|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตอนนี้เราปอกทุเรียนด้วยมือกันอยู่หรือเปล่า.....
ทำไมถึงขึ้นหัวเรื่องอย่างนี้นะหรอ คำตอบก็คือ แค่อยากจะทราบว่าพวกเราทุกคน หรือจะคุณคนเดียวก็ได้ เคยคิดบ้างไหม ว่า "นิยามความรักในแบบฉบับของตัวคุณเองเนี่ยคืออะไร" พอฟังแล้วคงรู้สึกว่า คนที่คิดได้แบบนี้เห็นทีไม่เปลี่ยวสุดๆ ก็คงเบื่อยหน่ายกับชีวิตรักแบบสุดๆ แต่สำหรับฉันเองมันไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ที่คิดแบบนี้เพราะว่ามันเกิดจากการเห็นชีวิตรักของคนรอบๆข้าง รอบๆตัว ที่มีเรื่องราวความรักหลายร้อยหลายพันเรื่อง ที่บางทีก็อาจจะเหมือนกันบ้าง ไม่เหมือนกันบ้าง ที่ทั้งเอามาปรึกษาบ้าง ไม่ปรึกษาบ้าง ฉันเองมองดูพวกเขาเหล่านั้นแล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่า ก่อนที่พวกเขาจะรักกันเคยคิดบ้างไหมว่าผลกระทบที่ตามมา มันจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง พูดแล้วอาจฟังดูงงงง จะลองขยายความให้ฟังละกัน ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจง่ายๆนะ ตัวอย่างก็คือ 1. รักเขา ทั้งที่รู้ว่ามีแฟนแล้ว........ 2. รักเขา ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่ได้รักเรา แล้วก็ตัดใจไม่ได้ซักที............ 3. รักมากกว่าหนึ่ง โดยที่ไม่หักห้ามใจตัวเอง ว่ามีแฟนแล้วฯลฯ
และก็คงยังมีอื่นๆอีกมากมาย มันเลยทำให้ฉันคิดว่า พวกเขาเหล่านั้น เคยตั้งนิยามความรักกันไว้ก่อนที่จะมีความรักหรือเปล่า พอนึกๆมาได้เรื่อยๆ เพลินๆ ก็วกกลับเข้ามาที่ตัวเอง ว่าแล้วนิยามความรักของฉันหละ คืออะไร เนื่องจากฉันเองเนี่ย ไม่เคยคิดอยากจะมีแฟน จะพูดให้ถูกก็คือ เคยอยากมี แต่คิดว่ามีแล้วคงมีปัญหา เพราะเนื่องจากตัวเองเนี่ย เป็นคนอารมณ์ไม่แน่นอน ขี้รำคาญเป็นที่สุด คงทนไม่ได้ ถ้ามีคนมาโทรตาม โทรหา และโทรจิก เลยตัดปัญหาว่า อยู่เป็นสาวแก่แล้วเกี้ยวเด็กไปวันๆดีกว่า 555.... เราวกกลับเข้าเรื่องเหอะ เดี๋ยวจะเลยไปซาอุแล้วกู่ไม่กลับ ก็เลยมานั่งนึกว่า นิยามความรักของเราเองเนี่ย คืออะไร คิดไปคิดมา คิดมาคิดไปก็เลยคิดไปถึงเจ้าทุเรียน ทำไมนะหรอ ก็เพราะว่ามันสามารถตอบคำถามนิยามความรักของฉันได้แทบทั้งหมดนะซิ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงจะงงละซิ มามะ ตามมา เด๋วจะอธิบายให้ฟังอย่างแจ๋มแจ้งแดงแจ๋กันไปเลย อันดับแรกก็ขอพูดถึงเรื่องรูปร่างหน้าตาของเจ้าทุเรียนกันก่อนดีกว่า ทุเรียนที่มีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกียจน่ากลัวยิ่งนัก ตัวผลมีหนามแหลมๆ พร้อมที่จะทิ่มแทงคนที่จะเข้ามาปอกทุเรียนให้เจ็บช้ำ ทุกทนทรมาณ แต่ทำไมคนถึงอยากจะกินกันนักไอ้ทุเรียนเนี่ย ก็เพราะว่า เขารู้ไงว่า ภายนอกผลทุเรียนที่น่าเกียจน่ากลัว ข้างในมันคือผลอันแสนหอมหวาน ทั้งเนื้อและกลิ่นของมันช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก ทุกๆคนก็เลยพร้อมที่จะทำทุกๆอย่างที่จะให้ได้มาซึ่งเนื้อในที่แท้จริง คราวนี้เนี่ยก็มาพูดถึงวิธีปอกกันบ้าง ถ้าเราสมมุติว่า เราไม่ได้เดินไปซื้อแล้วให้เจ้าของร้านปอกนะ ลองคิดดูว่าเรามีทุเรียนหนึ่งลูก แล้วเราไม่รู้วิธีปอกมัน เราจะทำอย่างไร... เราลองมานึกๆดูไปพร้อมๆกันดีกว่าว่าการปอกทุเรียนเนี่ย มันสามารถใช้อะไรปอกได้บ้าง.... วิธีที่หนึ่ง อาวุธที่ติดมากับตัวเรา ไม่ได้ซื้อหามาแต่อย่างใด แถวบ้านเรียกว่า "มือ" มือเป็นอาวุธที่ติดตัวมาแต่กำเหนิด ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องหา ได้มาฟรีๆ เราก็เอามือนี่แหละปอกทุเรียน ไม่ต้องคิดเลยว่าปอกแล้วจะเจ็บหรือเปล่า ตั้งหน้าตั้งตาปอก ปอก ปอก ปอก ปอก.... จนกว่าจะได้เนื้อในที่แท้จริง คนที่ปอกด้วยทุเรียนด้วยวิธีนี้เนี่ยนะคนปอกคงอยากกินมากแล้ว ก็เลยทำไปโดยไม่คิด คิดอยู่อย่างเดียวคือทำยังไงก็ได้ ทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งเนื้อทุเรียนหอมหวานที่คอยหลอกล่อเราอยู่ข้างใน เจ็บก็ทน หรือที่สุภาษิตไทยเขาเรียกว่าทนเหมือนวัวเหมือนควาย ก็ทนไปเรื่อยๆจนกว่าวันไหนที่เจ็บจนทนไม่ได้นั่นแหละ ถึงจะกลับมาดูมือของตัวเอง แล้วก็ได้เห็น ว่ามือ แทบจะไม่เป็นมือ เพราะว่ามันเละเกินกว่าจะดูได้ บางคนก็ทนจนได้กิน แต่กว่าจะได้กินก็เจ็บเจียนตาย แต่บางคนก็ทนไม่ไหว เลิกเอาซะกลางคัน อดกินแถมเจ็บตัวฟรีอีกต่างหาก วิธีที่สอง ก็ใช้มีดไง แต่คนที่ใช้วิธีนี้ได้เนี่ย ก็คงต้องคิดก่อนทำแล้วว่า ถ้าใช้มือ ก็คงจะเจ็บ หาอะไรแทนมือที่มันไม่เจ็บแล้วได้กินดีกว่า ก็เลยเอามีด ค่อยๆปอกๆๆๆ แล้วก็ค่อยๆแงะๆๆๆ แล้วก็ค่อยแง้มๆๆ ไม่ผลีผลา ค่อยๆคิดว่าจะปอกแบบไหน เฉาะที่ใด ให้กระทบกระเทือนเจ้าเนื้อสีเหลืองทองที่บอบบางให้บอบช้ำน้อยที่สุด ผิดจากวิธีแรก....และที่สำคัญคือไม่เจ็บตัว และได้กิน... อ่านจนจบแล้วคราวนี้ทุกคนก็คงจะสงสัยว่า แล้วจะมาพูดทำไมเรื่องปอกทุเรียนให้ฟังเนี่ย คำตอบก็คือ แค่อยากให้นึกภาพออก อย่างชัดๆก็เท่านั้น คราวนี้ ก็มาถึงตอนที่ต้องเฉลยแล้วหละว่า ทำไมถึงต้องพูดเรื่องปอกทุเรียนให้ฟัง ก็เพราะว่าฉันเองอยาก จะเปรียบเทียบ "วิธีการสร้างความรัก" ก็เปรียบเสมือน "วิธีการปอกทุเรียน" , "ความรักที่จอมปลอม" ก็เปรียบเสมือน "ผลทุเรียนภายนอก" และ ความรักที่แท้จริง ก็เปรียบเสมือน "ผลทุเรียนภายใน" ตราบใดก็ตามที่เรายังไม่ยอมคิดก่อนจะทำ มันก็รังแต่จะทำให้เจ็บตัว แต่ถ้าเราคิดและเรียนรู้วิธีปอกที่ถูกต้อง เพียงเท่านั้นแหละ ก็จะได้กิน และ ไม่เจ็บตัว *ทีนี้ ก็ลองย้อนขึ้นไปอ่านวิธีปอกทุเรียนข้างบนดูก็แล้วกันนะ แล้วลองมาถามตัวเราเองดูซิว่า ตอนนี้เราปอกทุเรียนด้วยมือกันอยู่หรือเปล่า..... แต่ตอนนี้ฉันเองเนี่ย ยังไม่อยากปอกทุเรีย..เหอๆๆๆ ปล. ที่เล่ามาทั้งหมดเนี่ย เป็นเพียงความคิดบ้าบอของฉันเพียงคนเดียวนะ จะโดน หรือ ไม่โดนใครเนี่ย ฉันก็สุดที่จะเดาได้ และที่เขียนมาทั้งหมด ไม่ได้ต้องการจะสั่งหรือสอนใครแต่ประการใด เพียงแค่เอานิยามความรักของตัวที่โลดแล่นอยู่ในหัว ลองให้มันมาโลดแล่นเป็นตัวอักษรดูบ้าง เผื่อบางทีมันอาจจะสร้างความบันเทิงให้ใครๆได้ แต่ถ้ารบกวน ก็ขอประทานอภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะคะ... หรือถ้าใครมีนิยามความรักโดนๆ ก็เอามาแลกเปลี่ยนกันก็ได้นะคะ ยินดีรับฟังความคิดผู้อื่นเสมอ แล้วก็ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นที่จะมาถึง เพราะมันจะทำให้ฉันสามารถปรับปรุง ดูแล งานเขียนของฉันให้ดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเทิญ สาธุ^^
Create Date : 25 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 25 ธันวาคม 2551 3:45:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 414 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
" ความรักที่แท้จริงนั้น เป็นศัตรูกับความเห็นแก่ตัว และเป็นมิตรสนิทของความเสียสละ สิ่งที่ความรักแท้จริงต้องการแสวงหาและเรียกร้องไม่ใช่ตัวตนของคนที่เรารัก หากแต่....เป็นสิ่งอื่นที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตาแต่เรารู้สึกได้ด้วยใจ " ^^"
|
|
|
|
|
|
|
|