เจ้าไม้ขีดไฟ
ก้านน้อยเดียวดาย
แอบรักดอกทานตะวัน
แรกแย้มยามบาน
อวดแสงตะวัน
ช่างงดงามเกินจะเอ่ย
ดอกเหลืองอำพัน
ไม่หันมามอง
แม้เหลียวมา ยังไม่เคย
ไม้ขีดเจ้าเอ๋ย
เลยได้แต่ฝัน ข้างเดียว
ดอกไม้จะบาน และหันไปตาม
แต่แสงจากดวงอาทิตย์
จุดตัวเองก็ยอมทันใด
ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมา
เพียงปรารถนา
ให้มีลำแสง สีทอง
จุดตัวเองก็ยอมทันใด
ให้ลุกเป็นไฟขึ้นมา
เพียงปรารถนา
ดอกทานตะวัน
หันมอง สักครั้ง
เจ้าไม้ขีดไฟ
ก้านน้อยเดียวดาย
สาดแสงในใจ ไม่นาน
ดอกเหลืองอำพัน
...จึงหันมามอง
และพบเพียงกองเถ้าถ่าน
เจ้าไม้ขีดไฟ
ก้านน้อยเดียวดาย
เพราะรักจริงใจ อย่างนั้น
เพียงแค่เธอหัน
เพียงแค่เธอมอง ก็พอ
ดอกไม้จะบาน และหันไปตาม
แต่แสงจากดวงอาทิตย์
จุดตัวเอง
ก็ยอมทันใด
ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมา
เพียงปรารถนา
ให้มีลำแสง สีทอง
จุดตัวเอง ก็ยอมทันใด
ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมา
เพียงปรารถนา
ดอกทานตะวัน หันมอง
จุดตัวเอง ก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมาเพียงปรารถนา ให้มีลำแสง สีทองจุดตัวเอง ก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟ ขึ้นมาเพียงปรารถนา ดอกทานตะวัน หันมองสักครั้งเนื้อเพลง -ไม้ชีดไฟกับดอกทานตะวัน
ภาพดอกทานตะวัน - Nikanda
..
..
..
จำได้ว่า ครั้งแรกที่เคยได้ยินเพลงนี้ น่าจะหลายปีมากแล้ว ได้ยินมาจากการนั่งฟังการประกวดร้องเพลงของสยามกลกาล จากนั้นก็เปิดฟังเรื่อยมาในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาส เพลงนี้คือหนึ่งในเพลงที่ประทับใจเหลือเกิน ชอบดนตรี ชอบเนื้อร้อง และชอบความหมายของบทเพลง ที่ผู้แต่งช่างเรียงร้อยและเปรียบเทียบกับความรักได้อย่างชัดเจนจนเห็นภาพ
นั่งฟังเพลินๆ แล้วเกิดคำถาม ว่าผู้คนให้คุณค่าของความรักของตัวเอง ดังเช่นเจ้าไม้ขีดไฟหรือไม่ ... รักยิ่งใหญ่ของเจ้าไม้ขีดไฟ ที่ยอมแผดเผาตัวเอง แต่ดอกทานตะวันก็ไม่มีวันเหลียวแล...แลดูช่างน่าสงสารจัง
แต่ฟังไปฟังมา แล้วก็เริ่มสงสัย ว่าเจ้าไม้ขีดไฟ รักหรือหลง ดอกทานตะวัน กันแน่...แต่คงไม่มีคำตอบ และฉันเดาว่า จนป่านนี้ เจ้าไม้ขัดไฟ มันก็คงยังไม่รู้ตัวเหมือนกัน
พี่ก๋าชอบเพลงของพี่ประภาสเป็นทุนเดิม
บวกเสียงร้องของพี่ตุ๊ก วิยะดา
ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่พี่ก๋าฟังมิรู้เบื่อเลยในตอนนั้น
อินมากครับ ประมาณว่าฉันยอมเสียสละเพื่อความรักได้ 555