|
White Noise + Way of Blue Sky + คนระลึกชาติ
จากวันพฤหัสบดีที่แล้วมาจนถึงวันนี้ได้ไปดูมมา 3 เรื่องอ่ะ
เรื่องแรก White Noise
จากการที่ได้ดู trailer ครั้งแรก รู้สึกขนลุกซู่ซ่าประหนึ่งคัร้งแรกที่ได้ชม trailer ของเรื่อง เดอะ ชัตเตอร์นั่นเลยเชียว คือการเล่นกับความรู้สึกของคนดูที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือวิธีการใช้การกล่าวยกเอาเรื่องจริงขึ้นมาอ้าง โดยเฉพาะครั้งนี้ได้มีการนำเอา อีวีพี หรือปรากฏการณ์คลื่นเสียงเหนือธรรมชาติมาใช้ ทำให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
กว่าจะได้ดูหนังเรื่องนี้ ต้องระเห็จกระเด็นไปไกลจากสยามจนถึงประตูน้ำก่อนจะกลับมาตายรังเดิมที่บางกะปิ เพราะหนังเข้าเฉพาะที่ sf เท่านั้น ไม่เป้นไร ยังไงก็ได้ดูสมใจเสียที
หนังดำเนินเรื่องได้สนุกตั้งแต่ต้นเรื่อง ทุกฉากถูกสอดใส่เข้ามาได้ถูกที่ถูกเวลาอย่างเหมาะเจาะ ลงตัวทุกองค์ประกอบ ลงตัวเกินไป...จนแทบจะเรียกได้ว่าสูตรสำเร้จ ยังดีที่เรื่องราวเรียกความสนใจได้ตลอด ซึ่งนอกเหนือจากการได้ค้นพบเรื่องราวเหนือธรรมชาติของตัวเอกแล้ว ก็ยังเชื่อมโยงไปถึงเรื่องใกล้เคียงกันอย่างการล่วงรู้อนาคต จนทำให้ต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับความอันตรายที่ยากจะคาดเดา
ความน่ากลัวนั้นไม่ได้ถือว่าผิดหวังอะไรมากมายเพราะมีฉากให้สะดุ้งจริงๆ จังๆ ให้เหมาะเป็นหนังผีอยู่บ้าง แต่ที่น่าชื่นชมคือ พล็อตหนังนอกจากจะเน้นเรื่อง อีวีพี อะไรนั่นแล้วก็ไม่มีอะไรใหม่ๆ อีก แต่หนังก็ยังดึงจุดสนใจอยู่ได้ ผมว่านั่นก็เป็นเพราะการตัดต่อที่เข้าใจง่ายนั่นเอง
ส่วนที่น่าตำหนิก็มีจนไม่อาจปล่อยทิ้งไปได้ คือท่ามกลางความสมบูรณ์แบบตามฉบับของหนังในภาพรวมแล้วแต่สิ่งที่น่ากังขามากไปกว่านั้นคือการไร้ซึ่งที่มาที่ไปของเรื่องราวหลายๆ จุด ที่ถูกปล่อยออกมาแล้วหายเข้ากลีบเมฆ พอเมฆจางหายก็ดันไร้ซึ่งคำตอบของต้นเหตุเหล่านั้น บางทีถ้าดูจริงๆ จังๆ เก็บเอาไปคิดเล็กคิดน้อยก็ดูจะน่ารำคาญอยู่เหมือนกัน
สรุปว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ชมการเล่นกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่ทำอะไรได้มากกว่าการตอบสนองความบันเทิงให้แก่เรา ถึงแม้มันจะเกินจริงไปหน่อยก็ตาม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Way of Blue Sky
way of blue sky หนังสัญชาติญี่ปุ่น ข้ามน้ำข้ามทะเลมาสิงสู่อยู่ ณ โรงภาพยนตร์ลิโด้มัลติเพล็กซ์ นานเท่าไหร่แล้ว...ผมไม่ทราบ เรื่องเกี่ยวกับอะไร...ผมไม่รู้
เมื่อวานเย็นหลังจากเดินชมวิวอยู่นานพอสมควร ก็ถึงเวลาพักสายตา หนังสักเรื่องก็คงดี...ผมจึงได้เข้าไปชมท้องฟ้าเหนือประเทศญี่ปุ่น ที่ถึงแม้จะไกลถิ่นสักแค่ไหน ปุยเมฆก็ยังคงขาวบริสุทธิ์ ตัดสีน้ำเงินสดใสเป็นพื้นหลังแผ่นกว้างจนมนุษย์ไม่อาจมองเห็นได้หมดในการกวาดสายตาเพียงครั้งเดียว ... ไม่ผิดเพี้ยนจากบ้านเราเลยสักนิด
เส้นทางของท้องฟ้า คือคำจำกัดความของเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ณ เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งในญี่ปุ่น มันเริ่มต้นขึ้นง่ายๆ ในขณะที่หนุ่มน้อยวัย ม.3 นักบาสประจำโรงเรียนมัธยมจะต้องอำลาเพื่อนๆ ไปเรียนต่ออเมริกา ซึ่งความฝันอันสูงสุดของเขาก็คือการได้เป็นนักบาสเอ็นบีเอ แต่จุดดำเนินเรื่องไม่ได้อยู่ตรงนั้น
แต่มันคือการที่เขาหย่อนจดหมายลงในตู้ไปรษณีย์พร้อมหนังสือพิมพ์ทุกเช้า ... พร้อมความรู้สึกในใจที่ไม่อาจเปิดเผยออกมาได้ แม้จนถึงวันสุดท้ายก่อนที่จะอำลาเพื่อนๆ ไป คือสิ่งที่ยังค้างคา...แต่ไม่ว่าเขาจะมีเรื่องอะไรในใจให้คนรอบตัวและคนดูอย่างเราๆ ค้นหา ก็ใช่ว่าจะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น ที่อยู่ร่วมกับความอัดอั้นนั้นมาเนิ่นนาน
เพราะทุกคนรอบๆ กาย ต่างก็มีข้อความในใจเหมือนๆ กัน
สัปดาห์สุดท้ายก่อนการจากลา สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วก็คงไม่ยากเย็นอะไรกับการกล่าวคำอำลา ให้คำอวยพร หรือแม้แต่หาของขวัญดีๆ สักชิ้นก่อนหายหน้าจากกัน แต่สำหรับคนพิเศษอย่างเพื่อนหรือคนรัก...มันยากกว่าที่คิดเยอะ
way of blue sky จะนำคุณพบกับความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเพื่อนที่ต่างก็มีความรู้สึกประมาณว่า "อยากบอก แต่บอกไม่ได้" ในฐานะที่เรื่องราววนเวียนอยู่กับกลุ่มนักเรียนหนุ่มสาววัยใส ถือว่าหนังดูออกจะหดหู่มากกว่าดูสนุกสนาน แต่นั่นก็ไม่แปลกหรอกหากได้ทำให้คนดูเห็นว่า ความรู้สึกที่แท้จริงมันสำคัญแค่ไหนที่จะทำให้อีกฝ่ายได้รับรู้ เข้าใจซึ่งกันและกัน ก่อนที่มันจะสายเกินไป
จากต้นจนจบหนังวาดเป้าหมายและบรรลุให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ไขว้เขวออกนอกลู่นอกทาง แสดงถึงบทที่ได้รับการขัดเกลาและการดำเนินเรื่องอย่างมืออาชีพ หนังญี่ปุ่นได้คุณภาพอย่าง way of blue sky เรื่องนี้อาจไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็นหนังชั้นดี แต่เป็นหนังที่ให้ความพึงพอใจโดยเฉพาะวัยเรียนได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ในแง่ความเฮฮา--แต่เป็นความสัมพันธ์ที่แท้จริง
เพราะฉะนั้น way of blue sky คือเส้นทางของฟ้ากว้างที่นำพาทุกคนที่ได้ชมเชื่อมเข้าหากันดังเช่นเชื่อมต่อโลกใบนี้เหนือพื้นดินทุกแผ่นทวีปเอาไว้ หากคุณยังไม่เข้าใจ ลองค้นหา way to blue sky ในใจดูก่อนสิ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คนระลึกชาติ
หลังจากถูกดองเค็มไว้ก้นโหลมาเป็นเวลาร่วมปี ก็ได้เวลาเททิ้ง เอ้ย เทขายในนาทีสุดท้าย คนอยากกินก็อยากกินเสียจนหายอยาก ในที่สุดก็เลิกราไปหาของใหม่ๆ กินกันเป็นส่วนมาก
ก็คงจะเหลือแต่อีกกลุ่มกับผมอีกคนที่ยังจับตาดูความเป็นไปของหนังไทยเรื่องนี้อยู่
หนังมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ หะๆ น่าสนใจที่ดันไปเหมือนหนังเรื่องอื่นเค้าแบบตรงๆ เป๊ะๆ แล้วจะทำออกมาอย่างไรให้ดีกว่าหรือแตกต่างกว่าในแง่มุมไหนต่างหาก เผอิญว่าหนังอีกเรื่องผมก็ไม่เคยดู ได้ยินได้อ่านจากคนอื่นๆ มาเสียมากกว่า ก็เลยเสมือนการได้ลิ้มรสเป็นครั้งแรก
หนังไม่มีอะไรมาก ทั้งเนื้อเรื่องและภาพกราฟฟิกต่างๆ ทำได้ครึ่งๆ กลางๆ แต่ก็พอถูไถให้จบเรื่องลงได้ อย่างไม่น่าเกลียดจนเกินไปนัก อย่างดีที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องการแสดงของพระนางที่น่าชื่นชม และอีกประการคือมุมกล้อง และการตัดต่อที่ดูแปลกตาจากหนังไทยเรื่องอื่นๆ ไปบ้าง
แต่หากเรียกร้องขอคำว่าหนังคุณภาพ ... แนะนำให้ลดมาตรฐานของคุณลงมาหน่อย ก่อนเข้าไปชม
Create Date : 27 กันยายน 2548 |
|
3 comments |
Last Update : 27 กันยายน 2548 23:48:37 น. |
Counter : 917 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หมาน้อยฯ IP: 61.91.109.47 28 กันยายน 2548 13:55:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: stop IP: 125.24.1.76 30 ธันวาคม 2551 3:35:42 น. |
|
|
|
|
|
|
You Always Give Me Rights Make Me See the Truths For This Fascinate Life I Also Got From You
In This Crazy World And the Books of Lies Without You Here With Me I would Defenitely Die....
ส่งหลังไมค์ถึง ++peter++
|
|
|
|
|
|
|