แก่นแท้มนุษย์ในศึกรัก
เช้าของวันเสาร์เป็นอะไรที่แสนจะสบายเหลือเกินสำหรับเรา เพราะเป็นวันที่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย เป็นวันที่เราเลือกที่จะทิ้งทุกความเครียด ถ้าจะต้องคิด ก็คงคิดแค่ว่า "กินอะไรดี" หรือ "ไปเที่ยวไหนหน่อยมั้ย"
เช้านี้ก็เช่นเดียวกัน... อีกนิดเดียวเท่านั้นที่เราจะลุกจากที่นอนทรายดูดเพื่อไปหาอะไรทำ แต่ทว่ามือของเรากลับไปแตะโดนวัตถุมีปุ่มสีดำมะเมื่อมนั่นเสียก่อน เราชั่งใจนิดนึง ก่อนหยิบเจ้าวัตถุนั่นมาพิจารณา เพียงสิ้นเสี้ยงลมหายใจเข้าเดียวเท่านั้น เราก็ได้ยินเสียงสัญญาณบางอย่าง สัญญาณที่บอกเราว่า มีสิ่งหนึ่งได้เกิดขึ้นแล้วและเราต้องอยู่เผชิญหน้ากับมันก่อน
ทันใดนั้นเอง ! ภาพหญิงสาวผมยาวสวมชุดสีขาวรุ่มร่ามก็ปรากฏแก่สายตาเรา ใบหน้าของเจ้าหล่อนดูงดงามยิ่งนัก ปากคิ้วคางลงตัวได้สวยชนิดที่ว่าหาตัวจับยากเลยทีเดียว ติดแต่เพียงว่า... เสี้ยวหนึ่งของดวงหน้านวลนั่นถูกปิดด้วยทองคำสุกลวดลายปัดส่ายไร้ซึ่งศิลปะ
เธอไม่พูดอะไร แต่ดวงตาคู่สวยกลับแสดงถึงความเจ็บปวดรวดร้าวของดวงใจได้เป็นอย่างดี เราไม่พูดอะไร แต่ก็มองเธอกลับไปเป็นเชิงถาม เหมือนเธอได้ยินเสียงที่ดังอยู่ภายในใจของเรา เธอมองกลับมายังเรา ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดพร้อมกับ... ภาพเหตุการณ์ !
ใช่แล้ว ! ภาพเหตุการณ์ที่เธอโดนทำร้ายด้วยเดรัจฉานหน้าขนที่มีหัวใจแต่ไร้ซึ่งความปราณี เธอพยายามอย่างสุดแรงเกิด ต่อสู้ด้วยอาวุธมีคมอย่างเชี่ยวชาญ เธอสวนมันกลับบ้าง แต่ทว่า... เหล็กหลอมชั้นดีที่เธอครอบครองอยู่ก็หาช่วยเธอได้ไม่ ในทางกลับกัน ยิ่งทวีความโกรธและความบ้าคลั่งให้กับเดรัจฉานตัวนั้น มันจ้องมาที่แแสงวิบวับของอาวุธที่บัดนี้ครึ่งหนึ่งถูกฝังอยู่ในร่างของมัน ก่อนที่มันจะคำรามออกมาด้วยสุรเสียงกัมปนาทไปทั่วเขตคาม ยิ่งเสียกว่าคำว่าพร้อม มันพุ่งตรงมาที่เธอก่อนจะใช้เล็บอันยาวใหญ่ของมันตะบบเข้าที่ดวงหน้างามนั่น เธอหมดแรงต่อสู้อีกแล้ว วินาทีสุดท้ายของชีวิตรอเธออยู่เพียงมือเอื้อมเท่านั้น
แต่ทันใดนั้นเอง ! เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออก
เรายังไม่พร้อมหันไปมอง ! แต่เสียงเท้านั่นกลับไม่ยอมหยุด ! การภาวนาเริ่มต้นขึ้น ! อย่าให้เป็นสิ่งที่คิดไว้เลย ! ขอร้อง !
"น้าๆ ทอดไข่ให้กินหน่อย หนูหิวข้าว" อืม... เป็นเสียงหลานสาวของเราเอง "อะไรวะ แปปนึงได้มะ โว๊ะ" "ไม่เอาๆ ทอดเลย จะไปเรียนพิเศษแล้ว เร็วเลยๆ"
ไม่ต้องบอกว่าตอนจบเป็นยังไง วันนี้วันเด็ก เราเป็นผู้ใหญ่ต้องว่านอนสอนง่าย
เมื่อเสร็จจากภารกิจทอดไข่เจียวแล้ว เราถึงมีโอกาสได้กลับมาฟังเธอเล่าเรื่องต่อ แต่... โอกาสของเราหมดไปแล้ว หมดไปพร้อมๆกับช่วงหนึ่งของเวลาในการทอดไข่ ใช่... เรามาไม่ทัน เธอเล่าที่มาของเธอจบไปแล้ว และดุเหมือนเราพลาดไปหลายเหตุการณ์ด้วยกัน เอาเถอะ ! โอกาสเดียวที่มีตอนนี้คือ... ดูเรื่องราวของ ห นั ง ! เรื่องนี้ต่อให้จบ
หนังที่เรากำลังดูอยู่นี้ก็คือ
"Painted Skin: The Resurrection" มีชื่อไทยว่า "โปเยโปโลเย ศึกรักหน้ากากทอง"
เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่เราอยากเข้าไปดูในโรง แต่ว่าไม่มีโอกาส เป็นที่รู้กันว่าหนังจีนบ้านเราออกโรงค่อนข้างเร็วมาก บางเรื่องอยู่ไม่ถึงสองอาทิตย์ด้วยซ้ำ
ปกติแล้วเราเป็นคนที่ชอบดูหนังจีน (หรือประเทศในเครือเดียวกันอย่างฮ่องกง) เวลาดูมันให้ความรู้สึกว่า คนทำเค้าตั้งใจทำจริงๆ หรือเพราะเราสีผิวเดียวกันมันเลยอินมากก็ไม่รู้นะ สำหรับหนังเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน พอเราได้เปิดดูก็ติดหน้าจอทีวีไปโดยปริยาย ต้องยอมรับว่าเสน่ห์ของหนังชุดโปเยโปโลเยคือ...
' การพูดถึงแก่นแท้ของมนุษย์ผ่านเรื่องราวอันเหลือเชื่อ '
อีกทั้งหนังยังครบทุกรสไม่ว่าจะเป็นช่วงบู๊ ขบขัน เศร้าซึ้ง ทึ่ง เสียว และบางตอนก็จบด้วยการหักมุมจนคนดูไม่มีทางลืมได้เลย แต่ทุกตอนจะมีเรื่องของความรักเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ นั่นคงเป็นเพราะ คนเราทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่รักโดยไม่ได้คำนึงว่า "ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง"
และบางทีการ "เสียบางอย่าง" ดูจะไม่คุ้มเอาเสียเลย โดยที่ทุกการกระทำย่อมต้องสะท้อนผล แม้จะไม่มีเวลาเอาคืนที่ตายตัว แต่พึงระลึกไว้เถอะว่า... ม า แ น่ !
Create Date : 12 มกราคม 2556 |
Last Update : 13 มกราคม 2556 9:17:39 น. |
|
6 comments
|
Counter : 3036 Pageviews. |
|
|
ฟังจากเล่าแล้ว เนื้อหาเข้มข้นดี
ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกนะคะ