"กรณ์" ชี้ต้องเรียกเก็บภาษีจาก "ทักษิณ" แทนลูก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยอมรับกรมสรรพากรไม่สามารถเรียกเก็บภาษีจากการซื้อหุ้นของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ได้ แต่ต้องเรียกเก็บจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะเจ้าของหุ้นที่มีการซื้อขาย
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หากดูตามคำพิพาษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เป็นที่ชัดเจนว่าไม่สามารถเรียกเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นของ นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ เพราะหุ้นดังกล่าวเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ซื้อขายระหว่างนิติบุคคล กับบุคคล ไม่ใช่การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นกรมสรรพากรต้องเรียกเก็บภาษีจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเชื่อว่า เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรจะดำเนินการตามคำพิพากษาของศาล ไม่เช่นนั้นก็จะเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 157 ตามประมวลกฏหมายอาญา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมั่นใจว่าคดีนี้ไม่มีปัญหาเรื่องอายุความ
ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กรมสรรพากรไม่ยื่นอุทธรณ์การเก็บภาษีกว่า 12,000 ล้านบาท ของบุตรชาย และบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณว่า ไม่ทราบเหตุผลของกรมสรรพากร แต่จะต้องมีคนรับผิดชอบในส่วนนี้ เนื่องจากมีเงินได้ที่ต้องเสียภาษี โดยกรมสรรพากรต้องดำเนินการให้ชัดเจนไม่เช่นนั้นกรมสรรพากรอาจจะถูกดำเนินคดีได้
ที่มาsanook.com