เมื่อวันที่ 3 ก.ค.57 นายวรเดช กาญจนอโนทัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เผยถึงกรณี ภาพของแม่ชีเชอรี่ขับรถปอร์เช่ ใช้กระเป๋าแบรนด์เนม และกองเงินจำนวนมากนั้น ความจริงแล้ว วันเกิดเหตุในภาพเป็นวันทำบุญ มีลูกศิษย์มากมายนำเงินมาถวาย เเมชีเชอรี่จึงอาสาเป็นคนนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคาร ด้วยการขับรถปอร์เช่ไปฝากที่ธนาคารเอง แล้วกลับมาที่วัดตามเดิม โดยคาดว่าภาพหลุดแม่ชีเชอรี่ที่ออกมาเป็นฝีมือของลูกศิษย์บางรายที่ต้องการทำลายชื่อเสียงแม่ชีเชอรี่ นายวรเดช เผยว่า รถปอร์เช่ที่เห็นในข่าว เป็นรถยนต์ของลูกศิษย์ที่มานั่งวิปัสนาภายในวัด และทางลูกศิษย์ได้ถวายให้แม่ชีเชอรี่นำไปใช้ ตามความเชื่อที่ว่าหากถวายรถให้กิจการที่ตนทำอยู่จะเจริญรุ่งเรือง ซึ่งแต่เดิมลูกศิษย์จะเป็นคนขับให้เสมอ อีกทั้งแม่ชีเชอรี่ทำกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้า ครอบครัวจึงมีสถานะการเงินที่มั่นคงทุกคน แต่ไม่ได้รวยหลายร้อยล้านอย่างที่เป็นข่าว
ด้าน พระครูสุธรรมวีราจารย์ (พระอาจารย์สมใจ) เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง อ.สวี จ.ชุมพร เผยว่า จากข่าวที่ออกมาอาตมาไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ชื่อเสียงของวัดเสียหาย รถปอร์เช่คันดังกล่าวยืนยันว่าลูกศิษย์ถวายให้แม่ชีเชอรี่ใช้งาน ส่วนข้อสงสัยที่ว่าเเม่ชีเชอรี่นำเงินไปซื้อกระเป๋าหรู ยืนยันว่าของพวกนี้เป็นของที่ลูกศิษย์ถวายส่วนตัว ส่วนเรื่องเงินของวัดจะนำเงินไปฝากไว้เสมอ ทุกครั้งที่เบิกต้องมีผู้ลงนาม 2 ใน 3 ร่วมกับเจ้าอาวาส และส่งงบการเงินไปให้สำนักพระพุทธศาสนาจ.ชุมพรตรวจสอบ
ส่วน พฤติกรรมของแม่ชีเชอรี่ ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม แม้ไม่ผิดศีล เบื้องต้นได้ตักเตือนไปแล้ว และแม่ชีรับปากว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ด้านแม่ชีเชอรี่ เปิดใจน้ำตาไหล ว่า ขอกราบประทานอภัยต่อเจ้าคุณ พระสังฆาธิการทุกระดับ, พระครูสุธรรมวีราจารย์, ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทุกจังหวัด ประธานสภาแม่ชีไทย และแม่ชีทุกท่าน ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกมา ความจริงไม่ได้ต้องการให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย สิ่งที่เกิดขึ้นทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เบื้องต้นได้รับคำสั่งสอนจากพระผู้ใหญ่และเจ้าอาวาสแล้ว และหลังจากนี้จะระมัดระวังไม่ก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง
ต่อมา แม่ชีเชอรี่ได้กราบไหว้ขอขมา พร้อมถวานพานพุ่ม โดยมีบรรดาลูกศิษย์เข้าร่วมพิธีอย่างสงบ
ขณะที่ นางสาวนวลวิรัช เครือบัว วัย 33 ปี เจ้าของรถปอร์เช่ เผยว่า รถคันดังกล่าวเป็นของแฟนตนซึ่งตอนนี้ทำงานในต่างประเทศ ก่อนเกิดเรื่อง ตนได้เดินทางมาปฏิบัติธรรม พร้อมกับทำตามความเชื่อส่วนตัวที่ว่า หากนำรถมาถวายให้วัด จะได้รับบุญมากขึ้น จึงนำมาให้ทางวัดใช้งาน 1 เดือน และจะนำกลับไปใช้ตามเดิมหากครบกำหนด
เราเตือนเรื่องการเดินทางมาจัดอีเว้นท์เท่ๆ ตามบ้านคนรวยๆ มาตามทางจนถึงกรุงเทพฯ มาตามบ้านใหญาๆ จัดอีเว้นท์แปลก ชักชวนคน(ส่วนมากพวกประกัน และ พวก MLM ) เราเตือนเขามากมายหลายเรื่อง เรื่องผู้ชายชื่อเล็ก ที่เป็นหลายสมใจ หลอดผู้หญิงที่เปลี่ยวเลิกกับสามี แล้วไปเร่หาปฎิบัติธรรม กลับถูกหลอกเอาเป็นเมีย อยู่กันสักระยะ พ่อแม่ผู้หญิงก็เอือมระอา ผู้หญิงชื่อนก ก็เริ่มหมดเนื้อหมดตัว ญาติสมใจเจ้าอาวาสที่ทำเสาปูนคอนกรีต ก็ไม่เลี้ยงเจ้าเล็กนี้แล้ว เรารู้เรื่องนี้จากผู้หญิงคนหนึ่งที่ผิดประเวณีกับเรา แล้วจ้องไปปฎิบัติธรรมที่นั่นเพื่อแก้ไขในคดีผิด เราเตือนว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติธรรมแล้วหนีคดีได้ ต้องหยุดทำผิด มอบตัวในผิด สารภาพผิด แล้วไม่ทำมันอีกเท่านั้น ถึงจะเป็นนักโทษชั้นดี รอการลงโทษและอภัยโทษเท่านั้น พอไปที่นั่นกลับมา มีแต่เรื่องชู้สาว คาวโลกี เถ้าแก่โรงกระดาษย่านลำสาลี ก็แอบเอาเมียน้อยไปกันที่นั้น หนีเมียไปปฏิบัติธรรม ควงกิ๊กไปกันเป็นแถว ส่วนใหญ่อยู่กันผิดๆ ไม่ได้แต่งกันเป็นคู่ผัวตัวเมียสักเท่าไร ผู้หญิงก็คาดเดาเอาว่าผู้ชายที่มาปฏิบัติธรรมได้ ก็จะเป็นผู้ดูแลชีวิตตนได้รอดพ้นความยุ่งยาก ผู้ชายก็ไปรอพวกมีปัญหาชีวิต มีเวลาเหลือก็เท่ากับเงินในกระเป๋าในบัญชี ก็ต้องพอได้อยู่ ก็ประกบคู่กันไป ได้บ้างไม่ได้บ้าง เหวี่ยงคู้ชู้ชื่นปนกับปัญหาสารพัด สวิงกิ้งเคล้าพระธรรมที่ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าเลยด้วยซ้ำ. อนาจจริงๆ