ท่องเที่ยวเมืองคนกล้า พยาแล
เที่ยวงานเจ้าพ่อพระยาแลไม่ได้จกไห เหมือนยังไม่ได้มา ชัยภูมิ เมืองผู้กล้า พญาแล เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ก่อการกบฎยกกองทัพ เข้ามาตีเมืองนครราชสีมาและหัวเมืองรายทางนายแลเจ้าเมืองชัยภูมิได้ยกไพร่พลไปสมทบกับ กำลังของคุณหญิงโมตีทัพของเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์แตกพ่ายไปได้ ก้าวย่างแรกที่ผมเข้าสู่เมืองของพระยาภักดีชุมพล พอเข้าในเมืองสิ่งแรกที่มองเห็นตั้งตระหง่านกลางถนน ก็คือ อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล หรือ พระยาภักดีชุมพล (แล)ซึ่งเป็นบุคคลที่ชาวเมืองชัยภูมิเคารพสักการะ ระลึกถึงบุญคุณที่ท่านได้กระทำมาและเป็นที่สักการะของผู้ที่ผ่านไปมา ก็ขอเล่าสักเล็กน้อยนะครับ "จังหวัดชัยภูมิ นับเป็นดินแดนโบราณคดีที่มีชุมชนหนาแน่นอยู่อาศัยมาตั้งแต่ครั้งก่อนประวัติศาสตร์จากร่องรอยของการค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยหิน ภาพวาดเขียนสีตามผนังถ้ำโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ฯลฯจึงเป็นข้อยืนยันได้ว่าดินแดนถิ่นนี้ได้มีพัฒนาการทางด้านสังคมของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์มากว่า2000-5000 ปี มาแล้วชุมชนโบราณที่รับวัฒนธรรมขอมสมัยเมืองพระนคร(พุทธศตวรรษที่ 16-18) บริเวณพื้นที่ลุ่มแม่น้ำชีตอนบนของเขตจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการค้นพบโบราณวัตถุและโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมขอมสมัยเมืองพระนครอีกมากมายเช่น ศิวลึงค์ประดิษฐานอยู่บนแท่นหินทราย ที่บริเวณภูโค้ง ต.นาเสียวอ.เมืองบาราย (สระน้ำ) บริเวณปรางค์กู่อ.เมือง และ บึงอำพัน สระน้ำขนาดใหญ่ใกล้เมืองโบราณเขตอำเภอบำเหน็จณรงค์และได้มีการค้นพบ อโรคยาศาล ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับใช้ในการรักษาโรคในสใยของ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งพระองค์โปรดให้สร้างขึ้นทั่วพระราชอาณาจักรถึง102 แห่งโดยในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิได้มีการค้นพบอโรคยาศาลถึง 3 แห่ง คืออโรคยาศาลบ้านหนองแหน ปรางค์กู่บ้านหนองบัว และ อโรคยาศาลบ้านกุดไผ่ซึ่งแต่ละแห่งมีระยะห่างเท่ากันคือ 15 กิโลเมตร ราวปี พ.ศ.2360 ขณะนั้นเมืองเวียงจันทน์เป็นเมืองขึ้นของไทยมีการส่งเครื่องราชบรรณาการต่าง ๆ ให้แก่ไทย นายแล ซึ่งมีตำแหน่งเป็นพี่เลี้ยงราชบุตรในราชสำนักของ พระเจ้าอนุวงศ์เมืองเวียงจันทน์ ได้ลาออกจากราชสำนัก และพา นางบุญมี ซึ่งเป็นภรรยาอพยพครอบครัวพร้อมทั้งสมัครพรรคพวกรวมร้อยครอบครัวเศษเดินทางข้ามแม่น้ำโขงจนกระทั่งมาถึง หนองบัวลำภู และพำนัก ณที่แห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนนายแลเห็นว่าหนองบัวลำภูเป็นสถานที่ไม่เหมาะสมแก่การตั้งถิ่นฐานจึงได้พาสมัครพรรคพวกออกเดินทางต่อไปจนถึง บ้านน้ำขุ่น หนองอีจางลำตะคอง ซึ่งอยู่ในบริเวณอำเภอสูงเนินในปัจจุบันณ ที่แห่งนี้นายแลได้ตั้งรกรากทำมาหากินเพราะเห็นว่ามีน้ำอุดมสมบูรณ์ ในปี พ.ศ.2362 การทำมาหากินที่บ้านน้ำขุ่นหนองอีจาง ลำตะคอง เริ่มฝืดเคือง นายแลได้เสาะแสวงหาทำเลใหม่ปรากฏว่าได้ไปพบบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์จึงได้อพยพครอบครัวและสมัครพรรคพวกไปตั้งถิ่นฐานแห่งใหม่ที่ บ้านโนนน้ำอ้อม ปัจจุบันคือ บ้านชีลอง การปกครองของนายแลต่อราษฎรนั้นนายแลได้ใช้การปกครองในลักษณะพี่ปกครองน้องสั่งสอนให้ราษฎรมีความสามัคคีปรองดองกันต้องช่วยกันทำมาหากินโดยให้เหตุผลแก่ราษฎรว่าการสร้างเมืองนั้นราษฎรจะต้องมีอยู่มีกินและเป็นสุขแล้วการสร้างเมืองก็จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีฝ่ายนางบุญมีซึ่งเป็นภรรยาของนายแลก็มิได้นิ่งดูดายพยายามที่จะอบรมฝึกสอนหญิงชาวบ้านให้รู้จักการทอผ้า ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาว ผ้าดำ ทอ ซิ่นหมี่ ชาวบ้านก็อยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขเรื่อยมาต่อมาเมื่อนายแลเห็นว่าราษฎรของตนอยูดีมีสุขแล้วก็มิได้เคยลืมบุญคุณของเจ้านายเดิม จึงได้นำเครื่องบรรณาการไปถวายเจ้าอนุวงศ์เมืองเวียงจันทน์เจ้าอนุวงศ์เห็นความดีของนายแลจึงได้แต่งตั้งให้นายแลเป็นขุนภักดีชุมพล (แล ต่อมาขุนภักดีชุมพล (แล)เห็นว่าบ้านโนนน้ำอ้อมเริ่มแออัดและขาดแคลนน้ำ จึงจำต้องหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ปรากฏว่าอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับบ้านโนนน้ำอ้อม ดังนั้นในปี พ.ศ.2365 ขุนภักดีชุมพล (แล)จึงได้อพยพผู้คนมาตั้งถิ่นฐานที่ บ้านหลวง ซึ่งอยู่ในบริเวณ บ้านหนองหลอด และ บ้านหนองปลาเฒ่า ในปัจจุบันและไม่ยอมส่งส่วนให้เจ้าอนุวงศ์ผู้ครองเมืองเวียงจันทน์อีกเพราะขณะนั้นเมืองเวียงจันทน์มีฐานะเป็นเมืองประเทศราชของสยามขุนภักดีชุมพลจึงได้เข้าหาเจ้าพระยานครราชสีมาแทนเจ้าเมืองนครราชสีมารับอาสาส่งส่วยให้สยามแล้วทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวต่อมาพระองค์โปรดเกล้าฯ ยกให้บ้านหลวงเป็นเมืองชัยภูมิ และตั้งขุนภักดีชุมพลเป็น พระยาภักดีชุมพล เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก ในปี พ.ศ.2369 ได้เกิดศึกเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองนครราชสีมาพระยาภักดีชุมพล (แล) และเจ้าเมืองสี่มุม (อ.จัตตุรัส จ.ชัยภูมิ ในปัจจุบัน)ได้ยกทัพไปช่วยคุณหญิงโมตีกองทัพเจ้าอนุวงศ์แตกพ่ายไปแต่ในขณะที่ทัพเจ้าอนุวงศ์กำลังแตกพ่ายนั้น เจ้าอนุวงศ์ได้สั่งให้ เจ้าสุทธิสาร (โป๋)ผู้เป็นบุตร ยกกองทัพส่วนหนึ่งไปยึดเมืองชัยภูมิและเมืองภูเขียว (อ.ภูเขียวจ.ชัยภูมิ ในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายไว้เป็นกำลังต่อต้านกองทัพจากกรุงเทพฯ เจ้าสุทธิสารหลังจากที่ยกทัพถึงเมืองชัยภูมิแล้วนั้นได้เกลี้ยกล่อมให้พระยาภักดีชุมพล (แล) เป็นพวก แต่พระยาภักดีชุมพลไม่ยอมด้วยยังจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทำให้พวกเจ้าอนุวงศ์โกรธมาก จึงฆ่าพระยาภักดีชุมพลเสียที่บ้านหนองปลาเฒ่า ซึ่งต่อมาชาวบ้านได้ระลึกถึงพระคุณท่านจึงได้พร้อมใจกันสร้างศาลขึ้นณ บริเวณนั้น บัดนี้ทางราชการได้สร้างศาลขึ้นใหม่เป็นศาลาทรงไทย ชื่อว่าศาลาพระยาภักดีชุมพล(แล) มีรูปหล่อของท่านอยู่ภายในเป็นที่เคารพกราบไหว้ถือว่าเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ อยู่ห่างจากที่ตั้งศาลากลางจังหวัดประมาณ 3 ก.ม.วีรกรรมครั้งนั้นจึงเป็นที่เคารพยกย่องท่านเป็น เจ้าพ่อพญาแล มาจนกระทั่งปัจจุบัน" เป็นไงครับประวัติของคนกล้า เจ้าพ่อพญาแล หรือ พระยาภักดีชุมพล ท่านผู้อ่านก็คงเห็นความกล้าหาญและความจงรักภักดีของท่าน ผมมีโอกาสได้เดินทางมาที่ชัยภูมิเป็นครั้งแรกพอถึงตอนเย็นก็ได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยวงานประจำปี ฉลองอนุสาวรีย์เจ้าพระยาแล จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของเจ้าพ่อพระยาแลผู้สร้างเมืองชัยภูมิคนแรกจัดระหว่างวันที่ 12-20 มกราคมของทุกปี ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดและสี่แยกอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล ในการจัดงานนี้ประกอบด้วยพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของเจ้าพ่อพระยาแลขบวนแห่สักการะอนุสาวรีย์ เจ้าพ่อ ขบวนถวายช้างแด่เจ้าพ่อ และขบวนแห่ของอำเภอต่างๆรวมทั้งการออกร้าน จัดนิทรรศการของหน่วยราชการและเอกชน การประกวดผลิตผลทางการเกษตร วันนี้เจ้าหน้าที่ที่มากให้บริการเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิประกอบด้วยสำนักงานแรงงานจังหวัด สำนักงานประกันสังคมจังหวัด สำนักงานจัดหางานจังหวัดสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดและเจ้าหน้าที่จากอำเภอแก้งค้อ สำหรับศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดชัยภูมินำทีมโดยผอ.คนเก่ง สาวไฟแรง ผอ.จิรวรรณ สุตสุนทร นำเจ้าหน้าที่กว่า 10รายบริการประชาชนและอำนวยความสะดวกในงานกาชาดในวันนี้ จากคำที่ว่ามางานกาชาดชัยภูมิ ไม่ได้จกไห เหมือนไม่ได้มางานนี้ ผม พร้อมกับคู่ชีวิต ก็เลยต้องไปซื้อบัตรไม่แพงครับ ใบละ 20 บาท วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อน
Create Date : 22 มกราคม 2558 |
|
1 comments |
Last Update : 22 มกราคม 2558 13:09:28 น. |
Counter : 680 Pageviews. |
|
|
|