Group Blog All Blog
|
ตั้งโจทย์ทางกลยุทธให้ท่านคิดและสังเกตุ ก่อนที่ท่านจะบอกใครต่อใครว่า ตนเองคือนักลงทุน ท่านต้องตอบโจทย์ทางด้านเก็งกำไรให้ได้ก่อน และก่อนอื่นก็ต้องรู้ความจริงของระบบ ซึ่งกลายเป็นสถิติไปแล้ว ผู้ที่อ่านกราฟแท่งเทียนเป็น มีเรื่องหนึ่งที่มองข้าม เราจะสังเกตุกราฟแท่งเทียน จะมีบางวัน ยาว ๆ บางวันสั้น มีน้อยวันมาก ๆ ที่เป็นรูปขีดเดียวทางนอน(คือ เปิดปิดสูงต่ำ ราคาเดียวเท่านั้น) และถ้ากราฟแบบขีดเดียวในแท่งเทียน มีมากกว่า 2 ครั้งในสองสัปดาห์ พอเดาได้เลยว่าหุ้นนั้นใกล้หมดสภาพคล่อง หรือเสื่อมนิยม หุ้นที่เสื่อนิยมคือไม่มีคนซื้อคนขาย หรือไม่ก็วอลุ่มน้อยมาก เป็นที่น่ารังเกียจของนักเก็งกำไรยิ่งนัก แท่งเทียนที่ยาว ๆ ก็มักมีน้อยครั้ง เพราะแสดงว่า หุ้นนั้นหวือหวาน่ากลัว มีค่าสวิงสูง ใครเข้าไปห้ามหันหน้าไปที่อื่น ห้ามแม้เข้าห้องน้ำด้วยซ้ำ(ล้อเล่นครับ) หุ้นที่ดีคือแท่งเทียนสูงพอเหมาะ มีไส้เทียนบนล่างรวมระยะห่างพอเหมาะ ก็จะเหมาะกับการเล่นเก็งกำไรแล้ว ถ้าใครสังเกตุต่อ จะเห็นว่า แต่ละวันมีเล่นช่องบวก และช่องลบ รวมๆ กัน บนล่างไม่น้อยกว่า10 ช่อง(เมื่อตลาดเป็นขาขึ้น) และ ไม่น้อยกว่า 3 ช่อง (เมื่อตลาดเป็นขาลง) ทุกคนอยากได้ขายที่ช่องสูงสุดและซื้อคืนที่ช่องต่ำสุด นี่คือเก้าหมายคนเล่นหุ้นทั้งประเทศ แต่....ทำได้ยาก ถ้าลองตั้งใจว่า เอากำไรแค่ 2 ช่อง ย่อมง่ายกว่า 5 ช่องราคา เมื่อเป็นเช่นนี้ เราตั้งซื้อแล้วขาย 2 ช่องได้ทุกวันก็ดีซิหนา ปัญหาต่อไปคือ 2 ช่องต้องมีกำไรตามที่ตนเองอยาก เอากำไรสัก 2 ช่อง 5000 บาทพอไหม (มากไป) งั้นลองคิดว่าเอากำไรแค่ 2 ช่องราคา 1000 บาท (ใกล้ความจริงหน่อยเพราะสู้กับค่าแรงขั้นต่ำต่อวันได้ ล้อเล่นให้สนุกครับ) ถ้างั้นลองดู เปรียบเทียบกันกับหุ้น สัก 3 ตัว ที่ราคาปิด 3 แบบ ตัวที่ 1 PTTEP ปิด 169.50 บาท ต้องซื้ออย่างน้อย 3700 หุ้นหักค่าคอมฯ 0.20 ลงทุน=628,492บาท ขาย 2 ช่องราคาที่ 170.5 ได้กำไร 1007 บาท ตัวที่ 2 RAIMON ปิดที่ 1.17 บาท ซื้อซื้ออย่างน้อย 66,900 หุ้นหักค่าคอมฯ 0.20 ลงทุน=78,441 บาท ขาย 2 ช่องราคาที่ 1.19 ได้กำไร 1000 บาท ตัวที่ 3 KTB ปิดที่ 17.20 บาท ซื้อซื้ออย่างน้อย 8,000 หุ้นหักค่าคอมฯ 0.20 ลงทุน=137,894 บาท ขาย 2 ช่องราคาที่ 17.40 ได้กำไร 1007 บาท สังเกตุดู ใช้เงิน 628492 อีกตัว 78441 อีกตัว 137894 ต่างขาย 2 ช่องราคา และกำไร ประมาณ 1000 บาท แล้วท่านยังจะลงทุนเล่นเสี่ยงตั้ง 6 แสนกว่าไปทำไม แต่ปรากฎว่า วอลุ่มมาก ๆ และคลองตำแน่งแนวหน้าคือ PTTEP ทำไม คำตอบคือ มักเป็นหุ้นของรายใหญ่ที่ลงเงินมาก ๆ วันละหลายสิบหลายร้อยล้าน (พวกกองทุนหรือรายใหญ่ชอบ รายย่อยมีคนชอบน้อยกว่า หรือซื้อขายจำนวนน้อยกว่า) รายย่อยส่วนมากจึงมาเล่นหุ้นตัวเล็ก(ราคาเล็ก) ลงทุนน้อย กำไรมาก ยังไม่เพียงแค่นั้น ความเสี่ยงและสภาพคล่องต้องเอามารวมคิดด้วยกัน ไม่เช่นนั้นทุกคนก็ไปซื้อหุ้นราคา 10 - 20 สตางค์กันหมด เพราะความเสี่ยงสูงกว่า หลายเท่าตัวทีเดียว 10 มิย 54 แล้วค่อยมาเล่าสู่กันฟัง Free TextEditor |
nowya
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?] ชาวกรุงเทพฯ เล่นหุ้นมาตั้งแต่ตลาดหุ้นอยู่สยามเซ็นเตอร์ ผ่านการกำไรและเจ๊ง ครบทุกรส มองเห็นขบวนการปั่นราคา และมองเห็นรายย่อยที่เล่นเจ๊งกันต่อหน้าต่อตา ยืนอยู่หลัง ผจก ตลาดฯ สมัยมีคนจะฆ่าตัวตายที่อาคารสินธร เห็นใจรายย่อยที่เข้ามาเล่นแบบไม่รู้อะไร แต่อยากรวยเร็ว ๆ ด้วยทุนน้อยๆ อยากเก็งกำไร แต่ไม่รู้อะไรคือวิถีการเก็งกำไร จึงอยากมีส่วนในการช่วยชี้แนะบ้างเท่านั้นเอง
Link |