Group Blog
 
 
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
17 เมษายน 2553
 
All Blogs
 

สปาเก็ตตี้เส้นโฮลวีทมีทซอส : อิ่มอร่อย แต่แคลอรี่เบาๆ



มีการศึกษากันพบว่าเมื่อเราทานอาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตต่างชนิด
กัน ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเราทานขนมปังที่ทำจากแป้งสาลีขัดสี
เปรียบเทียบกับการทานข้าวกล้องในปริมาณที่อาหารทั้งสองให้พลังงานแก่ร่างกาย
ของเราเท่าๆ กัน เมื่อร่างกายของเราได้รับพลังงานจากสารอาหาร
อาหารบางชนิดจะเร้าให้ร่างกายเราสะสมพลังงาน
กลับกันอาหารบางชนิดจะทำให้ร่างกายเผาผลาญดีขึ้น น่าสนใจนะครับ
สำหรับใครที่เคยสงสัยว่าตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนทานเยอะนะ
แต่ทำไมทานอะไรนิดๆหน่อยๆ พุงก็หลามออกมาแล้ว กลับกันในเพื่อนบางคน
ทานอะไรเก่งมากแต่ตัวเล็กนิดเดียวไม่อ้วนเสียที
เรามาลองค้นหาคำตอบกันดูดีกว่าครับว่ามีกลไกอะไรกันแน่ที่ทำให้เกิดสภาวะนี้


ขออนุญาตอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราก่อนนะครับ
โดยปกติแล้วหลังจากที่เรารับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตหรืออาหารประเภท
แป้งเข้าไป
ร่างกายจะมีกลไกแบบปกติที่จะย่อยแป้งที่เราทานเข้าไปให้มีขนาดเล็กลง
เรียกว่าเล็กลงเรื่อยๆ
จนกลายเป็นโมเลกุลน้ำตาลขนาดเล็กจิ๋วที่มีชื่อคุ้นหูว่าน้ำตาลกลูโคส
(Glucose)
ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้นี่เองที่เซลล์ภายในร่างกายของเราสามารถดูดซึมและเปลี่ยน
น้ำตาลให้เป็นพลังงานเพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน
รบกวนท่านผู้อ่านตั้งใจอ่านตรงนี้ดีๆ นะครับ
เนื่องจากกลไกนี้มีความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า
เมื่อน้ำตาลที่ถูกย่อยมาจากแป้งนั้นถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด
ร่างกายของเราก็จะผลิตสารชนิดหนึ่งขึ้นมาในระดับที่สูงขึ้นกว่าปกติ
เราเรียกเจ้าสารนี้ว่า "อินซูลิน" ครับ (คุ้นๆ ใช่หรือไม่ครับ
โดยเฉพาะท่านที่เคยคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคเบาหวานมาก่อน)
สารชนิดนี้เป็นตัวส่งสัญญาณไปยังเซลล์ภายในร่างกายให้รู้ว่ากำลังจะมีสาร
อาหารซึมเข้ามาให้ได้ใช้ประโยชน์แล้วนะ
เมื่อเซลล์ได้รับพลังงานจากน้ำตาลกลูโคสแล้ว
ระดับของสารอินซูลินก็จะลดลงสู่ระดับปกติ
กลไกนี้เองที่เป็นกลไกที่เราใช้แยกคาร์โบไฮเดรตที่ดีออกจากคาร์โบไฮเดรตที่
ไม่ดีครับ


การแยกคาร์โบไฮเดรตที่ดีและไม่ดีออกจากกันนั้น
เราจะใช้ตัวเลขซึ่งค่าดัชนีชนิดหนึ่งที่เราเรียกมันว่า "ดัชนีไกลเซมิค หรือ
ดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index หรือเรียกย่อๆว่า ค่า Gl)"
ซึ่งเป็นค่าที่บอกคุณภาพของสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตด้วย
การวัดความเร็วของการย่อยและดูดซึมพลังงานเข้าเซลล์หลังจากร่างกายของเราทาน
เข้าไป ง่ายๆ ก็คือคาร์โบไฮเดรตชนิดใดที่ร่างกายย่อยได้เร็ว
ดูดซึมได้เร็วจะมีค่าดัชนี GI สูงขึ้น โดยในการวัดค่า GI
จะใช้น้ำตาลกลูโคสเป็นสารอาหารมาตรฐานใช้เปรียบเทียบกับอาหารชนิดอื่นๆ
ซึ่งค่า GI ของน้ำตาลกลูโคสเท่ากับ 100 ครับ
วิธีการวัดสามารถทำได้โดยการวัดปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือดที่เกิดขึ้นหลังจาก
ทานอาหารชนิดนั้นๆ เข้าไป


สปาเก็ตตี้เส้นโฮลวีทมี
ทซอส


เครื่องปรุง (สูตรสำหรับ 2 ที่)


เส้นสปาเก็ตตีโฮลวีท 150 g
น้ำสะอาดสำหรับต้ม เติมให้ท่วมเส้น
เกลือ
ป่น 1 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
สูตรซอสเนื้อ
เนื้อวัวบด
ละเอียด 80 กรัม
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า 2 ผลเล็ก
แค
รอทหั่นเต๋า 20 กรัม
เห็ดแชมปิยองสด หั่นบางๆ 8 ดอก
กระเทียมกลีบ
ใหญ่ปอกเปลือก ซอยบางๆ 4 กลีบ
มะเขือเทศลูกใหญ่ หั่นเต๋า (ไม่เอาเมล็ด) 3
ผลกลาง
ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
ครึ่งช้อนโต๊ะ
ผงซินเนมอน 1 หยิบมือ
ผงลูกจันทร์ป่น 1 หยิบมือ
ออ
ริกาโน 3 หยิบมือ
น้ำสะอาดเล็กน้อย
เกลือป่นสำหรับแต่งรสชาติเล็กน้อย
พา
มาซานชีสขูดฝอย 8 กรัม


พลังงานที่ได้รับต่อ 1 ที่
(โดยประมาณ) = 382 Kcal


ขั้นตอนการต้มเส้น
1.ต้มน้ำให้เดือด
ใส่เกลือและน้ำมันมะกอกลงไปในน้ำเดือด ใส่เส้นลงไป
หรี่ไฟเบาต้มให้เส้นนิ่มนานประมาณ 10-15 นาที
2.นำเส้นขึ้น
สะเด็ดน้ำให้แห้ง จัดใส่จานเป็นช่อพอดีคำ


วิธีทำซอส
1.ผัดกระเทียมสดซอยบางกับน้ำมันมะกอกจน
หอม (กระเทียมเริ่มสลดลง) เติมหอมหัวใหญ่ลงไป ผัดจนหอมสุกใส
2.ผัดเนื้อ
วัวบดจนเนื้อเริ่มสุก ใส่แครอท เห็ดแชมปิยอง มะเขือเทศหั่นเต๋า
ผัดจนมะเขือเทศเริ่มนิ่ม ใส่ซอสพริกและซอสมะเขือเทศ ผัดให้เข้ากัน
3.เติม
น้ำเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และเครื่องเทศ ผัดให้งวด
ยกลงจากเตา ราดลงบนยอดของเส้นสปาเก็ตตีที่จัดพอดีคำแล้ว
4.โรยหน้าด้วย
พามาซานชีส เสริฟขณะร้อน


TIPS :
เส้นโฮลวีทเป็นเส้นสปาเก็ตตีที่มีค่า GI ปานกลาง ราดด้วยซอสเนื้อวัว
ซึ่งเป็นเนื้อสัตว์จึงให้พลังงานและไม่มีค่า GI
อิ่มตัวช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ


ขอขอบคุณ:นิตยสารแม่บ้าน






Free TextEditor




 

Create Date : 17 เมษายน 2553
1 comments
Last Update : 17 เมษายน 2553 1:46:36 น.
Counter : 2245 Pageviews.

 

สีเข้มข้น ดูน่าทานมัก มากคะ

 

โดย: แม่อ้วนใจดีที่สุด 17 เมษายน 2553 15:00:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


เด็กหญิงผัดไท
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เด็กหญิงผัดไท's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.