. . . จาก ฮา นอย ถึง ฮา ลอง ตอนที่ 2 . . .
***คำเตือน*** บล็อกนี้เนื้อเรื่องยาว และรูปประกอบค่อนข้างจะเยอะ ใครเนตไม่แรงขออภัยเจ้าค่ะ
ต่อจาก ตอนที่แล้ว
พออิ่มจากมื้อเที่ยงกันแล้ว ไกด์ปล่อยเราให้นั่งพักอยู่สักพักหนึ่ง แล้วก็มาบอกว่า มีเรือรับจ้างพายไปวนลอดถ้ำสั้นๆ และดูเกาะรอบๆ แรกทีเดียวนั้นนังเจ็งฯ ยืนกรานเสียงแข็ง เพราะรู้ว่าต้องไปนั่งเรือแบบนั้น ให้ลงจากเรือลำใหญ่ๆ ไปลง ลำเล็กๆ หัวเด็ดตีงขาดก็ไม่ลงเจ้าค่ะ แต่ปรากฏว่าอีกสองสาวในกลุ่ม รวมถึงคนอื่นๆ ลงไปกัน แล้วสองสาวก็บอกว่าไหนๆ ก็มาแล้ว ได้แต่ทำตาปริบๆ เอาฟะ ลงก็ลง อีตอนลงเรือนี่ใจจะขาดเจ้าค่ะ พอลงเรือได้นั่งนิ่งแน่ ตัวแข็งไม่กล้ากระดิกสักเท่าไหร่ กลัวเรือโคลง กลัวตัวเองจะประสาทตายเสียก่อน นั่งเกร็งอยู่นานค่ะ พอเริ่มๆ รู้สึกว่าเออ เรือไม่โคลงแฮะ แล้วน้ำก็ใสเขียวสวยเชียว แดดส่องลงมาน้ำเป็นประกาย เขาหินปูนที่เห็นๆ อยู่ไกลๆ ก็รู้สึกว่ามันสวย พอมาใกล้ก็รู้สึกว่าสวยยิ่งขึ้น รู้สึกทึ่งและเพลินกับธรรมชาติ จนลืมความกลัวค่ะ ธรรมชาติที่สร้างสรรค์ได้แบบนี้ชนิดที่ว่ามนุษย์อย่างเราๆ คงไม่สามารถจะทำได้แบบนี้แน่นอน เห็นแล้วประจักษ์ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติจริงๆ ค่ะ เรือพาเราวนไปลอดถ้ำสองแห่ง และดูเกาะวนๆ ไปสักพัก ก็พาเรากลับมาส่งที่เรือ ไอ้ตอนขึ้นเรือนี่สิคะ ต้องเขย่งจากเรือเล็กขึ้นเรือใหญ่ เฮ้อออออ อีเจ็งฯ ใจจะขาดจริงๆ ค่ะงานนี้
เรือลำที่มาจอดต่อเรา
ลงเรือกันค่ะ
ใกล้จะถึงถ้ำแล้วค่ะ
เงยหน้ามองหน่อยนึง
ถ้าแรกค่ะ คนมือบอนมันมีทุกที่จริงๆ เลยเนอะ
โผล่ออกมาเจอนี่ค่ะ เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนี้ เขามีชุมชนกลางทะเลค่ะ มีโรงเรียนด้วย
สวยไหมคะ เห็นแล้วอยากกลับไปนะเนี่ย
เกาะแก่งกลางน้ำ
อีกนิด
เอาตัวรอดปลอดภัยจากเรือเล็กมาได้แล้ว เรือใหญ่ของเราก็มุ่งหน้าไปยังเกาะแห่งหนึ่ง ที่มีถ้ำยอดฮิตที่ต้องไปชม จากนั่งสบายๆ กัน ความลำบากก็เริ่มมาเยือนละค่ะ เมื่อเราต้องเดินขึ้นเขา ตามธรรมดาแหละค่ะถ้ำมันมักจะอยู่บนเขา แต่ไอ้ที่แย่เนี่ย เพราะตาไกด์นั่นเร่งเสียเหลือเกินค่ะ เดินเหมือนรีบตามควาย ไม่ทราบว่าควายหายไปทั้งฝูงหรือเปล่าก็ไม่รู้ รีบชะมัด (เชอะใส่ตาไกด์อีกรอบค่ะ) ตาไกด์ต้อนเราให้ขึ้นไปบนเขาเพื่อเข้าถ้ำ เราก็ต้องยินยอมให้นำไปแต่โดยดี เดินมันเข้าไปค่ะ พร้อมกับเสียงของตาไกด์ดังมาเป็นระยะๆ Keep moving, keep moving จนแทบอยากจะสวนออกไปว่า เออ ตรูรู้แล้ว กำลังตามหาควายอยู่เหมือนกัน ไม่รู้หายไปไหน หรือจะหายไปกับควายของตาไกด์แล้วก็ไม่รู้ แง่ม เถอะค่ะบ่นมากไปก็เท่านั้น จำต้องยอมเป็นลูกไก่ตามควายแต่โดยดี ตามเข้าไปค่ะ ไปจนถึงถ้ำ หอบแฮ่กๆ แหม แต่ละคนนี่แข็งแรงกันทั้งนั้น ออกกำลังกายกันทู้กกวัน ฮืออ ตาไกด์ก็เร่งๆๆๆ จนเข้าไปถึงในถ้ำ มองไปรอบๆ ค่อยรู้สึกว่าคุ้มกับความเหนื่อยที่มาหน่อย สวย และเย็น ไม่ร้อนค่ะ แต่ยืนชมความงามอยู่ได้สักพัก ตาไกด์ก็เร่งให้ไปตามควายกันอีก
ท่าเรือให้เทียบ เพื่อขึ้นไปชมถ้ำค่ะ
มีเพนกวินอยู่ระหว่างทางค่ะ
ในถ้ำ
รูปในถ้ำถ่ายย๊ากยาก ได้มาแค่นี้
บางรูปก็แลน่ากลัวแฮะ
อีกรูป
จากถ้ำแรกไปถ้ำสอง ถ้ำสองนี่เหนื่อยกว่าเดิมค่ะ เพราะทั้งชัน และทั้งลื่น สวยก็สวยหรอก แต่เจอเร่งมากๆ แบบนั้น ความสุนทรีย์มันเหือดหายไปได้ง่ายๆ เหมือนกัน แถมยังเจอกับทัวร์อาม่าด้วย โอ้ แม่เจ้าให้เต่าตายเหอะ อะไรมันจะเป็นชะโงกทัวร็สมบูรณ์แบบอย่างนี้ (ฟะ) คะ ตาไกด์เร่งมากจน มีครั้งหนึ่งอีเจ็งฯ เริ่มใกล้วีนแตก ถามไปคำว่า ขออนุญาตถ่ายรูปตรงนี้สักสองสามนาทีได้ไหม แค่นั้นแหละ ตาไกด์เริ่มรู้ตัว รีบบอกทันทีได้เลยๆ จริงๆ ก็เข้าใจแหละค่ะว่าไกด์น่ะต้องทำเวลา เพื่อจะพาพวกเรากลับถึงฮานอยให้ทันเวลา คือ หนึ่งทุ่ม แต่ไอ้การเร่งๆๆๆ เกินไปนี่มันเสียอารมณ์เหมือนกันนะคะ คนเรามาเที่ยว อยากจะเพลิน อยากจะชื่นชนกับสิ่งที่ตัวเองอยากมาอยากเห็น มาเจอเข้าแบบนี้ แอบเซ็งค่ะ
มองลงมาจากจุดชมวิวค่ะ
กลับกันเถอะค่ะ
เรือรออยู่แล้ว กลับแล้ว
เราโผล่ออกมาจากถ้ำ และเริ่มไต่ลงไปเพื่อขึ้นเรือของเรา และด้วยความเฟอะ อีเจ็งฯ ก็เดินเลยเรือ - - อีกสองสาวต้องตะโกนเรียก เจ๊จะไปไหน เอ่อ ลืมว่ะไม่ได้ดูชื่อเรือก่อน แหะๆ อย่าว่าแต่เจ็งลี่เล้ย ตัวไกด์ยังเพลินเดินเลยเรือ โฮะๆ แล้วเราก็เริ่มออกเรือกลับเข้าฝั่ง รู้สึกว่าระยะทางมันหดสั้นมากๆ เลย อีตอนขาออกมาล่ะอ้อมเสียไกล พอจะกลับล่ะใกล้เชียว สุดท้ายไกด์ก็พาเรามาส่งที่โรงแรมในเวลาประมาณทุ่มเศษๆ ในสภาพที่สะบักสบอมกันถ้วนหน้า เหนื่อยอิ๊บๆ โอ้ แต่ภารกิจของเรายังไม่หมด เมื่อ ตาวีบอกเราว่า นัดคุณฮงเพื่อนเราไว้ให้ตอน 2 ทุ่ม ชิบเป๋ง รู้ดังนั้นรีบขอกุญแจแล้วแจ้นขึ้นห้อง รีบเร่งไปล้างหน้าล้าตาดีกว่า แล้วจะมาเดี๋ยวจะพาเที่ยวต่อค่ะ
Create Date : 27 ตุลาคม 2549 |
|
22 comments |
Last Update : 27 ตุลาคม 2549 15:04:09 น. |
Counter : 540 Pageviews. |
|
|
|
ตอนนี้นึกออกหรือยังว่าใครคือคนมือบอนคนนั้น...555555