Group Blog
 
 
ตุลาคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
แผนร้าย อุบายรัก - 1 - นิยายน้ำเน่า!




“ว่าไงนะ จะให้ฉันเป็นเมียแกเนี่ยนะ!”

เสียงแว้ดลั่นด้วยความตกใจดังขึ้นพร้อมกับที่ร่างโปร่งบางลุกพรวดพราดจากเก้าอี้ หญิงสาวเท้าสะเอว ทำหน้าถมึงทึง ดวงตาวาววับจ้องหน้าฝ่ายตรงข้ามอย่างเอาเรื่อง ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ของพนักงานและลูกค้าภายในร้านอาหารที่จ้องมองมาอย่างสนใจ

ภวัตยกหัวแกรกพลางถอนใจ หันซ้ายหันขวาสบกับสายตาสงสัยใคร่รู้จากบุคคลภายในร้านอย่างลำบากใจ ก่อนจะลุกขึ้นเอื้อมมือกดไหล่ของหญิงสาวเจ้าอารมณ์พร้อมกระซิบบอกเสียงเบา

“ใจเย็นๆ เพื่อน ฟังให้จบก่อนค่อยโวยวายได้มั้ยเนี่ย นั่งลงซะ คนมองกันใหญ่แล้ว”

‘มุกตาภา’ มองไปรอบบริเวณร้านอาหารสไตล์บาหลีที่เธอกับเพื่อนรักนั่งกินมื้อเที่ยงอย่างสบายอารมณ์ ก่อนหน้าที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถึง ‘ธุระสำคัญ’ ในการลากเธอออกมาด้วย เมื่อเห็นสายตาของเพื่อนร่วมโลกที่ต่างก็จ้องมองมายังเธอกับเพื่อนชายเป็นตาเดียว จึงหันไปส่งยิ้มแห้งๆ และกล่าวขอโทษขอโพยที่ส่งเสียงดังรบกวน ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมอย่างยอมแพ้

หญิงสาวถอนใจยืดยาว ส่งค้อนให้ชายหนุ่มหน้าคมที่นั่งตรงข้ามกันอย่างหมั่นไส้ ก่อนเอ่ยเสียงเขียว “งั้นก็พูดมาให้หมด เอาแบบละเอียดยิบไม่มีการตัดตอนด้วยนะ อ้อ...ขอเตือนนิดนึง ก่อนจะพูดอะไรช่วยคิดให้มากหน่อย ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน”

ภวัตถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นท่าทีอ่อนลงของเพื่อนสาว ก่อนจะหาทางบอกเล่าถึงที่มาที่ไปในการแสดงละครฉากใหญ่ ซึ่งจะมีเขาเป็นผู้กำกับและควบบทพระเอกไปในตัว รวมถึงการให้เธอเป็นผู้ร่วมแสดงในบทบาทของนางเอกเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถาม

“คืองี้นะมุก แกก็รู้ใช่มั้ยว่าฉันมีพี่ชายกับเขาอยู่คน?”

หญิงสาวพยักหน้ารับเมื่อเพื่อนรักเอ่ยถึงพี่ชาย ซึ่งเธอเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเขามาก่อน นอกจากรับรู้จากการบอกเล่าของภวัตอยู่บ่อยหนว่าพี่ชายของเขาชอบให้เขาทำอย่างนั้น ไม่ชอบให้เขาทำอย่างนี้ และอีกหลายๆ อย่างเกี่ยวกับพี่ชายที่ชอบทำตัวเหมือน ‘พ่อ’ มากกว่า ’พี่’

“โอเค อย่างที่แกก็รู้นั่นแหละ เขาชอบให้ฉันทำตามที่เขาต้องการทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงเรื่องใหญ่โตมโหฬารต่างๆ นานา แล้วฉันก็รู้สึกเบื่อมากๆ ด้วย” ภวัตเกริ่นต่อด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ

“แต่แกก็ชอบขัดคำสั่งเขาบ่อยๆ ด้วยเหมือนกัน” หญิงสาวขัดคอด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้

รู้ดีว่าเพื่อนของเธอเป็นคนประเภทชอบ ‘ขัด’ ในขณะที่พี่ชายของเขาก็จัดอยู่ในข่ายคนชอบ ‘สั่ง’ มันก็พอกันทั้งคู่นั่นแหละ!

ภวัตตวัดตาคมค้อนเพื่อนนิด ค่าที่พูดขัดให้อารมณ์คนเล่าขาดตอน ก่อนจะเล่าต่อด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายสุดชีวิต “แต่ตอนนี้เขาชักจะเอาแต่ใจมากไปแล้ว จู่ๆ ก็มาสั่งให้ฉันแต่งงาน!”

มุกตาภากอดอกพลางจ้องหน้าเพื่อนรักด้วยสายตาเหมือนคุณครูมองเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกจับได้คาหนังคาเขา คิ้วเรียวขมวดมุ่นแทนการเอ่ยปากถาม

“คืองี้...” ภวัตกระแอมให้คอโล่งก่อนจะรีบบอกโดยไม่เปิดจังหวะให้เพื่อนขัดคออีก

“ฉันก็เลยบอกเขาไปว่า ฉันมีเมียแล้ว แถมเมียของฉันก็กำลังตั้งท้องอ่อนๆ อยู่ด้วย เพราะฉะนั้นฉันก็จะไม่แต่งกับคนที่เขาอยากให้แต่งเด็ดขาด เอิ่ม...แล้วฉันก็จะพาเมียเข้าบ้านวันศุกร์นี้แหละ เพื่อเป็นการยืนยันว่าฉันจะไม่แต่งงานกับคนที่เขาหาให้จริงๆ”

คิ้วเรียวขมวดยุ่งมากยิ่งขึ้น ดวงตากลมโตหรี่ลงขณะจ้องใบหน้าคมคายอย่างจับผิด เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงระแวดระวัง “แล้ว?”

ภวัตสบตาเพื่อนด้วยความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ เสยกแก้วน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ก่อนกวักมือเรียกพนักงานในร้านให้มาเติมน้ำอีก

มุกตาภาจ้องใบหน้าหลุกหลิกของเพื่อนไม่วางตา รอจนพนักงานเติมน้ำให้ชายหนุ่มเสร็จแล้วเดินออกไป จึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง “แล้ว?”

“แล้วเอ่อ...” เขาหลบตานิด ก่อนตัดสินใจบอกให้เสร็จๆ ไป

“แกก็ต้องไปแสดงละครเป็นเมียฉันจนกว่าพี่รัณจะเชื่อว่าเราเป็นเอ่อ...สามีภรรยากันจริงๆ แล้วล้มเลิกความคิดที่จะยัดเยียดฉันให้กับยัยน้ำหวานน่ะสิ”

คนฟังเม้มปากแน่น พยักหน้าหงึกหงักช้าๆ ขัดกับดวงตาวาวโรจน์ ถามเสียงเย็นจนน่าขนลุก “แล้วทำไมต้องเป็นฉัน?”

ภวัตกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากเย็น แล้วบอกเสียงอ่อย “ก็ฉันนึกไม่ออกแล้วจริงๆ มีแต่แกคนเดียวนี่แหละไอ้มุก”

พอสบตาเอาเรื่องของเพื่อนสาวเข้าอย่างจัง ชายหนุ่มก็รีบอ้อนสำทับ แทบจะยกมือขึ้นไหว้เลยด้วยซ้ำ “ช่วยหน่อยนะมุกเพื่อนรัก คราวนี้จะเอาอะไรก็ได้ ฉันทุ่มหมดตัวเลยนะมุกคนสวย มุกคนดี ช่วยเพื่อนหน่อยเหอะนะ”

มุกตาภายิ้มหวาน หากตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวคำเดียวสั้นๆ “ไม่!”

“โธ่...มุกจ๋า ช่วยเพื่อนหน่อยเหอะนะ นอกจากแกแล้วฉันก็มองไม่เห็นใครอีก จริงๆ นะ นี่แกจะใจร้ายยอมให้ฉันโดนพี่ชายจับคลุมถุงชนได้ลงคอเชียวเหรอ”

ภวัตทำเสียงละห้อยเรียกความเห็นใจ เนื่องจากมุกตาภาเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขาที่ไม่เคยเจอกับภรัณยูมาก่อน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดที่ทำให้คนทั้งคู่คลาดกันไปคลาดกันมาตลอด แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้ เพราะเธอเป็นตัวช่วยเพียงคนเดียวที่เขามี

ถ้ามีทางอื่นน่ะหรือ รับรองว่าเขาไม่มีวันเสี่ยงตายมาขอร้องผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด!

“นี่ไอ้วัต แกบ้าไปแล้วหรือไงฮะ จู่ๆ ก็ไปบอกพี่ชายว่ามีเมียแล้ว แถมเมียก็กำลังท้อง แล้วไหนจะเรื่องพาเมียเข้าบ้านทั้งที่แกยังหาเมียไม่ได้เนี่ยนะ” หญิงสาวซ้ำเติมโดยปราศจากความเห็นใจอย่างสิ้นเชิง

“โธ่...อย่าเพิ่งมาด่ากันตอนนี้เลยนะมุก บอกแล้วไงว่าให้แลกกับอะไรก็ยอม แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วฉันจะไม่รบกวนแกอีกเลยนะ นะ...ช่วยหน่อยเหอะ เห็นแก่ผู้หญิงครึ่งประเทศที่ต้องอกหักจากผู้ชายหล่อๆ อย่างฉันก็ได้นะมุกนะ”

ภวัตยิ้มทะเล้นใส่ตาหญิงสาว พยายามทำใจดีสู้เสือเข้าไว้ ทั้งที่ในใจก็เกรงอยู่ว่าเมื่อไรมุกตาภาจะออกหมัดให้ได้หลบกันเล่นๆ

หญิงสาวส่ายหน้าระอากับความขี้เล่นที่ไม่ถูกจังหวะของเพื่อน เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง เน้นชัดทุกคำให้ได้ยินกันจะจะ

“ไม่! ฟังนะวัต ให้ฉันพูดอีกกี่รอบคำตอบก็คือ...ไม่!”

ชายหนุ่มทำสีหน้าอ้อนวอนสุดชีวิตพลางดึงมือเล็กของหญิงสาวมากุมแน่น

“ช่วยหน่อยเถอะมุก ฉันมองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ แกเป็นเพื่อนคนเดียวที่พี่รัณไม่เคยเห็นหน้า แล้วฉันก็เชื่อว่าแกนี่แหละ ที่จะช่วยเขี่ยยัยน้ำหวานให้กระเด็นไปจากชีวิตฉันได้ซะที”

มุกตาภาพยายามชักมือกลับแต่เขาไม่ยอมปล่อย หญิงสาวเลยใช้เท้าที่ว่างถีบแรงๆ ที่หน้าขาของภวัตสองครั้ง ทำให้เขารีบปล่อยมือเธอทันทีราวกับโดนน้ำร้อนลวก

แล้วชายหนุ่มก็ส่งสายตาตำหนิให้เพื่อนสาวพร้อมคำพูดตัดพ้อต่างๆ นานา “ทำให้เพื่อนแค่นี้ก็ไม่ได้ ไหนบอกว่าจะเป็นเพื่อนรักกันไปจนตาย ไม่ว่าอะไรก็ทำให้ได้ทั้งนั้น นี่แหละน้าที่เขาว่าจะเชื่ออะไรกับลมปากคน พูดไปงั้นๆ อีกสองวันก็ลืมสนิท อย่าไปจริงจังอะไรให้มันมากนัก...”

“พอเลยนะไอ้วัต แกไม่ต้องมาลิเกแถวนี้เลย ฉันไม่เคยพูดอะไรน้ำเน่าแบบนั้นซะหน่อย แล้วเรื่องนี้มันปกติที่ไหนกัน มีอย่างเหรอจะให้ฉันไปแสดงละครหลอกพี่ชายแก เกิดเขาจับได้ขึ้นมาแล้วใครซวย แกเป็นน้องคงไม่เท่าไหร่ แต่ฉันเป็นคนอื่น ไม่คิดบ้างรึไงว่าเขาจะเอาเรื่องฉันยังไง ถ้าเป็นเรื่องอื่นฉันก็พอจะช่วยได้หรอกนะ แต่เรื่องนี้ลืมไปได้เลย”

หญิงสาวกระแทกเสียงดุอบรมคนคิดน้อย เผื่อสมองง่อยๆ จะมีรอยหยักขึ้นมาบ้าง มีคนปกติที่ไหนมาขอความช่วยเหลือในเรื่องพิลึกพิลั่นขนาดนี้ ใครตกลงด้วยก็บ้าแล้ว

“ถ้าแกไม่ช่วยแล้วฉันจะไปหาเมียได้ที่ไหนทันวะ อีกสองวันก็ถึงวันศุกร์แล้วนะ” ภวัตครางเสียงละห้อย ทำหน้าเหมือนคนอยากผูกคอตายให้รู้แล้วรู้รอด

เธอมองเขาอย่างหมั่นไส้เต็มกำลัง ก่อนซ้ำเติมอีกที “แล้วใครใช้ให้แกไปบอกพี่ชายแบบไม่ปรึกษาใครล่ะ เน่าสนิทเลยนะมุกนี้ ช่วยไม่ได้ อยากหาเรื่องเองแกก็ต้องแก้ไขเองสิ”

“โธ่...แบบนี้ผู้ชายหน้าตาดีอย่างฉันก็ต้องตกเป็นสามีจำยอมของยัยน้ำหวานน่ะสิ โธ่เอ๊ย...ชีวิตโสดของฉัน ทำไมโชคชะตาถึงได้โหดร้ายกับคนหล่อขนาดนี้เนี่ย...”

ภวัตครางอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต หมดกัน ชีวิตโสดที่แสนจะหวงแหน

แม้จะหมั่นไส้แต่มุกตาภาก็อดขำกับท่าทางจะเป็นจะตายของเพื่อนไม่ได้เลยปล่อยหัวเราะออกมาชุดใหญ่ ก่อนจะหยุดลงเมื่อภวัตมองมาด้วยสายตาเอาเรื่อง

เธออดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ยัยน้ำหวาน’ ของเพื่อนนั้นน่ารังเกียจมากนักหรือ เหตุใดชายหนุ่มจึงทำท่าราวกับจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอเมื่อเจอคำสั่งแต่งงานจากพี่ชาย

“แล้วยัยน้ำหวานของแกเป็นใครกันวะ?”

“ก็เป็นว่าที่เจ้าสาวที่พี่รัณหาไว้ให้ฉันน่ะสิถามได้” เขาตอบอย่างหงุดหงิด

มุกตาภายิ้มขำ “แล้วยัยน้ำหวานเนี่ยเลวร้ายมากหรือไง แกถึงได้คิดเอาตัวรอดแบบละครหลังข่าวขึ้นมาได้”

ภวัตค้อนเพื่อนสาวที่วิจารณ์แผนการของเขาเสียเละเทะพลางนึกถึงเจ้าของชื่อ ‘มาธวี’ หรือ ‘ยัยน้ำหวาน’

หญิงสาวเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณอาเมธีกับอามาลินี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของบิดามารดาเขา และบ้านก็อยู่ห่างกันแค่รั้วกั้น เด็กหญิงมาธวีจึงสนิทสนมกับเขาและพี่ชายราวกับเป็นน้องสาวอีกคน

เมื่อนึกถึงเรื่องรูปร่างหน้าตา มาธวีจัดว่าเป็นสาวร่างเล็กสมส่วน หน้าตาสวยหวานสมชื่อที่แปลว่าหวานปานน้ำผึ้งนั้นไม่ผิด แต่เหตุที่เขาไม่ชื่นชอบในตัวเธอก็คือ หญิงสาวชอบทำตามที่ภรัณยูต้องการไปเสียทุกอย่าง ราวกับว่าพี่ชายเขาเป็นเจ้าชีวิตของเธองั้นแหละ

นิสัยใจคอก็เอาแต่ใจเหมือนเด็ก อยากได้อะไรเป็นต้องได้ เขาว่าอะไรก็เถียงฉอดๆ ไม่เคยยอมแพ้แม้แต่ครั้งเดียว ชอบหาเรื่องใส่ตัวก็ไม่ผิด จะให้พูดถึงอะไรที่เขาไม่ชอบในตัวมาธวีนั้นพูดสามวันสามคืนก็ไม่จบหรอก

ชายหนุ่มถอนหายใจ มองหน้าเพื่อนสาวนิ่ง มุกตาภาจึงขมวดคิ้วแทนคำถาม

“มองภายนอกก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้ายอะไรหรอก แต่คนมันไม่ชอบน่ะมุก แค่นึกถึงสีหน้าอวดดีกับนิสัยร้ายกาจนั่นก็แย่พอแล้ว จู่ๆ จะให้แต่งงานกันมันก็ทำใจรับไม่ได้ อีกอย่างนะ ฉันว่าให้ยัยน้ำหวานแต่งไปกับพี่รัณยังจะดูเหมาะกว่าอีก”

คราวนี้คิ้วของหญิงสาวแทบจะผูกโบกันได้เลย

นี่ภรัณยูยังไม่มีครอบครัวหรือ?

เธอเข้าใจมาโดยตลอดว่าพี่ชายที่ชอบทำตัวเหมือนพ่อของภวัตนั้นมีลูกมีเมียแล้ว และเขาคงจะแก่กว่าเพื่อนของเธอหลายปีจึงได้มีนิสัยใจคอแตกต่างกันลิบลับ เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วชายหนุ่มยังไม่แต่งงานก็อดสงสัยไม่ได้

หรือว่าจะชอบทำตัวเป็นพ่อคนอื่นไปซะหมดเลยต้องแก่หงำเหงือกอยู่คนเดียว?

“แกจะไม่ช่วยฉันจริงๆ เหรอมุก” ภวัตถามเพื่อนอีกครั้งด้วยความหวังที่ริบหรี่ นัยน์ตาคมวิงวอนขอความเห็นใจสุดฤทธิ์ เผื่ออีกฝ่ายจะใจอ่อนในวินาทีสุดท้าย

มุกตาภาถอนใจเฮือกใหญ่ คนไม่รักบังคับให้แต่งงานกันมันจะไปรอดหรือ สุดท้ายก็อดเห็นใจเพื่อนรักไม่ได้ แต่การแสดงละครตบตาคนอื่นอย่างในละครหลังข่าวมันก็ดูจะไกลห่างจากจินตนาการของเธอมากเกินไป เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะต้องไปทำอะไรงี่เง่าแบบนั้น

“พูดตรงๆ นะไอ้วัต ฉันเห็นใจแกว่ะ แต่ฉันแสดงละครไม่เก่ง ดีไม่ดีจะทำแผนแกพังไม่เป็นท่าไปซะเปล่าๆ แกไปขอให้คนอื่นช่วยดีกว่านะ”

“ถ้าฉันมีตัวช่วยอื่นคิดเหรอว่าฉันจะเสี่ยงตายมาขอความช่วยเหลือจากแกน่ะ” ภวัตบ่นอย่างมีเคือง

มุกตาภาหันขวับ สายตาเอาเรื่อง “หมายความว่ายังไงยะ เสี่ยงตายมาขอความช่วยเหลือจากฉันเนี่ย พูดดีๆ นะ”

“ใครๆ ก็รู้ว่าแกน่ะมันพวกมือไวใจเร็ว เกิดใครพูดไม่เข้าหูขึ้นมาปากว่ามือก็ไปเลย แถมหมัดหนักซะด้วย ใครล่ะจะอยากเสี่ยง” เขาว่าเบาๆ พลางส่งค้อนให้ราวกับสาวน้อยแสนงอน

หญิงสาวหัวเราะเสียงใสกับคำวิจารณ์ไม่ไว้หน้าของเพื่อน เธอเป็นคนประเภทมือไวใจเร็วแบบที่ภวัตว่าจริงๆ นั่นแหละ

ก็คนมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว ทำไงได้ล่ะ!

“ขำ ชอบใจใหญ่เลยนะ เพื่อนเป็นทุกข์เนี่ยคิดจะช่วยกันบ้างมั้ย” อีกฝ่ายประชดเสียงขุ่นตาเขียว นึกหมั่นไส้สาวหน้าสวยใจดำตรงหน้าขึ้นมาติดหมัด

“แล้วเป็นเมียแกนี่ต้องทำยังไงบ้างล่ะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ

“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรมากเลย ก็แค่...ฮะ ว่าไงนะมุก นี่ตกลงแกยอมช่วยฉันแล้วใช่มั้ย” ภวัตร้องอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายด้วยความหวัง

มุกตาภาถอนใจพลางยักไหล่ “ก็ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ขอค่าตอบแทนเป็นโปรเจกต์ใหม่ของแกนะ เรื่องลงใต้ไปอบรมที่ภูเก็ตสองเดือนน่ะ ให้ฉันเป็นตัวแทนของบริษัท ตกลงไหม ถ้าแกตกลง ฉันก็โอเค”

หญิงสาวหมายถึงโปรเจกต์ใหม่ของบริษัท ซึ่งภวัตร่วมหุ้นกับเพื่อนอีกคนเป็นเจ้าของ และเธอก็เป็นพนักงานในบริษัทนั้นด้วย การเดินทางไปอบรมและดูงานที่ภูเก็ตสองเดือน เพื่อเรียนรู้และนำกลับมาประยุกต์ใช้กับโปรเจกต์ใหม่ที่ว่านี้จะคัดเลือกพนักงานของบริษัทไปสองคน

ช่วยไม่ได้นะ งานนี้เธอหมายตาเอาไว้นานแล้ว ถ้าจะต้องแลกกับการแสดงละครไม่กี่ฉาก และได้ช่วยให้เพื่อนหลุดพ้นจากการฝืนใจแต่งงาน มันก็น่าสนใจอยู่ไม่ใช่หรือ?

“มุกจ๋า...มุกช่างเป็นเพื่อนที่น่ารักอะไรเช่นนี้ แม่ยอดขมองอิ่มของวัต” ภวัตบอกอย่างตื้นตันในแบบฉบับหนุ่มทะเล้น แทบจะกราบงามๆ ที่ตักหญิงสาวสักทีให้สมกับความกรุณาของเธอ

“ฉันจะรีบเซ็นอนุมัติให้แกโดยเร็วเลยนะเพื่อนรัก รับรองว่างานนี้แกจะได้เป็นผู้คุมโปรเจกต์แน่นอน ไม่ต้องห่วง”

มุกตาภาค้อนอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่มีข้อแม้นะ”

“ว่ามาเลยมุก ได้ทุกอย่าง ขอให้แกยอมช่วยก็พอ” ภวัตรีบบอก นาทีนี้ไม่สนแล้วว่าข้อแม้คืออะไร เพราะนอกจากมุกตาภา เขาก็มองไม่เห็นใครอีกเลยที่พอจะช่วยเขาได้ในเรื่องนี้

“ไม่มีการจดทะเบียนและจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากคนในบ้านของแกกับครอบครัวยัยน้ำหวานอะไรนั่น โอเค้?”

“โอเค เราจะแสดงละครเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าคนในครอบครัวฉันกับยัยน้ำหวานเท่านั้น ที่เหลือจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพื่อนคนอื่นก็จะไม่รู้เรื่องนี้เป็นอันขาด ฉันสัญญา” เขาบอกอย่างจริงจัง

“ไม่ต้องย่ะ ฉันไม่เชื่อในคำสัญญาหรอก แค่แกรับปากมาก็พอ” เธอว่าทันทีอย่างหมั่นไส้

ภวัตยิ้มกว้าง “ขอบใจมากนะมุก”

หึๆ ในที่สุดเขาก็มีวิธีต่อกรกับพี่ชายและยัยน้ำหวานตัวแสบแล้ว!









Create Date : 16 ตุลาคม 2557
Last Update : 16 ตุลาคม 2557 23:33:53 น. 1 comments
Counter : 710 Pageviews.

 
น่าติดตาม...รออ่านต่อนะคะ


โดย: ดอกฝิ่น IP: 119.63.78.246 วันที่: 17 ตุลาคม 2557 เวลา:17:44:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nawapat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




...เขียนเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หนักก็หยุด สนองนี้ดมันไปตามอารมณ์ ^^"...
Friends' blogs
[Add nawapat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.