ผงะ! ผูกคอตาย-ศพเหลือแต่ "กระดูก"
(29 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบป่าแสมหลังหมู่บ้านเมฆฟ้าวิลล์ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากโครงกระดูกมนุษย์อยู่บริเวณดังกล่าว
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มชาวบ้านยืนดูกันอยู่จำนวนหนึ่ง ตรวจสอบบริเวณป่าแสมเป็นพื้นที่ป่าชายเลนรกทึบ อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปราว 100 เมตร พบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ที่ใต้ต้นแสม กองกระจายอยู่เต็มบริเวณดังกล่าว ประกอบด้วยหัวกะโหลก กระดูกท่อนแขนและขา เป็นต้น ซึ่งกระดูกส่วนใหญ่พบว่าถูกสัตว์กัดกินจนหมดเหลือเพียงแต่กระดูก
นอกจากนี้จากการตรวจสอบบริเวณต้นแสม พบเสื้อยืดแขนกุดแขวนสีเทาแขวนอยู่บนต้นไม้ และพบสายไฟสีขาวมัดกับกิ่งต้นแสม ตรวจสอบพบเส้นผมติดอยู่บริเวณห่วงจำนวนหนึ่ง คาดว่าผู้ตายน่าจะผูกคอตายและเสียชีวิตมาแล้วกว่า 30 วัน
พยานผู้พบเห็นโครงกระดูกดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนออกไปจับปลาช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังไล่จับปลาตัวใหญ่อยู่ ปลาตัวดังกล่าวได้ว่ายหลบหนีมาบริเวณที่ชิ้นส่วนโครงกระดูกอยู่ จนกระทั่งตนได้พบกับโครงกระดูกเข้า จึงเกิดอาการตกใจและรีบวิ่งออกจากป่าเพื่อแจ้งกับชาวบ้านคนอื่นๆ ก่อนที่จะแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเก็บโครงกระดูกดังกล่าว นำไปชันสูตรเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริง นางจิราภา ร่องดี อายุ 39 ปี แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถึงกับร่ำไห้เมื่อเห็นเสื้อแขนกุดสีเทาที่อยู่ในที่เกิดเหตุ นางจิราภาได้ให้การว่า ผู้ตายคือ นายชาตรี สาแดงผา อายุ 23 ปี เป็นหลานชายของตนเองที่อาศัยอยู่ด้วยในหมู่บ้านเมฆฟ้าวิลล์ ซึ่งหายตัวออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนและญาติพี่น้องออกตามหาจนทั่วแต่ก็ไม่พบและได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
นางจิราภายังเปิดเผยอีกว่า ปกติหลานชายเป็นคนเก็บตัวเงียบ หลังจากกลับมาจากที่ทำงานก็จะเก็บตัวอยู่เพียงแต่ในห้อง และก่อนหน้าที่จะหายตัวไป หลานชายเคยมาบอกกับตนว่า รู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างแรง จึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาล และหลังจากวันนั้นหลานชายก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ที่มาsanook.com
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
