"เดวิด คาเมรอน" ตัวเต็งเก้าอี้นายกฯอังกฤษ
กำลังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกจับตามองเป็นอย่างมาก หลังจากที่นายกอร์ดอน บราวน์ อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ประกาศยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งทั้วไปขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา
แน่นอนว่า ชื่อของ เดวิด คาเมรอน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม กลายเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งที่จะคว้าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปทันที ตอกย้ำด้วยผลเอ็กซิทโพลที่ระบุว่า ชาวผู้ดีไว้วางใจพรรคอนุรักษ์นิยมของนาย เดวิด คาเมรอน มากถึง 305 ที่นั่ง จากทั้งหมด 650 ที่นั่ง ทิ้งห่างพรรคแรงงาน ของนายกฯ กอร์ดอน บราวน์ ที่คาดว่าจะได้เพียง 255 ที่นั่งเท่านั้นเอง
ทำไมชาวเมืองผู้ดีจึงไว้ใจ เดวิด คาเมรอน วันนี้กระปุกดอทคอมจึงจะพาไปรู้จัก เดวิด คาเมรอน คนนี้กันค่ะ
สำหรับ เดวิด คาเมรอน (David Cameron) หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม หรือพรรคคอนเซอร์เวทีฟ มีชื่อเต็มว่า เดวิด วิลเลี่ยม โดนัลด์ คาเมรอน (David William Donald Cameron) เกิดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2509 ที่ลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 43 ปี เขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยอีตัน และได้ศึกษาต่อด้านปรัชญาทางการเมืองและเศรษฐกิจจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พร้อมคว้าดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1
ครอบครัวของ เดวิด คาเมรอน เป็นตระกูลนักธุรกิจชั้นสูง เพราะบรรพบุรุษสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์วิลเลี่ยมที่ 4 อีกทั้งคนในครอบครัว เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงินหลายแห่ง ขณะเดียวกันพ่อของเขาก็เป็นนายหน้าซื้อขายหุ้น ขณะที่ภรรยาของเขา ซาแมนธา เชฟฟิลด์ ที่แต่งงานกันเมื่อปี พ.ศ.2539 ก็เป็นลูกสาวของเซอร์เรจินัลด์ เชฟฟิลด์ เจ้าของที่ดิน พวกเขามีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ที่น่าเศร้าใจคือ ลูกชายคนโตของเขาซึ่งเกิดมาพิการ ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา
สำหรับเส้นทางทางการเมืองของ เดวิด คาเมรอน เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2531 เมื่อ เดวิด คาเมรอน ได้เข้าร่วมทีมวิจัยของพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงสุด จนเรียกได้ว่า เป็นชัยชนะที่ผูกขาดทุกครั้งในการเลือกตั้งของประเทศอังกฤษในสมัยนั้น ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงเหล็ก มากาเร็ต แธชเชอร์ จากนั้นในปี พ.ศ.2534 เดวิด คาเมรอน ก็ได้กลายเป็นที่ปรึกษาให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีจอห์น เมเยอร์ ครั้งนั้นจึงเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้คนทั่วไปเริ่มเห็นแววของ เดวิด คาเมรอน คนนี้
ในปีถัดมา เดวิด คาเมรอน ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการให้กับนอร์แมน ลามองต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนที่ในปี พ.ศ.2537 เดวิด คาเมรอน จะเบนเข็มไปทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการองค์กรในบริษัทสื่อ Carlton Communications และใช้เวลาทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนถึง 7 ปี ก่อนจะตัดสินใจกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในปี พ.ศ.2544 และได้รับเลือกเป็น ส.ส.เขตวิตนีย์ ในออกซ์ฟอร์ดเชียร์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงยุคนั้น ความนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยมกลับตกต่ำลง หลังจากโทนี่ แบลร์ ผู้นำคนหนุ่มของพรรคแรงงานสามารถเอาชนะพรรคอนุรักษ์นิยมในการเลือกตั้งได้ และครองความนิยมได้อย่างยาวนาน ในระหว่างนั้น พรรคอนุรักษ์นิยมก็เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะตัวผู้นำพรรคเอง ที่มีการเปลี่ยนตัวอยู่หลายคน ก็ยังไม่สามารถโค่นโทนี่ แบลร์ ในการเลือกตั้งได้
จนกระทั่งในปี พ.ศ.2548 ไมเคิล โฮเวิร์ด หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมในขณะนั้นประกาศลาออก หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อพรรคแรงงาน เดวิด คาเมรอน ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 39 ปี จึงลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป และดึงเอาจุดเด่นที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงออกมาใช้ในการหาเสียง ซึ่งในที่สุด เดวิด คาเมรอน ก็ได้ขึ้นครองเก้าอี้หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมได้สำเร็จ พร้อมกับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งเดวิด คาเมรอน ก็ได้ฉายแววเด่น เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ จนทำให้คะแนนนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยมค่อย ๆ ดีขึ้นมาเป็นลำดับ สวนทางกับคะแนนความนิยมของกอร์ดอน บราวน์ ผู้ที่สืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาจากโทนี่ แบลร์ โดยไม่ได้ผ่านการเลือกตั้ง ที่อยู่ในช่วงขาลงเรื่อย ๆ
ในที่สุด กอร์ดอน บราวน์ ก็ประกาศยุบสภาในต้นปี พ.ศ.2553 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ซึ่ง เดวิด คาเมรอน ก็ชูจุดยืนที่จะปฏิรูปการเมืองให้ขาวสะอาด พร้อมกับลบภาพลักษณ์ที่เขาถูกกล่าวหาว่า เป็นชนชั้นสูง อีกด้านหนึ่งในการดีเบตกับผู้ลงชิงชัยเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เขาก็ได้กล่าวโจมตีเรื่องการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของรัฐบาลกอร์ดอน บราวน์ จนเปิดศึกโต้คารมกันอย่างดุเดือดในประเด็นเรื่องนโยบายภาษีกับนายกอร์ดอน บราวน์ ในการดีเบตครั้งที่ 3 ซึ่งครั้งนั้นผลสำรวจได้ลงคะแนนให้ เดวิด คาเมรอน เป็นผู้ชนะในการดีเบต
ขณะเดียวกับ กอร์ดอน บราวน์ ก็ได้กล่าวโจมตี เดวิด คาเมรอน อยู่เสมอ ว่าเป็นคนไม่มีประสบการณ์ จึงไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำพาประเทศอังกฤษให้ผ่านพ้นวิกฤตการเงินไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ประชาชนชาวอังกฤษจะชื่นชม เดวิด คาเมรอน แห่งพรรคอนุรักษ์นิยมมากขึ้น
ดังนั้น จึงมีการคาดหมายว่า หากไม่มีอะไรผิดพลาด เดวิด คาเมรอน คงจะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งอังกฤษคนต่อไปแน่นอน และหากพรรคอนุรักษ์นิยมชนะการเลือกตั้งจริง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ เดวิด คาเมรอน จะจับมือกับพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งนำโดยนาย นิก เคล็กส์ จัดตั้งรัฐบาลผสมเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี หลังจากพรรคแรงงานครองอำนาจรัฐบาลพรรคเดียวมาโดยตลอด
งานนี้ คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า อนาคตของประเทศอังกฤษจะเดินหน้าไปในทิศทางใด ภายใต้รัฐบาลใหม่
ข้อมูลจาก ข้อมูลจาก //www.kapook.com
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
