Bloggang.com : ++peter++ : Trip to Guilin : ตะลุยดาวน์ทาวน์ 02

Trip to Guilin : ตะลุยดาวน์ทาวน์ 02

เหอๆๆ ต้องขออภัยที่ไม่ได้มาอัพนานเพราะมัวแต่วุ่นๆ เรื่องเตรียมอุปกรณ์รับน้องที่กำลังจะมาถึงในอีกแค่ 2 อาทิตย์แล้ว ตื่นเต้ลตื่นเต้ล

หลังจากที่เที่ยวตลาดใต้ดินเสร็จแล้ว เราลองมาดูกันดีกว่าครับว่ารอบๆ แถวนั้นมีอะไรบ้าง ทางเข้าเชื่อมลงตลาดใต้ดินนั้นมีอยู่หลายทางด้วยกัน คือบันไดเลื่อนลงจากระดับพื้นดินดูคล้ายรถไฟใต้ดินจากหลายๆ จุด (ลืมบอกไป กุ้ยหลินไม่มีรถใต้ดินคับ สาเหตุเพราะคนไม่ค่อยเยอะ การจราจรไม่ค่อยติดขัด) และที่สองจุดสำคัญนอกจากเขาจะสร้างเป็นบันไดทางเดินอันสง่างามเหมือนล็อบบี้โรงแรมแล้ว เขายังสร้างโดมพีระมิดทับทั้งสองจุดนี้อีกด้วย มองดูไกลๆ ไม่ต่างจากภาพถ่ายหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในฝรั่งเศสเลยทีเดียว

และที่น่าตื่นตะลึงมากกว่านั้นเพราะเห็นได้น้อยในกรุงเทพฯ แต่เป็นสิ่งที่ (ผมคิดว่า) เมืองใหญ่ทุกที่น่าจะต้องมีสิ่งนี้คือ ทางคนข้ามถนน ตัวเลือกอื่นนอกจากทางม้าลาย ไม่ใช่สะพานลอย แต่เป็นสะพานใต้ดิน จากฝั่งหนึ่ไปยังอีกฝั่งหนึ่ง เชื่อมเป็นใยแมงมุมโยงใยกันไปถึงทางออกสี่ทาง ณ ตรงสี่แยกนั้น แต่ในขณะเดียวกันแถวตลาดใต้ดินก็ยังมีทางเดินเชื่อมไปยังทางข้ามถนนใต้ดินเหล่านั้นอีกด้วย คนไม่เคยเห็นอย่างเราเห็นแล้วก็โอ้โห อะเมซซิ่ง ยังกะมีเมืองอีกเมืองใต้ดินนี่เลย

น่าเสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปโดมพีระมิดลงใต้ดินนั่นมา ... เอาลูฟร์ไปดูแก้ต่างก่อนแล้วกัน อิอิ

สักนิดก่อนจากตลาดใต้ดินแห่งนี้ ดูเหมือนว่าที่นี่ถึงจะกว้างใหญ่แต่ก็น่าจะเป็นชอปปิ้งพลาซ่าที่สร้างขึ้นเพื่อชาวกุ้ยหลินเสียเองมากกว่าเพื่อนักท่องเที่ยว (ไม่ค่อยมีใครสนใจเรียกลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวเท่าไหร่เลย ตรงกันข้าม- บางทีก็หลีกหนีเสียด้วยซ้ำ)

ขึ้นมา อะฮ้า อากาศบริสุทธิ์ ได้ขึ้นมาตรงพลาซ่า ที่ดูเหมือนจะเป็นพลาซ่าลานกว้างขนาดใหญ่ ใจกลางจตุรัสของเมือง บริเวณนั้นจะเป็นพื้นคอนกรีตสี่เหลี่ยมจตุรัสล้อมรอบด้วยถนนสามด้านอีกด้านหนึ่งเป็นที่ตั้งของ LV PUB ที่ได้กล่าวไปแล้วและติดกันมีเวทีใหญ่ที่ยังไม่ได้ใช้งาน (คาดว่าถ้ามีคอนเสิร์ทก็จัดกันที่นี่แหละ) บนพื้นแทนที่จะเป็นปูนอย่างเดียวกลับมีแผนที่โลกอย่างกว้างใหญ่ แสดงอาณาเขตของทุกทวีปอย่างชัดเจนเท่าเทียมกันและมีการบอกตำแหน่งเมืองสำคัญเอาไว้บนพื้นนั้นด้วย

ผมลองหากรุงเทพฯ และกุ้ยหลิน ... ปรากฏว่าใช้เวลาเดินถึงกันเพียง 5 ก้าวเท่านั้น

ข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งของพลาซ่าแห่งนี้ เป็นอาณาจักรห้างสรรพสินค้าที่ยิ่งใหญ่ รูปแบบอาคารคือชั้นล่างๆ จะเป็นห้าง ส่วนบนๆ ก็เป็นออฟฟิศ เหมือนสยามดิส ... แต่ข้างในนั้นไม่สำคัญเท่าข้างนอก (และหลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาคือ ราคาสินค้า ฮ่าๆๆ) มันคือเต๊นท์แดง วางเรียงรายขายสินค้าพื้นเมือง ยาวออกไปไม่เคยเห็นจุดสิ้นสุด น่าแปลกที่เมื่อมาตอนกลางวันไม่มีเต๊นท์แดงวางอยู่เลยสักเต๊นท์ แต่พอตอนเย็นกลับมาตั้งกันยาวเป็นกิโล (หรืออาจยาวกว่านั้น บอกแล้วว่าเดินไม่ถึงจริงๆ) เป็นที่น่าสงสัยว่าเค้าเอาเต๊นท์ไปซ่อนกันตรงไหนน้อ...

ตอนกลางคืนแล้วภาพอาจไม่ชัดน่อ

ทีนี้แหละ เต๊นท์แดงที่มีของขายหลากหลาย หวีเขาสัตว์ พัดจีน ของกินนานา หยกก็ลายตา เสื้อผ้าอาภรณ์ ช้อนประดับลาย ขายเครื่องประดับ สลับกับกระเป๋าและของกระจุกกระจิก ฯลฯ และสามารถต่อราคาได้อย่างสนุกสนานไปกับพ่อค้าแม่ค้าที่ดูจะคล่องภาษาอังกฤษอยู่บ้างและที่ไม่น่าเชื่อคือบางคนดันพูดภาษาไทยได้ (บ้าง) อีกด้วย

มาเดินเที่ยวอยู่แถวนี้ 4-5 คืน ได้เจอคนไทยด้วยกันโดยบังเอิญอีก 4-5 ครั้ง

สนุกดี

แล้วพอดีคืนแรกที่ได้มาเดินเต๊นท์แดง (เต๊นท์แดงเป็นชื่อสถานที่นี้อย่างเป็นทางการของกลุ่มพวกเรา) ก็เดินไปเจอ พับ ชื่อ 100 feel ดูหน่วยก้านแล้วน่าจะลองดูแต่คืนนั้นของพะรุงพะรังและก็ดึกแล้วก็เลยว่าจะมาเที่ยววันอื่น ก็กลัวจะบอกแท๊กซี่ไม่ถูกก็เลยใช้วิธีถ่ายรูปเก็บไว้ซะเลย

จากที่เคยมีปัญหาการสื่อสารกับแท๊กซี่ เมื่อใช้กลมุกนี้ ปรากฏว่าได้ผลดีชะงัด บางครั้งเรากับคนขับไม่จำเป็นต้องคุยกันหรือแม้แต่จะสบตา ฮ่าๆๆ ก็ไปถึงที่หมาย จ่ายตังค์เรียบร้อยเสียจนได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นเวลาได้ไปเยือนที่ใดแล้วคิดมั่นตั้งใจว่าจะกลับมาอีกเป็นครั้งที่สองก็มักจะถ่ายรูปติดกล้องเอาไว้ก่อนเสมอ

แท็กซี่เมืองนี้เริ่มต้นที่ 7 หยวน ซึ่งประมาณ 35 บาท เท่ากับแท็กซี่บ้านเรา ต่างกันตรงที่ไปไกลแล้วก็ยัง 7 หยวน วันไหนรถติดก็จะขยับนิดนึงแล้วไปสิ้นสุดตรงที่ 7.1 หรือ 7.2 หยวน มิเตอร์ขึ้นช้าจนแทบไม่ขึ้นเลย (ยกเว้นมีอยู่คืนนึงเจอแท็กซี่เล้วเลวพาอ้อมข้ามโลก สิ้นสุดที่ 22 หยวน เข็ดเจ็บแสบอย่างรุนแรง คราวหลังขึ้นทีไรต้องเป็นผู้นำชี้ทางอยู่เรื่อย

ในที่สุดก็มืดค่ำแล้ว เดี๋ยวบล็อกข้างหน้าจะรวมเรื่องเที่ยวกลางคืนในเมืองกุ้ยหลินนะคับ

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าทุกอย่างนี้ผมไปมาทั้งหมดในวันแรกวันเดียว หลายๆ วันหรอกคับ เพียงแต่รวมกันเอาไว้ในบล็อกที่มีหัวข้อเดียวกัน ตามช่วงเวลาด้วยนะเออ

บล็อกนี้ไม่ค่อยมีรูปเท่าไหร่ (ตอนซื้อของไม่ค่อยได้ถ่ายรูป) อีกอย่างฝนตกบ่อยมากๆ ต้องพกร่มติดตัวไปตลอดแทบทุกคน (ร่ม 1 คันประมาณ 6 หยวน ถ้ามีสูตรป้องกันรังสียูวีก็จะคันละ 16 หยวน)

ดูรูปอื่นๆ ไปละกาน

บะหมี่สำเร็จรูป ยี่ห้อ .... ยี่ห้อไรไม่รู้อ่านไม่ออกมานเป็นภาษาจีน บะหมี่สำเร็จรูปที่นี่ให้เยอะมากยังกับมาม่า 3 ซองในถ้วยเดียว รสชาติก็แซ่บใช้ได้ (แต่ไม่ถึงใจอย่างบ้านเรา) ราคา 1.6 หยวนคับ

เครื่องดื่มบำรุงตับ สนนราคาเพียงขวดละ 3 หยวน หรือ 15 บาทเท่านั้น (ขายขวดคืนได้ขวดละ 1 หยวน)

ในขณะที่เป๊ปซี่มีราคาถึงขวดละ 6 หยวนเพราะฉะนั้นเบียร์จึงคุ้มค่ากว่า (ฮ่าๆๆ ล้อเล่น) แต่น้ำดื่มมีราคาเท่ากับเบียร์คือ 3 หยวนและถ้ามีรูปดาราแปะอยู่ข้างขวดจะเพิ่มอีก 5 เหมา พวกเราจึงได้ดื่มเป๊ปซี่ต่างน้ำแทบทุกวัน (อ้วน)

วันนี้พอแระ ไว้มาอัพใหม่คับ

ปล.ทำไมช่วงนี้อากาศมันกลับมาร้อนอย่างเดิมอีกละเนี่ย เซ็งครับ

Create Date : 26 พฤษภาคม 2549

Last Update : 26 พฤษภาคม 2549 10:20:18 น.

12 comments

Counter : 1477 Pageviews.

เบียร์เมืองจีนบางยี่ห้อราคาถูกกว่าน้ำดื่มจริงๆครับ

โดย: ตี๋น้อย (Zantha

) วันที่: 26 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:21:00 น.

เบียร์เมืองจีนบางยี่ห้อราคาถูกกว่าน้ำดื่มจริงๆครับ

โดย: ตี๋น้อย (Zantha

) วันที่: 26 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:21:25 น.

ไปเมืองเดียวเหมือนเที่ยวรอบโลกเลย

แต่ว่ากินเบียร์เยอะงี้เลยหรอ

โดย: .. IP: 58.9.61.232 วันที่: 26 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:01:11 น.

แวะมาอัพบล๊อก ไว ๆ นะคับ เด๋วจะลืมไปซะก่อน

โดย: SIMoN IP: 58.64.40.52 วันที่: 26 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:09:21 น.

เบียร์ที่จีนถูกจนให้เลือกเบียร์กับน้ำอัดลม

เลือกเบียร์สิครับ อิๆ

โดย: นายเบียร์

วันที่: 28 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:39:07 น.

โดย: .. IP: 58.9.54.151 วันที่: 17 มิถุนายน 2549 เวลา:12:56:55 น.

น้องเสื้อเขียวในรูปสุดท้ายน่ารักจังอ่ะ

โดย: zmen

วันที่: 9 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:09:07 น.

เมื่อไหร่จะมา up ซะทีอะคับ นานมาแล้วนะ

โดย: SIMon IP: 58.64.40.114 วันที่: 14 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:15:14 น.

เห็นเหมือนคุณ zmen น้องในรูปสุดท้ายน่ารักครับ อิอิ

โดย: nickyblood

วันที่: 16 กรกฎาคม 2549 เวลา:4:30:59 น.

เห็นรูปแรกนึกว่าจะพาไปเที่ยวปารีส

ที่แท้พาไปเมืองจีน แต่ก็น่าสนใจใช่น้อย

วันหลังต้องขอเลียนแบบเที่ยวแบบนี้มั่งล่ะ

แต่เห็นขวดเบียร์วางเป็นแถวแบบนั้นข้าน้อยคงเลียนแบบไม่ไหว

ปล.รูปสุดท้ายน่ารักจริงๆอย่างที่ว่าแหละ

โดย: Dr.Manta (Dr.Manta

) วันที่: 19 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:10:53 น.

เบียร์ที่จีน เจือจางมากๆ กินแล้วยังกะน้ำเปล่ามีกลิ่นเบียร์อ่ะ จริงๆนะ!!!

โดย: สเก๊ต~มนุษย์หมาน้อย

วันที่: 20 กรกฎาคม 2549 เวลา:8:07:58 น.

เห็นด้วยกับหลายคนข้างบนครับ

(เสื้อเขียว อิอิ)

โดย: wls (winter love song

) วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:21:09:19 น.