**As days go by**
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
วันนี้มีแต่เรื่องหนักๆ


ก่อนจะเริ่มเรื่องหนัก มีเรื่องยินดีมาก่อน อาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมาน้องที่นี่ เพื่อนและเพื่อนร่วมงาน ลูกสาวพร้อมใจกันมาเกิดถึงสามครอบครัว ยินดีด้วยอย่างมากมายนะคะ คนที่นี่พอลูกเค้าเกิด ที่บ้านก็จะเตรียมขนมนี้ไว้ให้คนที่ไปเยี่ยมทาน หรือถ้าพ่อกลับมาทำงานปั๊บก็จะเตรียมขนมนี้มาที่ทำงานแล้วเชิญให้เพื่อนร่วมงานไปทาน อร่อยๆๆ อิอิ ลาภปาก ขอให้หลานๆมีสุขภาพแข็งแรงเลี้ยงง่ายๆนะจ๊ะ

Photobucket

Bechuit met muisjes…… สีชมพูสำหรับหลานสาวค่ะ

ส่วนนี่ลิ้งค์ไปบลอกแม่ปิ๋ม(แม่ตัวจริง) //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kutepim&group=4&month=03-2008&date=30 Ethan’s first Birthday ค่ะ

@@@@@@@@@@


สองสามอาทิตย์นี้ทำงานมือเป็นระวิง หัวหน้ากลุ่มที่โปรเจคท์ที่ทำลาออก(แกเป็นมือปืนค่ะ นี่ก็ปลายงานแล้ว เราเข้าใจ วันหลังจะมาคุยให้ฟังถึงชิวิตมือปืนในวงการนี้) เราก็รับช่วงต่อ แถมสองวันก่อนวันสุดท้าย ออกจากที่ทำงานก็ต้องดิ่งเข้าโรงพยาบาลเลย นอนไปซะอาทิตย์นึง ทำงานจนเข้ารพ.เลยว่างั้นเถอะ ก่อนเค้าไปบอกเราว่า ต้องขอบคุณเราเป็นครั้งสุดท้าย เราเป็นbest assetที่เค้าได้รับสำหรับโปรเจคท์นี้ เราช่วยเค้าได้มากกว่าคนอื่นๆจริงๆ และถ้าเป็นไปได้เค้าอยากจะพาเราไปด้วย ด้วยซ้ำ (กรี๊ดดดด จริงๆน๊า อย่าหลอกกันน๊า) ถ้าเราต้องการใช้ชื่อเค้าเป็นreferenceในอนาคตให้บอกเค้า เพราะคนในวงการนี้ให้ความเชื่อถือเค้าอยู่มาก

หัวหน้าคนนี้เก่งและcriticalมากๆค่ะ ถึงเค้าจะไม่ใช่สต๊าฟ(พนักงานประจำ)แต่ทุกๆคนจะฟังความเห็นของเค้า ในกลุ่มที่ทำโปรเจคท์นี้ด้วยกัน4-5คน มีอีชั้นหัวดำเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียว ที่บริษัทนี่ก็คาดว่าจะเป็นคนไทยคนแรก และตอนนี้ก็ยังเป็นคนเดียวในสี่สิบกว่าเชื้อชาติที่มีที่นี่ (คนดัชท์แท้ๆมีประมาณเก้าสิบกว่าเปอร์เซนต์) รีวิวปีนี้ค่อนข้างดีใครๆก็ชม แทนทีจะดีใจ มันกลุ้มใจแบบบอกไม่ถูก ความรู้สึกรับผิดชอบต่อคำว่าคนไทยมันซ่อนอยู่ลึกๆ ใครตกอยู่ในสถานการณ์นี้คงเข้าใจดี จริงๆก็เข้าใจแหละ ตัวเองก็ยังบอกคนอื่นเลยว่าคนแต่ละเชื้อชาติก็มีทั้งดีและไม่ดี เออ...ใครๆเค้าก็รู้แล้วจะเอามาแบกไว้กะตัวทำไม (อันนี้เฉพาะเรื่องงานนะคะ เรื่องส่วนตัวเราไม่ค่อยสนใจมากนัก)

แต่มันไม่แค่นั้น ถ้าใครสังเกตดีๆ ตอนนี้บริษัทต่างๆทั่วโลกกำลังตกอยู่ในปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก เพราะแรงงานยุคbabyboomหลังสงครามโลกครั้งที่สอง กำลังเริ่มทยอยออกจากตลาดแรงงาน ความรู้และประสบการณ์ของคนเหล่านี้ก็จะเดินจากไปพร้อมกับเค้า ตอนนี้ช่องว่างระหว่างวัยเช่นในงานที่เราทำอยู่ ช่วงอายุจะห่างกันอย่างน่าใจหาย(บอกแล้วค่ะมีแต่คนสูงอายุอยู่รอบๆตัว) คนที่ถูกทิ้งอยู่รุ่นๆเรา ก็จะเคว้งเพราะไม่มีแบคอัพดีๆ ใครๆจะมาคาดหวังสูงๆกับเรา แล้วเราจะพึ่งใครหว่า? เห็นอย่างนี้ไม่ใช่คนมีความมั่นใจสูงมากนะคะ งานแบบนี้เรียนรู้ไม่มีหยุด โดยปกติก็จากคนที่มีประสบการณ์สูงกว่านั่นล่ะค่ะ

นี่ก็เป็นสาเหตุให้เพื่อนร่วมชะตาำกรรมลาออกไปอีกหนึ่ง แต่............อีชั้นไม่ได้แม้แต่จะคิด มันก็เลยทำให้ความรู้สึกขาดอิสรภาพพุ่งขึ้นมาอย่างแรง จนต้องมานั่งคิดนอนคิดจะทำยังไงกะอนาคต อนางอของตัวเองดี ไม่ใช่ว่าอยากจะลาออกนะคะ แต่พอมีเหตุการณ์ที่ทำให้คิดขึ้นมาได้อีกทีว่า ตัวเองไม่มีอิสระที่จะโยกย้ายไปที่ไหนง่ายๆนี่ ก็รู้สึกไม่ค่อยดี

เมื่ออาทิตย์ที่เกิดเหตุเหล่านี้ ไปช่วยตอบกระทู้น้องๆที่WSQเรื่องวีซ่า ขอแปะไว้(ขอใครหว่า?)ดูกันลืมละกันค่ะ ที่มาที่ไปของตัวเอง

_____________________________________________


ไหนๆโพสต์แล้ว โพสต์ต่อเลยละกันอันนี้เล่าให้ฟังค่ะ แล้วจะรู้ เวลาขอเข้ามาแบบแต่งงานขั้นตอนจะยุ่งยากมากมาย แต่ถ้าเค้าจะเอาเราเข้ามาใช้งานนี่ รวดเร็วว่องไวปานกามนิตหนุ่ม

อ้อเข้ามาแบบhighly skilled migrant(ขอได้เร็วกว่าwork permit ปกติมากๆ) ก็ต้องขอวีซ่าแบบ MVV เข้ามาเหมือนกัน แต่ไม่ต้องสอบภาษาิผ่านก่อนถึงจะได้ขอวีซ่า เหมือนเข้ามาแบบพาร์ทเนอร์ ไม่ต้องยื่นเรื่องเอง ทางนายจ้างที่นี่จะยื่นเอกสารไปที่ IND แล้วก็จะได้จดหมายPositiveให้ไปยื่น ตอนนั้นตกลงรับงานเดือนเมษาที่นี่เค้ายื่น ต้นๆพ.ค.ก็ได้จม.INDมาแล้ว ไปยื่นเอกสาร ก็ได้MVVภายในไม่กี่วัน พอมิ.ย.เข้ามาได้สามวันไปติดสติกเกอร์ก็เริ่มทำงานได้เลย ส่วนบัตรเรสสิเด้นท์นี่สามอาทิตย์เสร็จ แล้วก็ยาวเลยค่ะสิบปี รึถ้าอายุพาสปอร์ตเราไม่ถึง ก็หมดก่อนพาสปอร์ตเราหนึ่งเดือน พอได้เล่มใหม่แล้วก็ออกให้ใหม่ต่อให้ครบสิบปี

ตะแรกก็ว่าจะส่งพีเอ็มให้ แต่คิดไปคิดมาโพสต์นี่แหละ รู้อะไรมาเจออะไรมาก็แบ่งๆกันไปเนาะ (เดี๋ยวมีคนหมั่นไส้ โดนพีเอ็มด่า ซวยอีก ) เผื่อจะมีใครทำบ้าง เข้ามาแบบนี้ดีที่เข้าง่ายและไม่ขึ้นกับใคร แต่เราผูกติดกับนายจ้าง เพราะฉะนั้น เป้าหมายต่อไป คือสอบสตาดเอกแซมให้ผ่านก่อน แล้วจะยังไงค่อยว่ากันอีกที..... (ช่วยด้วย ยากมากๆจ้า)

จะเข้าข่ายให้นายจ้างขอยื่นวีซ่าเข้าแบบhighly skilled migrant ได้ โดยปกติก็ต้องทำงานที่ค่อนข้างขาดแคลนคนทำ ในตลาดงานของเนเธอร์แลนด์ค่ะ เช่น หมอ วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ฯลฯ (ส่วนอันนี้เข้าใจเอง) กุ๊ก ก็น่าจะเข้าข่ายเพราะในลิสต์ของนายจ้างเห็นมีร้าน อาหารต่างชาติด้วย

ขั้นตอนการapprove เค้าจะต้องดูประวัติการทำงาน และอีกหลายๆอย่างค่ะ และอีกอย่างที่ข้อกำหนดนี้มีไว้ชัดเจนคือ รายรับขั้นต่ำต่อปี ขึ้นกับอายุของcandidate ว่าสูงหรือต่ำกว่า30 ปี ที่นายจ้างจะต้องตกลง ซึ่งก็ถือเป็นรายได้ที่ยุติธรรมในตลาดแรงงานของที่นี่ ทั้งนี้เพื่อป้องกัน นายจ้างจ้างแรงงานราคาถูกเข้ามา แล้วมายื่นขอเป็นวีซ่าประเภทนี้ ข้อดีก็คือนอกจากจะปกป้องแรงงานเค้าเองไม่ให้โดนแย่งงาน ก็ยังคุ้มครองแรงงานต่างชาติที่เข้ามาด้วย

//www.expatica.com/nl/life_in/feature/evaluatingbrknowl edge-migration-28009.html

_________________________________________________________


สรุปที่เครียดเรื่องนี้เพราะรู้ตัวดีว่ายังไม่พร้อมที่จะไปสอบภาษา (แต่ก็ยังไม่ได้ค้นดูให้แน่นอนว่ามันจำเป็นต้องสอบรึเปล่ารึผลที่เรียนผ่านมาก็พอแล้ว แล้วจริงๆก็คงมีทางออกอื่นๆอีกแหละ เออ.....แล้วจะเครียดไปทำไม?) เผื่อว่าเมื่อครบกำหนดเวลาขอพาสปอร์ตของที่นี่ได้ จะได้เอาผลสอบไปใช้ ก็จะได้ความเป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องผูกตัวติดกะใครต่อไป เพราะถึงจะรอให้ครบสิบปีก็ต้องตัดสินใจอยู่ดีว่าจะขอไม่ขอ เฮ้อ...........อ่านแล้วก็เหมือนบ่น วนอยู่ในอ่าง ทำไงกะชีวิตดีค๊า


@@@@@@@@@@@@


มาเรื่องเบาๆปิดท้ายดีกว่า (ตะแรกจะแถมเรื่อง Fitna-Anti Islamic Film ที่กำลังเป็นข่าวตอนนี้ แต่เกรงว่าไดวันนี้มันจะเครียดเกิน ไว้วันหลังเนาะ)


Photobucket


รูปไปเที่ยวเกาะเสม็ดก่อนกลับมาที่นี่ค่ะ เราไปพักกันที่หาดแสงเทียน เงียบๆสบายๆ เดินเลาะหาดไปจนถึงอ่าวการัง สนุก สวย แต่ต้องอาศัยทักษะการปีนป่ายโขดหินนิดนึง แวะเล่นน้ำที่อ่าวกิ่ว เดี๋ยวนี้มีรีสอร์ทหรูและชายหาดก็ยังคงสวยเหมือนเดิม



แต่.......ขอบ่นนิดนึงขยะบนเกาะเยอะมากๆเลยค่ะ ตามริมทางเดิน เห็นแล้วเสียดายค่ะ เสียดายมาก และบางหาดทางเดินจากถนนหลักเข้าหาหน้าหาด หายากมากๆผู้ประกอบการทำรั้วปิดทางเดินกันซะหมด อีชั้นเข้าใจว่าชายหาดและทะเลนี่เป็นของหลวงใช่มั๊ยคะ ใครๆก็มีสิทธิที่จะเล่นน้ำ เดินชายหาดกัน ถ้าเราเข้าใจผิดใครก็ได้ช่วยบอกที............(จบหนักไปมั๊ยเนี่ย?..
)

@@@@@@@@@@@@@




Create Date : 29 มีนาคม 2551
Last Update : 31 มีนาคม 2551 5:09:05 น. 8 comments
Counter : 649 Pageviews.

 


โดย: นายแจม วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:19:50:36 น.  

 
ภาพถ่ายได้ชัดดีค่ะสวยดี


โดย: Summer Flower วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:20:20:40 น.  

 
คุณอ้อ ..

แวะเข้ามาอ่านเรื่องราวของการทำงานค่ะ อ่านแล้วก็เน๊าะ ... ไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี เอาว่าเราแวะมาให้กำลังใจแล้วกันอ่ะคะ คุณอ้อเป็นคนเก่ง ยังไงอยู่ที่ไหน ทำงานแล้วมีโอกาสเปิดทางให้ เราว่าทุกอย่างโอเคเลยนะคะ


ยินดีด้วยกับสามครอบครัวทีจะได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ค่ะ เห็นขนมแล้วอยากกิน ก่อนกลับมาอยู่เมืองไทย ได้กินไปสองอัน หวานเจี๊ยบเลย จะไม่กินก็ไม่ได้แต่ว่า ตอนนี้กลับคิดถึงรสชาติของขนมแล้วสิค่ะเมื่อเห็นภาพข้างบนอ่ะ




โดย: JewNid วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:22:37:48 น.  

 
กำลังใจส่งไปเสมอ

ขอให้สู้ๆ

ชอบรูปจังเลย น่ารักมากๆ


โดย: zalitalin วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:22:50:54 น.  

 
รูปสวยคนก็สวยจ้า


โดย: Irish girl วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:23:58:08 น.  

 
ทำใจสบายๆค่ะ ค่อยๆคิดค่อยๆทำไป ทุกๆปัญหามีทางแก้ของมันค่ะ ขึ้นอยู่กับความยากง่าย ทุกอย่างใช้เวลาค่ะ


โดย: proficiat วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:1:09:30 น.  

 
มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าเครียดมากเลยนะค่ะ อ้อมว่าอีกไม่นานก็คงจะลงตัวเองแหละเนอะ

กลับบ้านคราวนี้ก็จะไปเสม็ดเหมือนกัน ปรกติจะไปพักที่หาดทรายแก้วค่ะ แต่ดูรูปแล้วบรรยากาศดีจริงๆ ต้องเอาไปเสนอคุณสามี


โดย: piwee IP: 217.37.221.81 วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:19:36:45 น.  

 
มันก็งี้แหละเป็นเพราะว่าถูกผูกมัดเลยเซ็งใช่ม้า ยิ่งตอนนี้ขาขี้นคนเปลี่ยนงานกันเป็นว่าเล่น ได้เงินเดือนมากขึ้นเป็นเท่าก็มี ยิ่งได้ยินมากยิ่งเซ็งมากเนอะ

แต่บริษัทที่พี่อ้อทำอยู่มันก็ใหญ่มั่นคงอ่ะ ชื่อเสียงก็ดี ถึงไม่ถูกผูกมัดแต่ว่าถ้าคิดจะย้ายจริงมันก็ไม่ง่ายที่จะได้บริษัทที่ใหญ่ในระดับเดียวกัน ไม่คับที่คับทางก็อยู่ๆไปเหอะ ปิ๋มว่าดีไม่ดีเดี๋ยวพี่อ้อก็ได้เป็นใหญ่เป็นโตเองอ่ะ

ที่อังกฤษพวกทำงานบริษัทอย่างเราๆนี่ (แบบลาออกแล้วไปสมัครที่อื่น) ได้เงินค่าจ้างกันงามๆทั้งนั้น พวกที่เข้ามาก่อนก็ติดแหงก ได้เงินเดือนขึ้น 5-10 เปอร์เซนต์นี่ก็หรูหราเหลือเกิ๊น ดีนะที่ว่าตอนนี้เป็นเอกซ์แพทอยู่ ถ้าอยู่อังกฤษนี่อีธานคงไม่ได้อวบอ้วนขนาดนี้หร๊อก แม่ไม่มีตังค์ซื้อนมให้ลูกกิน เว่อร์ไปมั้ยเนี่ย


โดย: kutepim วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:19:20:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

peanutbutter ณ ฮอลแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สาว(เหลือ)น้อย พบรักหนุ่มขายาว ชีวิตที่เคยร่อนเร่เป็นนกขมิ้น ก็หยุดลงอยู่ที่เมืองเล็กๆแห่งแดนกังหันลม

บลอกนี้สร้างขึ้นเพื่อเก็บบันทึกเรื่องราวบางส่วน ที่ผ่านมาในชีวิต ถ้าจะบังเอิญเป็นประโยชน์ให้ข้อมูล ข้อคิดกับใครบ้าง ก็คงจะดีค่ะ

สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย
Friends' blogs
[Add peanutbutter ณ ฮอลแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.