปอีกก็ไปเจอ โบราณสถานอีกนิดหน่อยก็เลยเอามาฝากครับ

ไว้คราวหน้ามาอีกผมจะเข้าไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ครับ คราวนี้เวลาหมดซะก่อน

รูปสุดท้ายครับ พระนารายณ์มหาราช ที่วงเวียนพระนารายณ์(ถ่ายจากสองแถวตอนนั่งกลับ Lotus ครับ )

ขอขอบคุณที่ติดตามจนจบครับผม

Create Date : 10 ธันวาคม 2550

Last Update : 10 ธันวาคม 2550 18:12:24 น.

13 comments

Counter : 3473 Pageviews.

พี่ถ่ายเยอะๆเลยนะพวกหนูพร้อมเป็น Presenter ตลอดเวลาค่า.

งามพ๊อม

โดย: นางน่อยน้อย

วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:13:39:06 น.

สวยจังเลย เมืองไทยเรามีที่สวย ๆ เยอะเลยเนอะ

โดย: ZoneSmile

วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:14:12:36 น.

ถ่ายรูปน้ำตกออกมาสวยมากค่ะ

โดย: fairy_tells

วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:14:42:24 น.

ภาพน้ำตกสวยมากเลยค่ะ ดูซอฟท์เย็นตาดีจัง

โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:14:54:01 น.

ไปงานวันญี่ปุ่นมาเหมือนกันค่ะ เย้ๆๆๆ

น้ำตกถ่ายออมาได้สวยมากเลย วู้ๆๆๆ

โดย: monkey_bone

วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:14:54:38 น.

แวะมาเยี่ยมชมภาพสวยๆ กันค่ะ

โดย: mamminnie

วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:15:09:21 น.

ว้าว ภาพสวยมากๆเลยนะครับ ที่จริงลพบุรีน่าเที่ยวมากๆและไม่ไกลจาก กทม เลยนะครับ ชอบภาพแรกมากครับ ถ่ายน้ำตกได้สวยมากๆเลยครับ วันนี้ขอไปเที่ยวด้วยคนนะครับ