"โอวัลติน" ขึ้นแท่นโฆษณาถี่-สรรพคุณเวอร์
นางสาวทัศนีย์ แน่นอุดร บรรณาธิการนิตยสารฉลาดซื้อ กล่าวถึงการ ที่ 8 องค์กร ประกอบไปด้วย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ, มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว, สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ, สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล, เครือข่ายคนไทยไร้พุง, โครงการโภชนาการสมวัย, แผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ และเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน จะมีการจัดระเบียบฉลากขนมแบบใหม่ในรูปแบบสัญญาณไฟจราจร ซึ่งง่ายต่อความเข้าใจของผู้บริโภคนั้น นิตยสารฉลาดซื้อในฐานะหนังสือที่ทำงานให้ข้อมูลกับผู้บริโภค โดยไม่รับโฆษณาเห็นด้วยกับโครงการ และพร้อมจะร่วมมือเผยแพร่ข้อมูล

“เป็นการดีที่จะมีการเคลื่อนเรื่องฉลากขนมแบบสัญญาณไฟจราจร เพราะปัจจุบันมีการโฆษณาในรายการเด็กเยอะมาก ทำให้เด็กได้รับการกระตุ้นในการบริโภคที่เพิ่มขึ้น นิตยสารฉลาดซื้อ ฉบับที่ 98 เคยสำรวจโฆษณาในการรายเด็กพบว่า…….ผลเสียจริงๆ ไม่ได้เกิดจากการที่เด็กๆ นั่งชมโฆษณา แต่เกิดจากการที่เด็กๆ เลือกรับประทานอาหารจากการที่เขาได้เห็นจากในโฆษณา ซึ่งโฆษณาส่วนใหญ่มักทำออกมาในภาพลักษณ์ที่เหนือความเป็นจริง ทั้งเรื่องความรสชาติ รูปร่างลักษณะ หรือแม้แต่คุณค่าทางอาหาร โฆษณาอาหารหรือขนมสำหรับเด็กหลายตัวตั้งใจใช้สีสันที่ดูสดใสสะดุดตาเกินกว่าความเป็นจริง เช่น บรรดาลูกอม ลูกกวาด เยลลี่ และขนมขบเคี้ยว ซึ่งสีสันเหล่านี้ไปกระตุ้นเร้าให้เด็กๆ เกิดความสนใจ และอยากลิ้มลองหาซื้อมารับประทาน ขณะที่ผลิตภัณฑ์จำพวก นม อาหาร เช้า รวมทั้งซุปไก่สกัด ที่ขายภาพลักษณ์ของอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ก็สร้างภาพที่สื่อออกมาเกินจริง ด้วยการให้เด็กๆ หรือตัวละครในภาพยนตร์โฆษณามีความสามารถ เก่ง และฉลาดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ได้ทานผลิตภัณฑ์นั้นๆ


ส่วนโฆษณาของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดก็มักใช้ของเล่นมาเป็นจุดขายหลัก ขายพร้อมคู่ไปกับชุดอาหาร ซึ่งของเล่นที่นำมาใช้ล่อใจเด็กๆ ก็มาจากการ์ตูนหรือภาพยนตร์ที่เด็กๆ รู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งตัวอย่างกลยุทธ์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ดูแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหลอกล่อให้เด็กเกิดความสนใจในตัวโฆษณา ต่อด้วยการรู้จักและจดจำตัวสินค้า ซึ่งสุดท้ายก็จะส่งผลร้ายไปยังพฤติกรรมการบริโภคของเด็กๆ



ขนมกับผลเสียต่อสุขภาพเด็ก

ผลวิจัยหลายๆ ตัวชี้ให้เห็นว่า เด็กไทยมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนสูงขึ้น ขณะที่การเจริญเติบโตทางร่างกายค่อนข้างต่ำ ซึ่งมาจากการที่เด็กมีพฤติกรรมการรับประทานขนมขบเคี้ยวและน้ำอัดลม ซึ่งเป็นอาหารที่ไม่มีความจำเป็นต่อร่างกายมากเกินความพอดี ผลสืบเนื่องมาจากการรับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้องจากการโฆษณา อีกทั้งการที่ผู้ปกครองหลายๆ คนเองก็เชื่อตามคำบอกกล่าวในโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีประโยชน์ต่อร่างกายของบุตรหลาน อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์จำพวกอาหารเช้าซีเรียล ซึ่งในหลายยี่ห้อมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง นอกจากนี้ในการตรวจสอบดูปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียม ที่ให้ไว้ในฉลากข้อมูลโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์ของแต่ละผลิตภัณฑ์พบว่า มีขนมหลายยี่ห้อที่มี่ส่วนผสมของ น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม สูงเกินกว่าเกณฑ์ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านมาตรฐานอาหารของประเทศอังกฤษ (UK Food Standards Agency) กำหนดไว้

เมื่อเด็กมีภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสมจากการรับประทานขนมที่มี น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม มากเกินความพอดี จนทำให้เด็กมีภาวะการณ์เจริญเติบโตบกพร่องเกิดเป็นโรคอ้วนแล้ว ผลเสียของสุขภาพที่จะตามมาเมื่อเด็กโตขึ้นคือโรคภัยไข้เจ็บมากมายหลากหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ โรคกระดูกเสื่อม โรคระบบทางเดินหัวใจ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ เช่น เด็กบางคนติดที่จะรับประทานขนมจนไม่ทานข้าว ซึ่งก็ส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้กลายเป็นเด็กผอม สุขภาพไม่แข็งแรง เด็กบางคนมีนิสัยก้าวร้าวเมื่อไม่ได้ทานขนม ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องของโภชนาการที่ดีย่อมมีผลต่อการพัฒนาของไอคิวและอีคิว

ตารางทดสอบเรื่องโฆษณาขนมเด็ก
โฆษณา…จะเยอะไปไหน

ตารางแสดงผล 20 อันดับภาพยนตร์โฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารนี้ เป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ออกอากาศทางโทรทัศน์มากที่สุดในช่วงเวลารายการสำหรับเด็ก (สำรวจในช่วงวันพุธที่ 25 – วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา 17.00 น. – 19.00 น. และวันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2552 เวลา 08.00 น. – 12.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 7 และ 9) โดยตลอดช่วงเวลาที่มีการสำรวจมีจำนวนภาพยนตร์โฆษณาออกอากาศทั้งหมด 1,242 เรื่อง เป็นภาพยนตร์โฆษณาที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารจำนวน 408 เรื่อง หรือ 32.85% เป็นยี่ห้อของผลิตภัณฑ์อาหารจำนวน 123 ยี่ห้อ ซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารที่มีภาพยนตร์โฆษณาออกอากาสมากที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์ประเภทขนมขบเคี้ยว มันฝรั่งทอด ข้าวกรอบ ข้าวโพดกรอบ 16.4% รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์จำพวก ลูกอม หมากฝรั่ง เยลลี่ 15.2% อันดับสามคือ ผลิตภัณฑ์นม 9.3% ตามมาด้วยร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด 9% และเครื่องดื่ม น้ำอัดลม ชา น้ำผลไม้ 7.8%

โดยผลิตภัณฑ์ที่มีความถี่ในการออกอากาศมากที่สุดคือ โอวัลติน ที่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นม ซึ่งยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ติดอยู่ใน 20 อันดับอีกถึง 6 ยี่ห้อ คือ แลคตาซอย,ไวตามิลด์, เอส 26 โปรเกรสโกลด์, เอนฟาโกรว เอ+, โฟร์โสท์ และดีน่า ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มักนำเสนอการโฆษณาที่บอกเล่าเรื่องของสุขภาพ เช่น ดื่มแล้วแข็งแรง สามารถทำสิ่งที่ดูเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ หรือทานแล้วอิ่มเหมือนรับประทานข้าว ขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มีจำนวนความถี่ในการออกอากาศมากเป็นอันดับสองคือ แบรนด์ ซึ่งข้อมูลที่นำเสนอในโฆษณาใกล้เคียงกับกลุ่มผลิตภัณฑ์นม คือขายเรื่องสุขภาพ เสริมเรื่องความเก่งและฉลาด โดยใช้กลวิธีให้บุคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนเตอร์นำเสนอขายสินค้า


ขณะที่อันดับ 3 คือโฆษณาร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง แมคโดนัลด์ ซึ่งมักเป็นการโฆษณาอาหารชุดแฮปปี้มีลล์ที่ใช้ของเล่นมาเป็นของแถมจูงใจแต่เมื่อมีการทำป้ายสัญญาณจราจรที่ฉลากขนมเด็ก ก็น่าจะทำให้ผู้ปกครองสามารถตัดสินใจเลือกได้ถูกหลักโฆษณาการมากขึ้น

พร้อมกล่าวเสริมว่าเพื่อจะทำให้เกิดการเฝ้าระวังด้านผู้บริโภคนั้น น่าจะเกิดการรวมกลุ่มของผู้บริโภคด้วยกันเองด้วยการสร้าง “ครอบครัวฉลาดซื้อ” ให้เกิดขึ้น ร่วมกันเฝ้าระวังสินค้า ทั้งราคา คุณภาพ.....ผู้บริโภคทุกท่านสามารถสนับสนุนแนวคิดเรื่องการจัดระเบียบฉลากขนมแบบใหม่ในรูปแบบสัญญาณไฟจราจร โดยเข้าร่วมกิจกรรมสำรวจฉลากขนมยี่ห้อต่าง ๆ ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ได้ด้วยตนเอง และนำส่งข้อมูลดังกล่าวมาที่โครงการครอบครัวฉลาดซื้อ เป็นโครงการที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมมือกับแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.)จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความตื่นตัว เฝ้าระวัง และให้ข้อมูลเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคทุก ๆ ด้าน รวมทั้งด้านผลิตภัณฑ์อาหารแก่เยาวชน เพื่อให้ผู้บริโภคในสังคม เกิดความเข้มแข็งและรู้เท่าทันมากยิ่งขึ้น สามารถส่งข้อมูลและสมัครสมาชิกครอบครัวฉลาดซื้อ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ “ครอบครัวฉลาดซื้อ ”มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (อาคารมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค )4/2 ซอยวัฒนโยธิน(ราชวิถี 7) แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 หรือที่ //www.ฉลาดซื้อ.com/family หรือสมัครสมาชิกในงานเปิดตัวโครงการครอบครัวฉลาดซื้อ วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2554 ที่อาคารมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค





ที่มามติชนออนไลน์



Create Date : 13 มีนาคม 2554
Last Update : 13 มีนาคม 2554 13:01:08 น.
Counter : 1219 Pageviews.

0 comments

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
มีนาคม 2554

 
 
3
4
8
10
17
20
23
29
 
 
All Blog